เมื่อหลัวจื้อหย่งเห็นรอยยิ้มที่เป็นมิตรของฉู่เฉินแล้วมุมปากก็กระตุกขึ้นมาทันที!“โอ้ ประธานหลัวไม่ใช่เหรอ? เจียงจงแคบเกินไปแล้วจริงๆ”ฉู่เฉินทิ้งม้วนบุหรี่ในมือ แล้วชำเลืองมองหลัวจื้อหย่งโดยเอามือวางบนไหล่“ประธานหลัว ไอ้หนุ่มนี่แหละที่ตบผมเมื่อกี้ยังไม่พอ ยัง… ยังข่มขู่คุณม่านม่านด้วยครับ ต้องจัดการไอ้หนุ่มนี่นะ…”เพียะ!ผู้จัดการส่วนตัวยังไม่ทันพูดจบ หลัวจื้อหย่งก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาเข้าอย่างจัง จากนั้นก็ถีบเขาไปหนึ่งทีจนเขาหัวคะมำพื้น!“ประธานหลัว… คุณ…. คุณตบผมได้ยังไง? ไอ้หมอนั่น…”พลั่กๆ!หลัวจื้อหย่งยกขาถีบไปบนร่างของผู้จัดการอีกหลายครั้ง พร้อมกัดฟันกล่าว “ไอ้สารเลว แกนับเป็นตัวอะไรได้ ยังกล้ามาชี้นิ้วสั่งคุณฉู่ฮะ!”หลัวจื้อหย่งกล่าวเสร็จก็วิ่งเหยาะไปหาฉู่เฉินและยังโค้งตัวกล่าวขึ้นท่ามกลางสายตาจดจ้องอย่างเหลือเชื่อของจางม่านและผู้จัดการ “อุ้ย บังเอิญจังนะครับ คุณฉู่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?”ฉู่เฉินยื่นมือออกมายกแขนเสื้อข้างขวาที่ว่างเปล่าของหลัวจื้อหย่งแล้วกล่าวเย้ยว่า “บังเอิญมารับดารากระจอกๆ แต่เขาดันบอกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังแข็งแกร่งมาก ทั้งยังจะสั่งส
เมื่อเห็นว่าไฟรถของฉู่เฉินไปไกลแล้ว จางม่านที่มีสีหน้าหม่นหมองหันมามองหลัวจื้อหย่งด้วยท่าทางน่าสงสาร“ฮึ! คุณรอความตายเถอะ!”หลัวจื้อหย่งแค่นเสียงด้วยความโกรธกระฟัดกระเฟียด และกล่าวกับบอดีการ์ดทั้งกลุ่มว่า “พวกเรากลับ! แม่เอ๊ย ซวยจริงๆ!”หลัวจื้อหย่งเดินกลับและคบคิดคำนวณในใจว่าอยู่ต่อในเมืองเจียงจงไม่ได้อีกแล้วจริงๆ ไม่แน่อาจไปล่วงเกินฉู่เฉินเพราะใครคนไหนเข้าสักวันก็ได้เงินมากมายในบัญชีธนาคารของเขายังไม่ได้ใช้เงินเลย ไม่อยากตายก่อนวัยอันควรหรอกนะหลัวจื้อหย่งเพิ่งจะนั่งในรถ จางม่านและผู้จัดการก็ตามมาอย่างรวดเร็ว“ประธานหลัว คุณรอก่อนค่ะ!”จางม่านดึงประตูรถเปิดกว้างแล้วเข้าไปนั่งในรถทันทีโดยไม่ให้โต้แย้งใดๆหลัวจื้อหย่งกล่าวพร้อมกลอกตาใส่จางม่านด้วยสีหน้าอมทุกข์ “เธอมาหาฉันก็ไร้ประโยชน์ ฉันล่วงเกินคุณฉู่ไม่ได้!”หลัวจื้อหย่งชี้ไปที่แขนเสื้ออันว่างเปล่าของตัวเองขณะพูดขึ้นว่า “รู้ไหมว่าทำไมแขนฉันข้างนี้ถึงหายไป?”ซี้ดๆ!จางม่านเพิ่งจะสังเกตว่าแขนเสื้อข้างขวาของหลัวจื้อหย่งว่างเปล่า ทำเอาเธอตกใจจนโง่งมไปทันที!หรือเมื่อกี้ฉู่เฉินหักแขนข้างหนึ่งของหลัวจื้อหย่ง?เป็นไปไม่ได้หรอ
อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่กำลังเดินทางกลับ กู้รั่วเสวี่ยก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “คนที่จางม่านเรียกว่าคนนั้นเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโตในวงการบันเทิงใช่ไหมคะ?”“ทำไมท่าทางเขาดูหวาดกลัวพี่ขนาดนั้นล่ะคะ?”เมื่อกี้เธอมองผ่านกระจกรถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฉู่เฉินยืนกอดอกตลอดเวลา ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังปะทะคารมกันนั้น เขาก็สามารถทำให้จางม่านคุกเข่าอ้อนวอนได้“ก่อนหน้านี้เคยเจอมาก่อนครับ ประธานหลัวเป็นคนที่มีจิตใจดีครับ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์หลัวจื้อหย่งจิตใจดี?กู้รั่วเสวี่ยมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่พอใจ เพราะคำพูดของฉู่เฉินทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่สักคำเดียวส่วนเรื่องรายละเอียดที่มากกว่านี้ เธอก็ไม่อยากจะถามให้มากความ ขอเพียงแค่การถ่ายโฆษณาพรุ่งนี้ถ่ายได้ตามปกติก็โอเคแล้วฉู่เฉินที่พึ่งถึงหน้าประตูห้องทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอล หลิ่วหรูเยียนก็ต่อสายเข้ามาหาเขาฉู่เฉินขมวดคิ้ว แล้วรับสาย “มีเรื่องอะไรรับพูดมา”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ปลายสาย ก็พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ฉู่เฉิน นายอยู่ที่ไหน ขอร้องละนายช่วยมาดูแม่ของฉันหน่อย เธอ... เธอเหมือนจะไม่ไหวแล้ว”อะไรนะ?ฉู่เฉินขมวดคิ้ว
ฉู่เฉินรับหุ่นกระดาษมาจากมือของป้าอู๋ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้นี่มันไม่ใช่หุ่นกระดาษธรรมดา หุ่นกระดาษนี่พึ่งอยู่ในมือฉู่เฉินได้ไม่นาน ก็มีควันสีดำโพยพุ่งขึ้นมาจากหุ่นกระดาษนี่!กลิ่นอายนี้ฉู่เฉินคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยล่ะ มันคือกลิ่นศพเน่า!หลังจากนั้นฉู่เฉินก็ตรวจจ้ำศพบนร่างของหลิ่วชิงเหออย่างละเอียด แสยะยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า “เธอน่าจะโดนพิษศพ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เมื่อวานตอนเย็นเธอกินเนื้อวัวใช่ไหม?”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็เหลือบมองไปที่ต้นขาด้านในของหลิ่วชิงเหอที่เริ่มรอยฟกซ้ำเมื่อโดนพิษศพแล้วสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดก็คือเนื้อวัว โดยเฉพาะในร่างกายของหลิ่วชิงเหอมียาที่สกัดจากของเหลวจากร่างกายของฉู่เฉิน สองสิ่งนี้ยิ่งจะทำให้อาการป่วยของหลิ่วชิงเหอยิ่งรุนแรงมากขึ้น“ใช่ ช่วงนี้แม่ของฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่ ดังนั้นจึงกินได้แค่เนื้อวัว หรือว่าเกี่ยวกับเนื้อวัวนี่เหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะออกมาเบาๆ “แน่นอนสิ ที่จริงไม่เพียงแค่แม่เธอที่โดนพิษศพนะ แต่พวกเธอโดนพิษศพทั้งสองคนเลย”“เพียงแต่ว่าพิษศพบนร่างของพวกเธอยังไม่ทันออกฤทธิ์เท่านั้นเอง ถ้าไม่ใช่เพราะกินเนื้อวัวเข้าไป บวกกับสารพิษในต
ทำยังไงดี?หรือว่าจะให้เธอเป็นเหมือนหวังเสี่ยวลี่ที่เอาแต่เชื่อฟังคำสั่งของฉู่เฉินเมื่อคิดว่าตัวเองจะเป็นเหมือนหลิ่วชิงเหอ ร่างกายเน่าเปื่อยตาย หลิ่วหรูเยียนก็ไม่สามารถข่มความหวาดกลัวของเธอได้“ฉู่เฉินไม่ว่านายจะมีเงื่อนไขอะไร ฉันรับปากหมดเลย ขอร้องนายละ ช่วยรักษาพิษศพบนร่างของพวกฉันได้ไหม?”หลิ่วหรูเยียนลนลานบางทีที่หวังเสี่ยวลี่พูดก็อาจจะถูก แม้ว่าจะต้องตกอยู่อำนาจของฉู่เฉิน แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไปถึงแม้ว่าจะไม่ชอบ แต่อย่างน้อยก็สามารถปกป้องชีวิตของพวกเธอสองแม่ลูกเอาไว้ได้ฉู่เฉินถึงจะพอใจแล้วพยักหน้าพูดว่า “นี่สิถึงจะถูก แต่ว่าในตอนนี้เธอจะต้องพูดความจริงกับฉัน ในช่วงที่ผ่านมานี้เธอและหลิ่วชิงเหอไปคลุกคลีกับใครมาบ้าง?”ฉู่เฉินมองไปที่หุ่นกระดาษในมือ เขาสามารถรู้ได้ทันทีว่าคนที่ลงมือจะต้องเป็นสำนักอวี้ซือแน่นอน!แต่สำนักอวี้ซือไม่มีทางที่จะลงมือกับหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูกเพียงเพราะมีปัญหาระหว่างฉู่เฉินแน่นอน มันจะต้องมีสาเหตุอื่นอยู่อีกเป็นแน่ในตอนนี้ ฉู่เฉินได้แต่สงสัยว่าหลิ่วชิงเหอรู้เรื่องที่พ่อแม่ของเขาหายตัวไปเป็นอย่างดี แต่กลับไม่ยอมพูดออกมาว่าคนร้ายที่
ป้าอู๋กลืนน้ำลาย แววตาเต็มไปด้วยความโหยหามองไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉิน แล้วพยักหน้าเบาที่จริงเธออยากจะรับแทนหลิ่วหรูเยียนด้วยซ้ำ ก็เพราะที่ตรงนั้นของเธอมันไม่ได้รับการรดน้ำมาเป็นเวลานานแล้วแต่ทำไงได้ตั้งแต่ที่ฉู่เฉินก้าวเดินเข้ามา เขาก็ไม่ได้ชายตามองเธอด้วยซ้ำพูดตามตรง เธอคิดถึงช่วงเวลาที่ถูกร่างกายของฉู่เฉินทับเอาไว้ ความรู้สึกแบบนั้นทำให้เธอปล่อยวางไม่ได้จริงๆเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเดินจากไปไกลแล้ว ป้าอู๋ถึงยกมือขึ้นมาคลึงหน้าอกอันอวบอั๋นของตัวเองด้วยความไม่พอใจตึงมาก!ความรู้สึกที่อยากมากๆ แต่กลับไม่สามารถแสดงออกมาได้ มันอึดอัดจริงๆ นะ!อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินมองหลิ่วหรูเยียนที่กำลังเดินบิดสะโพกเข้ามาในห้องนอน และกำลังจะเปลื้องผ้าออก เขาก็ชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า “ชุดนี้ไม่ดี เปลี่ยนอีกชุดหนึ่ง”หลิ่วหรูเยียนอึ้งไปสักพัก เธอมองบนฉู่เฉินไปทีหนึ่ง “ชุดเครื่องแบบ หรือถุงน่องซีทรูสีดำกับรองเท้าส้นสูง?”ระหว่างที่พูด หลิ่วหรูเยียนก็เปิดตู้เสื้อผ้าไปด้วยอย่าพูดเป็นเล่นไป ในตู้เสื้อผ้าของหลิ่วหรูเยียนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเต็มไปด้วยสไตล์บริสุทธิ์เย้ายวน และยังมีลุคสาวมั่น ฉู่เฉินม
“ฮ่าๆ... คุณฉู่ก็พูดไป”หยางเทียนหลงดึงกางเกงขึ้นไปด้วย พร้อมโบกมือให้กับเลขาแล้วพูดว่า “ออกไปก่อนๆ !”เลขาหัวยุ่งเหยิง รีบติดกระดุมเสื้ออย่างรีบร้อน พร้อมทั้งดึงกระโปรงที่ถูกถกไปอยู่ตรงเอวขึ้นมา เธอวิ่งออกไปจากห้องทำงานของหยางเทียนหลงด้วยใบหน้าแดงก่ำหยางเทียนหลงก็ยิ้มยิงฟัน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มดื่มชาให้ฉู่เฉิน หลังจากนั้นเขาถึงพูดขึ้นมาอย่างเอาอกเอาใจว่า “คุณฉู่ยุ่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าวันนี้มีลมอะไรพัดให้คุณมาหาผมกันครับเนี่ย?” ฉู่เฉินดื่มชาลงไปหนึ่งคำหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ ว่า “คุณรู้จักคนที่ชื่อเกาเซิ่งอี้ไหมครับ?”เกาเซิ่งอี้เหรอ?หยางเทียนหลงขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณฉู่ คนแซ่เกาทำให้คุณฉู่โกรธเหรอครับ?”ฉู่เฉินพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมา “ถือว่าใช่แหละ คนนี้เป็นใครกันแน่? เขาเกี่ยวข้องกับหอการค้าตะวันออกใหญ่ยังไง?”เมื่อได้ยินคำนี้ หยางเทียนหลงก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าวขึ้นมา “คุณฉู่ครับ พูดตามความจริง คนแซ่เกานี่ผมรู้จักเขาเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งเองครับ”“ได้ยินมาว่า เกาเซิ่งอี้และหอการค้าทั้งสามของมณฑลร่วมมือกันสร้างหอการค้าตะวันออกใหญ่ขึ้นมา แต่ว่าหอการค้าตะวันออกใหญ่ไม่น่
ถ้าฉู่เฉินวางแผนจะจัดการหอการค้าตะวันออกใหญ่ ถ้าอย่างนั้นหยางเทียนหลงก็จะใช้โอกาสนี้แก้แค้น!“ได้ครับ เตรียมตัวไว้ก่อนเถอะครับ”พูดจบ ฉู่เฉินก็เดินออกไปจากห้องทำงานของหยางเทียนหลง……อีกด้านหนึ่ง หลิ่วหรูเยียนไม่โทรไปหาก็ไม่มีอะไรแย่ แต่ทันทีที่สายนี้โทรเข้ามาก็ทำเอาหลิ่วหรูเยียนตกใจจนเหงื่อไหลพลั่กตั้งแต่สามวันก่อนที่หลิ่วหรูเยียนอาการป่วยกำเริบ ตระกูลฉีและตระกูลโจวแห่งหอการค้าตะวันออกใหญ่มักจะมาหาผู้ถือหุ้นที่บริษัทอย่างใกล้ชิดอีกทั้งช่วงไม่กี่วันนี้ ไม่รู้ว่ามีข่าวฉาวมากมายของหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่รวมทั้งยังมีคนนำเรื่องที่ยอดการขายของฉู่ซื่อกรุ๊ปไม่ดีโทษว่าเป็นความผิดของหลิ่วชิงเหออีกด้วยอีกทั้งยังมีผู้ถือหุ้นหลายรายที่กำลังวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนในการประชุมสองวันหลังจากนี้อย่างลับๆ ล่อ“เสี่ยวลี่ ข่าวสำคัญขนาดนี้ ทำไมเธอไม่แจ้งให้ฉันให้ฉันทราบ”หลิ่วหรูเยียนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ผู้จัดการหลิ่ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากบอกคุณนะคะ แต่ฉันกับคุณต้าหลิงจื่อล้วนได้รับคำข่มขู่จากบุคคลนิรนาม วันนั้นตอนบ่ายคุณต้าหลิงจื่อก็เกิดอุบัต
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก