แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: มู่โร่ว
เมื่อพ่อได้ยินคำพูดนั้นก็โกรธเป็นอย่างมาก ไล่ญาติ ๆ ทุกคนออกจากบริษัท

แล้วก็จัดทำพินัยกรรมล่วงหน้า

ทรัพย์สินของเขา พี่น้องกับหลาน ๆ ไม่มีใครได้ไปสักสตางค์เดียว

พอพวกนั้นรู้ว่าไม่ได้อะไรจากพินัยกรรม พยายามโทรหาเย่มู่มู่ก็ไม่ติด ก็เลยเริ่มวนเวียนอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน หวังจะเจอเธอ

เย่ซินไม่รู้ว่ารออยู่หน้าหมู่บ้านนานแค่ไหน จนสุดท้ายก็ดันเจอเธอที่กำลังจะออกไปข้างนอก

เขารีบพาผู้ชายวัยกลางคนมาพบเธอทันที

เย่มู่มู่ขมวดคิ้วถามเสียงเย็นชา “มีเรื่องอะไร?”

เย่ซินยิ้มอย่างกระตือรือร้น

“มู่มู่ เรามานั่งคุยกันหน่อย พี่จะแนะนำคนให้เธอรู้จัก คุณหวัง เขาเพิ่งหย่าเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้เป็นหนุ่มโสดสุดฮอตเลยนะ!”

“ดูสิ คุณหวังทั้งสุขุมและมั่นคง ภายนอกก็ดูภูมิฐาน เขาเป็นเจ้าของใหญ่ของหัวหวังกรุ๊ป...”

“เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว!”

คุณหวังที่พูดถึงนั้นหัวล้านกลางศีรษะ พุงก็ใหญ่จนดูอ้วนกว่าปกติ ดูแล้วอายุมากกว่าพ่อของเธอเสียอีก

อายุอย่างน้อยก็คงห้าสิบห้าปีขึ้นไป

เขาสวมแหวนทองวงใหญ่ มืออ้วน ๆ ของเขาลูบคางแล้วมองเย่มู่มู่ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาหื่นกาม

เมื่อเห็นว่าเธอมีผิวขาวเนียน รูปร่างผอมเพรียว โดยเฉพาะใบหน้าเรียวเล็กที่มีริมฝีปากสีแดงระเรื่อและฟันขาวสะอาด ดวงตาดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง

ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือรูปร่าง เขาพอใจในตัวเย่มู่มู่เป็นอย่างมาก!

“เธอคือลูกสาวของเหล่าเย่ใช่ไหม ไม่คิดเลยว่าเขาจากไปแล้ว แต่ทิ้งลูกสาวแสนสวยขนาดนี้ไว้!”

“เอาล่ะ ฉันถูกใจเธอแล้ว คืนนี้ไปอยู่บ้านฉันเลยก็แล้วกัน”

“แม่ฉันไม่ชอบให้มีคนนอกอยู่ในบ้าน งานบ้านอย่างทำความสะอาด ซักผ้า ทำอาหาร...เธอต้องจัดการให้เรียบร้อย”

“ลูกชายฉันพาแฟนกลับมาบ้านทุกคืน เธอต้องคอยดูแลให้ดี ถ้าทำให้ลูกชายฉันโกรธ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”

ชายแก่ที่อายุเกือบห้าสิบปลาย แก่จนใกล้จะลงโลงอยู่แล้ว กลับกล้าคิดจะแต่งคุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างเธอไปเป็นคนรับใช้

แถมยังต้องคอยดูแลทั้งครอบครัว รวมถึงแฟนของลูกชายเขาด้วย

เย่มู่มู่สบถออกมา “ประสาท!”

เธอหันหลังแล้วเดินจากไปทันที

เย่ซินกว่าจะได้เจอเย่มู่มู่นั้นไม่ง่ายเลย มีหรือจะยอมปล่อยให้เธอจากไปง่าย ๆ แบบนี้

เขาคว้าแขนเธอไว้ทันที ออกแรงบีบจนแทบจะทำให้กระดูกเธอแหลก

“มู่มู่ ปีนี้เธออายุยี่สิบแล้ว ถึงเวลาที่จะแต่งงานได้แล้ว พ่อกับย่าของฉันอุตส่าห์หาคนดี ๆ มาให้เธอ คืนนี้เธอก็ไปอยู่ที่บ้านเขาได้เลย”

“ตอนนี้พ่อแม่เธอตายแล้ว เรื่องการแต่งงานต้องให้ผู้ใหญ่จัดการ เงินค่าสินสอดก็ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้เธอไม่มีสิทธิ์ขัดขืน!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่มู่มู่ตวัดฝ่ามือตบหน้าเขาทันที

“พวกคุณทั้งบ้านคิดจะบังคับฉันเหรอ? บอกไว้เลยนะ ถ้าฉันโกรธขึ้นมา จะทำให้พวกคุณอยู่ในเมืองนี้ไม่ได้อีกต่อไป!”

เย่ซินเมื่อเห็นว่าเย่มู่มู่กล้าตบหน้าเขา แถมยังคิดจะหนี

เขามองเธอด้วยสายตาอำมหิต “ได้ พูดดีกับเธอดี ๆ แล้วไม่ฟังใช่ไหม แบบนี้ต้องใช้กำลังสินะ?”

เขาหันไปพูดกับคุณหวัง

“คุณหวัง จับตัวเธอไว้แล้วพากลับไปเลย เธอถือหุ้นของฟู่ลี่กรุ๊ปสามสิบหกเปอร์เซ็นต์ ถือว่าคุณได้ของดีแล้ว”

ประธานหวังที่ตอนแรกหมดความสนใจเพราะนิสัยของเธอ!

แต่พอได้ยินว่าเธอถือหุ้นฟู่ลี่กรุ๊ป ทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

ทันใดนั้น ประธานหวังก็คว้าแขนอีกข้างของเย่มู่มู่ ตอนที่ทั้งสองคนเตรียมจะช่วยกันจับเธอมัดแล้วลากขึ้นรถนั้น...

บริเวณย่านการค้ามีตำรวจลาดตระเวนอยู่พอดี

ไม่นานก็มีรถตำรวจเข้ามาขวางพวกเขาไว้!

“พวกคุณทำอะไรกัน? กลางวันแสก ๆ ยังจะลักพาตัวผู้หญิงอีกเหรอ?”

ตำรวจลงจากรถอย่างรวดเร็วและจับทั้งสองคนไว้

ตำรวจคนหนึ่งถามเย่มู่มู่ด้วยความห่วงใย “คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”

เธอมองมือที่ถูกบีบจนเป็นรอยม่วงช้ำ น้ำตาคลออยู่ในดวงตา “ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ!”

ทั้งสองคนที่ถูกจับพยายามดิ้นรน ทั้งยังตะโกนแหกปาก

เย่ซินตะโกนว่า “เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของผม ผมจะทำร้ายเธอหรือยังไง?”

คุณหวัง “ผมแค่จะนัดดูตัวกับเธอ ไม่มีเจตนาอื่นเลยครับ”

แต่ตำรวจไม่ฟังคำแก้ตัวของพวกเขา ทั้งสองถูกใส่กุญแจมือและจับกุมตัวไปแล้ว

เย่มู่มู่ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ก่อนที่จะเข้ารับการตรวจ เธอขอตัวไปห้องน้ำ และเดินวนไปมาหลายสิบรอบในนั้น

หลังจากออกมาจากห้องน้ำ ร่างกายเริ่มโซเซ ยืนไม่มั่นคง รู้สึกเวียนหัวและตามัว อาเจียนออกมาหลายครั้ง

ผลตรวจร่างกายระบุว่าเธอมีอาการกระทบกระเทือนสมองอย่างรุนแรง ร่วมกับอาการเวียนหัวและอาเจียน ซึ่งจัดว่าเป็นการบาดเจ็บในระดับเบา!

เย่มู่มู่ถ่ายรูปผลตรวจร่างกายของตัวเอง จากนั้นก็ลบชื่อออกก่อนจะส่งให้กับนักข่าวท้องถิ่นที่กล้าหาญไม่ยอมจำนนต่ออำนาจเถื่อน

เธอให้ข่าวใหญ่กับเขาเรื่องหนึ่ง

บอสหวัง เจ้าของบริษัทหวังชางอินเตอร์เนชั่นแนล ลักพาตัวหญิงสาวกลางถนน บังคับพากลับไปกักขังในบ้าน!

มีทั้งสถานที่ที่เกิดเหตุและวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน

ในย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด นักข่าวสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ด้วยการค้นข้อมูลเพียงเล็กน้อย

หลังจากให้การเสร็จ เย่มู่มู่ก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปยังถนนที่เป็นแหล่งรวมตัวร้านค้าเกี่ยวกับวัตถุโบราณในท้องถิ่น

เธอไม่เชี่ยวชาญเรื่องของโบราณนัก จึงต้องเข้าไปดูทีละร้าน

สังเกตขนาดของร้าน ดูความมั่งคั่ง และสายตาความเฉียบคมของเจ้าของร้าน…

ในร้านหนึ่งที่อยู่ในมุมเล็ก ๆ ไม่ค่อยโดดเด่น ในร้านมีชายชราคนหนึ่ง ใส่แว่นสายตายาวกำลังอ่านหนังสือพิมพ์

เมื่อเธอเดินเข้ามาในร้าน ชายชราเงยหน้าขึ้นมองเธอเพียงแวบหนึ่งก่อนจะกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่ออย่างสงบนิ่ง

เย่มู่มู่มองไปยังเครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวบนชั้นวางของ

ชายชราถามเธอว่า “ชอบหรือ?”

เย่มู่มู่ส่ายหน้า “รูปแบบมันเป็นแบบโบราณ แต่เนื้อวัสดุไม่ใช่ทอง ดู ๆ ไปก็เหมือนของจริงอีก!”

มันเป็นสิ่งของที่ดูขัดแย้งกันอย่างมาก!

ชายชราวางหนังสือพิมพ์ลง พลันเกิดความสนใจถามขึ้นว่า “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ?”

เย่มู่มู่ไม่ได้บอกว่าเธอมีเครื่องประดับที่คล้ายกันอยู่!

เธอนั่งลงตรงข้ามโต๊ะ “ที่นี่รับซื้อของโบราณไหมคะ?”

ชายชราขยับแว่นสายตาเล็กน้อย “ของอยู่ไหนล่ะ เอามาให้ฉันดูหน่อย!”

เย่มู่มู่หยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมาแล้วเลื่อนไปตรงหน้าชายชรา

เมื่อเห็นว่ากล่องนั้นเป็นกล่องธรรมดาในแบบสมัยใหม่ ชายชราก็รู้สึกผิดหวังไปกว่าครึ่ง

แต่เมื่อเปิดกล่องออก เขาเห็นจอกสุราสามขาฝังอัญมณี ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที

มือของเขาสั่นเล็กน้อยขณะหยิบจอกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เขาตรวจสอบก้นจอก ละเอียดมองลวดลายมังกรพันรอบ ดูเนื้อทองคำและคุณภาพของอัญมณี

ขณะที่ตรวจสอบไปเรื่อย ๆ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้น

“นี่คือของที่มีอายุเกินสองพันปี ของดีนี่น่า! แม้แต่ในพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ ยังไม่มีเลย!”

“จอกสุราที่พบในยุคเดียวกันมักจะทำจากทองสัมฤทธิ์ ไม่ก็เครื่องเคลือบดินเผา หรือเหล็ก... แต่นี่เป็นจอกทองคำที่ทำด้วยเทคนิคการฝังอัญมณีและทำลายฉลุ นับว่ามีอายุมากที่สุดที่ฉันเคยเห็น”

“เดี๋ยวก่อน ที่ก้นจอกยังมีอักษรเขียนว่า ‘ของใช้ราชวงศ์ต้าฉี่!’”

ชายชราลุกขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้นจนแทบจะเสียสติ

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “แคว้นต้าฉี่! ที่แท้แคว้นต้าฉี่มีอยู่จริง!”

“ในพงศาวดารไม่มีบันทึกไว้ แต่มีในตำนาน แคว้นต้าฉี่ดำรงอยู่เพียงห้าสิบปีเท่านั้น”

หัวใจของเย่มู่มู่กระตุกวูบเมื่อได้ยินคำว่า ห้าสิบปี!

นั่นหมายความว่า ในท้ายที่สุดหนิงกวนโหวตายหรือ?

และคนหนึ่งแสนในที่สุดก็ล้มตายในสงครามทั้งหมดหรือ?

ความอยากรู้อยากเห็นของเธอทวียิ่งขึ้น รีบถามชายชราทันทีว่า “จอกสุรานี้มีมูลค่าเท่าไหร่?”

ชายชรากางสองนิ้วออกมา

เย่มู่มู่ถามต่อ “สิบล้าน?”

ชายชราส่ายหัว

“หนึ่งพันล้าน?”

ชายชราก็ยังส่ายหัวอีกครั้ง

เย่มู่มู่เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ “หมื่นล้าน!!!”

ชายชรายิ้มพลางพยักหน้า “หมื่นล้านถือว่าเป็นราคาประเมินขั้นต่ำ ของโบราณจากแคว้นต้าฉี่ไม่เคยปรากฏในประเทศมาก่อนเลย แคว้นนี้มีบันทึกอยู่ในตำนานว่าล่มสลายเพราะภัยพิบัติ ภัยมนุษย์ ภัยสงคราม และความวุ่นวายภายใน”

“แคว้นต้าฉี่เคยมีแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถเทียบเท่ากับก้วนจวินโหว ฮั่วชวี่ปิ้ง[1] ในตำนานนั้นมีแต่การพรรณนาถึงแคว้นต้าฉี่ในแง่ลบ ว่าขุนนางกังฉินครองอำนาจ ฮ่องเต้เป็นเพียงหุ่นเชิด ฝนแล้งลงโทษ ประชาชนทุกข์ยากแสนสาหัส!”

“แต่แม่ทัพผู้นี้ถูกยกย่องอย่างสูง ราวกับมังกรฟ้าลงมาจุติ!”

เย่มู่มู่รีบถาม “แม่ทัพคนนั้นชื่ออะไร?”

“จ้านเฉิงอิ้น เขาได้เป็นขุนนางชั้นหนึ่งและถูกแต่งตั้งเป็นหนิงกวนโหวตอนอายุเพียงยี่สิบปี แต่เขากลับเสียชีวิตเมื่ออายุแค่ยี่สิบเอ็ด หลังจากเขาตายไม่นาน แคว้นต้าฉี่ก็ล่มสลาย”

เคร้ง เสียงโทรศัพท์ของเย่มู่มู่หล่นกระแทกกับโต๊ะชาไม้ เธอตกตะลึงจนพูดไม่ออก

หนิงกวนโหว!

คนที่เรียกเธอว่าเทพเจ้า คนที่ส่งจดหมายสื่อสารกับเธอ คนที่มอบทองกองโตให้เธอ...คือหนิงกวนโหว!

จ้านเฉิงอิ้น!

[1] ก้วนจวินโหว หรือฮั่วชวี่ปิ้ง คือ แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงในราชวงศ์ฮั่นตะวันตก หนึ่งในแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีน เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการรบกับชนเผ่าซยงหนู
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Ttnun Puatrakul
fantacy and fun
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 803

    เดิมทีเหวินเหลียนเยว่หลับไปแล้ว ทว่าถูกสายโทรศัพท์ของเย่มู่มู่ทำให้สะดุ้งตื่นเธอถามขึ้นว่า “ฝ่ายเราเป็นคนลงมือก่อนหรือเปล่า?”“ไม่ เป็นการป้องกันตัว อีกฝ่ายห้าร้อยคนถือมีดพุ่งเข้ามา...”“หลูซีกับเฉินขุยจึงลงมือ!”“อีกฝ่ายมีสองคนถูกฟันตาย สี่คนถูกฟันแขนขาขาด พวกเขาตกใจกลัวและเริ่มหนี...”เหวินเหลียนเยว่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ยังดี ๆ เรามีเหตุผล!”“ฉันจะพาทนายไปเดี๋ยวนี้!”เย่มู่มู่ยังคิดจะออกไปตามเฉินขุยกับหลูซี และเรียกให้พวกเขาหยุด...“กลับมา ไม่ต้องตาม!”ฮ่าวอี้บอกกับเย่มู่มู่ว่า “แม้จะเป็นการป้องกันตัว ก็ยากถ้าจะให้รอดร้อยเปอร์เซ็นต์!”“หาทนายที่ดีที่สุด ให้ค่าชดเชยที่เพียงพอ สี่คนที่แขนขาขาดนั่นน่าจะยังต่อเข้าไปได้!”“ให้พวกเขามีท่าทีสำนึกผิดจะต้องดีแน่!”เย่มู่มู่รู้ดีว่า ก่อนหน้านี้ฮ่าวอี้เป็นตำรวจติดอาวุธ ภูมิหลังลึกซึ้ง!“คุณเกี่ยวข้องหรือเปล่า รักษาพวกเขาเอาไว้!”หลูซียังไม่บรรลุนิติภาวะ สองสามปีเขาก็ออกมาได้แล้วถ้าทนายพยายามสักหน่อย ก็เข้าแค่สถานกักขังเด็กและเยาวชน หรือได้รับการประกันตัวออกมาเลย!แต่เฉินขุยฐานะไม่เหมือนกัน เขาเป็นแม่ทัพ เย่มู่มู่ต้องส่งเขากลับยุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 802

    ครั้งนี้ฟันลงมาเป็นแขน~ครั้งหน้าอาจเป็นหัวคนก็ได้ชายผมเหลืองพูดกับพี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าว่า “ลูกพี่ ฝีมือของคนคนนี้มัน...”พี่ใหญ่ที่เป็นผู้นำตะโกนขึ้นมาคำหนึ่ง “เถ้าแก่บอกแล้ว ขอแค่จัดการได้สวย จะเพิ่มให้อีกหนึ่งร้อยล้านก็ได้! พวกนายทำอะไรถึงจะหาเงินได้เยอะขนาดนี้?”“ทำงานนี้ อย่างน้อยพวกนายก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ไปห้าปี และซื้อบ้านได้!”สองพันห้าร้อยล้าน~ช่างทำให้คนคลั่งจริง ๆภายใต้เงินก้อนโตต้องมีความกล้า!ทุกคนมองไปที่เฉินขุยอย่างบ้าคลั่ง~“ไป จัดการเขาซะ ฟันให้ตาย...”ครั้งนี้ คนยี่สิบกว่าคนพุ่งเข้ามา ด้านหลังยังมีคนหนึ่งร้อยกว่าคนตามมาอีก!เฉินขุยยกดาบม่อเตาขึ้นตวัดไปที่ฝูงชนส่วนหลูซีหลูหมิงชักดาบยาวออกจากฝัก พวกเขาออกโรงแล้ว!ฮ่าวอี้ตะโกนอยู่เบื้องหลังพวกเขา “อย่าฆ่าคน พยายามอย่าฆ่าคน!”“ฆ่าคนเยอะเกินไป พวกนายจะติดคุกเอาได้ คุณหนูเย่ช่วยตามเช็ดตามล้างให้พวกนายไม่ได้นะ!”ครั้นเห็นทั้งสามคนยังคงลงมือ!ฮ่าวอี้ก็อุทาขึ้นมาโดยตรงว่า “จบเห่แล้ว!”เฉินขุยฟันดาบลงไปทีหนึ่ง ถูกคนที่อยู่ตรงหน้าสุดไม่กระดุกกระดิกแล้ว!หลูซีชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกจากฝัง ศีรษะคนศ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 801

    ในเวลานี้ ในที่สุดแม่ทัพเฉินขุยที่กรนสะเทือนฟ้าอยู่ในรถก็ตื่นขึ้นมาแล้วเสียงหลูหมิงซ้อมคนไม่ได้ทำเขาสะดุ้งตื่นแต่อย่างใด กลับกันเสียงอาวุธที่กระทบไปบนพื้น ในตอนที่อีกฝ่ายเอาอาวุธประเภทมีดออกมาจากในรถกองหนึ่ง ซึ่งเป็นเสียงมีแต่อาวุธประเภทมีดเท่านั้น ดันทำให้เฉินขุยที่ดื่มเบียร์และเหล้าขาวจนเมาแอ๋ตื่นเขาดื่มไปสามโต๊ะ โต๊ะที่สามดื่มเหล้าขาวโดยตรงเมื่อกลับมาถึงโต๊ะของเย่มู่มู่ เขาก็ตะโกนออกมาว่ายุคปัจจุบันข้าวของมากมาย ประชาชนมั่งคั่ง กินเนื้อดื่มเหล้ากล้าได้กล้าเสียเช่นนี้!ขนาดขึ้นรถแล้ว ก็ยังตะโกนลั่นทั้งเมามายว่า “นี่เป็นยุคที่ดียุคหนึ่ง!”แม่ทัพใหญ่สะดุ้งตื่นแล้วเขาเปิดประตูรถ เห็นอีกฝ่ายมีห้าร้อยกว่าคน ถืออาวุธประเภทมีดทำท่าเปี่ยมพลัง มุ่งหน้าเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างดุเดือดรุนแรง สมองที่เบลอ ๆ ของเฉินขุยพลันได้สติขึ้นมาทันที เขาตะโกนเสียงดังว่า “ใครกัน มีกล้ามาปล้นท่านเทพ...”เย่มู่มู่ส่งเกราะกันกระสุนให้เขา “อีกฝ่ายคนเยอะ ใส่ไว้ก่อน?”เฉินขุยยื่นมือไปที่เย่มู่มู่ “ท่านเทพ ดาบม่อเตา...”เย่มู่มู่ตอบกลับด้วยความกังวลว่า “ตอนนี้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย จะฆ่าผู้บริสุทธิ์

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 800

    คนผมเหลืองน้ำเสียงติด ๆ ขัด ๆ “พี่ พี่ใหญ่ คนฝึกยุทธ์!”“เขาคือคนฝึกยุทธ์ อีกฝ่ายยังมีคนฝึกยุทธ์แบบนี้อีกเก้าคน ทำยังไงดี?”พี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้าพูดแทรกเขาพร้อมกับด่า “หุบปากไปซะ เขาต่อสู้เก่งแล้วยังไง?”“เรามีคนมากมายขนาดนี้ ที่คืนนี้พาพี่น้องห้าร้อยคนออกมาปฏิบัติการ ก็เพื่อชีวิตของแม่หนูคนนี้!”“ลูกค้าจ่ายเงินมัดจำมาห้าร้อยล้าน หลังจัดการเป้าหมายเสร็จ ยังมีอีกหนึ่งพันห้าร้อยล้าน พอให้พวกพี่น้องกินดีอยู่ดีไปตลอดชีวิต!”“หรือว่าพวกนายคิดจะถอดใจ?”สองพันล้าน~นี่มันสองพันล้านเต็ม ๆ เลยนะ!พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีผิดกฎหมาย ในกระเป๋าเสื้อไม่มีเลยสักสลึงเดียว แห้งกรังไม่ง่ายเลยกว่าจะได้รับงานใหญ่ ห้าร้อยคน ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งสี่ล้านต่อให้ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ นี่ก็ได้สี่ล้านจริง ๆพวกเขาต้องทำอะไรถึงจะหาเงินได้มากมายขนาดนี้ลูกน้องรอบ ๆ ได้ยินดังนั้น แต่ะคนก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาเงินก้อนนี้ พวกเขาต้องคว้ามาให้ได้!คนผมเหลืองกัดฟันเอ่ยขึ้นว่า “ทำครับ ผมต้องเอาเงินนี้มาอยู่ในมือให้ได้!”พี่ใหญ่พูดกับพี่น้องใต้บัญชาต่อ “ไป เอามีดมา...”เปิดที่เก็บของท้ายรถออก อีกฝ่ายถื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 799

    ฮ่าวอี้ก้าวออกมา แล้วพูดกับลูกพี่คนนั้นว่า “อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระกับฉัน บอกมาตามตรง ผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังพวกนายเป็นใคร?”ลูกพี่คนนั้นถูกคำพูดของหวังเสี่ยวเฉิงเมื่อครู่ทำให้หัวเราะ ยังหัวเราะฮ่า ๆ อยู่เขาออกมาทำมาหากินยี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยเห็นเรื่องที่น่าตลกขนาดนี้คนสิบกว่าคน บอกว่าพวกเขาสองร้อยกว่าคน และยังมีคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาด้วยอีกสามร้อยคนหนีไม่รอดแล้ว!“เอาละ ส่งตัวแม่หนูคนนั้นออกมา พวกแกจะได้ลำบากน้อย ๆ หน่อย!”“ไม่อย่างนั้น พวกแกมีแต่ต้องตายลูกเดียวเท่านั้น!”รถที่มาด้านหลังเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นปิดถนนทั้งสองข้างเอาไว้คนขับรถบรรทุกที่เดินทางตอนกลางคืน เห็นว่าถนนถูกปิด ก็หาที่กลับหัวรถและแล่นออกไป!หลูซีเขาเปิดที่เก็บของหลังรถ แล้วชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมาเล่มหนึ่งเขามองไปที่ฮ่าวอี้ แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “ใช้ดาบได้หรือไม่?”ฮ่าวอี้เรียกตรง ๆ เจ้าตัวดีพกดาบมาด้วย!เขาตอบกลับ “ให้ดีที่สุดไม่ใช้ ถ้าพวกเขาทำอะไรที่เลวร้ายเกินไป มีแนวโน้มที่จะซ้อมคนจนตาย แบบนั้นก็ใช้ได้!”มือทั้งสองของหลูซีกอดดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังเอาไว้ “ดี!”ทว่าหลูหมิงกลับเดิน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 798

    “เอาละ นายไปทำงานเถอะ สืบข้อมูลของเฉินขุยได้แล้วค่อยโทรหานาย!”“ครับหัวหน้า!”หลังฮ่าวอี้วางสาย ก็นั่งยอง ๆ ลงบนพื้นพร้อมหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดตัวหนึ่งนับตั้งแต่มาเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ต่อไปเรื่องประหลาดอย่างจู่ ๆ ก็มีคนโผล่ออกมากลางอากาศจะมีเยอะขึ้นทุกวันด้านหลังกำแพงเยื้องเขา หลูซีกำลังลอบมองเขาอยู่ในที่มืด ก่อนจะถอยหลังกลับไปยังห้องจัดเลี้ยงในขณะนี้อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว เหลือสามคนที่ไม่ดื่มเหล้า เหล่าบอดี้การ์ดดื่มกันอย่างสนุกสนานไปแล้วน้อยครั้งที่เย่มู่มู่จะพาหลูซีและหลูหมิงออกมากินอาหารค่ำแน่นอนว่าหวังเสี่ยวเฉิงมาจนคุ้นเคยแล้ว ดื่มเบียร์กับหลูหมิงจนหมดหนึ่งขวดคิดไม่ถึงเลยว่าคอเขาจะอ่อนมาก ยังไม่ได้กินเหล้าขาว เพียงแค่เบียร์ หนึ่งขวดเขาก็ไม่ไหวแล้วหวังเสี่ยวเฉิงตบไหล่หลูหมิง โวยวายถือเป็นพี่เป็นน้องกับเขา“นายนี่คออ่อนชะมัด ยังต้องฝึกอีกเยอะ!”ผ่านไปนานสองนาน ฮ่าวอี้ถึงกลับมาเย่มู่มู่ถามเขา “ไม่มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”คิดไม่ถึงเลยว่าฮ่าวอี้จะส่ายศีรษะ แล้วกระซิบบอกเย่มู่มู่ว่า “เราเหมือนจะถูกคนจับตามอง!”หลังจากนั้น เขาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา พบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status