“อ่าวไล่เฉย กูไม่พูดเรื่องคุณเมย์ของมึงแล้วก็ได้ แต่จะพูดเรื่องเฟอรี่แทน” ธนนท์ปรับน้ำเสียงเป็นจริงจังขึ้น
“เฟอรี่ทำไมอีก” กรวัฒน์ถามกลับน้ำเสียงเครียดเช่นกัน
“นางก็โทรหลอกถามเรื่องมึงจากเพื่อนในกลุ่มเราทุกคนเลย สงสัยจะเอามึงกลับไปให้ได้จริง ๆว่ะงานนี้”
“จบกันไปแล้วไม่เกี่ยวกับกู”
“มึงจบ แต่นางมาวุ่นวายกับคนอื่น”
“อย่าให้กูรู้ว่าพวกมึงให้ข้อมูลนะ”
“เออกูรู้ แต่ถ้าทนไม่ไหวกูก็จะบอกไปให้หมดเลย”
“กวนตีนนะ” ระหว่างคุยกันเมธาวีเคาะประตูเข้ามาด้านใน
“คุณป้าให้มาตามไปทานข้าวค่ะ”
“อืม เดี๋ยวตามไป” กรวัฒน์บอกเสียงเรียบ
“งั้นผมลงไปพร้อมคุณเมย์เลยดีกว่า” ธนนท์บอกพร้อมกับเดินตามหญิงสาวไป ก่อนไปไม่วายหันมาทำสีหน้ายียวนทิ้งให้กรวัฒน์ต้องอารมณ์เสีย
“มากันแล้วเหรอ วันนี้แม่ทำของโปรดของทั้งสามคนให้เลยมา ๆกินข้าวกัน”
“กะเพราไก่ของไอ้กร ไข่เจียวหมูสับของผม งั้นไข่ดาว
“อยู่แบบนี้สักพักก่อนนะ รู้สึกดีจังที่ตื่นมาแล้วเจอคุณนอนข้าง ๆ แบบนี้” พอเขาพูดเธอก็เริ่มคิดได้“ว่าแต่ฉันขึ้นมานอนบนนี้ได้ยังไง”“คุณคงอยากนอนกอดผมมั้ง เลยมุดขึ้นมานอนบนเตียง”“ไม่จริง” เขายิ้ม“ผมตื่นมาเห็นคุณนั่งหลับอยู่ข้างเตียง เลยอุ้มมานอนข้างบนด้วยกัน”“เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่รู้สึกตัว”“เป็นไปแล้ว คุณคงเหนื่อยมาก ขอบคุณนะครับที่ดูแลผม”“คุณมันบ้า ชอบทำให้ทุกคนเป็นห่วง” ใบหน้าคมยิ้มกรุ้มกริ่ม “คนเขาด่ายังจะมีหน้ามายิ้มอีก ฉันลงไปทำข้าวต้มมาให้ก่อน คุณต้องกินยา” เมื่อนึกได้ก็ดีดตัวลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ประตู เขาก็ลุกขึ้นตาม“โอ๊ย” ได้ยินเสียงร้องเขาเท่านั้นแหละร่างบางรีบเดินกลับมาหาทันที“เป็นอะไรไปคะ ปวดหัวเหรอ”“อืม”“รอแป๊บนึง เดี๋ยวฉันมายังไม่ต้องลุกขึ้นนะ รอฉันกลับมาก่อน” เธอสั่งก่อนออกไป -เป็นห่วงผมขนาดนี้ยังใจแข็งอีก-
งานช่วงค่ำกรวัฒน์ยืนแนะนำแขกที่สนใจดอกไม้ที่เขาเพาะ ทั้งที่เป็นงานที่เขาชอบ แต่เขากลับไม่มีสมาธิอยู่กับงานตรงหน้าเลย เพราะใจจดจ่ออยู่แต่กับคนตัวเล็กที่ยืนคุยกับลูกค้าเขามองเธอที่สวยโดดเด่นกว่าบรรดาสาว ๆ ที่อยู่ในงาน เธอสวยจนดึงดูดสายตาทุกคนในงานให้หันไปสนใจที่เธอคนเดียวได้ ช่วงเช้าว่าหนุ่ม ๆ มาวอแวเธอเยอะแล้ว ช่วงเลิกงานยิ่งเยอะกว่าเดิม เพราะคนที่มางานช่วงเช้า ถ่ายรูปเธอไปลงโซเชียล จนมีหลายคนตามมายิ่งเห็นเหล่าหนุ่ม ๆ รายล้อมจนทำให้มองไม่เห็นคนตัวเล็ก เขาก็ทนไม่ไหว เดินพุ่งตรงไปหาเธอแล้วจูงมือพาเธอเดินออกมาจากวงล้อมนั้นทันที โดยไม่แคร์สายตาใครต่อใคร ปล่อยให้พนักงานของเขาดูแลลูกค้าต่อ“คุณกรทำอะไรคะ” เมธาวีถามเสียงขุ่น ที่จู่ ๆ เขาก็ลากเธอออกมา“ผมจะพาคุณกลับบ้าน” เขาบอกเสียงเครียด“ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น”“คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปพักเถอะ” เมธาวีเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจ“แต่นี่งานวันสุดท้ายแล้วนะคะ อีกไม่กี่ชั่วโมงงานก็จบแล้วจะได้พักพร้อมคนอื่น”“แต่ผมทนไม่ไหวแล้
“เมย์เป็นแฟนจริง ๆของผมได้มั้ย”“เดี๋ยวก่อน คุณรู้ตัวรึเปล่าเนี่ย ว่ากำลังพูดอะไรออกมา”“รู้สิ มีสติครบสามสิบสองถ้วน ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกที ผมก็รักคุณหมดใจไปแล้ว” ให้ตายเถอะนี่เขาสารภาพรักเธอหน้าห้องน้ำเนี่ยนะ“แล้วคุณล่ะ รู้สึกยังไงกับผม” เมธาวีพยายามกันตัวออกจากอ้อมกอดเขา“อยู่นิ่ง ๆแบบนี้ก่อน” เขาบอกเสียงนุ่ม ใบหน้าหญิงสาวร้อนผ่าว รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ถ้าจะบอกไปตามตรงว่าเธอเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน มันจะไวไปมั้ยนะไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่เหมือนกัน รู้ตัวอีกทีเธอก็ตกหลุมรักเขาให้แล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็มีผลต่อเธอทั้งนั้น“เมย์คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเงียบไป”เมธาวีสะบัดศีรษะไปมา เขาปล่อยเธอเป็นอิสระ“คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลย” ปากบางเม้มแน่นเข้าหากัน ใบหน้าก้มต่ำ หลบตาไม่มองคนถาม“ขอเวลาให้ฉันคิดหน่อยค่ะ มันเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบคุณตอนนี้”“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าคุณแดงมาก”
ณ งานจัดแสดงสินค้าย่านบางนา วันนี้กรวัฒน์พาเมธาวีมาดูที่จัดดอกไม้ในงานแสดงพันธุ์ไม้ต่าง ๆที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี เขาตั้งใจจะเอาพรรณไม้ที่เพราะเองมาแสดงที่นี่ เนื่องจากเป็นงานใหญ่เลยต้องลงมาดูด้วยตนเอง“ฉันพึ่งเคยมาตอนที่มันโล่งแบบนี้ครั้งแรกเลยค่ะ ปกติแค่มาเดินดูงานที่เขาจัดเสร็จแล้ว”“แสดง3-7วันแต่เราต้องเตรียมงานกันเป็นเดือน ๆ” เธอรู้เพราะเธอได้ช่วยตั้งแต่ขั้นตอนแรก และครั้งนี้เธออาสาออกแบบบูธแสดงสินค้าด้วยตัวเอง“ฉันจะทำให้เต็มที่ไม่ให้คุณผิดหวัง”“ผมจะรอดูนะ” เขาไม่ได้คาดหวังให้เธอทำอลังการอะไร แค่ให้ออกมาตามแบบที่วางไว้ก็โอเคแล้ว เพราะเขาเช่าพื้นที่เยอะที่สุด หวังให้ทุกคนเห็นสิ่งที่เขาพยายามทุ่มเทมานานหลายปี ที่ผ่านมา ทำงานทั้งวันจนลืมไปเลยว่าเขาและเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย บ้างานด้วยกันทั้งคู่“เมย์คุณหิวหรือเปล่า”“ยังค่ะ” จ๊อกก สิ้นเสียงใส ๆ ท้องเจ้ากรรมก็ดังประท้วงต่อหน้าทำเธอเขินเลย เขามองยิ้ม ๆด้วยความเอ็นดู“ผมหิวแล้วเราไปหาอะไรกินกันก่อน ชั้นล่างมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่” บอกพร้อมเดินนำเธอไป แล้วต้องเจอคนที่ไม่อยากเจอ “เฟอรี่!” กรวัฒน์อุทานออกมาเบา ๆ ตั้งใจจะพาเมธาวีหลบแต่ไม่ทัน ถ
“ก็หัวเราะมึงสิวะไอ้กร ชอบเขาขนาดนี้ยังมามัวเก๊กอยู่นั่นแหละ”“ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ”“เออสิ ถามจริงเคยบอกชอบเขาไปหรือยัง”“ไม่เคย แต่กูก็ทำให้เขารู้นะ”“โธ่ ไอ้พ่อพระ มัวแต่รอให้เขาคิดได้เอง ไม่ทันกินกันพอดี ของแบบนี้มันต้องชัดเจนไปเลย บอกเขาไปเลย”“กูกลัวเมย์ไม่ได้คิดแบบกู”“มึงเชื่อกู ชอบก็ไปแสดงความเป็นเจ้าของให้คนอื่นได้รู้ เดินหน้าจีบไปเลยจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดแบบนี้”เขายอมรับว่าหงุดหงิด ไม่สบายใจที่ปล่อยให้เธอไปคนเดียว แต่จะให้เขาคอยตามเธอตลอดในฐานะอะไรล่ะ เขาคิดก่อนจะนึกขึ้นได้ แฟนกำมะลอไง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้น ไวเท่าความคิดตอนนี้เขามาอยู่ที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วและภาพที่เขาเห็นยิ่งทำให้หงุดหงิดเข้าไปอีก แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้ เมธาวียืนคุยกับไอ้หมอหนุ่มนั่น กรวัฒน์ไม่รอช้าเดินกึ่งวิ่งไปแทรกกลางระหว่างสองคนนั้นทันที“เมย์”“พี่กร มาได้ยังไงคะ” หลังตกลงเป็นแฟนกำมะลอเพื่อความสมจริง เธอและเขาต้องเปลี่ยน
เวลาในการประกวดจะอยู่ที่ 72 ชั่วโมง และดอกไม้ที่นำมาใช้ต้องอยู่ต่อไปได้ ถึง 7 วัน ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายมาก เป็นการประกวดที่ใช้เวลายาวนาน และยังเปิดให้ประชาชนเข้าชมถ่ายรูปและร่วมโหวตให้คะแนนแก่ผู้เข้าแข่งขันได้หลังตกแต่งเสร็จเป็นการประกวดที่ได้โชว์ทั้งความสามารถของผู้เข้าแข่งขัน และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ทุกคนได้เข้ามาชม เกิดเป็นแหล่งการค้าให้พ่อค้าแม่ค้าได้มาตั้งแผงขายอาหารให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมงานอีกด้วย หลายวันมานี้เมธาวีตั้งใจแสดงฝีมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ เธอใช้ชีวิตทั้งวันอยู่ที่หน้างาน จนผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจและพร้อมเปิดให้ทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่สำคัญหญิงสาวไม่ลืมที่จะเดินทางไปขอบคุณธนนท์ ที่เขาช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์ที่ขาดไปให้ จนเธอได้สานฝันของตัวเองได้สำเร็จ“คุณเมย์เข้าใจผิดแล้วครับ คนที่จัดการเป็นธุระเรื่องหาฉากมา ไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้กร ผมแค่เป็นคนเอามาส่งให้เท่านั้น หากจะขอบคุณควรไปขอบคุณคนนั้น”“คุณกรเหรอคะ”“ใช่ครับมันโทรให้ผมรีบเอามาให้คุณเมย์ ก่อนมันไปตรวจเมล็ดพันธุ์ที่ญี่ปุ่น” ริมฝีป