ป๊อบมองตามหลังของพิมด้วยแววตาผิดหวัง เขาไม่อยากให้เธอทำงานนี้เลย
เตชินเห็นพิมเปิดประตูลงมาจากรถหรู เขาถึงกับหรี่ตาลง เพ่งมองไปที่รถคันนั้น พิมรีบวิ่งเข้ามาให้ทันเวลาห้านาที เพราะไม่รู้ว่าถ้าเลยห้านาที เตชินจะสรรหาคำใดมาตำหนิเธออีก เธอเป็นคนวิ่งเร็วไม่ถึงห้านาที ก็ถึงหน้าห้องแล้ว เลยยกมือเคาะประตูห้องเขาทันที เตชินที่อยู่ด้านในเอ่ยเสียงเย็นออกมา " ประตูไม่ได้ล็อค " เธอจึงเปิดประตูเข้าไป เดินไปยืนต่อหน้าเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบด้วยสีหน้านิ่งเฉย " ฉันมารายงานตัวตามที่คุณบอกแล้ว ขอตัวค่ะ " พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป แต่ก้าวขายังไม่ถึงสามข้าว เตชินก็หาเรื่องพูดกับเธอเอ่ยถามขึ้นอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม " ใครมาส่งคุณ " " เพื่อนค่ะ " เธอเอ่ยตอบอย่างไวแบบไม่ต้องคิด เตชินเผยอปากแล้วเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้ว ขึ้นเดินเข้ามาหาเธอ " อ้อ เพื่อนคุณเป็นแม่บ้านทีรวยใช้ได้เลยนี่ ขับรถหรูมาส่งซะด้วย " พิมตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะแอบดูอยู่ และไม่รู้ว่า รถของอาจารย์ป๊อบเป็นรถหรู เธอรู้สึกพลาดมากที่พูดออกไปแบบนั้น เธอนิ่งเงียบไป เตชินเห็นดังนั้นจึงเอ่ยต่อว่า " กำลังคิดหาวิธีแก้คำพูดของตัวเองอยู่ล่ะสิ " เธอมองเขาด้วยแววตาไร้อารมณ์แบบสุดๆพร้อมกับพึมพำในใจอย่างหงุดหงิด [ รู้ทันไปซะทุกเรื่องจริงๆ ] แล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาจ้องหน้าเขาอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วเอ่ย " นั่นมันแกร็บคาร์ที่ฉันเรียกมา เพื่อนฉันก็นั่งมาส่งฉันไง " [ แล้วเราจะอธิบายไปทำไม มันเรื่องส่วนตัวหรือเปล่าว้า มันไม่สมเหตุสมผล ] เธอรู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจ ว่าอธิบายให้เขาฟังไปเพื่ออะไร เตชินได้ฟังดังนั้นก็ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ย " คุณรู้ตัวมั้ยว่าคุณน่ะโกหกไม่เนียนเลย " เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง เธอก็เถียงต่อไปแบบข้างๆคูๆ " ฉันไม่ได้โกหก " " คุณยังจะเถียงอีก คุณคิดว่าคนบ้าที่ไหน ซื้อรถหรูมา เพื่อมาขับแกร็บ พูดความจริงมา ใครมาส่งคุณ " พิมเริ่มหงุดหงิดจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ " คุณเตชิน ฉันเป็นลูกจ้างคุณนะคะ ไม่ใช่แฟน คุณจะมาจับผิดฉันเหมือนสามีกำลังจับชู้แบบนี้ไม่ได้ แม้ฉันจะเป็นคนใช้บ้านคุณ ทำสัญญาร่วมกับคุณ แต่ฉันก็ต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง แล้วตามสัญญาก็ระบุชัดเจน ว่าไม่สามารถก้าวก่ายหรือละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล ได้ ดังนั้นฉันจะไปไหน ทำอะไร กับใครก็ได้ทั้งนั้นค่ะ จบนะคะ " เอ่ยจบเธอก็เดินออกจากห้องของเตชินไปโดยไม่สนใจอะไรอีก เตชินยืนอึ้ง เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ เหมือนได้สติขึ้นมาทันที ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ชอบใจที่เห็นเธอลงจากรถหรูคันนั้น ส่วนพิมเธอไม่รู้หรอกว่ารถที่เธอนั่งมานั้น มีราคาที่แพงแสนแพง เป็นรถหรูที่มีไม่กี่คันในไทย เตชินเดินไปที่เตียงแล้วล้มตัวนอน ด้วยสีหน้าครุ่นคิดแล้วพึมพำกับตัวเอง " นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย ที่เธอพูดก็ถูกแล้วนี่ เธอเป็นแม่บ้าน เป็นแค่สาวใช้ จะไปอยากรู้เรื่องเธอทำไม เรากลายเป็นคนอยากรู้เรื่องของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน " จากนั้นเขาก็เข้าไปในผ้าห่ม ปิดไฟ หลับตาลง แต่กลับนอนไม่หลับ ภาพที่พิมลงจากรถหรูก็ลอยมา เมื่อคิดได้ว่าพิมอยู่ในรถคันนั้นอยู่นานเป็นสิบๆนาที เขาก็นอนไม่หลับอีกต่อไป หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาพิม แต่นั่งคิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ จึงตัดสินใจลงจากเตียงแล้วเดินออกจากห้อง เพื่อลงไปถามเรื่องที่กวนใจ ทำให้เขานอนไม่หลับ พิมกลับเข้าไปในห้อง นั่งนึกถึงตอนที่อาจารย์ ป๊อบของเธอ สารภาพรักกับเธอ เธอนั่งยิ้มอย่างมีความสุขที่ฝันของเธอเป็นจริงแล้ว จากนั้นก็ลุกไปอาบน้ำด้วยสีหน้าชื่นบานอย่างอารมณ์ดี เตชินยืนอยู่หน้าห้องพิม แล้วเคาะประตูสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดจากข้างใน คิดว่าเธอจงใจไม่ตอบเขา เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมา แล้วอยู่ๆความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา [ หรือว่าเธอจะหนีตามผู้ชายไปแล้ว ] เพื่อความแน่ใจ ว่าตัวเองไม่ได้คิดมากไป เขาจึงเดินไปหยิบกุญแจบ้าน แล้วเดินมาเปิดประตูห้องพิม เมื่อเข้ามาในห้องแล้วไม่เห็นพิม ก็คิดว่าเธอหนีไปกับผู้ชายแล้วจริงๆ พิมที่อาบน้ำอย่างอารมณ์ดี เดินออกมาจากห้องน้ำ ทันทีเห็นแผ่นหลังของผู้ชายเธอตกใจกรี๊ดลั่นบ้านทันที เตชินเองก็ตกใจเสียงกรี๊ด จึงหันขวับไปทางที่มาของเสียง พร้อมกับเข้าไปประชิด ปิดปากเธอเอาไว้ ดันตัวเธอแนบชิดผนังห้องทันที พิมเบิกตากว้างกว่าเดิมด้วยความตกใจ จนตัวใจเต้นตุบๆ แทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เมื่อคนตรงหน้าคือเตชินนายจ้างของเธอ เตชินมองร่างระหง กับสัมผัสนุ่มๆที่รู้สึกได้จากท่อนแขนที่ดันคนไว้ก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ผิวขาวเนียนละเอียด ไหปลาร้าเรียวสวย เซ็กซี่น่าหลงไหล ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใบหน้าเรียวเล็กเท่าฝ่ามือ ขาวใส เนียนละเอียดดุจไข่มุก ถูกปิดไปครึ่งหน้าด้วยฝ่ามือเขา พิมยืนนิ่งไม่กล้าขยับ มือเล็กๆจับผ้าเช็ดตัวตรงหน้าอกไว้แน่นเพราะกลัวผ้าหลุด เตชินเผลอเอ่ยออกมาอย่างลืมตัว แววตาหลงไหลความงามที่อยู่ตรงหน้า " สวยมาก " แล้วมือเขาก็ค่อยๆขยับไปสัมผัสเอวบางของเธอเบาๆ ก้มลงจูบริมฝีปากอวบอิ่มที่ดึงดูดความต้องการของเขาจนยากจะหักห้ามใจไหว เขาเป็นผู้ชาย เมื่อมีสิ่งล่อตาล่อใจ ก็ยากที่จะไม่หลงไหลหรือเคลิบเคลิ้มไปกับมัน และในตอนนี้มีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดนอน กำลังผงาดพร้อมที่จะทำงานเต็มที จนพิมรู้สึกได้ แต่ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้ หากเธอปล่อยมือใดมือหนึ่งไป ผ้าเช็ดตัวต้องหลุดแน่ ซึ่งเธอก็ไม่กล้าเสี่ยง ตอนนี้เธอหวังแค่เขาถอนริมฝีปากออกจากปากเธอก็ถือว่าบุญแล้ว ร่างสูงใหญ่ของเตชินจับร่างระหงเข้ามาแนบชิดกับสิ่งที่กำลังผงาดอยู่ เขาแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว แต่ก็อยากจูบริมฝีปากนุ่มนิ่ม จนกว่าจะรู้สึกอิ่มหนำสำราญใจ เพราะยังไง วันนี้ร่างระหงตรงหน้า ก็ต้องตกเป็นของเขาทั้งคืน เขาไม่รีบ เขาอุ้มเธอขึ้นมาแต่ไม่ยอมผละปากออกจากเธอแล้วไปวางเธอลงบนเตียง ลูบคลำไปทั่วร่าง พิมเกรงตัว พยายามจะใช้ขาถีบ ทำให้เขามีสติ เขากลับทับขาเธอไว้แล้วใช้ฝ่ามือสัมผัสร่างกายเธอ เธอพยายามใช้มือดันเขา ตีเขา แต่เหมือนกับมันไม่ระคายเคืองผิวเขาเลย ทั้งยังจับมือเธอขึงไว้เหนือศรีษะด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวของเขา จากนั้นเตชินก็ถอนริมฝีปากออกจากปากเธอมองใบหน้างามที่อยู่ใต้ร่าง ที่ดูหวาดกลัว นัยน์ตาสั่นระริก ร่างกายบิดเกรง เขาจึงเอ่ยว่า " อย่ากลัวเลย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ปล่อยตัวสบายๆนะ ผมจะค่อยๆทำช้าๆโอเคมั้ย " พูดจบก็ก้มลงประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง พิมพยายามตั้งสติ เธอไม่อยากเสียตัวให้กับคนที่เธอไม่ได้รัก และยิ่งไม่ยอมได้ชื่อว่าเป็นลูกจ้างที่ถูกนายจ้างขืนใจเป็นอันขาด เธอจึงรับจูบเขา แสร้งทำเป็นเชื่อฟัง ยื่นมือไปคล้องคอเขาไว้ แล้วยกมือขึ้นจะตีท้ายทอยเขาเหมือนคราวที่แล้ว แต่เตชินกลับรู้ทัน จับมือเธอไว้ แล้วถอน ริมฝีปากออกมายิ้มเยาะแล้วเอ่ย " ผมจะบอกคุณไว้นะ หากคิดจะทำอะไรผม อย่าใช้วิธีซ้ำๆ เข้าใจมั้ย วันนี้ผมอารมณ์ดีจะไม่ลงโทษคุณ เพราะผมต้องการตัวคุณ ขอแค่คุณไม่ดื้อ เชื่อฟัง ผมจะดูแลคุณอย่างดีโดยที่คุณไม่ต้องทำงานบ้านแล้วตกลงมั้ย " คำพูดเขาทำให้เธอโกรธมาก ศักดิ์ศรีความเป็นคนที่มี ถูกเขาย่ำยีด้วยคำพูดและการกระทำที่ต่ำช้า เธออยากจะฆ่าเขาจนใจจะขาด ที่เขาคิดจะเก็บเธอไว้ในฐานะนางบำเรอ [ เลวที่สุด ] เธอตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง จะผลีผลามทำอะไรตามใจไม่ได้ เธอพยายามอดทนทำให้ใจสงบคิดหาวิธีเอาตัวรอดแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น พร้อมกับทำท่ายั่วสวาท ราวกับช่ำชอนในเรื่องอย่างว่า " แต่ฉันมีแฟนแล้ว ฉันเพิ่งจะตกเป็นของเขาเมื่อวาน คุณรับได้เหรอ ที่ฉันไม่บริสุทธิ์แล้ว หากคุณไม่รังเกียจ ฉันยินดีที่จะปรนเปรอคุณแน่นอน ขอแค่คุณเก็บเรื่องของเราไว้เป็นความลับ ฉันจะอยู่กับคุณ คอยสนองความต้องการของคุณทุกวัน แต่มีข้อแม้ ถ้าแฟนฉันกลับมา ขอฉันไปทำให้เขาผ่อนคลายเป็นครั้งคราว ข้อเสนอนี้คุณโอเคมั้ย เราสองคนก็จะได้เสพสุขกันในบ้านอย่างเต็มที่ดีมั้ยคะ " ได้ยินดังนั้น คิ้วของเตชินก็ขมวดเข้าหากันเป็นปม แววตาแสดงความรังเกียจออกมาชัดเจน ที่เธอคิดจะให้เขาเป็นชู้ของเธอ เมื่อนึกถึงจุดประสงค์เดิม ที่เขามาที่ห้องเธอ ก็เพื่อจะมาถามเรื่องที่เธออยู่ในรถนานเป็นสิบๆนาที เขาจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา " คุณทำกับเขาที่ไหน เมื่อไหร่ " พิมนึกถึงตอนที่เขาแอบดูเธอในกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน ตอนที่ป๊อบสารภาพรักกับเธอในรถ เธอคำนวณเวลาดูแล้ว น่าจะใช้เวลานานอยู่ เธอจึงโกหกไปว่า " ฉันก็บอกคุณไปแล้วว่าเมื่อวาน ส่วนทำที่ไหน น่ะเหรอ รอบแรกเราทำกันที่โรงแรม รอบสองก็ทำในรถหน้าบ้านคุณเมื่อวานค่ะ ที่ฉันลงรถช้าก็เพราะเรากำลังทำกันอยู่ คุณรู้มั้ย เขาทำได้ถึงใจมาก ร้อนแรงสุดๆ ตอนนี้ฉันอยากรู้แล้วสิ ว่าถ้าทำกับคุณ ฉันจะมีจุกบ้างมั้ย ตอนนี้ฉันอยากทำกับคุณแล้ว เราอย่ามัวเสียเวลาพูดคุยอีกเลย มาต่อกันเถอะค่ะ " เธอเอามือคล้องคอเขา แล้วทำท่าจะจูบริมฝีปากเขา แต่เตชินกลับผลักเธอออกไปอย่างรังเกียจ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าที่ดูอารมณ์ไม่ดีแบบสุดๆว่า " น่ารังเกียจ " แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องเธอไป หลังจากเขาไปแล้ว พิมพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอก็พอมองออกว่าคนอย่างเตชินที่รักความสะอาด นิสัยเย่อหยิ่ง จองหอง เย็นชาขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์หรอก เพราะเธอสังเกตจาก ตอนงานปาร์ตี้วันเกิด ผู้หญิงคนที่เขาเลือกนั้นดูใสซื่อ บริสุทธิ์ ดูก็รู้ว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่ผ่านมือใคร ดังนั้นเธอจึงมั่นใจ เสี่ยงเดิมพัน โดยการแสร้งทำเป็นร่าน ช่ำชอน มากตัณหา มากประสบการณ์ และร้อนแรงหาใครเทียบ เพื่อให้เตชินรู้สึกขยะแขยง รังเกียจ และไม่สนใจในตัวเธออีกต่อไป ทั้งที่ความจริง เธอกลัวเขาแทบตาย ไม่อยากอยู่บ้านเขาแล้ว อยากจะลาออกแล้วไปจากบ้านหลังทันที แต่เมื่อนึกถึงสัญญาที่เพิ่งเซ็นไปสีหน้าเธอก็หงอยไปเลย เมื่อต้องอยู่จนหมดสัญญา สิ่งเดียวที่จะทำให้เธอรอดจากเงื้อมมือของเตชินคือ ต้องร่าน ต้องแรง ต้องแรด เพื่อให้รอด นี่คือสโลแกนใหม่ของเธอในการอาศัยร่วมชายคาเดียวกันกับเตชิน" ก็สั่งสอนแบบนี้ไง "เคอร์ฟิวจับณชาขึ้นมานั่งบนตักแล้วจูบเธอทันที ณชาตกใจจนดวงตาเบิกกว้างป้าใจเดินเข้ามาส่งพิซซ่าในห้องเจอเข้ากับฉากนี้พอดี แกจึงหมุนตัวหันหลังจะเดินออกไปแบบเงียบๆเคอร์ฟิวถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากณชาแล้วเอ่ย" ป้าไม่ต้องออกไปหรอก คุณณชาเธอหิวจนจะกลืนกินผมอยู่แล้ว "" พี่พูดอะไรน่ะ "เธอเอ่ยอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับทุบตีอกของเขาหนึ่งทีป้าใจยิ้มเจื่อนแล้วหมุนตัวเดินเข้ามาวางพิซซ่าลงบนโต๊ะจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเคอร์ฟิววางณชาลงนั่งข้างๆแล้วเปิดกล่องพิซซ่าออกมาหยิบพิซซ่าขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วเอ่ยกับณชาที่นั่งแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก" หิวไม่ใช่เหรอ อ้าปากสิ "ณชาเหลือบมองเขาอย่างหน้านิ่วแล้วเอ่ยเสียงขุ่น" ฉันทานเองได้ "เธอขยับมือจะหยิบพิซซ่ามาทานเอง แต่เคอร์ฟิวกลับจับมือเธอไว้แล้วเอ่ย" พี่อยากป้อน อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปากพี่จะใช้ปากป้อนแล้วนะ "ณชาได้แต่มองแรงใส่เขาแล้วยอมอ้าปากให้เขาป้อน เขายิ้มแล้วเอ่ย" เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย "เคอร์ฟิวป้อนไปยิ้มไปอย่างพอใจ ณชาทานจนอิ่มลืมความโมโหและความไม่พอใจไปหมดสิ้น แล้วเปลี่ยนม
เช้าวันรุ่งขึ้น ป๊อบกับณัชชาลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้อง แล้วไปเคาะประตูห้องลูกสาวณชาที่ยังหลับอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงเคาะประตูเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วลุกมานั่งหาว จากนั้นก็ลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยท่าทางงัวเงียเธอหาวออกมาอีกครั้ง แล้วยื่นมือไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าพ่อกับแม่กำลังจะออกเดินทางแล้วเธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณพ่อคุณแม่จะไปแล้วเหรอคะ ทำไมไปเช้าจัง "ณัชชายิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต้องไปไกล ลงจากเครื่องเสร็จก็ต้องนั่งรถไปต่ออีกแล้วต่อด้วยนั่งเรือไปเกาะก็ต้องไปให้ทันเวลา พ่อกับแม่แค่จะมาบอกให้ลูกรู้ว่าจะออกไปแล้ว อีกเรื่องนะ เวลาไปเข้าค่ายเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อมด้วย เแล้วก็อาหมวกแก๊ปกับเสื้อแขนยาวไปด้วยนะ "" ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวให้สนุกนะคะ "ณัชชากับป๊อบพยักหน้าเบาๆ จากนั้นป๊อบก็เอ่ยกำชับลูกสาวอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงว่า" เวลาอยู่ในค่ายน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ อย่าไปนั่งใกล้ผู้ชายคนอื่น ยกเว้นพี่เคอร์ฟิวของลูก เข้าใจมั้ย "เขาเป็นพ่อที่ค่อนข้างหวงลูกสาวมากคนหนึ่ง ถึงแม้ลูกสาวเขาจะห้าวๆแต่มันก็ไม่ได้ทำให้พ่ออย่างเขาหวงลูกสาวน้อยลงเลยณชารู้และเข้าใจดีว่
ทุกคนเริ่มจับอุปกรณ์ ทานข้าวกันอย่างเงียบๆ ระหว่างทานข้าวพิมมองหน้าลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้น" เคอร์ฟิว เปิดเทอมแล้วเป็นยังไงบ้าง อยู่โรงเรียนได้เจอกับน้องณชาบ้างมั้ย "เคอร์ฟิวได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอ่อนออกมาแล้วเอ่ยตอบแม่ว่า" ก็ดีครับ อยู่โรงเรียนผมกับน้องอยู่คนละชั้น เรียนกันคนละตึกเลยไม่ค่อยได้เจอกันครับ "เตชินหันมามองลูกชายที่มีใบหน้าหล่อกระชากลากใจราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันกับเขาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ" ยังไงน้องก็เป็นคู่หมั้นลูก ลูกก็ดูแลน้องให้ดีๆอย่าเปิดโอกาสให้หนุ่มคนอื่นมาสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม จนทำให้น้องหวั่นไหวนะลูก ลูกผู้ชายต้องกล้าแสดงตัวหน่อย เข้าใจมั้ย "เคอร์ฟิวเอ่บตอบรับคำด้วยสีหน้าเรียบเฉยเพียงสั้นๆว่า" ครับ "" นี่ คุณสอนอะไรลูกน่ะ หนูณชายังเด็กก็ต้องมีเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายเป็นธรรมดา การหมั้นหมายเป็นการตกลงกันของพวกเรา หากลูกหรือหนูณชาไม่ได้ชอบพอกันก็ต้องยกเลิกไป มันไม่สามารถบังคับกันได้ค่ะ "พิมเอ่ยออกมาตรงๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าลูกชายของเธอนั้นเริ่มแอบณชาเข้าแล้วและจริงจังกับการเป็นคู่หมั้นนี้มากเตชินจึงโต้ตอบกับพิมว่า" ลูกชายเราหล่อแถมยังเป็นปร
พอออกมาจากสนามกอล์ฟ ทั้งสองครอบครัวก็ไปทานข้าวด้วยกัน ในร้านอาหารชื่อดังสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งร้านอาหารสำหรับคนรวยซึ่งตัวอาคารติดด้วยกระจกสะท้อนความร้อน ทำให้คนข้างในสามารถมองเห็นวิวบ้านเมืองและตึกสูงข้างนอกได้อย่างสวยงามในขณะทานข้าวทั้งสองครอบครัวนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข ณชากับเคอร์ฟิวก็นั่งทานข้าวบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อยโดยที่ไม่รบกวนหรือเล่นซนเลย10 ปี ต่อมา.......ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นแหล่งรวมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนอินเตอร์จำนวนมากมีหลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรมและหลากหลายชนชาติมาเรียนร่วมกันเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนต่างทยอยกันเดินออกมาจากอาคารเรียน รอผู้ปกครองมารับบางคนบางกลุ่มที่บ้านใกล้โรงเรียนก็ออกจากโรงเรียนเดินเท้ากลับตามทางฟุตบาทเคอร์ฟิวกับกลุ่มเพื่อนๆกำลังเดินออกมาจากห้องเรียนลงไปยังใต้อาคาร ชุดนักเรียนชายโรงเรียนนี้ ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว เสื้อสูทสีดำ มีตราสัญลักษณ์โรงเรียนปัก มีเน็กไทและกางเกงขายาวลายสก๊อตสีดำส่วนณชาที่เป็นรุ่นน้องของเคอร์ฟิวก็กำลังเดินลงจากอาคารเรียนเช่นกันแต่อยู่คนละตึกในต
ยามเย็นณัชชากับป๊อบลงมาเดินเล่นที่ชายหาด ส่วนลูกสาวก็อยู่กับตายาบนบ้านทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันอย่างโรแมนติก นั่งยาวไปจนถึงช่วงเวลาโพล้เพล้เธอนั่งเอาหัวพิงไหล่ป๊อบแล้วเอ่ย" ฉันมีความสุขจังเลยค่ะ เมื่อก่อนฉันรู้สึกอิจฉาคุณพิมมากที่สามีรักสามีหลงจนยอมตามใจทุกอย่าง "ป๊อบยิ้มอ่อนแล้วเอ่ย" ต่อไปนี้คุณไม่ต้องไปอิจฉาพิมแล้ว เพราะถ้าไม่มีคุณผมก็อยู่ไม่ได้ การลองใจของคุณที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้ว่า ผมก็เป็นสามีที่รักและหลงภรรยามากเช่นกัน ตอนที่คิดว่าคุณไม่อยู่แล้วคุณผมแทบจะเป็นบ้าจนเกือบจะเสียสติไปแล้วรู้มั้ย "" ฉันขอโทษนะ "เธอเอ่ยเสียงอ่อน" ไม่เป็นไรหรอก แค่คุณไม่จากผมไปไหน อยู่กับผม ให้ผมสัมผัส และจับต้องคุณได้แบบนี้ทุกวัน ก็พอแล้ว "ณัชชายิ้มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆสบตากับเขาพร้อมกับเอ่ยอย่างซึ้งใจ" ขอบคุณค่ะ "ป๊อบสบตากับภรรยาอย่างลึกซึ้งแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเธอเบาๆจูบอย่างนุ่มนวลใจเย็น ในหัวใจของทั้งสองเต็มไปด้วยความรักที่บานฉ่ำ ตอนนี้ความปรารถนาของณัชชาเป็นจริงแล้ว เธอมีสามีที่น่ารัก ที่คอยเทคแคร์เอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดีมีลูกสาวที่น่ารัก มีครอบ
ณัชชาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นพ่อกับแม่นั่งจ้องเธอตาเขม็งเธอยิ้มแหยๆออกออกมาพอให้เห็นฟันเล็กน้อยแล้วเดินเบี่ยงไปนั่งลงข้างๆลูก โดยไม่กล้าสบตาพ่อกับแม่อีกเธอจ้องมองใบหน้าแบเบาะอันน่ารักน่าชังที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมแล้วเอ่ย" ณชา สาวน้อยของแม่ แม่คิดถึงลูกที่สุดเลย แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่กับลูก ลูกไม่โกรธแม่ใช่มั้ยคะ น้าพิมกับคุณพ่อดูแลหนูดีมากมั้ยคะ "เด็กน้อยทำปากจู๋ แววตาดูใสแป๋วเปล่งประกายแวววาว ขนตาดกดำยาวสวย ส่งให้ดวงตาสวยมีเสน่ห์สมกับคำชมของเคอร์ฟิวน้อยเด็กน้อยยิ้มแป้นออกมาอย่างไร้เดียงสา ทำให้ผู้เป็นคุณแม่มือใหม่ หลงรักหนักเข้าไปอีก เธอจ้องหน้าลูกด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยต่อว่า" งุ้ยน่ารักน่าชังที่สุดเลย ต่อไปคุณแม่จะไม่ไปไหนแล้วนะคะ คุณแม่จะอยู่กับเบบี๋น้อยทุกวันทุกคืนเลยค่ะ "น้ำเสียงนุ่มนวลของณัชชาทำให้เด็กน้อยสัมผัสได้ถึงไออุ่นรักที่พิเศษกว่าพิมที่เป็นน้ามาก เพราะความเป็นแม่ลูกสามารถสัมผัสได้ผ่านจิตใจและความรู้สึกนั่นเองพ่อของณัชชานั่งยิ้มอ่อนบนโซฟามองลูกสาวด้วยแววตาอบอุ่นส่วนแม่ณัชชาพอเห็นว่าลูกสาวคุยกับลูกนานพอสมควรแล้วเขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงแข็งด้วยสีหน้าจริงจัง" ณัชชาลูกท