แชร์

บทที่ 484

ผู้เขียน: มู่โร่ว
อย่างไรไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกรก็ฮิตมากอยู่แล้ว!

หลังส่งคังเจียสงและลูกน้องกลับไป เมื่อเย่มู่มู่มายังห้องชั้นบน เธอก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง

จ้านเฉิงอิ้นเป็นคนส่งมา

ในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า “มู่ฉีซิวมีเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กคนหนึ่ง เป็นทาสที่เกิดจากทาสในบ้านของเขา โตมาด้วยกันกับเขา”

“ตามข่าวที่หวังเซิ่งส่งมา สตรีที่ชื่อหยางชิงเหอต่างหาก ที่เป็นคนวิจัยและประดิษฐ์วัตถุระเบิดออกมา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของปืนและกระสุน!”

เมื่อเห็นข้อความนี้ นัยน์ตาของเย่มู่มู่ก็สั่นคลอน!

ไม่สิ มู่ฉีซิวเป็นผู้ที่ย้อนยุคไป แถมยังเป็นหนุ่มวิศวะการศึกษาสูง

ไม่คิดเลยว่าจะยังมีอีกคน...

แถมยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย!

และเธอต่างหากที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการวิจัยและประดิษฐ์วัตถุระเบิดกับปืน

โลกใบนี้ช่างลึกลับเกินไปแล้ว!

เย่มู่มู่ตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น “หยางชิงเหอกับมู่ฉีซิวเป็นอะไรกัน?”

จ้านเฉิงอิ้นเคาะแจกัน “ว่ากันว่าเป็นเพื่อนในวัยเด็ก ทว่า นับตั้งแต่มู่ฉีซิวก่อกบฏ ก็สนิทสนมมากกว่าคุณหนูตระกูลขุนนางมีอิทธิพลคนใด!”

“ดึงนางมาเป็นพวกได้หรือไม่?”

จ้านเฉิงอิ้น “...หากนางภักดีต่อมู่ฉีซิวเล่า ขาดสตรีผู้นี้ไป กำลั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 485

    จ้านเฉิงอิ้นรับกระดาษมา อ่านอยู่ครึ่งคืน“สุราอวี้เย่แห่งราชวัง หนึ่งจอกเก้าร้อย!”นี่มันสุราอะไรกัน เหตุใดจึงแพงเช่นนี้!“ราชาเหนือกว่าพยัคฆ์ประจำถิ่น ผู้ถือเจดีย์สะกดปีศาจแห่งหนองน้ำ”ไม่มีความสัมพันธ์กัน และไม่สัมผัสกันแต่อย่างใด!“รักที่เจ้าเดินเดียวดายในตรอกมืด รักที่เจ้าไม่คุกเข่า รักที่เจ้ายืนหยัดสู้ความสิ้นหวังไม่ยอมร่ำไห้!”ทว่าประโยคสุดท้าย รักที่เจ้าเดินเดียวดายในตรอกมืด...เขาหน้าแดงระเรื่อขึ้นมานี่ นี่ท่านเทพกำลังสารภาพรักอยู่หรือเปล่า กำลังบอกว่ารักเขา...ใช้คำเร่าร้อนและกล้าหาญ แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงรักที่เขาไม่คุกเข่าก็ตามท่านเทพเคยกล่าวว่า ใต้เข่าของบุรุษมีทองคำคนปัจจุบันอย่างพวกเขา คุกเข่าให้เพียงฟ้าดินและพ่อแม่เท่านั้น...ไม่ให้เขาคุกเข่า!สิ่งที่นางชอบคือการที่เขาไม่คุกเข่า!เขาเข้าใจแล้วนับตั้งแต่วันนี้ไป จะคุกเข่าให้เพียงฟ้า ดิน พ่อแม่และท่านเทพเท่านั้น...ประโยคสุดท้าย รักที่เจ้ายืนหยัดสู้ความสิ้นหวังไม่ยอมร่ำไห้!ท่านเทพกล่าวว่า แม้เขาจะลำบาก จะเหนื่อยอีกสักเพียงใด ลูกผู้ชายไม่ควรร้องไห้หลั่งน้ำตาออกมาวันหลัง เขาจะไม่หลั่งน้ำตาอีกเป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 486

    ใบหน้าน้อย ๆ เต็มไปด้วยความหวาดระแวงแสงยามค่ำคืนมืดเกินไป หวังเซิ่งคิดว่าแม่นางผู้นี้หน้าตาสะสวยมากทีเดียวนางซูบผอม นัยน์ตาทั้งสองสุกสกาวมีชีวิตชีวา ในคืนแสนมืดมิดเปล่งประกายเป็นอย่างมากจมูกน่ารัก ริมฝีปากแดงระเรื่อเล็กน้อย ผิวคล้ำนิดหน่อยทว่าดวงหน้าประณีตงดงามหวังเซิ่งเอ่ยกับหยางชิงเหอว่า “ชู่ว์ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย!”พูดพลางก็ล้วงน้ำแร่สองขวด โจ๊กธัญพืชแปดชนิดหนึ่งขวด และขนมแผ่นแป้งไส้ผักและเนื้อออกมาจากในอก“ข้าสังเกตเห็นว่า หัวหน้าไม่ส่งของกินมาให้พวกเจ้าหนึ่งวันแล้ว หิวแย่เลยใช่หรือไม่ กินอะไรสักหน่อยก่อนสิ!”เมื่อหยางชิงเหอเห็นเขาล้วงน้ำแร่วะฮะฮ่าแสนคุ้นเคยออกมา น้ำตาก็ไหลพรากลงมาเป็นเรื่องจริง!ที่เธอคาดไว้ทั้งหมดถูกต้อง ไม่มีผิดเลย...กองทัพตระกูลจ้านมีคนเชื่อมต่อยุคปัจจุบันและยุคโบราณได้จริง ๆ พร้อมทั้งสามารถส่งของในยุคปัจจุบันมายังยุคโบราณได้อีกด้วยในสองพันปีที่เกิดทุพภิกขภัยแห้งแล้งมานาน เรื่องนี้แก้ไม่ได้อยู่แล้วเธอเดินหน้าขึ้นมาคลายชุดพลางตัวตอนกลางคืนของหวังเซิ่งออกด้านในเผยเกราะกันกระสุนออกมาหวังเซิ่งตกใจ รีบถอยหลังออกไปอย่างแรงหลายก้าวทันทีแม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 487

    หวังเซิ่งส่ายศีรษะ “ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เราส่งเจ้ากลับไป...”“ส่วนเรื่องอื่น เจ้าไปคุยกับท่านแม่ทัพใหญ่เถิด วางใจได้ ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอำมหิตอะไร เขาบอกว่าจะส่งเจ้ากลับบ้าน ก็ต้องทำได้แน่!”ครั้นได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอึกทึกดังขึ้นมาจากด้านนอกช่างวังที่คอยดูต้นทางอยู่ ก็โยนหินก้อนเล็กไปใต้หน้าต่างเตือนว่าหวังเซิ่งควรไปได้แล้ว!หวังเซิ่งมองไปยังนอกหน้าต่าง “ข้าต้องไปแล้ว!”เขาเปิดหน้าต่าง ขณะกำลังจะกระโดดลงไป ก็หันหลังกลับมาอีกครั้งเขาทิ้งไฟฉายเอาไว้“ต่อให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่ช่วยเจ้า เจ้าก็ควรออกไป เจ้าทุ่มเทและจริงใจต่อมู่ฉีซิว แต่เขากลับสั่งไม่ให้โรงครัวส่งของกินให้เจ้า!”“แม่ทัพใหญ่ไม่มีทางทำกับลูกน้องของตัวเองเช่นนี้ ทุกคนมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน”“เขายังล้วงขนมปังแข็งที่อยู่ในอกออกมาวางอีก”ขณะที่เขากำลังจะเปิดหน้าต่างออกไป หยางชิงเหอก็รีบเอ่ยถามเขาขึ้นว่า“เจ้าชื่ออะไร?”หวังเซิ่งโบกมือ “ต่อไปเรายังเจอกันอีก!”พูดจบก็กระโดดออกไปจากหน้าต่างหวังเซิ่งปีนออกไปจากกำแพงอย่างรวดเร็ว เมื่อโรยตัวมาถึงยังหลังคาของห้อง ก็อาศัยแสงยามค่ำคืนหนีไปการกระทำของเขาร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 488

    “ชิงเหอ เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”“ขอเพียงผ่านช่วงเวลานี้ไป รับมือกับตระกูลชุยได้แล้ว ฉันจะทำดีกับเธอให้มาก ๆ”“หลังฉันแต่งงานกับชุยลั่วซิน เธอจะต้องระวังในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าปะทะกับเขา ไม่งั้นถ้าเขาไม่ผ่อนปรนให้เธอ ฉันเองก็ช่วยเธอไม่ได้เหมือนกัน!”“เธอเชื่อฟังนะ! เพื่อธุรกิจของเรา อดทนเอาไว้ก่อน!”หยางชิงเหอขมวดคิ้วมุ่น เธอยิ่งฟังก็ยิ่งสะอิดสะเอียนหากไม่ใช่เพราะออกไปไม่ได้ เธอคงถึงค่ายพักกองทัพตระกูลจ้านนานแล้ว!“ตัดสินใจเลือกฐานที่ตั้งโรงงานเรียบร้อยแล้ว อีกสามวันเธอกับช่างย้ายไปแล้วกัน”“ฉันกับลั่วซินกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ ก่อนหน้าจะผลิตปืนออกมา เธอก็อยู่ที่นั่นไปก่อน อย่าปรากฏตัวอีก”“ฉันกลัวว่าตระกูลชุยกับลั่วซินจะไม่ยอมปล่อยเธอไป!”“เอาละ วันนี้ฉันยุ่งมาก อยู่เป็นเพื่อนเธอแพล็บเดียวก็เสียเวลาไปเยอะมากแล้ว!”“จำเอาไว้ อย่าสร้างเรื่องให้ฉัน ไม่งั้นฉันเองก็รับประกันให้เธอไม่ได้เหมือนกัน!”หลังพูดจบ มู่ฉีซิวก็เดินออกไปก่อนหน้านี้เขาใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง แถมยังสัญญาลอย ๆ และยังปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตอนนี้ กระทั่งสัญญาลอย ๆ เขายังขี้เกียจ และขี้เกียจแสร้ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 489

    หลังหวังเซิ่งจากไป ทุกคนก็ดำดิ่งสู่ความเงียบงันอันที่จริง ช่างวังอยากไปเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านตั้งนานแล้ว กระทั่งซุนเฮ่อคนหมู่บ้านเดียวกันยังอยู่ดีกินดีขนาดนั้นเขาเป็นช่างตีเหล็ก มีความสามารถติดตัว ไม่มีทางไม่มีข้าวกินทว่าพวกเขาล้วนเป็นคนที่หยางชิงเหอเสนอขึ้นมาตอนนี้เห็นท่าทีที่ท่านหัวหน้ามีต่อนาง เรียกได้ว่าตกลงมาจากฟ้าเลยทีเดียวมิหนำซ้ำ เขายังไปตบแต่งคุณหนูของตระกูลชุยแห่งป๋อหลิงด้วยเช่นนั้นตำแหน่งภรรยาเอกของแม่นางหยางก็ไม่มีแล้วมิหนำซ้ำยังต้องหาวิธีเอาตัวรอดภายใต้เงื้อมมือชุยลั่วซินอีกกระทั่งพวกเขายังร้องขอความเป็นธรรมแทนแม่นางหยางท่านหัวหน้าจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยุติธรรมเลยทั้งสามคนตัดสินใจ!หนีคืนนี้จะแสร้งตาย!*ตอนพลบค่ำ ที่พักของหยางชิงเหอเกิดเพลิงใหญ่ลุกโชนเพลิงไหม้รุนแรง พลันลุกโชนเผาขึ้นมาถึงขั้นที่ทหารรักษาการณ์ที่ปิดล้อมอยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงตะโกนร้องขอให้ช่วยโหยหวนอยู่เลือนรางอยากจะบุกเข้าไปช่วยคน...ทว่าเพลิงลุกไหม้รุนแรง ไม่มีผู้ใดกล้าบุกเข้าไปเมื่อซาเทียนอี้ได้ยินข่าว ก็รีบควบม้ากลับมาจากสนามฝึกการต่อสู้ทันที เขาควบจนม้าเหนื่อยทรุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 490

    ไม่ว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่า นางจะอยู่บนรถม้านอกเมืองหวังเซิ่งพยายามสุดความสามารถที่จะหารถม้ามาเขานำรถม้ามาสองคัน ม้าแต่ละตัวผ่ายผอมจนเห็นกระดูก ไม่มีกำลังวังชาอะไรหวังเซิ่งกลัวว่าพวกมันจะวิ่งไม่ออก เมื่อคืนจึงให้อาหารและขนมแผ่นแป้งไปมากมาย พร้อมให้น้ำไปจนเพียงพอแล้ววันนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่เลวทั้งหมดแปดคน แบ่งเป้นรถม้าสองคัน ม้าหนึ่งตัวลากหนึ่งคันหยางชิงเหอ เสี่ยวเถา หวังเซิ่ง เสียวอู่นั่งคันเดียวกันสวีจู้จัดการให้ช่างทั้งสองคนนั่งคันเดียวกันเดิมทีจะเดินทางตอนกลางคืนทว่าขณะที่หวังเซิ่งหาศพมายัดเข้าไปในเตียงหยางชิงเหอกล่าวว่า “เดินทางตอนกลางคืนอันตรายเกินไป เดินทางตอนบ่ายเถอะ!”หวังเซิ่งไม่เข้าใจนางกล่าวว่า “ตอนกลางคืนออกจากเมืองไม่ได้ ตอนบ่ายใช้อาหารมาติดสินบนทหารรักษาการณ์ประตูเมืองนิดหน่อย ก็ออกไปได้ตามใจชอบแล้ว!”“หลังออกไป อย่าใช้ถนนสายหลัง ความเป็นไปได้ที่จะถูกจับมีเยอะเกินไป!”หวังเซิ่งตัดสินใจฟังนางจากนั้นก็ราดน้ำมันเบนซินที่เตรียมเอาไว้ไปทั่วทั้งห้อง และพลันจุดไฟขึ้นมาฉวยโอกาสขณะที่ทุกคนเบนความสนใจไปที่ห้องด้านหน้า อยากจะช่วยดับไฟพวกหวังเซิ่งก็เคลื่อนย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 491

    ภายในรถ เด็กน้อยถูกมารดาอุ้มไว้ในอ้อมอกและสวีจู้ขับรถอยู่ข้างหน้าเสี่ยวเถากำลังงีบหลับ หวังเซิ่งกับหยางชิงเหออยู่ในห้องเดียวกันอย่างอึดอัดหวังเซิ่งหยิบอากาศยานไร้คนขับออกมาหนึ่งเครื่องจากสัมภาระและยื่นให้หยางชิงเหอหยางชิงเหอเห็นอากาศยานไร้คนขับแล้วเบิกตาโพลงราวกับแผ่นดินไหว“นะ นี่มัน อากาศยานไร้คนจับจริงด้วย พวกเจ้ามีแม้กระทั่งสิ่งนี้?”เขาพยักหน้า “นี่เป็นเพียงรุ่นเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอากาศยานไร้คนขับขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ที่สามารถพกพาสิ่งของหนักหนึ่งร้อยชั่งอยู่กับท่านรัฐทายาทตรงนั้นอีก!”“เจ้าบังคับมันบินออกไปแล้วดูว่ามีทหารไล่ตามมาด้านหลังหรือไม่”“ข้าจะบังคับหนึ่งเครื่อง คอยสังเกตว่าทางเล็กด้านหน้ามีคนหมอบซุ่มหรือไม่…”“เจ้าบังคับการบินเป็นใช่ไหม?”หยางชิงเหอพยักหน้า “เป็น เมื่อก่อนข้าเคยมีหนึ่งเครื่อง!”*เย่มู่มู่เตรียมตัวบินไปเมืองหลวงในตอนแรก แต่ไม่คาดคิดว่า จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่าแม่นางหยางผู้นั้นเดินทางถึงฐานทัพเมืองหยงโจวอย่างราบรื่นเหมืองแร่ถูกกองกำลังหนึ่งแสนคนของกองทัพตระกูลจ้านยึดครองดึงดูดพลเมืองของหมู่บ้านบริเวณใกล้ ๆ และพลเมืองขุดเหมืองมาได้นับไม่ถ้วน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 492

    หวังเซิ่งพูดกับหยางชิงเหอ “ข้าจะพาเจ้าไปพบแม่ทัพใหญ่!”“อืม!”หวังเซิ่งพาหยางชิงเหอมาถึงค่ายพักประจำการของกองทัพตระกูลจ้านมีกระโจมมากมายหลายหลัง ส่วนใหญ่เป็นกระโจมผ้าใบกันน้ำกันแดดที่มาจากโลกปัจจุบันตรงยอดกระโจมยังติดแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้หนึ่งอันภายในกระโจมมีไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์และมีพัดลมตัวเล็ก…หยางชิงเหออ้าปากค้างเป็นรูปตัวโอเมื่อมาถึงกระโจมของแม่ทัพใหญ่วินาทีที่เห็นกระโจมเธอตะลึงงันอีกครั้งเพราะว่าอันที่เรียกว่ากระโจม แท้จริงแล้วเป็นบ้านสำเร็จรูปใช่ หน้าตาเหมือนบ้านสำเร็จรูปตามพื้นที่ก่อสร้างในโลกปัจจุบันทุกประการเย่มู่มู่ซื้อรถขุด รถบรรทุกดินที่ยุคปัจจุบันจำนวนมาก เถ้าแก่ที่เคยทำงานก่อสร้างสมัยก่อน จึงนำบ้านสำเร็จรูปที่ขายไม่ออก มาขายให้เธอในราคาถูก ๆ ทั้งหมดพื้นที่บ้านสำเร็จรูปสามารถให้คนมาอยู่อาศัยได้นับหมื่นคนเพราะว่ามีจำนวนที่มากเกินไปจริง ๆภายนอกของบ้านสำเร็จรูปดูเก่า ๆ แต่เพียงทำความสะอาดและฆ่าเชื้อข้างในสักหน่อยก็เข้าอยู่ได้แล้วที่สำคัญมันสะดวกกว่ากระโจมอีกบ้านสำเร็จรูปที่จ้านเฉิงอิ้นพักค่อนข้างกว้าง ข้างบนปูแผงไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไว้เต

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status