ช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่ยังเลี้ยงลูกกันไม่เป็น..ยังดีที่ได้คุณยายของหลานๆมาช่วยในช่วงแรก แต่ท่านก็ไม่ได้อยู่ด้วยตลอดเวลา
เมื่อหนูน้อยดารินในวัย7วันร้องไห้ไม่หยุด..อันธิยาอุ้มเด็กน้อยมือไม้สั่น..แตกต่างจากคนเป็นสามี..ที่ดูจะอุ้มเด็กคล่องเหลือเกิน
'ทำไมพี่มิล..อุ้มเด็กเก่งจัง'ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความสงสัย..ชายหนุ่มผอมสูงส่งยิ้มละไม
'น้องอัญลืมไปแล้วไง..ยายพี่เคยรับฝากเลี้ยงเด็กเล็ก'น้ำเสียงคนพูดอารมณ์ดี..พอเด็กน้อยอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นพ่อ..เสียงร้องไห้..เงียบลงทันที
ใบหน้าเล็กทำปากจุ๊บจิ๊บๆ.. เนื้อตัวเด็กน้อยแดงแจ๋..ดวงตาที่ยังเบิกได้ไม่เต็ม..หรี่ลงสู้แสง
'น้องอายของป๊ะป๋าน่ารักเหลือเกิน'เขาอุ้มพร้อมเดินร้องเพลงกล่อมไปด้วย..ทิ้งให้คนเป็นเมียมองตาปริบๆ..ชักอิจฉาลูกสาวตัวน้อยเหลือเกิน
'มองแบบนั้นคืออะไรคะยัยตัวเล็ก'เสียงพี่ชายข้างบ้านหันมาแซว..ตอนที่เห็นคนเป็นเมียมองตาละห้อย
'ตั้งแต่มีลูก..เหมือนพี่มิลรักอัญน้อยลงเลย'ฮอร์โมนหลังคลอดลูกทำงานทันที..ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเริ่มยู่ยี่เตรียมร้องไห้
'โอ้ย..เด็กบ้า..พี่ก็รักเราเหมือนเดิมแหละ'เขาพูดพร้อมวางลูกสาววัยแรกเกิดลงเบาะ..ก่อนหันมาจุ๊บเหม่งน้อยๆของเมียรัก
'แน่นะ..พี่มิลต้องรักอัญเป็นอันดับ1นะ..ห้ามรักใครมากกว่าหนู..แม้แต่ลูกก็ไม่ได้!!'
ไอ้คนหลงผัวยังพร่ำเพ้อไม่เลิก..ชายหนุ่มที่อีก1ปีจะเรียนจบรีบรับคำ..ส่งผลให้มนุษย์แม่ยิ้มได้
'น้องอัญหิวยัง..เดี๋ยวพี่ไปเอาข้าวมาให้'
สามีแสนดีไม่พูดเปล่าเตรียมไปยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงเตียง..เขาสงสารเธอที่ต้องมานั่งปั๊มนมทุก3ชั่วโมง..ไหนจะตื่นขึ้นมาให้นมลูกด้วย..แทบไม่ได้หลับได้นอน..ชายหนุ่มเคยบอกเมียรักว่า
'น้องอัญไม่ต้องให้นมแม่ก็ได้นะ..จะได้ไม่เหนื่อย'
'ไม่เอาอะ หนูอยากให้นมแม่..น้องอายจะได้มีภูมิ..อีกอย่างจะได้ประหยัดเงินด้วยค่ะ'
เขามองเธออย่างซึ้งใจ..ผู้หญิงตัวเล็ก..แต่ความเสียสละของเธอไม่เล็กตามเลย..เพราะความมักง่ายของเขา..ทำให้น้องน้อยต้องมามีลูกในวัยที่ยังไม่มีความพร้อมอะไรสักอย่าง..เพราะงั้นอะไรที่เขาทำเพื่อเธอได้..เขาพร้อมจะทำทุกอย่าง
พอพ้น6เดือน..เด็กน้อยดารินเริ่มนั่งได้..ป๊ะป๋ามือใหม่เลิกเรียน..มักมารับไม้ต่อดูแลลูกต่อ..ทั้งทำกับข้าว..สอนลูกกินข้าวเอง...เด็กน้อยเองก็รู้ความว่าเกิดมาในครอบครัวฐานะไม่ดี..หนูถึงเลี้ยงง่ายเหลือเกิน..ให้นั่งตรงไหน..ก็มักนั่งเล่นคนเดียวได้..จะร้องไห้แค่เฉพาะเวลาหิว..ง่วง..เหนื่อยเกินไปเท่านั้น
ส่วนไอ้ต้าวตัวเล็กใจไม่เล็ก..พอได้มีคนมาเปลี่ยนมือ..ก็รีบไปอาบน้ำกินข้าว..แต่งหน้าสวยๆ..ไลฟ์ขายเสื้อผ้าต่อ..แต่รอบนี้เธอลองสั่งเสื้อผ้าเด็กจากจีนมาลอง ..นางแบบก็ไม่ใช่ใคร..เด็กน้อยตัวเล็กลูกสาวเธอนั่นเอง
ลูกสาวยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก..โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยได้รูปประกอบด้วยแผงขนตาหนา..ถอดออกจากคนเป็นพ่อ..ใต้ตาข้างซ้ายมีขี้แมลงวันเล็กๆ ผมดำสนิทซึ่งก็เหมือนพ่อนั่นแหละ..ผิวหรือก็ขาวอมชมพู มีเพียงแค่ปากทรงกระจับเท่านั้นที่เหมือนเธอ
'บางทีมนุษย์แม่ก็ปวดใจ..ฉันตั้งท้องมา9 เดือน..ทำไมลูกจ๋า..ถึงไม่เหมือนแม่บ้างเลยนะ'
เด็กหญิงในวัย1ขวบ เริ่มเดินเต๊าะแต๊ะ.. เด็กน้อยหันมายิ้มหวานให้คนเป็นแม่และพ่อตาหยี ..อันธิยาใจแทบละลาย..สำหรับหญิงสาวอะไรที่ว่าดีกับลูกเธอทำแทบทุกอย่าง..แม้สิ่งนั้นจะใช้พลังกาย และเหนื่อยมากกว่าปกติ..เธอก็ยินดี
ข้าวของของลูกอาจไม่ได้แพงที่สุด..แต่ของจำเป็นไม่มีขาด..โดยเฉพาะพวกหนังสือนิทานเด็กที่คุณหมอแนะนำ..ราคาก็แพงหูฉี่..เด็กหญิงดารินมีเป็นของตัวเองไม่น้อย
ตอนกลางคืนส่วนใหญ่เธอจะอ่านนิทานให้ลูกฟัง..บางทีก็เป็นคุณพ่อบ้าง..บรรยากาศก่อนนอนเต็มไปด้วยความอบอุ่น
สำหรับคนทั้งคู่..ที่ต่างมาจาก 'ครอบครัว' ที่ไม่สมบูรณ์..ก็หวังว่าครอบครัวที่กำลังสร้างจะ 'สมบูรณ์' ที่สุด
เด็กหญิงดารินในวัยขวบกว่าๆ เริ่มพูดเป็นคำ..ทั้งเธอและเขาต่างลุ้นกันว่า..คำแรกที่เด็กน้อยจะพูดจะเรียกใครก่อน
พอเจ้าต้าวแก้มยุ้ย..เรียก 'ป๊ะป๋า'
มนุษย์แม่ก็แอบน้อยใจ..ตอนกลางคืนเข้าเต้า..แทบทั้งวันอยู่กับเธอ..แต่เวลาเรียกกับเรียก..'มนุษย์พ่อ' ก่อนคืออะไร?
คุณแม่วัยสาวอยากร้องไห้แล้ว
พอพี่รามิลเรียนจบก็เปลี่ยนงานบ่อยตามประสาผู้ชายไม่สู้งาน..มีแต่รับเป็นไกด์นำเที่ยวตามเกาะทุกวันหยุดที่ดูจะทนทำได้นานสุด..ส่วนเด็กน้อยดารินวัยสองขวบกว่า..น่ารักช่างอ้อนเป็นที่สุด
เด็กน้อยเรียกหา 'ป๊ะป๋าทั้งวัน' คนเป็นพ่อเองก็หลงลูกหนักมาก..สิ่งแรกที่เขากลับบ้านมาคืออาบน้ำอาบท่า..และเลี้ยงลูกต่อ..เป็นแบบนี้แทบทุกวัน
วันนึงลุงไตรเจ้าของจัดกรุ๊ปทัวร์ติดต่อเข้ามา
'ไอ้มิล..อาทิตย์นี้มีกรุ๊ปทั่วกลุ่ม6คน เอ็งสนใจจะไปเป็นไกด์มั้ย'
ชายวัย20ต้นๆ เต็มไปด้วยความลังเล..วันอาทิตย์ตรงกับวันเกิดน้องสาวข้างบ้าน..จริงๆ เขาไม่ค่อยอยากจะรับงานเท่าไร..คุณสามีที่เคารพคุณภรรยายิ่งชีพเลยเอาเรื่องปรึกษาผู้นำครอบครัว
'ไปก็ได้ค่ะพี่..ตอนเย็นก็เจอกันแล้วนี้ค่ะ..จะได้เก็บเงินสำหรับเข้าโรงเรียนอนุบาลให้น้องอายด้วย'เสียงหวานของยัยตัวเล็ก..ทำให้เขาตกลง
'ถ้าย้อนเวลาได้..เธอจะไม่ให้เขาไป'
อันธิยาจำได้วันเกิดปีนั้นอากาศช่วงเช้าสดใส..เธอเตรียมผัก..หมักหมู..อาหารทะเล ทั้งยังโทรนัดแม่มาทำหมูกระทะกินมื้อเย็น..เจ้าตัวเล็กเดินเต๊าะแต๊ะไปมารอบๆบ้าน..บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข
ค่ำๆ ฝนฟ้าเริ่มคะนอง..ฝนหลงฤดูทำให้เธอกังวลใจ..ทำไมสามีเธอถึงยังไม่กลับมานะ..ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มขมวดยุ่ง..เจ้าตัวเล็กเริ่มง่วง เธอเอาเด็กน้อยเข้านอนก่อน
เธอโทรตามเขา..แต่..สายไม่ว่าง..จนดูเหมือนเขาปิดมือถือ..ซึ่งผิดปกติวิสัยของพี่รามิลมาก
'เขาไม่เคย..ไม่รับสายเธอ'
อันธิยาเปลี่ยนใจโทรหาแม่ทันที..คุณนายนกบอกเธอให้รอก่อน..สักพักคุณลุงไตรเจ้าของบริษัททัวร์ก็โทรมาแจ้งข่าวร้าย
'ยัยหนูอัญ..ทำใจดีๆไว้นะลูก..ไอ้มิลมันตกทะเล! ยังหาตัวไม่เจอ'น้ำเสียงปลายสายตระหนก..เสียงแทรกลมพายุไม่ได้หยุด
วันนั้น..เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวกรุงบางคนดื้อ หนีไปถ่ายรูปคนเดียว..จนกลับไม่ทันเวลา..ทำให้เรือต้องออกช้าลง..ประกอบกับพายุเข้ากระทันหัน..ทำให้ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน..เขาลงไปช่วยเด็กน้อยหนึ่งในกรุ๊ปที่ตกทะเล
'ไอ้มิล..ว่ายน้ำเก่ง..ต้องไม่เป็นไรแน่เชื่อลุงนะ'
'...'
ภาพวันวานเก่าๆ ตั้งแต่เรารู้จักกันกลับย้อนมา..เธอ..รู้พี่ชายข้างบ้าน..อ่อนโยนใจดีแค่ไหน
เขามักชอบปกป้อง..เด็กที่ตัวเล็กกว่า..ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่ผู้ชายตัวโต
เขา..ที่ชอบแบ่งปัน..ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนมั่งมี
เขา..ผู้มีน้ำใจ..กับทุกคน..ถ้าบ้านไหนต้องการความช่วยเหลือ..ขอแค่มาขอร้อง..พี่ชายใจดีคนนี้มักไปช่วยเสมอ
เขา..ผู้ปฏิเสธใครไม่เป็น..และคนในชุมชนต่างก็รัก..รวมถึง..เธอที่รักเขานานมาหลายปี..รักตั้งแต่เริ่มจำความได้
แต่มาวันนี้..อันธิยากลับเกลียด 'ความใจดี'ของคนเป็นสามี
เธออยากให้เขา 'เห็นแก่ตัว' บ้าง..ทำไมต้องลงไปช่วยเด็กคนนั้น..ทั้งที่..ที่บ้านก็มี 'ลูกสาว'ตัวน้อยที่รอคอย..ป๊ะป๊ากลับบ้านอยู่...ทำไม?
เธอไม่รู้ว่าช่วงนั้น..ผ่านเวลาที่บอบช้ำมาได้ยังไง..เสียงลูกที่ร้องหาป๊ะป๋าทั้งคืนติดต่อกันหลายเดือน..อ้อมกอดอบอุ่นที่เคยได้รับ..คนที่อยู่เคียงข้างรับฟัง..มาวันนี้..มันไม่มีแล้ว
ความทรมานอีกอย่างคือ..ไม่มีใครพบศพของพี่เขา..เธอได้แต่ภาวนา...ว่าเขายัง 'ไม่ตาย' ..แม้ลึกๆ จะรู้ว่า..มันคือการหลอกตัวเองทั้งเพ
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย