Share

บทที่ 271

Author: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นขี่ม้าไปที่คันนาของพื้นที่เพาะปลูก เมื่อชาวบ้านเห็นเขา ก็พากันคุกเข่าลง!

จ้านเฉิงอิ้นรีบให้เหล่าราษฎรลุกขึ้นมา

หลังทุกคนลุกขึ้นมา ก็แยกย้ายกันไปไถหว่านที่นาอย่างกระตือรือร้น

จ้านเฉิงอิ้นเห็นมั่วฝานกำลังบุกตะลุยอย่างอิสรเสรีอยู่ในทุ่งหญ้ารกร้าง

เขาค้นพบเคล็ดลับในการขับรถไถแล้ว จึงใช้งานรถไถได้อย่างคุ้นเคย

ในรถมีแอร์ เย็นสบายอย่างมาก แถมยังสามารถเปิดเพลงได้ด้วย

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงขับตะบึงรถไถไปในทุ่งนาอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า พร้อมเสียงหัวเราะอันเบิกบาน!

เมื่อจวงเหลียงเห็นจ้านเฉิงอิ้นมาตรวจการ ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ประสานคารวะต่อเขา

“ท่านแม่ทัพ ต่อให้พื้นที่ว่างทั้งหมดถูกเพาะปลูกแล้ว เสบียงอาหารที่เพาะปลูกออกมาก็ยังไม่เพียงพอให้คนในเมืองได้รับประทานขอรับ!”

จ้านเฉิงอิ้นมองไปรอบ ๆ ที่เชิงเขามีพื้นที่ว่างอยู่บริเวณหนึ่ง

จำนวนคนในด่านเจิ้นกวนเพิ่มขึ้นไม่หยุด ต่อให้บุกเบิกที่ดินทั้งหมด เสบียงที่เพาะปลูกออกมาก็ยังไม่เพียงพอให้ราษฎรทั้งเมืองกิน

“ท่านแม่ทัพ ข้าอยากจะขยายด่านเจิ้นกวนออกไปอีกสามเท่า! แต่จะกินบริเวณไปถึงอาณาเขตของเผ่าหมาน และแคว้นฉู่และฉีทั้งสองแคว้นขอรับ”

จ้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 272

    มือของเขาสั่นเล็กน้อยเป็นความตื่นเต้น!เมื่อก่อนทำตัวเป็นเต่าหดหัว ถูกเผ่าหมานรังแกมาหนึ่งปียามนี้ได้โอกาสเชิดหน้าชูตาแล้ว!สาแกใจยิ่งนัก!หลังเถียนฉินออกจากจวนแม่ทัพ เฉินขุย เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลิน แม้แต่มั่วฝานก็มาแล้วแม่ทัพทั้งหลายหายใจหอบ พุ่งตรงไปที่ห้องหนังสือของจวนแม่ทัพทันทีที่เฉินขุยเข้าไปในห้องหนังสือ ก็ตะโกนว่า “ท่านแม่ทัพ ไม่ดีแล้วขอรับ ฮ่องเต้มีราชโองการลงมา!”มั่วฝานที่ลงมาจากรถไถนา วิ่งมาจนสีหน้าแดงก่ำเขาหาเก้าอี้มานั่งลงอย่างไม่ใส่ใจ เปิดพัดลมตัวน้อยออก แล้วพูดวัตถุประสงค์ที่มาออกมา“ข้าเดาไม่ผิด ฮ่องเต้น้อยสั่งให้เจ้านำทัพกลับเมืองหลวง เพื่อปราบกองทัพธงเหลือง!”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้วถามว่า “แม่ทัพลู่เล่า? เหตุใดจึงต้องให้ข้ากลับเมืองหลวงด้วย?”“เขาแพ้อีกแล้ว กองทัพธงเหลืองมีห้าแสนคนแล้ว!”ทันใดนั้น ไม่เพียงเฉินขุยและเฉินอู่ ทว่าแม้แต่เฉินจวิ้นหลินและเหอหงก็ประหลาดใจแล้ว…กองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบากมานานเพียงนี้ ก็ยังมีกำลังทหารเพียงแสนสี่หมื่นนายเท่านั้นกองทัพธงเหลืองเพิ่งจัดตั้งได้เพียงสามเดือน จู่ ๆ ก็ขยายกำลังทหารไปถึงห้าแสนนายแล้ว!

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 273

    แม้แต่เฉินจวิ้นหลินก็อดกล่าวกับจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ว่า “ท่านแม่ทัพ ท่านยังคงอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวงเลยขอรับ หากไม่วางใจเรื่องคนที่บ้าน สามารถส่งคนไปที่เมืองหลวง เพื่อรับญาติของท่านกลับมาได้ขอรับ”เฉินจวิ้นหลินซึ่งเป็นจอหงวนบู๊ผู้นี้ เคยเข้าประชุมราชสำนักเพียงครั้งเดียวจึงไม่รู้ว่าวังหลวงมีการคุ้มกันแน่นหนา ต่อให้ส่งคนกลับเมืองหลวงก็ไม่สามารถรับคนกลับมาได้มั่วฝานโน้มน้าวว่า “ไทเฮาจะดูแลพวกเขาให้ปลอดภัยเอง!”ห้องหนังสือตกอยู่ในความเงียบงันกองทัพตระกูลจ้านสามารถขับไล่กองทัพพันธมิตรของเผ่าหมาน และแคว้นฉู่แคว้นฉีได้ ก็ย่อมสามารถปราบปรามกองทัพธงเหลืองได้เช่นกันแต่ จะต้องจ่ายในราคามหาศาลต่อให้กองทัพธงเหลืองไม่เคยได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ แต่อาวุธของพวกเขาก็ไม่ใช่ของที่กองทัพแคว้นฉู่และฉีจะเปรียบได้ อีกทั้งจำนวนคนยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยส่วนทางด่านเจิ้นกวน จ้านเฉิงอิ้นก็ไม่อาจถอนตัวได้ ทันทีที่ข่าวเรื่องเขาพาคนจากไปลือไปถึงแคว้นฉู่และแคว้นฉีสองแคว้นจะต้องวกกลับมาอีกแน่มีเพียงรับสมัครทหารและซื้อม้าต่อไป ขยายจำนวนคนให้ถึงสามแสน แล้วระดมกำลังสองแสนนายเข้าปราบกองทัพธงเหลืองอีกห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 274

    เย่มู่มู่นำกล่องสีดำมิดหมีใบหนึ่ง มาถึงถนนย่านวัตถุโบราณเธอเพิ่งจอดรถเสร็จ ผู้อาวุโสมู่ก็ออกมาจากร้านมารับด้วยตนเอง พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มใบหน้าแล้วในตอนที่เขาเห็นเย่มู่มู่อุ้มกล่องสีดำสนิท ตัวกล่องแกะสลักลวดลายโบราณไว้ มีการปิดทองประดับไว้ ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาในฉับพลันกล่องนี้ ก็เป็นของเก่าเช่นกัน!หากเดาไม่ผิด ก็น่าจะเป็นของยุคของแคว้นต้าฉี่เช่นเดียวกันผู้อาวุโสมู่หัวเราะเสียงดังพลางกล่าวกับเย่มู่มู่ว่า “รีบมาเร็วเข้า นักออกแบบรอคุณอยู่นานแล้ว”เย่มู่มู่มาถึงร้านวัตถุโบราณการตกแต่งของร้านเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ประตูโค้งทรงพัด โคมไฟระย้าแบบโบราณ เฟอร์นิเจอร์ไม้ดำ…ร้านขายวัตถุโบราณได้รับการตกแต่งให้มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากทั้งตู้โชว์ โต๊ะโชว์ แท่นโชว์…ล้วนออกแบบตามสไตล์โบราณ!เธอพอใจอย่างมากนักออกแบบแนะนำแรงบันดาลใจในการออกแบบ และโต๊ะโชว์ ตู้โชว์ ให้เธอฟังทีละรายการเมื่อขึ้นมาด้านบน ชั้นบนมีพื้นที่รับแขกส่วนตัวอยู่ด้านหลังห้องหนึ่ง และเหลืออีกห้องหนึ่งไว้เป็นห้องเก็บของที่ติดตั้งระบบกันขโมยระดับธนาคารนี่เป็นคำแนะนำจากผู้อาวุโสมู่ยังไม่ได้ติดตั้ง ร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นตัวอักษรที่ถูกสลักไว้ แม้แต่มือของผู้อาวุโสสวี่ก็สั่นแล้ว เขาหยิบกล่องแว่นตาออกมาจากอกเสื้อกล่องหนึ่ง แล้วสวมแว่นสายตายาวอย่างสั่นเทาเขาหยิบชามกระเบื้องเคลือบไปส่องดูใต้แสงไฟอย่างละเอียด ด้านข้างของตราประทับมีตัวอักษรเล็ก ๆ“จวนรัฐทายาทแห่งตระกูลมั่ว”น้ำเสียงของผู้อาวุโสสวี่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที“ตระกูลมั่ว เป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดของแคว้นต้าฉี่ ฮองเฮาแห่งแคว้นต้าฉี่ล้วนมาจากตระกูลมั่ว ลูกหลานและชนรุ่นหลังล้วนปรากฏผู้มีชื่อเสียงสืบต่อมา…”“ในอดีต ตอนที่แคว้นฉี่ล่มสลาย ตระกูลมั่วกลับได้รับการปกปักรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ หลายร้อยปีให้หลัง สถานศึกษาของตระกูลมั่วก็เป็นที่โด่งดังไปทั่วดินแดน”“เย่มู่มู่ไม่กล้าเชื่อ ก็คือตระกูลมั่วอันนั้นหรือคะ?”“ใช่แล้ว!”ว่ากันว่ามั่วฝานอายุยี่สิบ รุ่นราวคราวเดียวกับจ้านเฉิงอิ้นความประทับใจที่เย่มู่มู่มีต่อเขา เอนไปทางจอมเสเพลตัวน้อยที่ไร้เดียงสาอยู่บ้างเงินเยอะและยังใจกว้างด้วย!เป็นคนที่ให้เงินเยอะที่สุดนอกจากจ้านเฉิงอิ้น!“ชามใบนี้ผมเอาแล้ว!” ผู้อาวุโสสวี่พูดอย่างเริงร่าและตรงไปตรงมาผู้อาวุโสยื่นมือออกมา บังชามเอาไว้“ไม่ได้ ต้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 276

    “เพราะพวกเขาโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทำให้ความแข็งแกร่งของแว่นแคว้นเสื่อมถอย หลายปีถัดมา ก็ถูกความวุ่นวายภายในเปลี่ยนราชวงศ์”“แคว้นฉู่ ยังคงชื่อฉู่ เพียงแต่ฮ่องเต้ไม่ใช่ฉู่อ๋องในรัชสมัยก่อนแล้ว”“ส่วนแคว้นฉีล่มสลาย ถูกแคว้นเยี่ยนและแคว้นอวี่กลืนกิน”“เผ่าหมาน ยังคงเป็นชนเผ่าเร่ร่อน มีชาวบ้านของแคว้นต้าฉี่จำนวนมากถูกพวกเขากินไป ทำให้รอดจากยุคแห่งทุพภิกขภัยมาได้”เย่มู่มู่ขมวดคิ้วฟังกองทัพธงเหลืองร้ายกาจ ถึงกับทำลายกองทัพแคว้นฉู่ลงได้ลง!ถ้าอย่างนั้น กองกำลังกบฏนี้ ไม่เท่ากับอยู่รอดถึงตอนสุดท้ายเหรอ“ในหนังสือประวัติศาสตร์มีเขียนไว้ไหมคะว่า ยุคแห่งทุพภิกขภัยนานแค่ไหน”“ผมลองนึกดูก่อน ช่วงเวลาแห่งความอดอยากแร้นแค้นที่คนกินคนเป็นอาหาร ก็น่าจะนานประมาณสามปี”เย่มู่มู่อ้าปากกว้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกตะลึง“สามปี? นานขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”ผู้อาวุโสมู่จิบน้ำชาคำหนึ่ง ค่อย ๆ เล่าอย่างละเอียดต่อไปว่า“นี่ยังไม่จบนะ หลังจากสามปีนั้นก็เป็นภัยหิมะอีก…ทำให้จำนวนประชากรในหัวเซี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบเท่านั้น!“หลายแคว้นล่มสลาย แต่แคว้นอวี่ แคว้นเยี่ยน กับแคว่นฉู่รอดมาได้ ส่ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 277

    เย่มู่มู่กล่าวว่า “ได้ค่ะ คุณแนะนำมาได้เลย ฉันจะสัมภาษณ์ดูสักรอบ ถ้าคนไม่เลวก็จะรับตัวไว้ แต่คุณก็รู้ว่า ร้านของฉันเล็ก คงเสนอค่าจ้างสูงเหมือนโรงงานใหญ่ไม่ได้หรอกนะคะ”ผู้อาวุโสจางพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ไม่หิวตายก็พอแล้ว เรื่องเงินเดือนคุณให้ตามที่เห็นสมควรเถอะ!”“อีกครู่ ผมจะให้เขาส่งเรซูเม่มาให้คุณ พรุ่งนี้คุณสัมภาษณ์ดู ถ้าใช้ได้คุณก็เก็บคนไว้ได้เลย”“ได้ค่ะ คนที่ผู้อาวุโสจางแนะนำมา ฉันวางใจอยู่แล้ว!”เมื่อผู้อาวุโสมู่กลับมาก็พบว่า ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์เอ้ย ตาเฒ่าที่ไร้ยางอายสองคนนี้ ถึงกับจองตำแหน่งผู้จัดการร้านกับนักบัญชีไปแล้วแม้แต่แม่บ้านทำความสะอาดก็ไม่เว้น จะแนะนำคนมาด้วย!ผู้อาวุโสมู่รีบหยุดพวกเขาไว้ มองสหายเก่าทั้งสองคนด้วยแววตาที่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย“หาแม่บ้านทำความสะอาดมาทำไม นักเรียนสองคนนั้น ให้พวกเขาเช็ดโต๊ะกวาดพื้นไปสิ ร้านวัตถุโบราณไม่ใช่ห้างสักหน่อย ที่จะได้มีคนมาตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ”“ต้องให้พวกเขาทำงาน จะได้ไม่อยู่ว่างเกินไป!”ผู้อาวุโสสวี่และผู้อาวุโสจางปิดปากไปแล้วชามใบนี้ สุดท้ายถูกผู้อาวุโสจางซื้อไปในราคาสามร้อยล้านคนทั้งหลายสนทนากับเย่ม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 278

    เถ้าแก่โรงสีข้าวเป็นชายวัยกลางคนที่พุงค่อนข้างโต เขาสวมนาฬิกาข้อมือโรเล็กซ์ หนีบกระเป๋าเอกสารท่าทางเหมือนพวกข้าราชการที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่ในเสี้ยววินาทีที่เถ้าแก่หลินเห็นเย่มู่มู่ แววตาของเขาก็เป็นประกาย แล้วจับมือกับเย่มู่มู่อย่างกระตือรือร้น“คุณหนูเย่ ร้อยคำกล่าวไม่เท่ากับได้เห็นด้วยตนเองจริง ๆ ในที่สุดผมก็ได้เจอตัวจริงแล้ว”“คิดไม่ถึงว่าคุณอายุน้อยขนาดนี้ก็สร้างธุรกิจจนใหญ่โตแบบนี้แล้ว ภูเขาทั้งลูกล้วนเป็นของคุณ”“แถมบ้านพักตากอากาศสำหรับการหยุดพักผ่อนที่โด่งดังในอินเทอร์เน็ตไปทั่วประเทศ ก็กำลังขยายเพิ่มอีกอีก กิจการนี้ของคุณทำจนใหญ่กว่าของผมมากเลยนะครับ!”เย่มู่มู่เผยยิ้มทางธุรกิจออกมาบาง ๆ ว่า “ที่ไหนกันคะ ที่ไหนกัน”คนขับรถบรรทุกหันท้ายรถเข้าไปที่ประตูโกดังเธอดูคนงานเอาของลง เจ้าของร้านขายข้าวให้เธอดูน้ำหนักรวมทั้งหมดของสินค้า เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีข้อผิดพลาดจึงจ่ายเงินงวดสุดท้ายหน้างานเลยพี่เขยของเขาดูกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้กดราคา หรือผัดผ่อนเวลาการชำระเงินหลังการชำระเงินเสร็จสิ้น เถ้าแก่หลินก็ยิ้มอย่างเบิกบานว่า “คุณหนูเย่เป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว ตรงไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 279

    เหตุผลที่เย่มู่มู่คิดจะเปิดบริษัทเทรดดิ้ง ก็เพื่อเตรียมการสำหรับความแร้นแค้นและภัยหิมะในอีกสองปีให้หลังที่ต้องกักตุนไม่ใช่เพียงข้าวสาร ข้าวสาลี…แต่ยังของชนิดอื่นอีกในปริมาณมากด้วยเธอสามารถหาซื้อเสบียงธัญญาหารจากในประเทศได้ แต่เนื่องจากจำนวนมีมากเกินไป ช้าเร็วจะต้องถูกเบื้องบนจับตามองแน่เพื่อเตรียมการล่วงหน้า เธอต้องจัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งขึ้นมา เพื่อจัดซื้อสินค้าจากต่างประเทศคนทั้งสามตกลงร่วมกันว่าอีกสองสามวันจะไปจดทะเบียนบริษัทด้วยกันเนื่องจากทั้งเถ้าแก่ชีและเถ้าแก่หลินต่างก็มีกิจการในชื่อของตัวเอง และเมื่อรวมกันแล้ว พวกเขาถือหุ้นเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นส่วนเย่มู่มู่ถือหุ้นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ดังนั้นจึงจดทะเบียนในนามของเธอส่วนทุนจดทะเบียนของบริษัทกับที่อยู่ที่ใช้ในการจดทะเบียนนั้น ให้เธอเป็นคนตัดสินใจทั้งหมดเย่มู่มู่ได้ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังจริง ๆเมื่อกลับมาถึงบ้านพักตากอากาศอีกครั้ง ฟ้าก็มืดแล้วข้างแจกันดอกไม้มีกระดาษสีขาวหลายใบร่วงหล่นอยู่จ้านเฉิงอิ้นรายงานสถานการณ์การรบของด่านเจิ้นกวนในปัจจุบันหนึ่งผ่านการหารือของเหล่าผู้บัญชาการ กำแพงเมืองของด

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status