แชร์

บทที่ 237

ผู้เขียน: มู่โร่ว
หลังจากที่เย่มู่มู่ส่งรถกลับไปแล้ว เธอก็ได้รับสายจากเถ้าแก่หลิน เจ้าของร้านขายธนูทดกำลัง

“คุณหนูเย่ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ ผมไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อของท่านได้”

“ช่วงนี้การควบคุมเข้มงวดมาก พวกเขาได้ยินว่าต้องการปืนล่าสัตว์หนึ่งหมื่นกระบอก ก็ไม่ยอมทำการค้าด้วยแล้ว ทั้งยังเตือนผมว่าให้ระวังตัว อย่าให้เป็นเป้าสายตาจากเบื้องบน”

“แต่ท่านวางใจได้ ผมจะใช้เส้นสายที่มี ซื้อปืนจากสิบสองร้าน ร้านละสิบกระบอก รวมเป็นหนึ่งร้อยยี่สิบกระบอก!”

หนึ่งร้อยยี่สิบกระบอก... จำนวนนี้ยังน้อยเกินไป!

แต่ในตอนนี้ก็ต้องใช้เท่าที่มีไปก่อน

“ได้ค่ะ ขอบคุณเถ้าแก่หลินมาก อย่าลืมส่งกระสุนมาเพิ่มด้วยนะคะ!”

“ผมจะจัดกระสุนให้หนึ่งพันนัดต่อปืนหนึ่งกระบอก เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอนครับ!”

หนึ่งหมื่นกว่านัด!

ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทว่าเธอก็กลัวการถูกจับตามอง เลยต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้!

หลังจากจัดการธุระเสร็จแล้ว เธอจึงเดินทางลงเขาไปดูห้องรักษาความปลอดภัยที่พี่ซุนและภรรยากำลังควบคุมงานก่อสร้าง

ห้องรักษาความปลอดภัยวางรากฐานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมก่อสร้างได้เรียกระดมหนุ่มสาวในหมู่บ้านที่ว่างงานมารวมตัวกัน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 238

    ระหว่างนั้น เย่มู่มู่ได้รับสายจากโรงงานผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนเจ้าของโรงงานแจ้งว่า เสื้อเกราะกันกระสุนใกล้จะจัดส่งแล้วเธอขับรถกระบะบรรทุกหนักไปยังโกดังเก็บของชานเมือง เปิดประตูม้วนขึ้น และรออยู่ที่นั่นไม่นานนัก เจ้าของโรงงานพาคนขับรถ ขับรถบรรทุกขนาดเล็กบรรทุกเสื้อเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัวจำนวนหนึ่งพันชุดมาส่งที่โกดังเก็บของเพราะเย่มู่มู่เป็นลูกค้ารายแรก เจ้าของโรงงานจึงมาลงมือขนของด้วยตนเอง พร้อมสาธิตคุณสมบัติกันไฟ กันน้ำของเสื้อเกราะกันกระสุนให้ดู...เจ้าของโรงงานเป็นคนใจกล้า เขาราดน้ำมันเบนซินลงบนเสื้อเกราะกันกระสุน จากนั้นโยนออกไปที่ลานหน้าโกดังเก็บของ แล้วจุดไฟเผา...เปลวไฟลุกโชนทันที แต่เสื้อเกราะกลับไม่ไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไฟเผาเพียงน้ำมันที่อยู่บนเสื้อเท่านั้น!เย่มู่มู่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้หลังจากน้ำมันไหม้หมดแล้ว เจ้าของโรงงานสวมถุงมือ หยิบเสื้อเกราะขึ้นมา สะบัด ๆ...คราบเขม่าที่ติดอยู่ก็ตกลงไปเสื้อเกราะกลับมาดูเหมือนใหม่ ทำให้เย่มู่มู่ประหลาดใจมากเจ้าของโรงงานหยิบขวดน้ำแร่ขึ้นมา แล้วให้เย่มู่มู่จับมุมเสื้อเกราะแล้วขึงไว้ จากนั้นก็เทน้ำ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 239

    เวลาบ่ายสี่โมง จ้านเฉิงอิ้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เขามองไปในกระโจม พบวัตถุทรงกระบอกสีดำปรากฏขึ้นมีป้ายห้อยระบุว่า “ปืนล่าสัตว์”ทุกกระบอกบรรจุอยู่ในกล่องไม้สีดำ ปูด้วยฟองน้ำสีดำ บรรจุหีบห่อดูหรูหรา ราคาย่อมแพงไม่ใช่น้อยที่มุมกระโจมยังมีกล่องวัตถุกว่าหนึ่งร้อยใบวางซ้อนกันเมื่อจ้านเฉิงอิ้นเปิดดู พบว่าข้างในบรรจุกระสุนปรายที่ทำจากเหล็กเขาไม่รู้ว่าปืนล่าสัตว์นี้ใช้ประโยชน์อย่างไร แต่เพียงแค่สัมผัสก็รู้ว่าสิ่งนี้ทรงพลังยิ่งนักตัวปืนหนัก หล่อขึ้นจากเหล็กกล้าสีดำทั้งกระบอกจากนั้น ชุดเกราะกันกระสุนจำนวนหนึ่งพันชุดร่วงลงมาจากฟ้าเกราะกันกระสุนชุดนี้แตกต่างจากชุดก่อนที่ได้รับมา วัสดุดูแข็งแรงทนทานกว่าเดิมจ้านเฉิงอิ้นดึงกริชออกมากรีดลงบนเกราะกันกระสุน แต่เกราะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนแม้แต่น้อยเขาจ้องมองด้วยความตะลึงมีดไม่สามารถบาดเกราะได้เลย!เกราะกันกระสุนชุดที่สองเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงเสื้อกั๊กธรรมดาเช่นครั้งก่อน ระดับการป้องกันสูงมาก ครั้งก่อนส่วนแขนและขายังสามารถถูกฟันถูกบาดได้แต่เกราะกันกระสุนที่ส่งมาครั้งนี้เป็นเกราะที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย สามารถป้องกันส่วนแขนขาได้อีกด้ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 240

    กระสุนนั้นยิงเข้าเป้า แต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้เลย“นี่มันปาฏิหาริย์ชัด ๆ!”“ชุดเกราะนี้มีระดับการป้องกันที่สูงกว่าชุดก่อน ๆ มันทำได้อย่างไร?”เหอหงหยิบปืนล่าสัตว์ออกมาวางบนโต๊ะ ปืนยาวหนึ่งหมี่ สร้างจากเหล็กกล้า น้ำหนักหลายกิโลกรัมนี่คืออาวุธที่หนักและทรงพลังยิ่ง“นี่คือสิ่งที่ใช้ยิงใส่เกราะกันกระสุนหรือ? ท่านแม่ทัพ ข้าอยากลองใช้ปืนล่าสัตว์ดู!”จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิดีโอสอนการใช้งานปืนล่าสัตว์ให้ทุกคนชมวิดีโอแรกแสดงภาพปืนล่าสัตว์ที่ใช้ยิงสัตว์ร้ายเพียงกระสุนนัดเดียว หมีขนาดหลายร้อยชั่งล้มลงไปดิ้นเพียงไม่กี่ครั้งก็สิ้นใจตายวิดีโอที่สอง เป็นการยิงกระสุนนัดเดียวเข้าที่ศีรษะหมูป่าขนาดสองสามร้อยชั่ง มันล้มลงกับพื้นและไม่ลุกขึ้นอีกวิดีโอแสดงภาพการล่าสัตว์ในแอฟริกาจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นช้างที่สูงใหญ่เหมือนขุนเขา หรือสิงโตตัวผู้ที่ทรงพลัง… ล้วนถูกล้มด้วยกระสุนนัดเดียว!ทุกคนจ้องมองหน้าจอด้วยความตะลึงปืนล่าสัตว์ในวิดีโอทรงพลังมากช้างที่สูงใหญ่ราวภูเขา เมื่อโดนยิงเข้าที่ศีรษะ ก็ล้มลงและไม่ลุกขึ้นมาอีกเลยหมีดำตัวใหญ่ที่พวกเขาเคยล่าก่อนหน้านี้ เพียงตัวเดียวมันสังหารมนุษย์นับสิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 241

    เจียงหยวนมองจ้านเฉิงอิ้นด้วยขอบตาแดงแม้เขาจะเป็นหน่วยกล้าตายของรัฐทายาทอยู่ในด่านเจิ้นกวนมานานเพียงนี้ เขาก็เกิดความผูกพันอันลึกซึ้งต่อท่านแม่ทัพและทหารทั้งหลายพวกเขามิได้ปฏิบัติต่อเขาดังเช่นข้าทาสแต่เห็นเขาเป็นคนที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน เป็นสหายร่วมรบที่มีฐานะความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันเจียงหยวนชอบความรู้สึกชนิดนี้เป็นอย่างมากอยู่ที่นี่ไม่มีการกลั่นแกล้งกดดัน ไม่มีการลงทัณฑ์ลงโทษ ไม่มีวรยุทธ์ที่ฝึกไม่มีวันจบ ไม่มีภารกิจที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่หมดเดิม เขาเป็นหน่วยกล้าตายของไทเฮาเป็นรัฐทายาทน้อยของตัวเขามาจากไทเฮาในชีวิตอันมืดมิดของเขา การเดินทางมาด่านเจิ้นกวน ทำให้ได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างออกไปเขาตัดใจจากไปไม่ได้ตัดใจจากท่านแม่ทัพ ตัดใจจากเหล่าทหารไม่ได้!ขอบตาของเจียวหยวนแดงระเรื่อ พูดเสียงเครือว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าขอรั้งอยู่ที่นี่ได้หรือไม่? ก่อนเปิดศึกในคืนนี้ ข้าจะต้องสอนพวกเขาให้ขับรถเป็น จนส่งครอบครัวของเหล่าทหารออกไปได้สำเร็จแน่ขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่ของเขา “หากพวกเราล้มเหลวในการรบ เจ้าก็จงจากไปพร้อมกับมั่วฝานและจวงเหลียงเสีย!”นับตั้งแต่แคว้นต้าฉี่สถาปนา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 242

    ทหารทุกนายล้วนได้รับแบ่งไปคนละหนึ่งชามเล็กจ้านเฉิงอิ้นยืดหลังตรง มือทั้งสองข้างยกจอกขึ้นมา คารวะทหารทุกนายว่า “ทุกท่าน คืนนี้ เป็นศึกสุดท้ายที่เกี่ยวพันถึงความเป็นตาย การคงอยู่หรือล่มสลายของด่านเจิ้นกวน”“หากพวกเราชนะ ก็จะไม่ถูกปิดล้อมอยู่ในด่านเจิ้นกวนอีกต่อไป”“พวกท่านก็จะสามารถกลับไปที่บ้านเกิด มอบเสบียงที่ได้รับเป็นรางวัลมอบให้เหล่าญาติ อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัว”“ทุกคนจะได้รับการจัดสรรบ้านเรือนและที่ดิน ผู้ที่แสดงออกได้โดดเด่น ยังจะได้รับการแต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งด้วย!”“ทว่า หากพ่ายแพ้”“เผ่าหมานก็จะบุกสังหารเข้าสู่ต้าฉี่ทางด่านเจิ้นกวน ฆ่าล้างราษฎรชาวต้าฉี่ กำจัดราชวงศ์…แคว้นฉี่ ก็จะไม่คงอยู่อีกต่อไป!”“ดังนั้น ข้าหวังว่า คืนนี้แม้นพลีชีพก็จะต้องปกป้องด่านเจิ้นกวน ไม่อาจปล่อยให้เผ่าหมานยึดครองเป็นอันขาด!”“ตัวข้า ขอคารวะทุกท่านจอกหนึ่ง ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง ที่พวกท่านได้ทำเพื่อด่านเจิ้นกวน!”จ้านเฉิงอิ้นดื่มหมดในอึกเดียวเหล่าทหารต่างก็ดื่มหมดในคำเดียว ทุกคนต่างเปล่งเสียงอย่างพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันว่า“พวกเราจะต้องชนะ จักไม่ยอมให้เผ่าหมานยึดคร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 243

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ไม่ต้อง บอกให้มั่วฝานใช้อากาศยานไร้คนขับบินไปดูก่อน หากยังไม่เห็นเผ่าหมานอีก ถึงเวลานั้นค่อยพาคนออกจากเมือง”“เขายังเลี้ยงเหยี่ยวไว้ด้วย ถ้าแม้แต่เหยี่ยวก็ยังหาตำแหน่งของเผ่าหมานไม่เจอ ถึงเวลานั้นค่อยนำกำลังคนออกจากเมือง”“ขอเพียงกองทัพตระกูลจ้านยังอยู่ จะปล่อยให้เจ้าออกไปเสี่ยงอันตรายนอกเมืองคนเดียวได้อย่างไร!”เขาเห็นคนทั้งสามมิได้สวมชุดเกราะกันกระสุนรุ่นใหม่ที่ท่านเทพส่งมาให้จึงสั่งการพวกเขาว่า “ไปที่กระโจมทัพของข้า ข้าเหลือชุดกันกระสุนไว้ให้พวกเจ้าสามตัว”เว่ยกวงรู้ว่าชุดกันกระสุนรุ่นใหม่ล่าสุดล้ำค่าอย่างมาก และมีจำนวนไม่มากเขาเห็นด้วยตาตัวเอง ว่ามีทหารลองสวมแล้วใช้ดาบฟันกันเอง เพื่อทดลองความแข็งแกร่งของชุด!ผลลัพธ์ที่ได้พบน่าตกตะลึงอย่างมาก เพราะชุดเกราะกันกระสุนถึงกับฟันไม่เข้าเนื้อผ้าที่อยู่ชั้นนอกไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย!นั่นเป็นของหายากที่ทวยเทพประทานมาเลยนะ!เขาจึงรีบลากน้องชายทั้งสองคน บึ่งไปที่กระโจมทัพของท่านแม่ทัพเพื่อไปเปลี่ยนชุดเกราะกันกระสุนทันที!ในตอนที่จ้านเฉิงอิ้นหาตัวมั่วฝานพบนั้น…เมื่อเขาเห็นเจียงหยวนเก็บของรักชิ้นเล็ก ๆที่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 244

    ในเวลานั้นเอง เหล่าทหารก็พากันรายล้อมเข้ามา มองดูภาพด้านล่างกล้องสอดแนมเฉินขุยพูดด้วยความโมโหว่า “ตอนนั้น ข้าก็ควรใช้ระเบิด ระเบิดพวกมันไปให้หมดเสียเลย ดีกว่าต้องมาตายใต้คมดาบของพวกเผ่าหมาน”เฉินอู่กล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ เคลื่อนทัพเถิดขอรับ ออกจากเมืองไปช่วยกองทหารของสวีหวยที่ถูกล้อม!”แม้สวีหวยจะไม่ถูกกับพวกเขาแต่เมื่อเห็นเขาตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง ถูกสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียวล้วนเป็นทหารของแคว้นเดียวกัน ในใจของพวกเขาก็รู้สึกไม่ดีเช่นกันมั่วฝานคอแข็ง แค่นเสียงเย็นออกมาอย่างยืนหยัดไม่ยอมแพ้“ช่วยอะไร? ตอนนั้นมันยังเบิกตามองด่านเจิ้นกวนถูกสามฝ่ายล้อมโจมตีโดยไม่ทำสิ่งใดสักอย่าง ไม่ส่งทหารมาสักคน แล้วตอนนี้พอตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้ทางออกบ้าง ก็คิดจะให้พวกเราเคลื่อนทัพ! ”“มันฝันเฟื่องผิดไปแล้ว! คนแบบมัน ถ้าตายในสนามรบ ยังพอจะได้ชื่อเสียงที่ดีอยู่บ้าง!”“แต่ถ้าเรื่องที่สมคบกับแคว้นฉีถูกเปิดโปงออกไป แคว้นต้าฉี่ของข้าจะต้องขายหน้าไปด้วย!”“ข้าเต็มใจให้มันตายไปให้จบ ๆ ดีกว่ามาอยู่ขายหน้าผู้คน!”คำพูดของมั่วฝาน พูดจนเหล่าแม่ทัพนายทหารที่มีหัวใจอันร้อนระอุเงียบงันไปสวีหวยโง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 245

    จ้านเฉิงอิ้นตะโกนเสียงดังอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เร็วเข้า หมอบลง!”เฉินขุยอยากถามว่าเกิดสิ่งใดขึ้นแต่เมื่อเห็นสีหน้าของจ้านเฉิงอิ้นเครียดตึง คิ้วขมวดอย่างหนัก…เขาก็รีบลงจากม้าก่อน แล้วหมอบลงบนพื้นพร้อมกับม้าครู่เดียว ลูกธนูนับไม่ถ้วนก็ถูกยิงเข้ามาทหารส่วนใหญ่พกโล่ จึงใช้โล่ปกคลุมร่างของพวกเขาไว้ในชั่วพริบตาแต่ม้าศึกถูกยิงตายไปพันกว่าตัว บรรดาม้ากรีดร้องระงมด้วยความเจ็บปวดมีม้าบางตัวได้รับความตื่นตระหนก ลุกขึ้นมา เพียงครู่เดียวก็ถูกยิงจนพรุนไปหมดเหล่าทหารยินยอมใช้โล่ปกป้องม้าศึก แต่ไม่เต็มใจจะให้ม้าศึกได้รับบาดเจ็บอีกมั่วฝานพูดไปด่าไปว่า “ข้าบอกแต่แรกแล้วว่าสวีหวยเชื่อถือไม่ได้ ก็ยืนกรานจะยกทัพออกมาให้ได้ เฉินขุย เจ้าเห็นแล้วหรือไม่?”“เขาใช้คนของตัวเองกับกองทัพชาวหมาน มาสร้างกับดัก ‘ดาบนั้นคืนสนอง!’ ใช้แผนการของเขาจัดการตัวเขาเอง“พวกเรามีหกพันคน พวกมันมีสามแสนคน! นี่จะสู้ยังไง?”“เฉินขุย หากข้าต้องตายอยู่ที่นี่ ต่อให้เป็นผีข้าก็ไม่มีทางละเว้นเจ้าแน่!”คำพูดพวกนั้น พูดจนเฉินขุยรู้สึกผิดไปหมดแล้ว!เขาอยากบุกออกไป อยากนำเหล่าพี่น้องบุกฝ่าระยะธนูออกไปเข่นฆ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status