Share

บทที่ 610

Author: มู่โร่ว
ทว่าจ้านเฉิงอิ้นรู้ดีว่านางทำเช่นนี้ ช่วยชีวิตคนได้เท่าไร

ห้าหัวเมืองที่มู่ฉีซิวยึดครองเอาไว้ ตอนแรกเพื่อดึงกำลังทหารมาเป็นพวกมากขึ้น ถึงขั้นออกป้ายประกาศในดินแดนต้าฉี่

ขอเพียงเข้าร่วมชาวบ้านก็จะมีอาหารให้กิน มีน้ำให้ดื่ม

ชาวบ้านสิบกว่าหัวเมืองอื่นโดยรอบ หลั่งไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

หมู่บ้านบางแห่งลากถูลู่ถูกังคนทั้งครอบครัว เดินเท้ามาพันลี้ เพียงเพื่อมาถึงหนึ่งในห้าหัวเมืองนี้

ส่วนห้าหัวเมืองนั้น ประชากรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

มู่ฉีซิวเกณฑ์ทหารห้าแสนห้าหมื่นนาย จำนวนคนเยอะกว่ากองทัพประจำการของต้าฉี่เสียอีก!

หลังเหล่าชาวบ้านเข้าเมือง ทีแรกก็มีข้าวกิน

ทว่าแหล่งน้ำกลับมีไม่เพียงพอ

ผ่านไปไม่กี่วันก็ต้องทำงาน หากไม่ทำงานก็จะไม่มีข้าวกิน

ขุดเหมือง ขนถ่านหิน หล่อเหล็ก...ต้องให้คนทำทั้งสิ้น

ทว่า มู่ฉีซิวดึงกำลังทหารออกไปอย่างไม่แยแส เหลือทิ้งไว้เพียงปัญหาเละเทะ

ส่วนพวกชาวบ้านที่ถูกทิ้ง ทำได้เพียงรออดตายทั้งเป็น

กองกำลังของจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้เข้าเมือง ทว่าเห็นชาวบ้านมากมายมองมาที่รถยนต์ ที่ขับเข้ามาจากที่ไกล ๆ ด้วยดวงตาทั้งสองซึ่งไร้ชีวิตชีวา หาขอบเขตมิได้และสิ้นหวัง

จ้านเฉิงอิ้นลงจา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 611

    เย่มู่มู่กับหลูหมิงขับรถมุ่งหน้าไปยังทงโจว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีพายุฝนตามที่ปรากฏในข่าวที่ด้านหลังของพวกเขา ฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงกำลังขับรถโฟล์คสวาเกนตามมาเดิมทีหวังเสี่ยวเฉิงยังนอนหลับอยู่บนเตียง ทว่าอยู่ ๆ ก็ถูกฮ่าวอี้ลากตัวมา“พี่ คุณหนูเย่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า ตอนบ่ายให้พี่พาทุกคนไปซื้อของใช้ประจำวันมาให้ครบน่ะ? ทำไมถึงยังตามพวกเขาไปอยู่อีกล่ะ?”“ผมมองดูเจ้าเด็กหลูหมิงนั้นแล้ว เขาก็เป็นพวกฝึกศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน เก่งยิ่งกว่าหลูซีเสียอีก เขาคนเดียวก็พอแล้ว พวกเราจะตามไปอีกทำไมกัน ไม่เห็นเหรอว่าฝนกำลังจะตกหนัก!”บริเวณสัญญาณไฟจราจร ฮ่าวอี้ตบไปที่หวังเสี่ยวเฉิงอย่างแรง “เธอให้พวกเราเดือนละสามแสน ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นมาเล่า?”“ให้นายจับตาดูไว้ ก็จับตาดูให้มันดีดีเถอะน่า!”หวังเสี่ยวเฉิงหมดคำจะพูด “ไม่ใช่ เธอเป็นเจ้านาย เป็นนายจ้าง เธอไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้พี่จับตาดูเธอเสียหน่อย!”ฮ่าวอี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กล่าวอย่างไม่ได้ดั่งใจว่า “หลูซีกับหลูหมิง สองคนนี้ไม่ปกติ!”หวังเสี่ยวเฉิงสีหน้าจริงจัง “หมายความว่ายังไง พวกเขามีปัญหาอะไรงั้นเหรอครับ?”“ที่ตัวของสองคนนั่นมีแต่กลิ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 612

    เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ ๆ ฝนถึงหยุดตกชาวบ้านบางคนเคลื่อนย้ายกลับไปเคลื่อนย้ายไปพลาง พร่ำบ่นไปพลาง“ผมก็บอกแล้วว่าพยากรณ์อากาศมันไม่แม่นยำ พวกคุณก็ไม่ฟัง วุ่นวายเสียจนหมาของพวกเราหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้!”“นี่เป็นเพราะสวรรค์คุ้มครองไม่รู้หรือไง? พรุ่งนี้ไปเผากระดาษเงินกระดาษทองที่ศาลเจ้าให้มากขึ้นหน่อยเถอะ!”“เอ๋ แดดออกแล้ว ฉันไปตากผ้าห่มก่อนละ เมื้อกี้นี้มันเปียกไปหมดแล้ว!”เมื่อเย่มู่มู่เห็นชาวบ้านทุกคนเดินกลับ ใบหน้าจึงปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ ออกมารู้สึกดีจริง ๆ ทุกคนไม่ต้องย้ายออกไปแล้วหลูหมิงช่วยเย่มู่มู่ยกแจกันขึ้นมา แล้วยื่นให้เธอหลังจากที่เย่มู่มู่รับไปแล้ว ก็ได้ยินเสียงไชโยโห่ร้องของเหล่าราษฎรต้าฉี่ดังออกมา พวกเขาคุกเข่าแล้วโขกศีรษะคำนับทะเลสาบขนาดใหญ่ “ขอบคุณท่านเทพที่ทรงประทานน้ำศักดิ์สิทธิ์ลงมา ราษฎรมีทางรอดแล้ว!”“ฮ่าฮ่าฮ่า มีน้ำแล้ว พวกเรารอดแล้ว!”“ฮือ ในที่สุดสวรรค์ก็มองเห็น ในที่สุดก็มีน้ำแล้ว!”จากนั้น ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ขอบคุณ ท่านเทพ...”ครั้งนี้ หลูหมิงก็ได้ยินเช่นกันเขาสามารถจินตนาการได้เลยว่า ประชาชนโห่ร้องอย่างซาบซึ้งใจอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 613

    *หลังจากจ้านเฉิงอิ้นมองดูชาวบ้านดื่มน้ำกันจนพอแล้ว ก็เลือกคนที่มีร่างกายกำยำในหมู่ราษฎรออกมาสามร้อยคน และตั้งถังเหล็กขนาดใหญ่ที่ริมน้ำเขาทิ้งข้าวสารสามร้อยถุง แป้งสาลี เกลือปรุงรส และหม้อสแตนเลสหนึ่งร้อยใบเอาไว้แล้วให้ทั้งสามร้อยคนคอยต้มโจ๊กให้กับประชาชนทุกคนต้องเข้าแถว เมื่อเข้าแถวจึงจะมีโจ๊กกิน! และรีบให้เฉียนเซียงตัวส่งคนมารับช่วงต่อที่เมืองหยงโจวเรื่องที่เมืองหยงโจวมีน้ำ ในไม่ช้าจะแพร่กระจายไปยังเมืองอื่น ๆ อีกสี่หัวเมืองราษฎรทางนั้นจะหลั่งไหลเข้ามาราวกับฝูงผึ้งเสบียงเหล่านี้มีไม่เพียงพอ ทำได้เพียงให้เฉียนเซียงตัวยืนหยัดไว้ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นท่านเทพบอกว่าเสบียงลำเลียงมาจากต่างถิ่น และจะมาถึงในไม่ช้าเขาเพียงแต่หวังว่าเสบียงจะมาถึงในเร็ววัน ราษฎรทั้งห้าหัวเมือง เมื่อรวมกันแล้วก็ห้าล้านคน คิดเป็นหนึ่งในห้าของประชากรในแคว้นต้าฉี่เขาหวังว่าคนเหล่านี้จะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้!และเขาก็รู้เช่นกันว่าคนมากมายถึงเพียงนี้ ไม่สามารถพึ่งพาการช่วยเหลือจากท่านเทพเพียงผู้เดียวได้! ดังนั้น ก่อนออกเดินทาง เขาจึงเอาอุปกรณ์การเกษตรและเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดที่อยู่ในที่ว่างเปล่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 614

    “อาณาเขตกองทัพตระกูลจ้านของข้า จะให้มันมาก่อกรรมทำชั่วได้อย่างไรกัน ตอนแรกที่ให้พวกมันเข้ามาในด่านเจิ้นกวน มิใช่ให้พวกมันเข้ามาเรียกรับเงินใต้โต๊ะราษฎร!”“ในเมื่อไม่เชื่อฟังก็ฆ่าทิ้งเสีย แล้วให้ผู้ที่เชื่อฟังขึ้นสู่ตำแหน่ง!”เถียนฉินและสวี่หมิงไม่ได้อยากไปจากกองทัพตระกูลจ้านเลย~พวกเขาติดตามท่านแม่ทัพมานานหลายปี หากต้องแยกจากกัน ไม่รู้ว่าเมื่อใดถึงจะได้พบกันอีกมั่วฝานเอ่ยออกมาว่า “การสังหารคนจำเป็นต้องใช้หน่วยกล้าตาย ข้าจะหาคนมาให้สองคน!”สายตาของเขากวาดมองไปยังหน่วยกล้าตายที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็สั่งให้สองพี่น้องกลับไปที่ด่านเจิ้นกวนคนทั้งสองไร้นาม มีเพียงแค่ฉายานามเท่านั้นคนหนึ่งมีฉายานามว่าฉือซาน อีกคนมีฉายานามว่าฉือลิ่ว เป็นผู้ที่ติดตามมั่วฝานมานานแล้ว“วางใจเถอะ ฉือซานกับฉือลิ่วเชื่อใจได้!”“พวกเขาทั้งสองคนขับรถเป็น สองคนผลัดกันขับ เดินทางทั้งวันทั้งคืน จะต้องไปถึงอย่างทันท่วงทีแน่นอน!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ในเมื่อเจ้าเชื่อใจ เช่นนั้นก็ให้พวกเขาไปที่ด่านเจิ้นกวนเถิด”“จำเอาไว้ว่า ความหมายในการดำรงอยู่ของหน่วยเก่าสวีหวยนั้น ก็คือการปกป้องชายแดน ปกป้องความสงบสุขของด่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 615

    เฉินอู่กล่าวกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ หนึ่งแสนคนนี้ยังมีประโยชน์อยู่นะขอรับ”“แต่ว่าต้องจัดการผู้นำหน่วยเก่าของสวีหวยไปเสียให้หมด ในเมื่อไร้ประโยชน์ เลี้ยงไปก็สิ้นเปลืองเสบียง”ซ่งตั๋วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ในกองทัพตระกูลจ้านของข้า ยังไม่เคยพบเจอการปฏิเสธการขอความช่วยเหลือมาก่อน!”มั่วฝานกลับกล่าวว่า “วางใจเถิด ฉือซานกับฉือลิ่วจะต้องจัดการได้แน่ พวกเขาเป็นหน่วยกล้าตายที่ตระกูลทุ่มเทบ่มเพาะมา รู้ดีว่าควรทำเช่นไร!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า พลางถามซ่งตั๋วอีกว่า “หลี่หยวนจงยังไม่ส่งจดหมายมางั้นหรือ?”“ไม่มีขอรับ!”หากนับตามเวลา เสบียงที่ส่งไปให้เขาควรจะถึงแล้วไยถึงยังไม่มีข่าวคราวเลยเล่าเขาบุกเข้าไปในเมืองหลวงของแคว้นฉู่ แต่กลับไม่ได้ยึดครองเป็นของตนเอง ทว่ากลับคิดหาทางลอบโจมตีฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่แทนช่างฝ่าฝืนข้อห้ามนัก!หากว่าจ้านเฉิงอิ้นบุกเมืองหลวงของแคว้นฉู่ เขาจะยึดครองประตูทั้งสี่ในทันที แล้วปักธงของกองทัพตระกูลจ้านจากนั้นก็บุกวังหลวง ผู้ที่กล้าขวางทาง...สังหาร!แล้วก็จัดการองครักษ์ของวังหลวงและคนอื่น ๆ ให้สิ้นจากนั้นก็ขุนนางและองครักษ์ประจำจวนต่าง ๆ !จัดการให้เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 616

    นายทหารทุกคนต่างก็เห็นด้วยถึงแม้พวกเขาจะพักผ่อนในช่วงกลางวันที่ร้อนอบอ้าวที่สุด และเดินทางขับรถในตอนกลางคืนก็จะต้องมาถึงก่อนกองทัพธงเหลืองอย่างแน่นอนถึงอย่างไรม้าก็วิ่งสู้รถไม่ได้!หยางชิงเหอมองดูจ้านเฉิงอิ้น ท่านแม่ทัพหนุ่มที่มีอายุยี่สิบปีผู้นี้ ยิ่งมองก็ยิ่งพึงพอใจฟังคำแนะนำ ไม่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไปจนไม่ฟังคำของผู้อื่นทั้งยังใช้คนโดยไม่สงสัยเขามีความเป็นผู้นำมากกว่ามู่ฉีซิวหากนางรู้จักกับจ้านเฉิงอิ้นก่อนหน้านี้ บางทีอาจจะสนับสนุนจ้านเฉิงอิ้น ไม่ปล่อยให้จ้านเฉิงอิ้นเหมือนกับในเกร็ดพงศาวดาร ที่ตายไปตั้งแต่อายุยังน้อยตอนที่หยางชิงเหอกำลังจะขอตัวกลับก่อน จ้านเฉิงอิ้นก็หยิบเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว ออกมาจากที่ว่างภายในแจกัน…เมื่อหยางชิงเหอมองเห็นกล่อง ก็ตกใจในฉับพลัน“เอสเต ลอเดอร์ SK-II แล้วก็มีลาแมร์ด้วย โอ้ สวรรค์…มีเครื่องสำอางครบทุกยี่ห้อเลย!”“นี่มัน มีของพวกนี้โผล่มาในสมัยโบราณ น่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อยแล้ว!”เหล่านายทหารหลายคนไม่เข้าใจเรื่องครีมบำรุงผิวทว่าเมื่อเห็นหยางชิงเหอหยิบชุดลาแมร์ขึ้นมาอย่างชอบใจจนวางไม่ลงเฉินขุยที่เห็นนางดีใจถึงเพียงนี้ ก็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 617

    เย่มู่มู่เริ่มชั้นเรียนอย่างเป็นทางการ…เนื่องจากเธอลาหยุดไปกว่าหนึ่งเดือน เพื่อไม่ให้สอบตก จึงต้องรีบก้าวหน้าอย่างบ้าคลั่งมีข่าวซุบซิบของเธอภายในบริเวณวิทยาลัยอยู่บ้าง ทว่าเธอไม่สนใจถึงแม้ว่าจะมีสายตาแปลกประหลาดอยู่ทั่วทุกที่ มีผู้หญิงที่พูดเกี่ยวกับเธอ หรือผู้ชายที่แอบถ่ายรูปเธอ…ทว่าหลังจากที่ผ่านความเป็นความตายมา เธอก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยเนื่องจากสวี่หมิงทำบัตรเข้าออกแล้ว เวลาที่เธอเข้าเรียน สวี่หมิงจึงเดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างนอกห้องเรียนตอนที่เธอไปโรงอาหารเพื่อกินข้าว สวี่หมิงก็จะไปกินพร้อมกับเธอตอนที่เธอกลับบ้าน ต่อให้มีถนนเพียงเส้นเดียวกั้น บอดี้การ์ดก็ล้วนแต่มารับเธอทั้งสิ้นดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้อื่นจะมาก่อความวุ่นวายต่อหน้าเธอเธอไม่ได้ใส่ใจว่าคนอื่นจะพูดอย่างไรเช่นกัน เพราะเธอยุ่งเกินไป!เสบียงยี่สิบตู้คอนเทนเนอร์ได้มาถึงที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว เมื่อผ่านศุลกากรก็จะสามารถส่งไปที่โกดังในแถบชานเมืองของทงโจวได้เนื้อแช่แข็งสิบกว่าตู้คอนเทนเนอร์ ศุลกากรใช้เวลาตรวจสอบค่อนข้างนานไปบ้าง ทว่าภายในหนึ่งอาทิตย์ก็สามารถขนส่งเข้ามาได้แล้วและทุกครั้งท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 618

    “สืบมาได้บางส่วนครับ แต่ยังไม่ค่อยชัดเจน…”“จริงจังหน่อย!”“เอ่อ หลูซีกับหลูหมิงไม่ได้เป็นญาติห่าง ๆ อะไรกับเธอเลย ที่น่าแปลกก็คือ ทะเบียนบ้านของพวกเขาอยู่ในบ้านที่เป็นชื่อของคุณหนูเย่”“พวกเขาไม่ได้เกี่ยวพันกันทางเครือญาติ เหมือนจะเป็นลูกน้องเสียมากกว่า”ฮ่าวอี้หันไปมองเขา “แค่เนี้ย?”“เอ่อ ก็แค่นี้ พี่ยังอยากรู้อะไรอีกงั้นเหรอ?”ฮ่าวอี้ถูกความโง่เง่าของเขาทำให้โมโหจนอยากจะหัวเราะออกมา“ช่างเถอะ ฉันจะไปรายงานต่อเบื้องบน และให้เบื้องบนไปสืบ!”หวังเสี่ยงเฉิงมองเขาอย่างแปลกใจ “ไม่ใช่ พี่ปลดประจำการไปแล้วและยังมีภารกิจอยู่ ยังจะต้องสืบคุณหนูเย่อีกเหรอครับ?”“สาวน้อยที่สวยขนาดนั้นเพียงคนเดียว พ่อแม่ก็ตายไปแล้วทั้งคู่ ร่ำรวยอย่างมาก ทั้งยังถูกญาติจ้องจะฮุบสมบัติ…”“เธอน่าสงสารมากพอแล้ว พี่ยังจะสืบเธออีกเหรอ ยังมีสำนึกอยู่บ้างไหมครับ!”ฮ่าวอี้ไม่ได้ใส่ใจเขา และมองเขาราวกับมองคนปัญญาอ่อนหลังจากเย่มู่มู่ซื้อของในเขตชานเมืองเสร็จสิ้นแล้ว ก็ขับรถกลับไปที่คฤหาสน์เสบียงที่เธอขนมามีอยู่เต็มคันรถ จึงให้บอดี้การด์และแม่บ้านช่วยกันขนฮ่าวอี้ไม่ขยับ พิงอยู่ที่หน้ารถพลางนับจำนวน!“สามสิ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status