Share

บทที่ 219

Penulis: มู่โร่ว
เขาเทน้ำลงจนเต็มขวดนมต่อหน้าชายฉกรรจ์ทั้งหลาย เสร็จแล้วยังดูดไปคำหนึ่ง แล้วทอดถอนใจออกมาอย่างชื่นชมว่า

“ไม่ต้องบิดฝาขวดก็สามารถดื่มน้ำได้ ช่างสะดวกจริง ๆ!”

“ถึงขวดล้ม ก็ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะหกออกมา ช่างออกแบบได้เลิศล้ำจริง ๆ!”

พวกเฉินขุย เฉินอู่ และหลี่หยวนจงและคนทั้งหลาย รู้สึกว่าไม่อาจทนมองเจ้าตัวโง่งมสองตัวนี้อีกต่อไปแล้ว

ไม่ได้การ ต้องรีบแต่งเมียให้พวกมันแล้ว

ช่างน่าขายหน้าเสียเหลือเกิน!

ยามที่มั่วฝานอยู่ในเมืองหลวง ก็ชมชอบการเที่ยวคณิกา เขาจึงมองวัตถุประสงค์ของจุกนมออกในครั้งเดียว

เขากล่าวกับสองคนนั้นด้วยดวงตาที่แสดงความรังเกียจว่า “นี่เป็นขวดนมที่ใช้ป้อนให้ทารก พวกเจ้าโตขนาดนี้แล้ว ยังจะแย่งจุกนมของเด็กน้อย!”

ซี๊ด

เหอหงและเฉินจวิ้นหลินสีหน้าแดงก่ำในทันที

เหอหงรีบเทน้ำในขวดลงในชามเปล่า แล้วเก็บขวดนมเข้าไปในกล่องกระดาษ

เฉินจวิ้นหลินสีหน้าแดงก่ำ ลูบจมูกพลางมองไปทั่ว เพื่อลดความกระดากของตน!

เฉินอู่ชื่นชอบชุดของเด็กทารกจนไม่อยากวางมือ

เสื้อผ้าตัวน้อยช่างน่ารักนัก สัมผัสนุ่มสบาย คุณภาพดีอย่างมาก

เขาถามจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ พวกนี้ล้วนเป็นของที่ท่านเทพมอบให้เหล่าพี่สะใภ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 220

    “ขอเพียงอาวุธชุดนี้มาถึง ท่านแม่ทัพ ข้า เฉินขุยผู้นี้ขอรับคำสั่งออกไปสังหารศัตรูขอรับ!”เหล่าแม่ทัพที่เหลือทั้งหลาย ต่างก็พากันคุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วประสานคำนับ “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยยินดีนำทัพออกจากเมือง ไปรบกับกองทัพของแคว้นฉู่และฉีทั้งสองแคว้นให้ลือลั่นสักครั้งขอรับ!”“หากไม่อาจขับไล่แคว้นฉู่และแคว้นฉีออกไป แม้นตายก็ไม่ขอเลิกรา!”จ้านเฉิงอิ้นโบกมือ กล่าวกับพวกเขาว่า “ลุกขึ้นมาก่อน เรื่องนี้ไว้ปรึกษากันทีหลัง ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…”เหล่าแม่ทัพนั่งกลับไปบนเก้าอี้ มองจ้านเฉิงอิ้นด้วยแววตาเจิดจ้าเป็นประกาย“ในตอนที่ผู้บัญชาการทัพแคว้นฉู่หมดสติ ฉู่อ๋องได้ออกสารลับหลายฉบับ เร่งให้เขายกทัพกลับเมือง”“แต่หลิงเซี่ยวเฟิงมิได้กลับไป เขาเพิกเฉยต่อสารลับพวกนั้น”“ฉู่อ๋องเกรี้ยวโกรธอย่างมาก จึงส่งเฟิงหยวนเต๋อ แม่ทัพใหญ่อีกคนหนึ่งมารับช่วงและควบคุมกำลังพลของกองทัพแคว้นฉู่”“ส่วนที่เหลือ…”จ้านเฉิงอิ้นมองไปที่มั่วฝาน แล้วกล่าวกับเหล่าแม่ทัพว่า “พวกเจ้าไปถามมั่วฝานเอา”ทุกคนพร้อมใจกันมองไปที่รัฐทายาทน้อยโดยมิได้นัดหมายทันทีมั่วฝานหยิบแท็บเล็ตออกมา เปิดคลิปที่ถูกถ่ายไว้ได้ออกมา“เฟิงหยวนเต๋อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 221

    สถานการณ์นั้นร้ายแรง เหล่านายทหารต่างมองเจียงหยวนเจียงหยวนพยักหน้า “ใช่ พวกเขาคือหน่วยกล้าตายที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี”เขาอธิบายแก่ทุกคน “พวกเขาเหน็บกระบี่ทุกคน ถ้าเป็นทหารทั่วไป จะพกดาบ เกอ หอก…อาวุธทหารแตกต่างกันไป สวมใส่ชุดเกราะ แบกหน้าไม้กับลูกธนูไว้ที่หลัง”“พวกเขาซ่อนมีดสั้นบริเวณขาและท้อง เหน็บกระบี่ตรงช่วงเอว เสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่ถักด้วยผ้าไหม ไม่เคยมีการปะ มีบางคนกระทั่งห้อยจี้หยกไว้ตรงคอ”“คนกลุ่มนี้ร่ำรวยมาก พวกเขาไม่ใช่ทหารยากจนที่ต้องทำงานหนักเพื่อจุนเจือครอบครัว แต่เป็นหน่วยกล้าตายภายใต้การบ่มเลี้ยงของผู้มีอำนาจและร่ำรวยมากกว่า!”เหล่าทหารพยักหน้าเจียงหยวนพูดไม่ผิด เพื่อนร่วมอาชีพย่อมเข้าใจเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันแคว้นฉียกหน่วยกล้าตายหนึ่งร้อยคน ให้สวีหวยด้วยเหตุผลใด?จ้านเฉิงอิ้นอธิบายตอบในสิ่งที่ทุกคนสงสัย“สวีหวยรับคนกลุ่มนี้มาไว้ อีกไม่กี่วัน เขาจะนำกองทัพหนึ่งแสนนายเข้าสู่ด่านเจิ้นกวน แทรกหน่วยกล้าตายที่มีทักษะการต่อสู้ขั้นสูงเข้าไปในกองทัพ”“พวกเขาจะช่วยสวีหวยกำจัดคนต่างพวก เข้าควบคุมด่านเจิ้นกวน”“ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ให้ความร่วมมือ หน่วยกล้าตายกลุ่มนี้จะก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 222

    ศึกคราหน้าหรือไม่ตาย หรือไม่สะเทือนขวัญทั้งสามแคว้นต้าฉี่ไม่มีใครกล้าบุกโจมตีอีก!ถ้าชนะ ในหนึ่งร้อยปีไม่มีใครกล้าลงมือกับแคว้นต้าฉี่ถ้าแพ้ พวกเขาไม่เพียงแต่จะตายกันหมด พลเมืองในเมืองก็ตายด้วยครั้นบ้านเมืองแคว้นต้าฉี่ล่มสลาย ก็จะหายสาบสูญตลอดกาล!ดังนั้น พวกเขาจะพ่ายแพ้ไม่ได้!มั่วฝานพลันยืนขึ้น กล่าวอย่างโมโห “ข้าจะใช้เหยี่ยวส่งสาส์นไปยังไทเฮา กล่าวฟ้องสวีหวยสมคบกับศัตรูทรยศบ้านเมือง ให้ถอดยศตำแหน่งของเขาและไม่อนุญาตให้รับช่วงต่อด่านเจิ้นกวน”“กองกำลังหนึ่งแสนนั่นยกให้จ้านเฉิงอิ้นเป็นผู้บัญชาการ!”ถึงแม้ความคิดมั่วฝานดี แต่ไทเฮายังสำเร็จราชการแทนฮ่องเต้น้อยอยู่หนำซ้ำราชสำนักยังถูกควบคุมโดยเสนาบดีซู ฮ่องเต้น้อยเป็นเสมือนเพียงหุ่นเชิดสาส์นของไทเฮา ถ้าไม่มีการประทับตราแผ่นดินหยก สวีหวยตาแก่เจ้าเล่ห์ผู้นี้อาจไม่ยอมรับครั้นเวลานี้ไม่มีวิธีอื่น ก็ยื้อไว้จนสุดความสามารถไปก่อนมั่วฝานเขียนจดหมายทันที เขาปล่อยเหยี่ยวบินออกไปหนึ่งตัวทุกคนในกระโจมล้วนมีความรู้สึกหนักใจ หากเรื่องราวดำเนินต่อไปเช่นนี้วิกฤตด่านเจิ้นกวนไม่เพียงแต่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่ยังจะเลวร้ายลงอีกด้วยในทุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 223

    เย่มู่มู่นั่งเบื่อหน่ายมากมายอยู่หน้าประตูโกดังชานเมืองวันนี้ลุงหยางกลับบ้านเกิดไปพักร้อนที่บ้านลูกสาว สองสามวันนี้จะไม่กลับมาถ้ามีของมาส่ง เย่มู่มู่ต้องไปเฝ้าที่โกดังตอนนี้ เย่มู่มู่กำลังรอเจ้าของร้านนำแท็บเล็ต หน้าจอ เครื่องมือไฟฟ้ามาส่งขณะกำลังรู้สึกเบื่อ เธอได้รับโทรศัพท์จากรองผู้อำนวยการจาง“มู่มู่ ผมกับนักวิจัยโบราณคดี พบว่าในถ้วยสิบใบที่คุณบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ มีอยู่สองใบที่จ้านเฉิงอิ้นแม่ทัพใหญ่เคยใช้เมื่อยังมีชีวิต”“อะไรนะ จ้านเฉิงอิ้นเคยใช้?”เป็นไปไม่ได้~เธอได้แยกจานกระเบื้องออกเป็นหมวดหมู่ประเภทหมดแล้วมีการเคลือบเงา มีตัวหนังสือตรงก้นถ้วย ล้วนถูกเก็บไว้ชั้นบนสามร้อยสามสิบชิ้นที่เธอปล่อยขาย เป็นถ้วยแจกันสีกากีที่ไม่มีสีอื่นทุกชิ้นพูดตามตรง เธอมองไม่ออกเลยว่ามีความพิเศษอะไรรองผู้อำนวยการจางดีใจมากและกล่าวต่อ “ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแคว้นต้าฉี่ ในบันทึกประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้บันทึกอย่างเป็นทางการ สิ่งที่ได้บันทึกไว้มากที่สุดคือเรื่องราวอันกล้าหาญของแม่ทัพหนุ่มจ้านเฉิงอิ้น ดังนั้น พิพิธภัณฑ์จึงจะเปิดแคว้นฉี่รอบพิเศษ โดยแนะนำจ้านเฉิงอิ้นเป็นหลัก…”“คุณ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 224

    “ข้าจะสลักศิลาจารึก สร้างศาลเทพให้ท่าน นำคุณูปการอันเกริกก้องของท่านสลักไว้บนศิลาจารึก”“ไม่ว่าผ่านไปสิบปี ร้อยปี พันปีก็จะมีคนจดจำท่าน”เย่มู่มู่ไม่มีความเห็นกับสิ่งนี้“เรื่องเล็กน้อยที่ข้าทำเหล่านี้ เมื่อเทียบกับเจ้าแล้ว ไม่มีค่าเลย!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวไม่เห็นด้วย “ไม่จริง สำหรับข้ามีความหมายมาก ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าและเหล่านายทหารคงตายไปนานแล้ว”“เอาเถอะ ตามใจเจ้า ฝั่งของเจ้ามีภาพเหมือนหรือไม่ ถ้าไม่มีถ่ายรูปส่งมาให้ข้าที…”“ถ้าเจ้าไม่ส่งมาให้ พนักงานในพิพิธภัณฑ์จะดาวน์โหลดรูปจากออนไลน์ตามใจชอบ แล้วถือว่าเป็นเจ้า”“ข้างในพิพิธภัณฑ์ มีรูปคนแปลกหน้าแขวนอยู่ใต้ชื่อเจ้า ได้รับความเคารพจากคนรุ่นหลัง”“ถ้าเป็นข้า ข้าไม่สามารถยอมรับได้ หากมีใบหน้าธรรมดาไม่โดดเด่นหรืออัปลักษณ์น่าเกลียดของคนหนึ่งแขวนอยู่ใต้ชื่อข้า”จ้านเฉิงอิ้นตอบจดหมายกลับมา “ขอรับ ท่านเทพรอสักครู่ สาย ๆ ข้าจะถ่ายรูปส่งให้”“อืม ไม่ต้องเร่งรีบ เจ้าว่างแล้วค่อยถ่ายก็ได้”ไม่มีกระดาษข้อความเด้งออกจากแจกันอีกเย่มู่มู่ทำท่าหาวแล้วฟุบหลับไปบนโต๊ะเธอไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไหร่ ท่ามกลางอาการสะลึมสะลือ เธอได้ยินเสียงแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 225

    เย่มู่มู่อ่านความคิดเห็นของเหล่าสาว ๆ ชอบใจหัวเราะคิกคักเหล่าพี่สาวพูดเก่งกันจริง ๆ พูดอีกเยอะ ๆ เธอชอบฟัง!เธอรออยู่ครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้งยังไม่ส่งภาพวาดมาให้หรือว่าจ้านเฉิงอิ้นขวยเขินกับภาพตนเองเกินไป?ไม่อยากส่งภาพมาให้?เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ตัดสินใจส่งกระดาษข้อความให้เขา“จ้านเฉิงอิ้นวาดเสร็จหรือยัง?”“ยังขอรับ ข้าส่งให้ท่านเทพตอนดึกอีกทีได้หรือไม่?”“เอาเถอะ พิพิธภัณฑ์เป็นฝ่ายขอภาพเหมือนของเจ้า จะให้เมื่อไหร่ สิทธิการตัดสินใจอยู่ที่เจ้า!”“ขอบคุณท่านเทพที่เข้าใจ ท่านเทพ ข้ามีเรื่องจะขอร้อง…”“สนิทกันเพียงนี้แล้ว เจ้ายังเกรงใจอะไรข้าอีก มีอะไรพูดมาได้เลย!”เย่มู่มู่ขายวัตถุโบราณไปหนึ่งชุด ได้เงินมา3.75หมื่นล้าน ในโกดังยังมีวัตถุโบราณอีกจำนวนมากทั้งหมดนี้ล้วนเป็นทรัพย์สมบัติที่มีมูลค่ามหาศาลจ้านเฉิงอิ้นร้องขอบางอย่างจะเป็นอย่างไร!อืม แน่นอนว่าทำให้เขาได้ทุกอย่าง!“ท่านเทพสั่งซื้อธนูทดกำลังอีกหนึ่งชุดได้หรือไม่ รวมถึงลูกธนูที่ใช้กับธนูทดกำลังโดยเฉพาะ”จ้านเฉิงอิ้นบอกเล่าว่าทหารเผ่าฉู่กระสุนหมดเสบียงเกลี้ยง ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่จะนำกองกำลังทหารเผ่าหมานส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 226

    เขาไม่ได้เขียนอะไรอีกเพียงคิดก็รู้แล้วว่าเขาวิตกกังวลมากเย่มู่มู่ยกปลายปากกา ตอบจดหมายกลับไป“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคือแม่ทัพใหญ่ที่เบื้องหน้ามองไม่เห็นสิ่งใด ย้อนกลับไปไม่เห็นผู้ใด เมื่อมองภาพรวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของแคว้นฉี่ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือขุนนาง ไม่มีใครถูกบันทึกชื่อในหนังสือประวัติศาสตร์ เจ้าคือหนึ่งเดียวที่ถูกละเลงด้วยหมึกเข้มข้น ได้รับการยกย่องในหนังสือประวัติศาสตร์”“ศึงสงครามครานี้ เจ้าจะได้รับชัยชนะแน่ โปรดเชื่อมั่นในตนเอง”“ข้าจะช่วยเจ้าด้วยกำลังทั้งหมดที่ข้ามี”“ถ้าศึกสงครามครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ด่านเจิ้นกวนจะไม่ถูกปิดล้อมและเหล่าพลเมืองจะได้รับอิสระด้วยใช่หรือไม่?”หลังจากเย่มู่มู่หย่อนจดหมายลงไป เพียงครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งจดหมายกลับมา“ขอรับ ถ้าครั้งนี้เอาชนะการปิดล้อมจากสามทิศได้ จะไม่มีแคว้นใดกล้าจ้องตาเป็นมันกับต้าฉี่อีก และในหนึ่งร้อยปีจะไม่มีใครกล้ากระทำอีกด้วย!”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าต้องสู้นะ จงมีชีวิตรอดกลับมา!!”“เจ้าเคยรับปากข้า ว่าจะรวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งและไปพิชิตต่างแดน”“เจ้าห้ามผิดสัญญา!”เป็นเวลานาน กว่าจะมีจดหมายส่งกลับมาในแจกัน“ขอรับ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 227

    “ในช่วงเวลานี้ ข้าได้เล่นอากาศยานไร้คนขับ ได้ขับรถแทร็กเตอร์ ได้ใช้แท็บเล็ต…ชีวิตนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว”สายตาทุกคนทอดมองรัฐทายาทน้อยอย่างปลื้มใจเขาเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากที่สุดในหมู่นายทหารเมื่อก่อนเขากลัวว่าต้องลงสนามรบ ไม่กล้าฆ่าคนตั้งแต่เกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัย อุปนิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก เลิกทัศนคติเยาะเย้ยถากถางสังคมและเริ่มฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ในสนามครั้นเผ่าหมานบุกมารุกราน เขายังลงสนามรบไปช่วยฆ่าศัตรูใช้อากาศยานไร้คนขับพกพาระเบิด บังคับเล่นมันประหนึ่งมืออาชีพพันธมิตรสามฝ่ายถอยทัพเมื่อครั้งก่อน มั่วฝานมีผลงานความดีควรได้รับยกย่องเขานำทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกมา มอบถวายให้ท่านเทพ เป็นเพราะรู้ว่าศึกสงครามหน้ายากจริง ๆ !ครั้นทุกคนเห็นความใจกว้างของมั่วฝาน จึงเปิดกล่องของตนเองด้วยอย่างเด็ดขาดเป็นทองคำเงินเครื่องประดับทั้งนั้นทรัพย์สินครอบครัวถูกนำออกมาจนไม่เหลือพวกเขามีความคิดเช่นเดียวกับมั่วฝาน หากพ่ายแพ้ขึ้นมา จะให้ศัตรูได้ประโยชน์ไปง่าย ๆ ไม่ได้หากได้รับชัยชนะ ถึงแม้ทรัพย์สินครอบครัวจะหมดลง แต่ท่านเทพไม่มีทางดูพวกเขาอดตายท่านจะส่งน้ำและเสบียงอาหารมาให้อีกในป

Bab terbaru

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status