องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ

องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-15
Oleh:  องค์หญิงโนเนมBaru saja diperbarui
Bahasa: Thai
goodnovel16goodnovel
Belum ada penilaian
33Bab
101Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

ทะลุมิติมาทั้งทีคิดว่าจะได้สุขสบาย กลับต้องมาแต่งให้พระเอกธงแดง อีกทั้งยังเป็นไบโพล่าและบ้าบออีกต่างหาก ซ้ำร้ายนางยังไปล่วงรู้ความลับของเขาเข้าให้ ลำบากเลยสิทีนี้! จางลู่หลิน หญิงสาวจากยุคปัจจุบันทะลุมิติมาอย่ในร่างของคุณหนูใหญ่จาง และยังต้องแต่งงานกับองค์ชายประสาทและบ้าบอขั้นสุดอย่างหลี่เหว่ย ซ้ำร้ายนางยังไปล่วงรู้ความลับของเขาเข้าให้ เดิมทีคิดว่าจะต้องถูกเขาข่มเหงอยู่ใต้อาณัติ แต่เหตุใดนานวันเข้ากลายเป็นเขาที่มาอยู่ใต้อาณัติของนางแทนกันเล่า!

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทนำ

แคว้นหนานฉี

เมืองหลวงหนานฉี

"องค์ชายใหญ่ อย่างไรฝ่าบาทก็มีราชโองการลงมาแล้ว หากพระองค์ยังทรงดึงดันทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเช่นนี้ ไม่เท่ากับหักหน้าฝ่าบาทหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ"

เสียงของจี้เฟินองค์รักษ์คนสนิทเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน เมื่อมองเห็นท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อนของเจ้านายตน 

ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้หลี่เจี้ยน ได้มีพระราชโองการให้หลี่เหว่ยองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นหนานฉี อภิเษกสมรสกับจางลู่หลิน บุตรสาวคนโตของท่านราชครูจางสหายรักของเขา แต่ทว่าหลี่เหว่ยกลับไม่สนใจซ้ำยังทำไม่รู้ไม่ชี้ เอาแต่ดื่มเหล้า เรียกนางรำมาร่ายรำให้ดูที่จวนอยู่ทุกวันทุกคืน แม้กระทั่งราชครูจางยังเอือมระอากับพฤติกรรมของว่าที่บุตรเขยคนนี้

หลี่เหว่ยปรายตามองจี้เฟินอย่างไม่พอใจ แล้วจึงโยนจอกสุราในมือทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี 

"หุบปากเสียที ข้าได้ยินแล้วไม่ได้หูหนวก ให้คนไปทูลเสด็จพ่อด้วย ว่าข้าจะเข้าวังหลวงไปขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ"

เอ่ยจบเขาก็เดินสบัดชายเสื้อกลับเข้าไปในห้องนอนทันที อีกทั้งยังยกเท้าถีบพ่อบ้านหม่าเพื่อระบายโทสะอีกหนึ่งคำรบ จี้เฟินมองตามแผ่นหลังของหลี่เหว่ยไป ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างคิดไม่ตก

เมื่ออยู่ในห้องนอนเพียงลำพัง หลี่เหว่ยก็พรูลมหายใจออกมาคราหนึ่ง ชายหนุ่มทิ้งกายลงนอนบนเตียงและกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายเกินจะทน

เขาคือองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นหนานฉี พระนามคือหลี่เหว่ย เป็นองค์ชายคนโตของฮ่องเต้หลี่เจี้ยน ปีนี้มีอายุยี่สิบปีแล้ว ราชวงศ์หลี่มีองค์ชายที่เกิดจากฮองเฮาสองพระองค์ และองค์หญิงอีกหนึ่งพระองค์ คนโตคือเขาหลี่เหว่ย ส่วนองค์ชายรองน้องชายของเขามีนามว่าหลี่ผิง และองค์หญิงมีนามว่าหลี่ฮวา ซึ่งหลี่ผิงและหลี่ฮวาเป็นฝาแฝดกัน ปีนี้อายุครบสิบหกปีเต็มแล้ว

เพราะถูกเสด็จพ่อตามใจจนเสียนิสัย ทำให้เขาเป็นคนไม่เห็นหัวใคร แม้กระทั่งเหล่าขุนนางยังไม่กล้ามาตอแยเขา

ไม่นานมานี้เสด็จพ่อได้มอบสมรสพระราชทานให้เขาแต่งกับจางลู่หลิ่น บุตรสาวคนโตของท่านราชครูจาง ได้ยินว่านางเป็นบุตรสาวที่เกิดจากอดีตฮูหยินคนก่อน มารดาตายจากไปนานแล้ว ต่อมาราชครูจางก็แต่งภรรยาเอกคนใหม่เข้าจวนมา และได้ให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาว นั่นยิ่งทำให้สถานะภายในจวนของจางลู่หลินยิ่งย่ำแย่ลง นางถูกมารดาเลี้ยงและน้องสาวน้องชายกลั่นแกล้ง เดิมทีได้ยินว่านางล้มป่วยจนถึงแก่ชีวิต แต่กลับดวงแข็งรอดชีวิตกลับมาได้

เขาไม่ได้สนใจว่าสตรีคนใดจะแต่งเข้ามา เพราะสำหรับเขาแล้ว นางก็แค่บุปผางามที่เอาไว้ประดับบารมีให้เขาก็เพียงเท่านั้น

หลี่เหวยสั่งให้สาวใช้ในจวนนำสุราเข้ามาเพิ่ม เขาดื่มสุราไปหลายจอกจนรู้สึกมึนเมา ก่อนจะผล็อยหลับไป

เช้าวันต่อมาหลี่เหว่ยเดินทางเข้าวังหลวงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หลี่เจี้ยนผู้เป็นเสด็จพ่อ เขามุ่งหน้าไปห้องทรงอักษรทันที เมื่อมาถึงแล้วเขาก็เดินเข้าไปด้านในโดยไม่ต้องรอคำอนุญาตใดใดทั้งสิ้น

ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที เมื่อเห็นว่าเป็นหลี่เหว่ย เขาก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอือมระอา แต่ไหนแต่ไรเจ้าลูกบัดซบนี่ก็ไม่เคยเห็นกฎระเบียบใดอยู่ในสายตามานานแล้ว

"ดูท่าเสด็จพ่อคงจะอารมณ์ดีไม่น้อยจึงจัดแจงงานแต่งงานให้บุตรชายโดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ จากนั้นก็มานั่งอ่านตำราอย่างสบายใจที่นี่ สำราญใจดีใช่หรือไม่"

เมื่อได้ยินวาจาเหน็บแหนมจากปากของหลี่เหว่ย ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนก็ปรายตามองบุตรชายตน แล้วจึงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ

"ไสหัวมาได้แล้วหรือ"

"ย่อมต้องรีบไสหัวมาอยู่แล้ว อย่างไรก็ต้องมาขอบพระทัยในความกรุณาที่เสด็จพ่อทรงเลือกหาพระชายามาให้ลูก"

เอ่ยจบเขาก็ทิ้งกายลงนั่งตรงข้ามฮ่องเต้หลี่เจี้ยนและยกจอกสุราบนโต๊ะขึ้นดื่มอย่างถือวิสาสะ ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนวางตำราในมือลง แล้วจึงเอ่ยกับหลี่เหว่ยด้วยความหนักใจ

"เหว่ยเอ๋อร์ เจ้าเองก็อายุยี่สิบปีแล้ว จะเอาแต่ดื่มสุราชมบุปผาอย่างไร้แก่นสารเช่นนี้อีกไม่ได้ เจ้าไม่แหกตาดูหรือ ว่าเหล่าขุนนางเอ่ยถึงเจ้าว่าเช่นไร พวกเขาบอกว่าวันหน้าบัลลังก์นี้หากมอบให้เจ้าปกครอง ย่อมต้องมีแต่ความหายนะไร้ซึ่งความเจริญรุ่งเรือง"

“แล้วอย่างไร”

“พ่อถึงได้หาสตรีอ่อนหวานแต่งเข้ามาเป็นภรรยาของเจ้า จางลู่หลินน่ะ นางสุภาพอ่อนโยน เป็นเด็กสาวที่น่ารักน่าชัง แม้จะไร้มารดามาตั้งแต่วัยเยาว์แต่บิดาของนางก็อบรมสั่งสอนนางมาเป็นอย่างดี หากเจ้าแต่งกับนางเจ้าจะต้องพบเจอแต่ความสุขแน่นอน”

“ความสุขกับผีน่ะสิ ที่ท่านพยายามยัดเยียดหาภรรยาให้ลูก เพราะตนเองไม่อาจรับสนมได้กระมัง ขืนรับเสด็จแม่คงได้บีบคอท่านตายเพราะผิดคำสัญญา!”

ฮ่องเต้หลีเจี้ยนแทบสำลักน้ำชาที่กำลังดื่ม เขาถลึงตามองบุตรชายตนอย่างโมโห

ฮองเฮาของเขามาจากตระกูลสวี เป็นตระกูลบัณฑิตเลื่องชื่อในเมืองหลวง เขาและนางมีใจตรงกัน  หลังจากที่สนมคนก่อนตายจากไปเขาก็สัญญาว่าชาตินี้จะมีนางเพียงคนเดียวเท่านั้น

เจ้าลูกเวรนี่มันช่างจะหาทางต่อว่าเขาได้ทุกเรื่อง

“ไม่รู้ล่ะ ข้าประกาศราชโองการลงไปแล้ว หากเจ้าไม่อยากถูกมารดาเจ้าทุบตีจนตายก็อย่าก่อเรื่อง”

หลี่เหว่ยถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก เสด็จพ่อมักจะอ้างชื่อเสด็จแม่มาข่มขู่เขาอยู่เสมอ ผู้ใดบ้างไม่รู้ว่าเสด็จแม่ของเขามีนิสัยดุดันมากเพียงใด ทั้งที่เกิดในตระกูลบัณฑิตแต่กลับมีนิสัยห้าวหาญต่างจากคนในตระกูล ทั้งยังเก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ซึ่งหาได้ยากในคนที่เกิดมาจากตระกูลบัณฑิต

เมื่อเห็นว่าหลี่เหว่ยยอมสงบปากสงบคำฮ่องเต้หลี่เจี้ยนก็ลอบสะใจเป็นอย่างมาก เจ้าลูกคนนี้ไม่เอาไหน ทั้งที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ แต่หลังจากที่รบชนะและได้ชัยชนะกลับมาเขาก็หลงระเริงในอำนาจ ทำตัวเสเพลไปวันๆ เขาจึงต้องให้หลี่เหว่ยแต่งภรรยาจะได้มีความคิดความอ่านขึ้นมาบ้าง ยามนี้ยังไม่มีการเลือกองค์รัชทายาท แต่หลี่เหว่ยก็คือคนที่เขาเลือก เพราะเจ้าหลี่ผิงนั้นวันๆเอาแต่กัดจิ้งหรีด ไม่สนใจงานราชการ บุ๋นไม่รู้บู๊ไม่สน หนักข้อเสียยิ่งกว่าหลี่เหว่ยเสียอีก

ส่วนหลี่ฮวานั้นก็เป็นเพียงสตรีอีกไม่นานก็ต้องแต่งงานออกไป

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวรกรรมอันใดที่ทำให้เขามีบุตรชายบัดซบเช่นนี้ถึงสองคน!

เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดให้สนทนากันแล้ว หลี่เหว่ยจึงขอตัวกลับจวนของตน เขาแยกจวนออกมาตั้งแต่อายุสิบแปดแล้วจึงไม่อาจรั้งอยู่ในวังหลวงต่อได้ ชายหนุ่มแวะไปเยี่ยมเยือนมารดา ก่อนจะรีบจากไป เพราะคร้านจะทนฟังมารดาบ่น

หลี่เหว่ยนั่งรถม้ามาตามทางเรื่อยๆ ระหว่างทางเขาเปิดผ้าม่านออกเพื่อชมทิวทัศน์ในเมืองหลวง วันนี้น่าเบื่อจริงๆ มิสู้เขาสั่งให้คนของตนไปซื้อนางรำมาร่ายรำให้ชมที่จวนคงจะสำราญใจไม่น้อย

ในขณะที่เขากำลังมองสิ่งใดไปเรื่อยเปื่อย ดวงตาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวนางหนึ่ง กำลังทะเลาะกับเหล่าบุรุษที่หน้าหอนางโลม อีกทั้งยังซัดหมัดใส่ใบหน้าบุรุษเหล่านั้นไม่ยั้ง

หลี่เหว่ยขมวดคิ้วมุ่น เขาแทบไม่เคยเห็นสตรีน้อยในเมืองหลวงคนใดที่ทุบตีบุรุษเช่นนี้ จะมีก็เพียงรองแม่ทัพหญิงคนหนึ่งที่เขาฝึกฝนนางมาเองกับมือที่สามารถต่อยตีกับบุรุษได้ แต่ยามที่ถอดชุดเกราะนางก็อ่อนหวานปฏิบัติตัวอยู่ในกฎระเบียบเยี่ยงสตรีทั่วไป ไม่ได้ออกมาทุบตีคนอย่างโจ้งแจ้งเช่นนี้

 ดูจากการแต่งกายของนางแล้วก็เหมือนหญิงสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่การกระทำกลับหยาบกระด้างไม่น่าดูชม

จะว่างามก็งามอยู่หรอก แต่นิสัยเช่นนี้ไม่น่ารักน่าชังเอาเสียเลย เขาชอบสตรีที่ทำตัวเหมือนกระต่ายน้อยมากกว่า

หลี่เหว่ยคร้านจะสนใจสตรีตรงหน้าอีก เขาจึงกลับจวนของตนทันที พร้อมกับสั่งให้คนไปหานางรำมาร่ายรำให้เขาดูที่จวน

อีกด้านหนึ่ง สตรีน้อยที่ถูกหลี่เหว่ยต่อว่าว่าเป็นคนหยาบกระด้างนั้น หลังจากสั่งสอนพวกอันธพาลใจโฉดแล้ว นางก็ซื้อขนมพุทราหวานกลับมากินที่จวนอย่างสบายอารมณ์ เมื่อมาถึงก็มีสาวใช้มาแจ้งว่าบิดาให้นางไปพบที่เรือนใหญ่

ทันทีที่มาถึง ก็ได้ยินเสียงของบิดาที่ตวาดนางอย่างไม่พอใจ

“จางลู่หลิน เจ้าจะแต่งงานอยู่แล้วยังออกไปทุบตีบุรุษอยู่นอกจวนโน่น เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ เหตุใดตั้งแต่รอดชีวิตจากการตกน้ำในครั้งนั้น เจ้าจึงเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้!”

จางลู่หลินมองบิดาตนสลับกับมารดาเลี้ยงคราหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามารดาเลี้ยงและน้องสาวน้องชายที่กำลังยิ้มเยาะในคราวเคราะห์ของนางอย่างสาแก่ใจ จางลู่หลินก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องสาวน้องชายและฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของพวกมันอย่างเต็มแรง

“คนเขาสนทนาเรื่องเคร่งเครียดกันอยู่ พวกเจ้าสองคนกลับยิ้มหวานเช่นนี้ ไร้มรรยาทสิ้นดี เดี๋ยวก็ถีบให้หลาบจำอีกสักหน”

ราชครูจางเมื่อเห็นว่าจางลู่หลินลงไม้ลงมือกับน้องๆ ก็บันดาลโทสะ

“ลู่หลิน เจ้าจะทำเกินไปแล้วนะ วันนี้หากข้าไม่ตีเจ้าสั่งสอน อย่ามาเรียกข้าว่าท่านพ่อ!”

“ท่านพ่อช้าก่อนเจ้าค่ะ ข้าขอกินขนมพุทราหวานก่อน ท่านรออีกสักครึ่งชั่วยามแล้วค่อยตีเถิด ให้ตายเถอะ หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว ท่านพ่อท่านจะรับสักชิ้นหรือไม่เจ้าคะ จะได้มีแรงยกไม้ขึ้นมาตีข้า หากว่าตีข้าจนเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา ข้าไม่รู้ด้วยนะ”

ราชครูจาง “.....”

นี่มันเรื่องบัดซบใดกันเนี่ย

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
33 Bab
บทนำ
แคว้นหนานฉีเมืองหลวงหนานฉี"องค์ชายใหญ่ อย่างไรฝ่าบาทก็มีราชโองการลงมาแล้ว หากพระองค์ยังทรงดึงดันทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเช่นนี้ ไม่เท่ากับหักหน้าฝ่าบาทหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ"เสียงของจี้เฟินองค์รักษ์คนสนิทเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน เมื่อมองเห็นท่าทีไม่ทุกข์ไม่ร้อนของเจ้านายตน ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้หลี่เจี้ยน ได้มีพระราชโองการให้หลี่เหว่ยองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นหนานฉี อภิเษกสมรสกับจางลู่หลิน บุตรสาวคนโตของท่านราชครูจางสหายรักของเขา แต่ทว่าหลี่เหว่ยกลับไม่สนใจซ้ำยังทำไม่รู้ไม่ชี้ เอาแต่ดื่มเหล้า เรียกนางรำมาร่ายรำให้ดูที่จวนอยู่ทุกวันทุกคืน แม้กระทั่งราชครูจางยังเอือมระอากับพฤติกรรมของว่าที่บุตรเขยคนนี้หลี่เหว่ยปรายตามองจี้เฟินอย่างไม่พอใจ แล้วจึงโยนจอกสุราในมือทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี "หุบปากเสียที ข้าได้ยินแล้วไม่ได้หูหนวก ให้คนไปทูลเสด็จพ่อด้วย ว่าข้าจะเข้าวังหลวงไปขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ"เอ่ยจบเขาก็เดินสบัดชายเสื้อกลับเข้าไปในห้องนอนทันที อีกทั้งยังยกเท้าถีบพ่อบ้านหม่าเพื่อระบายโทสะอีกหนึ่งคำรบ จี้เฟินมองตามแผ่นหลังของหลี่เหว่ยไป ก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างคิดไม่ตกเมื่ออยู่ในห้องนอนเพียงลำพัง หลี่เหว
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 1 คุณหนูใหญ่จาง
ราชครูจางมองบุตรสาวของตนที่ยามนี้กำลังกินขนมพุทราหวานอย่างสบายอารมณ์คราหนึ่ง ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าจางลู่หลินเปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อนราวกับกลายเป็นคนละคนเสียอย่างนั้นส่วนจางลู่หลินนั้นเมื่อกินขนมอิ่มแล้ว นางก็หันมามองบิดาของตนและเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน"ท่านพ่อ ท่านจะตีข้าโดยไม่เอ่ยถามความเป็นไปให้รู้แจ้งเสียก่อน เช่นนี้ใช้ไม่ได้เลยนะเจ้าคะ ท่านเอาแต่ฟังความจากคนอื่นแต่ไม่ยอมไต่ถามต้นสายปลายเหตุจากบุตรสาวของตนเองเลยแม้แต่น้อย เดิมทีข้าเห็นว่าสตรีน้อยนางหนึ่งถูกเอาตัวมาขายที่หอนางโลม คนที่เอานางมาขายให้กับหอนางโลมก็คือแม่เลี้ยงใจชั่ว ข้าเองเข้าใจนางเป็นอย่างดีจึงช่วยนางจากคนใจบาปพวกนั้น ท่านพ่อ ท่านเป็นขุนนางแท้ๆควรจะดีใจที่บุตรสาวทำความดีสิเจ้าคะ ไม่ใช่เอาแต่ด่าๆเช่นนี้ ท่านเป็นบิดาประสาอันใดกัน"ราชครูจางเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปชั่วขณะ เขามองไปที่ด้านหลังของจางลู่หลินก็พบว่ามีสตรีน้อยคนหนึ่งที่นั่งก้มหน้าตัวสั่นงันงกอยู่ บุตรสาวไม่ได้โกหก แต่อย่างไรเขาย่อมต้องสั่งสอนนางให้รู้จักคำว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำ"แต่เจ้าทุบตีบุรุษที่หอนางโลมอย่างไรย่อมไม่สมควร ไม่มีสตรีจวนใดเข
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 2 บุรุษโรคจิต
เพราะยามนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิอากาศจึงค่อนข้างดีเป็นอย่างมาก เช้าวันต่อมาหลังจากรับมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จางลู่หลินก็มุ่งหน้าออกจากจวนไปทันที อีกไม่นานก็จะต้องแต่งงานแล้ว นางไม่รู้ว่าสามีของนางจะเป็นพวกโรคจิตชอบขังภรรยาเอาไว้แต่ในห้อง หรือเป็นพวกหัวโบราณชอบให้สตรีหมอบกราบหรือไม่ อย่างไรตอนนี้นางจะต้องหาอิสระให้ตนเองเสียหน่อยโรงน้ำชาเหวินไหลจางลู่หลินมองป้ายชื่อโรงน้ำชาตรงหน้าคราหนึ่ง โรงน้ำชาเหวินไหลเป็นโรงน้ำชาอันดับหนึ่งในเมืองหลวงหนานฉี ทุกๆวันจะมีการแสดงจากคณะละครเลื่องชื่อให้ดูชม ทั้งยังมีการร่ายรำจากเหล่าสาวงาม แล้วยังมีขนมและอาหารเลิศรสอีกมากมายเอาไว้บริการลูกค้า จางลู่หลินในชาติก่อนชอบความบันเทิงเริงรมย์ นางเที่ยวสถานที่อโคจรทุกคืนเพราะที่บ้านมีฐานะร่ำรวย ในยุคโบราณเช่นนี้มีที่เที่ยวไม่มากนัก โรงน้ำชา เหลาสุราก็นับว่าเป็นสถานที่ผ่อนคลายที่ไม่เลวนักไม่รู้ว่านางจากมาเช่นนี้พ่อแม่ในยุคปัจจุบันจะเศร้าเสียใจมากสักเพียงใดนางเคยลองคิดหาวิธีกลับไปยังโลกปัจจุบันแต่กลับไม่เป็นผล ในเมื่อกลับไปไม่ได้ย่อมต้องยอมรับความจริงเสีย"แม่นางน้อย ท่านช่างเลือกเวลามาได้เหมาะเจาะเลย วัน
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 3 อภิเษกสมรส
หลังจากเที่ยวชมสถานที่ต่างๆทั่วทั้งเมืองหลวงจนหนำใจแล้ว จางลู่หลินก็กลับมาที่จวนของตน นางรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตราวกับพลิกผัน นางต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย อย่างไรย่อมต้องอยู่ให้ได้ ถือว่าโชคดีที่บิดาของนางแม้จะชอบก่นด่าแต่ยังคงรักใคร่และเข้าข้างนางอยู่เสมอนับตั้งแต่ทุบตีสามแม่ลูกไปพวกนางก็ไม่กล้ามายุ่งกับจางลู่หลินอีก ทุกแผนการที่คิดจะลงมือกับนางนั้นก็เหมือนจะหยุดชะงักไปหลายอย่างหลังจากที่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ งานอดิเรกที่จางลู่หลินมักชอบทำมากที่สุดก็คือการยิงธนูและใช้มีดสั้น ตอนอยู่ในยุคปัจจุบันเรื่องเหล่านี้สามารถฝึกฝนเป็นความชอบส่วนตัวได้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องดีที่นางเรียนรู้มาจนชำนาญ"คุณหนูเจ้าค่ะ มีคนจากในวังหลวงมาเจ้าค่ะ บอกว่าเป็นคนที่ฮ่องเต้และสวีฮองเฮาส่งมาให้ดูแลคุณหนูก่อนแต่งเข้าจวนองค์ชายใหญ่"ในขณะที่จางลู่หลินกำลังนั่งอ่านหนังสือไม้ไผ่อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงของหลิงหลิงเอ่ยบอกว่ามีคนจากในวังหลวงมาที่จวนตระกูลจาง จางลู่หลินวางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วจึงรีบเดินออกไปทันที อย่างไรก็เป็นคนที่ฮ่องเต้และสวีฮองเฮาส่งมาจะละเลยล่าช้าไม่ได้ นางรีบให้หลิงหลิงและตงฟางมาช่วยผล
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 4 เข้าหอ
คนทั้งสองต่างมองหน้ากันไปมาราวกับต้องการจะหยั่งเชิงท่าทีของฝ่ายตรงข้ามว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ จางลู่หลินถึงกับลอบไว้อาลัยให้ตนเอง หากรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับคนโรคจิตชอบแอบมองสตรีเช่นนี้นางคงหนีออกจากจวนไปตายเอาดาบหน้านานแล้วแต่เมื่อครุ่นคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก็พบความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง หรือว่าที่เขาแอบตามนางในวันนั้นเพราะอยากรู้ว่าเจ้าสาวของตนเป็นสตรีเช่นไรแล้วเหตุใดจะต้องปิดหน้าปิดตา ไม่เอ่ยถามกันตามตรงเล่า ทำราวกับมีลับลมคมในอย่างไรอย่างนั้นด้านหลี่เหว่ยนั่นเมื่อเห็นว่าจางลู่หลินไม่แม้แต่จะทำความเคารพเขา อีกทั้งยังทำเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาก็พลันไม่ชอบใจขึ้นมาทันที สตรีนางนี้ไร้มรรยาทอีกทั้งยังไม่รู้จักกฎระเบียบ เขาไม่เข้าใจว่าเสด็จพ่อและเสด็จแม่ทรงคิดอันใดอยู่จึงให้นางมาแต่งงานกับเขา"ได้ยินว่าก่อนหน้านี้มีหมัวหมัวเดินทางไปสอนมรรยาทให้กับเจ้าที่จวนตระกูลจางแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เข้าหัวเจ้าเลยสินะ พบข้าแต่กลับไม่ทำความเคารพ มรรยาทที่เรียนมาเจ้ากลืนลงท้องไปหมดแล้วหรือ น่ารังเกียจสิ้นดี"อยู่ๆบุรุษตรงหน้าก็เอ่ยวาจาก่นด่านางอย่างไม่ไว้หน้า แววตาที่มองมาหรือก็ออกจะไม่ชอบใจติดจะร
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 5 หยิกมาหยิกกลับ
เมื่อสะสางเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อย คนทั้งสองก็รีบเดินทางเข้าวังหลวงอย่างรวดเร็ว ยามนี้เสด็จพ่ออยู่ที่ตำหนักคุุนหนิง ซึ่งเป็นตำหนักของสวีฮองเฮามารดาของหลี่เหว่ย เมื่อย่างก้าวเข้ามาในวังหลวงแห่งนี้จางลู่หลินก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ทุกๆที่ในวังหลวงล้วนงดงามราวแดนสวรรค์ ดอกไม้นานาพรรณถูกประดับตกแต่งส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งบริเวณ ตำหนักที่ทำมาจากทองคำดูหรูหราโอ่อ่า แคว้นหนานฉีร่ำรวยสมคำล่ำลือจริงๆ"เชิญองค์ชายใหญ่และพระชายาเอกด้านในพ่ะย่ะค่ะ"กงกงเอ่ยกับหลี่เหว่ยและจางลู่หลินอย่างนอบน้อม นางจำได้ว่ากงกงผู้นี้คือคนเดียวกันกับที่ไปพบนางที่จวนตระกูลจางก่อนวันแต่งงาน นางยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร และเดินเข้าไปในตำหนักคุนหนิงพร้อมกับหลี่เหว่ยฮ่องเต้หลี่เจี้ยนและสวีฮองเอาที่กำลังนั่งสนทนาเรื่องสัพเพเหระกันอยู่ เมื่อได้ยินว่าบุตรชายและลูกสะใภ้มาถึงแล้วก็รีบหันไปมอง"พวกเจ้ามาแล้วหรือ ไหนเล่าลูกสะใภ้ของข้า มาให้แม่สามีได้มองหน้าเจ้าชัดๆ เสียดายที่วันนั้นข้าล้มป่วยจึงไม่อาจไปร่วมงานแต่งได้"สวีฮองเฮาเอ่ยอย่างอ่อนโยน เพราะวันแต่งงานของหลี่เหว่ยและจางลู่หลินนางเกิดล้มป่วยกระทันหันทำให้ไม่ได
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 6 สูญสิ้นพรหมจรรย์เสียแล้ว
ยามเช้าของวันต่อมา หลังจากที่หลี่เหว่ยลืมตาตื่นขึ้นมานั้น เขารู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งศีรษะ ชายหนุ่มยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วตนเองคราหนึ่ง เมื่อได้สติกลับคืนมาแล้วเขาก็สอดส่ายสายตามองไปรอบๆ นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเขานี่!หลี่เหว่ยพยายามใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้โดยละเอียด เมื่อวานนี้หลังจากกลับมาถึงจวนก็เป็นช่วงเวลาบ่ายคล้อยแล้ว เสด็จแม่ได้ให้กงกงนำอาหารและสุรารสเลิศมาส่งให้เขาและจางลู่หลินที่จวน หลังจากดื่มสุราดอกซิ่งไปไม่นานเขาและนางก็ถูกขังเอาไว้ในห้อง และเขายังเห็นว่านางร้องไห้อีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็...จูบนาง!หลี่เหว่ยตื่นตระหนกถึงกับลุกพรวดขึ้นมานั่ง เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้นอนบนเตียงเลยด้วยซ้ำ แต่กลับนอนอยู่บนพื้่น ชายหนุ่มรู้สึกปวดหลังเป็นอย่างมาก"อื้อ ปวดหัวจัง"เมื่อได้ยินเสียงของจางลู่หลิน หลี่เหว่ยจึงหันขวับไปมองข้างกายตน เขาสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นว่ายามนี้จางลู่หลินกำลังนอนอยู่บนพื้น บนร่างกายมีอาภรณ์ปกปิดเอาไว้อย่างลวกๆ หญิงสาวบิดกายไปมาด้วยความเกียจคร้าน ก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อมองให้ชัดก็เห็นว่ายามนี้หลี่เหว่ยกำลังนั่งมองหน้านางอยู่ด้วยความตกใจ ร่างกายท่อนบ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 7 แป้งมันปริศนา
ด้านจางลู่หลินนั้นหลังจากที่อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกปวดหนึบไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาจะกระทำต่อร่างกายของนางรุนแรงเพียงใดก็ไม่อาจรู้ได้หลังจากที่กินมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว จางลู่หลินก็ออกมาเดินรับลมที่นอกเรือน ระหว่างนั้นมีสาวใช้น้อยเพิ่งกลับมาจากตลาด พร้อมกับพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระทั่วไป "นี่เจ้าดูสิ หัวไชเท้าหัวนี้ใหญ่มาก"จางลู่หลินหันไปมอง และพบว่าในมือของสาวใช้น้อยนางหนึ่งกำลังถือหัวไชเท้าสีขาวอวบเอาไว้ ฉับพลันนางก็คิดถึงภาพนั้นขึ้นมา ภาพท่อนเอ็นลำมังกรของหลี่เหว่ยซ้อนทับอยู่บนหัวไชเท้าหัวนั้น จางลู่หลินรีบส่ายหน้าไปมาทันที เรื่องระหว่างชายหญิงใช่ว่านางจะไม่เคยผ่านมา ในยุคปัจจุบันที่ผ่านมานางก็เรียนรู้และเข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เรือนกายกำยำของเขามันถึงติตตาของนางไม่จางหายเช่นนี้เดินต่ออีกครู่หนึ่ง นางจึงกลับเข้ามาที่เรือนของตน ยามนี้เองจางลู่หลินถึงได้มีเวลาเดินดูรอบๆเรือนอย่างละเอียดถี่ถ้วน พบว่าในจวนองค์ชายใหญ่ตกแต่งได้อย่างหรูหราโออ่าไม่แพ้ในวังหลวง พื้นปูพรมเปอร์เซียขนยาวทอลายบุปผา ทั่วทั้งเรือนมีอัญมณีห้อยระย้าให้คว
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 8 กลับบ้านเดิม
สองวันต่อมาจางลู่หลินก็เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมของตน ครั้งนี้นางเดินทางมาเพียงคนเดียว หลี่เหว่ยไม่ได้มากับนาง เขาออกจะไม่สนใจเสียด้วยซ้ำ การทำเช่นนี้นับว่าเป็นการไม่ให้เกียรตินางและตระกูลจางเป็นอย่างมาก แต่จางลู่หลินคร้านจะสนใจ พูดกับเขาก็เหมือนพูดกับคนบ้า นางเองไม่อยากจะถือสาหาความให้ตนเองต้องเหนื่อยกายใจโดยใช่เหตุพ่อบ้านหม่ายืนรออยู่ที่รถม้า เขาเห็นใจจางลู่หลินเป็นอย่างมาก ชายวัยกลางคนมองไปที่ด้านในจวนและหันมาเอ่ยกับนางอย่างนอบน้อม"พระชายาเอก ไม่สู้ให้บ่าวไปทูลองค์ชายใหญ่อีกสักหนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"จางลู่หลินส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ใส่ใจและยิ้มให้พ่อบ้านหม่า"ไม่ต้องหรอก ปล่อยเขาไปเถอะ ข้ากลับไปคนเดียวได้ รีบเดินทางเถอะ สายมากแล้ว""พ่ะย่ะค่ะ"เอ่ยจบนางก็ก้าวเดินขึ้นรถม้าอย่างรวดเร็ว ไม่นานรถม้าก็มาจอดที่ด้านหน้าจวนตระกูลจาง เมื่อลงมาจากรถม้าจางลู่หลินก็พบว่าบิดาของนางและคนในครอบครัวกำลังมารอต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูจวน ท่านพ่อนั้นมีใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนแม่เลี้ยงและน้องสาวน้องชายต่างมารดาของนางกลับทำหน้าบึ้งตึงราวกับว่าไม่ต้องการให้นางกลับมาเยี่ยมจวนอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งจางเสวี่ยยิ่งแล
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
บทที่ 9 รักษาความลับ
หลี่เหว่ยรีบเหินกายลงมาจากต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว เขามองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวังเมื่อไม่เห็นใครอื่นนอกจากจางลู่หลิน ก็พรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ นี่มันเป็นความลับสุดยอดเขาจะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้เป็นอันขาดชายหนุ่มหันมามองจางลู่หลินที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าคราหนึ่ง เขาพุ่่งเข้าไปจับแขนของนางทั้งสองข้างก่อนจะเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน"ข้าขอเตือนให้เจ้าหุบปากเสีย หากว่าเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้ง เจ้าจะต้องอยู่ไม่สู้ตายอย่างแน่นอน!"จางลู่หลินส่งเสียงเหอะออกมาทันที"ก่อนหน้านี้พ่อบ้านหม่ามาแจ้งว่ามีคนเอาแป้งมันมาเล่น ข้าก็ยังแปลกใจว่าใครกันที่มันเล่นพิลึกคนเช่นนี้ ผู้ใดจะรู้ว่ากลับไม่ใช่แป้งมัน แต่เป็น.."นางยังเอ่ยไม่จบประโยคก็ชำเลืองมองหว่างขาของหลี่เหว่ยเสียก่อน หลี่เหว่ยรีบหุบขาและเอ่ยกับนางอย่างไม่พอใจ"อย่ามายุ่งเรื่องของข้า ทีี่นี่คือจวนองค์ชายใหญ่ ต่อให้ข้าจะยืนชักบนต้นไม้ หรือว่าตีลังกาห้อยโหนชักขึ้นชักลงมันก็เรื่องของข้า นี่เป็นความลับระหว่างข้าและเจ้า จำเอาไว้ให้ดี""หากข้าไม่ช่วยท่านเก็บความลับนี้เล่า ท่านจะตีข้าหรือ เห้อ อย่างไรย่อมต้องมีค่าตอบแทนบ้างสิ"
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-14
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status