“ใครกันนะ ทำเอาเสียอารมณ์เลย!”ต้วนหลิงเสวี่ยวักน้ำที่ขอบอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พลางปลดกระดุมกี่เพ้าออกความขาวเนียนดุจหิมะเผยออกมาตรงหน้าฉู่เฉินเช่นนี้เอง โดยเฉพาะทรวงอกอวบอิ่ม ดูขาวเนียนนุ่มลื่นจริง ๆบางทีอาจเป็นเพราะปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ฉู่เฉินถึงได้ประทานความเมตตาอย่างทั่วถึงมาโดยตลอด ความสามารถของต้วนหลิงเวยเพิ่มพรวดพราด แต่จนถึงตอนนี้ความสามารถของต้วนหลิงเสวี่ยกลับไม่เพิ่มขึ้นมากนักตรงกันข้าม บางส่วนบนร่างกายยิ่งโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ และยิ่งนุ่มลื่นขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วยฉู่เฉินกลืนน้ำลาย พยายามข่มใจใช้เคล็ดวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง แล้วก้มหน้ามองหน้าจอแวบหนึ่งเดิมทีเขายังนึกว่าเป็นถานเฟย แต่ก็พบว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นคนที่โทรศัพท์มา แววตาของฉู่เฉินอดเปล่งประกายไม่ได้เขามองอ่างอาบน้ำที่มีขนาดเท่าห้องอาบน้ำเล็ก ๆ ก่อนจะเลียริมฝีปาก กดรับสายแล้วพูดว่า “นี่เพิ่งแยกจากกันไม่กี่วัน เธอคงไม่ได้คิดถึงกันอีกแล้วใช่ไหม?”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ปลายสายเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นถึงค่อยเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ฉู่เฉิน นายยังจำเรื่องประชุมบอร์ดบริหารที่ฉันเคยบอ
เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือนักพรตชิวสุ่ยที่ช่วยย้ายบ้านเมื่อตอนกลางวัน ต้วนหลิงเวยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมถึงเป็นคุณ?”นักพรตชิวสุ่ยรีบทำหน้ายิ้มแย้มให้ แล้วกวักมือเรียกนักพรตเด็กหลายคนที่อยู่ด้านหลัง นักพรตเด็กสิบกว่าคนที่แบกถุงกระสอบก็เดินมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว“คุณหนูท่านนี้ หลายวันก่อนรู้ว่าคุณฉู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังหาโอกาสเหมาะ ๆ มาแสดงความห่วงใยไม่ได้เลย นี่เป็นสมุนไพรร้อยปีที่เก็บรักษาไว้ในคลังยาของสำนักเสวียนเทียนเรา ตั้งใจนำมามอบให้คุณฉู่โดยเฉพาะครับ” นักพรตชิวสุ่ยกล่าวจบก็ยังชะเง้อคอ มองเข้าไปในวิลล่าเฟิ่งหมิงแวบหนึ่ง“มองอะไร!”ต้วนหลิงเวยถลึงดวงตางาม เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “ทิ้งสมุนไพรไว้ คุณไปได้แล้ว รบกวนการพักผ่อนของนายท่าน ระวังหัวของคุณไว้ด้วยละ!”เดิมทีต้วนหลิงเวยข่มกลั้นเพลิงตัณหาไว้ในใจอยู่แล้ว เมื่อเห็นดวงตาสองข้างของนักพรตชิวสุ่ยกวาดมองไปทั่วก็ยิ่งเดือดดาล เธอหิ้วถุงกระสอบบนพื้นขึ้นมา ก่อนจะหันกายเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงเงาหลังอันอ่อนช้อยให้นักพรตชิวสุ่ยเมื่อโดนปิดประตูไม่ต้อนรับแขก นักพรตชิวสุ่ยก็ได้แต่จากไปด้วยความอับอายแต่เขาเ
ฉู่เฉินที่ถลกชายกระโปรงของต้วนหลิงเวยขึ้นมา เตรียมจะทำการใหญ่ก็ตกใจเสียงร้องของหลิ่วหรูเยียนจนสะดุ้ง เขารีบหันหน้ามองไปทางหน้าประตู เห็นว่าเป็นหลิ่วหรูเยียนก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้เจ้าทึ่มไม่ดูประตูใหญ่ หนีไปเตร็ดเตร่ที่ไหนอีกแล้วคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ยังบุกเข้ามาในห้องอาบน้ำของอาคารปีกตะวันออกได้โชคดีที่เป็นคนที่มาอาบนวดให้เขา ถ้าเกิดเป็นคนร้ายละก็ เช่นนั้นก็เป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงแล้วไม่ใช่หรือไง“ฉะ ฉู่เฉิน นาย...”ฉู่เฉินเหลือกตาใส่หลิ่วหรูเยียนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “อะไรของเธอ เข้ามาทดสอบอุณหภูมิน้ำสิ” เขากล่าวจบก็ตบสะโพกอวบอิ่มของต้วนหลิงเวยที่ทำหน้าผิดหวังไปหนึ่งฉาด ฝ่ายหลังได้แต่ทำปากยื่น กระทืบเท้า บิดเอวแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำหลิ่วหรูเยียนมองฉู่เฉินที่แทบจะระเบิดโลก ในใจรู้สึกประหม่าถึงขีดสุดด้วยความรู้สึกที่ทั้งอยากรู้และประหม่า หลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ถอดชุดทำงานและกระโปรงมินิสเกิร์ตออก เหลือไว้เพียงชุดชั้นในลูกไม้สีดำ เรียวขาขาวเนียนทั้งสองข้างส่ายไหว บิดเอวก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำเสียงน้ำดังซ่า ๆ ควบคู่ไปกับฉู่เฉินที่ก้าวเข้ามาใกล้หลิ่วหรูเยียน เขาเอื้อมมือไปจั
เซียวเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วค่อยนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับถานเฟย แต่สายตายังคงมองไปทางอาคารปีกตะวันออกเป็นระยะหลังจากผ่านไปสิบกว่านาทีเต็ม ประตูห้องรับแขกก็เปิดออก ก่อนที่ฉู่เฉินจะเดินเข้ามาในห้องรับแขก“คุณฉู่”ถานเฟยกับเซียวเฟิงพากันลุกขึ้น แล้วผงกศีรษะทักทายฉู่เฉินฉู่เฉินยิ้มพลางโบกมือกล่าวว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน นั่งสิครับ”เมื่อพูดจบก็ให้ต้วนหลิงเวยรินชาหอมให้ทั้งสองคน ฉู่เฉินดื่มน้ำชาไปด้วย ยิ้มพลางเอ่ยปากพูดไปด้วยว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน ดึกดื่นมาเยี่ยมกัน มีธุระเหรอครับ?” ถานเฟยสบตากับเซียวเฟิงแวบหนึ่งแล้วค่อยเอ่ยปากพูดอย่างเขินอายว่า “คุณชายฉู่ พูดแบบไม่ปิดบังเลยนะครับ ผมมาเจียงจงครั้งนี้ก็เพื่อขอให้คุณฉู่ลงมือช่วยเหลือ”“คุณยังจำเรื่องของสำนักว่านเซี๋ยได้หรือเปล่าครับ?”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยภาพถ่ายที่ถานเฟยให้เขาดูบนเฮลิคอปเตอร์ แต่ละใบล้วนเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบรวมไปถึงซากแขนขาที่มีเลือดนองพื้น ฉู่เฉินไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต“จากเบาะแสที่คุณฉู่ให้มา ตอนนี้แก๊งมังกรจับตัวคนของสำนักว่านเซี๋ยได้หลายคนแล้วจริง ๆ จากคำให้การของพวกเขา ยังมีบุ
ถึงแม้ว่าเซียวเฟิงจะมีอคติกับฉู่เฉินตลอดมา แต่วันนั้นฉู่เฉินทั้งโอบทั้งกอดน้องเซียวเสวี่ยอิ๋งของเขาต่อหน้าคนมากมายแบบนั้น ทั้งที่ทั้งสองคนยังไม่ได้คบกันอย่างเปิดเผยสักหน่อย แต่รอบกายฉู่เฉินกลับมีผู้หญิงมากมายขนาดนั้นแล้วนี่คืออะไรกัน?สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่อาจทนเห็นเซียวเสวี่ยอิ๋งเสียเปรียบได้นั่นเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาเลยนะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ซิสค่อน แต่เซียวเฟิงจะไม่ยอมให้ฉู่เฉินมีคนอื่นแต่ก็ยังเหล่น้องสาวเขาแน่“ท่านนี้คือผู้จัดการใหญ่หลิ่วของฉู่ซื่อกรุ๊ป ชื่อหลิ่วหรูเยียน มาให้ฉันช่วยรักษาอาการให้น่ะ เมื่อกี้รักษาด้วยวารีบำบัดให้เขา เสียงกรีดร้องนั้นพวกคุณก็ได้ยินกันแล้วสินะ?”ฉู่เฉินตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรักษาด้วยวารีบำบัด?หลิ่วหรูเยียนได้ยินแล้วเม้มปากโดยไม่รู้ตัว วารีบำบัดที่ไหนทำกันแบบนี้ฮะ?จนถึงตอนนี้เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บจี๊ดอยู่เลยนะ“วะ…วารีบำบัด?”ไม่เพียงแค่เซียวเฟิงคนเดียวที่ขมวดคิ้ว แม้แต่ถานเฟยก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ“ไม่จำเป็นต้องมาสนใจเรื่องยิบย่อยเหล่านี้ ทุกคนคงหิวกันแล้วใช่ไหม กินข้าวกันเถอะ”ขณะกล่าวฉู่เฉินก็เดินไปนั่งตรงกลางระหว่างต้วนหลิงเสวี่
ก๊อก!ในเวลาที่ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้น ใต้โต๊ะก็เกิดเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง!เซียวเฟิงก้มหน้ามองไปยังใต้โต๊ะด้วยความแปลกใจ หลิ่วหรูเยียนเก็บมือกลับมาในช่วงเวลาเดียวกับที่เซียวเฟิงก้มตัวมอง แต่เพราะเหตุนี้เมื่อมองจากมุมของเซียวเฟิงก็ทำให้เขาตะลึงมากเวลาฉู่เฉินกินข้าว ตรงนั้นห้าวหาญได้ขนาดนี้เชียว?หลิ่วหรูเยียนฉวยโอกาสนี้วางตะเกียบและถ้วยชามลง จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกล่าวกับทุกคนว่า “พวกคุณกินกันก่อนได้เลยค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ”ฮะ?ฉู่เฉินรีบเงยหน้าหันขวับไปมองหลิ่วหรูเยียนแกล้งฉันเกินครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ฉันเกือบจะถูกเปิดโปงใต้โต๊ะแล้ว แต่เธอบอกจะไปก็ไปเนี่ยนะ?“ขอบคุณการรักษาด้วยสปาของคุณฉู่นะคะ บ๊ายบาย”หลิ่วหรูเยียนยังไม่ลืมโบกมือลาฉู่เฉินที่หน้าแดงก่ำอยู่ จากนั้นขาเรียวงามนั้นก็เดินส่ายสะโพกสวยไปมาแล้วหายไปจากสายตาของฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนลุกจากที่นั่งแล้ว ต้วนหลิงเวยก็ไม่พลาดโอกาสเข้ามาแทนที่จึงได้นั่งข้างฉู่เฉิน ดวงตางามคู่นั้นชำเลืองมองใต้โต๊ะเป็นระยะ ๆอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ดวงตาคู่งามของเธอนั้นระยิบระยับมีเสน่ห์เวลาไม่นาน
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าวิชาของมังกรเฒ่าช่างยอดเยี่ยมจริง ๆด้วยวิชาบำเพ็ญคู่บวกกับการแช่โอสถ ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกถึงพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นานก็บรรลุจุดวิกฤติในการเลื่อนขั้นนั้นได้อีกครั้งตูม!พลังวิญญาณทำลายพันธนาการ รอบกายฉู่เฉินเกิดแสงเรืองรองสีทองเคลือบหนึ่งชั้นภายในห้องอาบน้ำสว่างจ้าไปด้วยแสงสีทองแม้แต่เงาร่างเสมือนมังกรภายในกายของฉู่เฉินก็เปลี่ยนแปลงจนเป็นรูปเป็นร่างเด่นชัดของน้ำที่กระเซ็นส่วนต้วนหลิงเสวี่ยที่นอนราบข้างอ่างอาบน้ำ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกระทบอย่างต่อเนื่องจากด้านหลังจนพลังวิญญาณภายในร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อนต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็ทะลวงจนเลื่อนขั้นได้อีกครั้ง ระดับพลังหยุดอยู่ที่ระดับฝึกปราณชั้นแปดและในชั่วพริบตาที่ต้วนหลิงเสวี่ยกำลังเลื่อนขั้นพลังได้นั้นเอง ฉู่เฉินก็ทำลายพันธนาการจนทะลวงเลื่อนสู่ระดับระดับสร้างรากฐานขั้นสี่เลื่อนขั้นระดับพลังได้ติดต่อกับสามขั้นรวดเดียวแบบนี้ ต่อให้เป็นฉู่เฉินก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ขณะที่ปราณและเลือดภายในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำเอา
……ในตอนที่ฉู่เฉินและต้วนหลิงเวยออกจากห้องอาบน้ำอีกครั้งก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้วดูเหมือนว่าเนื่องจากการเพิ่มระดับพลังสองขั้นรวดแล้ว ใบหน้าเล็กที่แสนจะแดงก่ำของต้วนหลิงเวยนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขมองดูนาฬิกาข้อมือเห็นว่ายังมีเวลาห่างจากการประชุมบอร์ดผู้บริหารของฉู่ซื่อกรุ๊ปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ฉู่เฉินจึงกินข้าวเช้าหนึ่งคำอย่างลวก ๆ จากนั้นรีบเดินออกจากประตูวิลล่าจนมาถึงประตูใหญ่ของวิลล่าเฟิ่งหมิง ก็เห็นเจ้าทึ่มซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เงยหน้ามองดูพระอาทิตย์บนท้องฟ้าแสงสว่างจ้าฉู่เฉินขมวดคิ้วคิดว่าไม่ค่อยเข้ากับเสื้อชุดนี้สักเท่าไหร่ จึงเข้าไปนั่งในรถแล้วสั่งให้ต้วนหลิงเวยไปซื้อชุดยามรักษาความปลอดภัยกลับมาเปลี่ยนให้เจ้าทึ่มเห็นประตูใหญ่ก็ต้องทำให้สมกับได้เห็นประตูใหญ่หน่อยสิฉู่เฉินสตาร์ตเครื่องแล้วรีบขับจนมาถึงอาคารสำนักงานใหญ่ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในเวลาไม่นานต้าหลิงจื่อกำลังยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยความร้อนใจก็เห็นฉู่เฉินเปิดประตูรถลงมา จึงรีบเดินเข้าไปต้อนรับด้วยรองเท้าส้นสูงแม้ว่าขาสวยงามของต้าหลิงจื่อจะดูหนาไปเล็กน้อย แต่ถุงน่องสีเนื้อใต้ชุดกระโปรงทำงานสั้นนั้นก็ทำให้คนร
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก