공유

บทที่ 3

작가: ไอศกรีม
ดูเหมือนสวี่ซิงเหอจะเพิ่งเรียกสติกลับคืนมาได้

เขาคงจำได้ว่าปีนั้นมีคนมาสารภาพรักกับฉัน

เขาที่ร้อนรนจนทนไม่ไหว แอบดื่มเหล้าย้อมใจ แล้วขโมยกำไลหยกประจำตระกูลมาเคาะประตูบ้านฉันกลางดึก ร้องห่มร้องไห้โวยวาย แถมยังคุกเข่าอ้อนวอนขอให้ฉันสวมกำไลวงนี้ไว้

เขาขยับเนกไทให้คลายออก ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน: "เมื่อกี้ฉันตื่นเต้นมากไปหน่อย ของ… ที่ฉันให้ไปแล้วไม่มีเหตุผลต้องเอาคืนหรอก... เธอเก็บไว้เถอะ"

"ไม่เป็นไร ฉันจะคืนให้ เดี๋ยวกลับไปเอาที่บ้านมาคืนเดี๋ยวนี้แหละ" ฉันลุกขึ้นยืนพูดแทรก น้ำเสียงราบเรียบ "จะรีบไปรีบมา ไม่ทำให้เสียเวลาหรอก"

ไม่รอให้ใครทันได้ทักท้วง ฉันหยิบกระเป๋าแล้วก้าวยาวๆ เดินออกจากบ้านทันที

ตอนที่ฉันกลับมาพร้อมกับกำไล ขณะที่กำลังจะเคาะประตู ก็ต้องชะงักเพราะเสียงโห่ร้องต้อนรับดังขึ้น...

"ยินดีต้อน..."

รอยยิ้มของสวี่ซิงเหอแข็งค้างทันทีที่เห็นหน้าฉัน "ทำไมเป็นเธอ?"

ดูเหมือนเขาจะคิดไม่ถึงว่าฉันจะกลับมาอีก และคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะเอากำไลมาคืนจริงๆ

เพราะตอนที่ฉันยื่นกำไลใส่มือเขา สวี่ซิงเหอทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่สุดท้ายเขาก็เก็บมันไป แล้วกระซิบข้างหูฉันเบาๆ ว่า:

"เสิ่นจูซิน เห็นแก่ที่เราเป็น 'คู่หู' ที่เข้าขากันได้ดี วันนี้เธออย่ามาสร้างเรื่องให้ฉันนะ"

"หลินอีเขาเป็นผู้หญิง จิตใจอ่อนไหว เธอระวังคำพูดอย่าให้เขาไม่สบายใจล่ะ"

ฉันไม่อยากจะสนใจเขา

หลินอีเป็นผู้หญิง แล้วฉันไม่ใช่หรือไง?

ฉันมองผู้ชายตรงหน้าคนที่ฉันมอบความรักให้มาตลอดช่วงชีวิตวัยรุ่น ความหนาวเหน็บกัดกินหัวใจจนแทบจะกลืนกินฉันไปทั้งตัว

สิบนาทีต่อมา หลินอีก็เดินเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่พร้อมกับแม่สื่อ

พวกผู้ใหญ่คุยกันถูกคอมาก

นี่คงเป็นเหตุผลที่พ่อกับแม่ของฉันต้องมาด้วย

ภายใต้บทสนทนาทักทายที่ดูเรียบง่ายนั้น แฝงไปด้วยการแจกแจงฐานะทางบ้านและอนาคตอย่างชัดเจนกับทางแม่สื่อ

ระหว่างนั้น สวี่ซิงเหอนั่งอยู่ข้างๆ หลินอี ทุกอิริยาบถเต็มไปด้วยความเอาใจใส่

คนอายุเกือบจะสามสิบอยู่แล้ว แต่กลับทำตัวเหมือนหนุ่มน้อยแรกรุ่นที่เพิ่งมีความรัก

ไม่มีที่ว่างสำหรับฉันเลยสักนิด ซึ่งฉันก็ยินดี จะได้หาจังหวะชิ่งหนี

แต่ไม่ทันคาดคิด จู่ๆ หลินอีก็หันมามองฉันด้วยสายตาอ่อนโยน:

"คนนี้คือน้องเสิ่นจูซินใช่ไหม? ได้ยินชื่อเสียงมานาน ดาวคณะศิลปกรรมคนเก่า"

ฉันที่ถูกพาดพิงกะทันหัน รีบโบกมือปฏิเสธ "อ๊ะ ไม่กล้ารับคำชมหรอกค่ะ ก็แค่เพื่อนๆ สมัยเรียนล้อเล่นกันขำๆ เท่านั้นเอง"

ฉันคิดว่าทุกคนคงจะเปลี่ยนเรื่องคุยกันเร็วๆ นี้

แต่หลินอีกลับไม่ยอมจบ: "ล้อเล่นที่ไหนกัน ตอนงานเต้นรำที่เธอเต้นระบำจีนโบราณ วันรุ่งขึ้นหน้าหอพักมีแต่ดอกไม้ที่มีคนเอามาให้เธอเต็มไปหมด"

ไม่รอให้ฉันได้พูดอะไร หลินอีก็เขย่าแขนสวี่ซิงเหออย่างออดอ้อน:

"พวกคุณเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกัน ไม่ได้คบกันหรอกเหรอคะ?”

"ฉันจำได้ว่าตอนนั้นพวกคุณตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ใครๆ ก็คิดว่าพวกคุณต้องได้แต่งงานกันแน่ๆ"

สายตาทุกคู่พุ่งตรงมาที่ฉัน

ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง ผู้หญิงที่ดูไม่มีพิษมีภัยตรงหน้า กลับทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังบางอย่างที่อธิบายไม่ได้

"ยัยนี่น่ะเหรอ" สวี่ซิงเหอมองหลินอี แล้วส่งแอปเปิลที่ปอกเสร็จแล้วให้เธอ "ในสายตาพวกคุณเขาอาจจะเป็นผู้หญิง หรือเป็นนางฟ้าอะไรก็เถอะ"

"แต่สำหรับผม ยัยนี่ก็แค่ทอมบอย เป็นไอ้เพื่อนยากที่ใส่กางเกงตัวเดียวกันมาตั้งแต่เด็ก"

เหมือนนึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้ สวี่ซิงเหอก็หลุดขำออกมา: "คุณไม่รู้หรอก ตอนเด็กๆ เวลายัยเสิ่นจูซินร้องไห้ทีนะ น้ำมูกกับน้ำตาไหลรวมกันมั่วไปหมด"

"ไอ้น้ำมูกย้อยๆ นั่น ถ้าผมไม่ช่วยเช็ดให้ ป่านนี้คงไหลเข้าปากไปแล้ว"

"แล้วยังมีตอนอายุสิบห้าอีกนะ วิ่งวิชาพละจนเป็นลมล้มพับ แถมยังละเมอเพ้อเจ้อ โบกไม้โบกมือมั่วซั่วไปหมด..."

"ฉันมีธุระ ขอตัวกลับก่อนนะคะ" ฉันข่มความโกรธไว้สุดขีด ลุกขึ้นยืนแล้วฝืนยิ้มบางๆ ให้พวกผู้ใหญ่ "เชิญคุยกันตามสบายค่ะ"

หลินอีหันไปมองสวี่ซิงเหอด้วยสีหน้าลำบากใจ "ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ น้องเขาดูไม่พอใจเลย?"

สวี่ซิงเหอถลึงตามองฉันอย่างเกรี้ยวกราด เหมือนจะตำหนิที่ฉันทำลายบรรยากาศ

แต่ไม่รอให้เขาได้อ้าปากด่า ฉันก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน:

"พอดีฉันมีนัดเดทกับแฟนคืนนี้ ขืนไม่รีบไปเดี๋ยวจะไม่ทันเอาน่ะค่ะ"
이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก   บทที่ 10

    "เราเคยคุยกันเรื่องแต่งงานไม่ใช่เหรอ?” "เธอลืมไปแล้วเหรอ? เราเป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกันนะ สัญญาว่าจะแต่งงานกันตอนโต ตอนเล่นพ่อแม่ลูก เธอก็เป็นแม่ ฉันเป็นพ่อ...” "แถมเรายังคบกันเกือบปี ช่วงเวลานั้น เรา... มีความสุขกันมากไม่ใช่เหรอ..."ความเย่อหยิ่งจองหองที่มีเมื่อครู่พังทลายลงจนหมดสิ้น สวี่ซิงเหอเริ่มมีน้ำเสียงสะอื้น: "พวกเรา... เกือบจะได้แต่งงานกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” "ครั้งนี้เธอต้องแกล้งพูดประชดเหมือนคราวที่แล้วแน่ๆ ใช่ไหม?"พ่อตบโต๊ะดังปัง ลุกขึ้นยืนทันที: "นี่แกหมายความว่าซินซินโกหกแกงั้นเรอะ? จะบอกว่าพวกเราทั้งบ้านรวมหัวกันหลอกแกหรือไง?” "ฉีเหยียนน่ะเป็นคนดีมาก ให้เกียรติพวกเราเสมอ ถึงแม้ซินซินจะเพิ่งตอบตกลงคบหากับเขา แต่พวกเราทั้งบ้านก็เชื่อมั่นว่า สองคนนี้จะคบกันไปจนถึงขั้นแต่งงานแน่นอน..."ฉันกลัวพ่อจะโกรธจนล้มป่วย เลยรีบเข้าไปลูบหน้าอกพ่อเบาๆ ให้ใจเย็นลง: "สวี่ซิงเหอ ต่อไปอย่าได้เอาเรื่องสัญญาหมั้นหมายวัยเด็กมาพูดอีกเลย" "มันก็แค่เรื่องล้อเล่นในวงเหล้าของผู้ใหญ่ ถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้" "นายเป็นคนพูดเองนะ ลืมไปแล้วหรือไง?"สุดท้ายงานเลี้ยงก็จบลงอย่างไม่น่าอ

  • ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก   บทที่ 9

    "ส่วนความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอ มันคือ...""สวี่ซิงเหอ" ฉันพูดแทรกด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังคุยกับคนแปลกหน้าที่บังเอิญผ่านมา "เราเป็นแค่ 'คู่หู' กันไม่ใช่เหรอ?” "ขอให้นายเจอคู่หูที่เข้าขากันได้ดีกว่านี้ก็แล้วกัน"ฉันยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ สุดท้ายฉันก็พูดทิ้งท้ายว่า: "เลิกติดต่อฉันได้แล้ว ตอนที่นายลบเพื่อนฉัน นายทำแบบไม่ลังเลเลยนี่ ตอนนี้จะมาตามตื๊อทำไมอีก"ฉันนึกขึ้นได้ เลยเสริมไปอีกคำ: "น่ารำคาญ"ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้เกษียณ หรือเพราะอากาศที่นี่ดีต่อสุขภาพจริงๆ สีหน้าพ่อกับแม่ดูสดใสขึ้นมาก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องกลับไปจัดการเรื่องโอนบ้านช่วงตรุษจีน พวกท่านคงไม่อยากกลับไปแล้ว"งั้นหนูกลับไปจัดการเองก็ได้" ฉันพูดพลางก้มดูเอกสารในมือ "หนูจัดการได้น่า"พ่อกับแม่หันมองหน้ากัน "ช่างเถอะ พ่อกับแม่ไม่วางใจ อีกอย่างบ้านสวี่เขาชวนไปกินข้าววันไหว้ส่งเจ้าด้วย กินเลี้ยงเสร็จแล้วเราค่อยกลับมาฉลองวันส่งท้ายปีเก่าที่นี่ เวลากำลังพอดีเลย"ฉันไม่ได้เจอสวี่ซิงเหอมาเกือบครึ่งปีแล้ว ที่แท้ คนที่ฉันเคยคิดว่าขาดเขาไม่ได้ ก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น"ซินซินมาแล้วเหรอจ๊ะ! สวยขึ้นเป็นกองเลย!" น้าสวี

  • ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก   บทที่ 8

    สวี่ซิงเหอมองสำรวจฉันที่ไร้รอยขีดข่วน: "ทำไมเธอถึงไม่เป็นอะไรเลย? อีกอย่าง นิสัยเธอฉันยังไม่รู้อีกเหรอ? ตอนเด็กๆ ก็ห่วงเล่น ลากฉันไปอยู่สวนสนุกจนพ่อแม่ต้องแจ้งตำรวจ สุดท้ายก็เป็นฉันไม่ใช่เหรอที่ต้องคอยตามเช็ดตามล้างให้ตลอด!" "เธอเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น โกรธที่หลินอีแย่งของของเธอไป... เธอเลยทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้!" "ขอโทษหลินอีเดี๋ยวนี้!"สายตาของผู้คนรอบข้างที่มองมาทางฉัน เต็มไปด้วยความสงสัยและดูถูกเหยียดหยามฉันแค่นหัวเราะออกมาหนึ่งที "ได้สิ ฉันจะขอโทษ"สวี่ซิงเหอมีท่าทีอ่อนลง: "เธอก็บอกเองว่าไม่มีแฟน ครั้งที่แล้วเธอก็แค่ประชดว่า...""ฉันขอโทษนะ" ฉันพึมพำเบาๆ ก่อนจะตะโกนลั่น: "ขอโทษพ่อแกสิ!"ฉันง้างมือเล็งไปที่แก้มอีกข้างของหลินอีที่หลบอยู่หลังสวี่ซิงเหอ แล้วตบฉาดลงไปเต็มแรงฉันสะบัดข้อมือเบาๆ: "เดี๋ยวฉันจะส่งคลิปเสียงลงในกลุ่มแชท"ฉันเสยผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยให้เข้าที่ เผยรอยยิ้มการค้าที่เป็นเอกลักษณ์: "เชิญทุกคนรับฟังและพิจารณากันได้ตามสบายเลยก็แล้วกันนะ"คืนนั้นฉันกลับบ้าน ต่อมาฉันก็นัดไปหาอาจารย์เป็นการส่วนตัว เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ความมั่นใจในใจก็เต็มเปี่ยม ฉ

  • ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก   บทที่ 7

    เธอถือโอกาสสอดแขนคล้องแขนสวี่ซิงเหออย่างเป็นธรรมชาติ แล้วยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ดูอ่อนหวานนุ่มนวลถึงขีดสุดฉันยิ้มตอบตามมารยาท วางขวดไวน์ในมือลงกับพื้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หันกลับไปจดจ่อกับการคุยกับรุ่นพี่ต่อ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่า สวี่ซิงเหอที่อยู่ด้านหลังยังคงจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ละไปไหนไม่ได้ฉันดื่มไวน์แดงไปสองแก้ว แต่สติยังครบถ้วนดี ตอนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ถือโอกาสเติมหน้าไปด้วย เห็นทุกคนคุยกันว่า เดี๋ยวจะพากันไปเยี่ยมอาจารย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาคมนาฏศิลป์ที่ฉันเคารพ สมัยเรียนท่านเอ็นดูฉันมาก ยังไงฉันก็ต้องไปพอเช็คความเป๊ะของเมคอัพเสร็จ ฉันก็ผลักประตูห้องน้ำออกมา…"จูซิน?" หลินอีในชุดเดรสสีขาวปรากฏตัวขึ้นอย่างเฉิดฉายฉันตอบรับ: "สวัสดีค่ะ"จังหวะที่กำลังจะเดินสวนกัน เธอกลับคว้าข้อมือฉันไว้หมับ ฉันเจ็บจนพยายามจะสะบัดออก แต่กลับพบว่าผู้หญิงที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอมคนนี้ แรงเยอะจนน่าตกใจหลินอีมองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าปลอดคน ก็โน้มหน้ามากระซิบข้างหูฉัน: "เธออยู่กินกับสวี่ซิงเหอมาตั้งครึ่งปี พอฉันกลับมาปุ๊บ ทุกอย่างก็พังทลาย เธอคงโกรธมากส

  • ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก   บทที่ 6

    ขอบตาของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีหนึ่งชั่วโมงให้หลัง ฉันตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าในบ้านหลังนี้ไม่มีของชิ้นไหนที่ฉันอยากจะนำติดตัวไปด้วยอีกแล้ว สวี่ซิงเหอก็ทำกับข้าวเสร็จพอดี ยกออกมาวางเต็มโต๊ะ กับข้าวมากมายวางเรียงรายอยู่ตรงหน้าฉันยังแอบคิดในใจว่า บางทีวันหน้าเราอาจจะยังเจอกันในฐานะเพื่อนธรรมดาได้ เพราะถึงยังไงก็มีความผูกพันกันมาตั้งหลายปีฉันยื่นมือออกไป จังหวะที่ตะเกียบกำลังจะคีบอาหาร ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสวี่ซิงเหอตะโกนขึ้นมาว่า "อย่าเพิ่ง!"เขาวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหาอย่างรีบร้อน ก่อนจะยื่นจานแบ่งใบเล็กๆ ทรงกลมให้ฉัน: "เธอกินแค่อย่างละคำก็พอนะ ที่เหลือฉันจะรีบห่อไปให้หลินอีตอนที่มันยังร้อนๆ อยู่"สวี่ซิงเหอชูจานใบจิ๋วที่เส้นผ่าศูนย์กลางยังเล็กกว่าฝ่ามือขึ้นมา: "เธอรีบชิมสิว่าอันไหนอร่อยที่สุด อันไหนอร่อยฉันจะได้ตักไปเยอะหน่อย” "ส่วนอันไหนที่เธอกินแล้วไม่อร่อย ฉันก็จะไม่ห่อไป ทิ้งไว้ให้เธอกินก็แล้วกัน..."เพล้ง! ฉันขว้างตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง มือของเขายังค้างอยู่กลางอากาศฉันลุกขึ้นยืนพรวดพราด ขาเก้าอี้ครูดไปกับพื้นส่งเสียงกรีดแหลมบาดหู น้ำเสียงของฉันสั่นเครือ: "สวี่ซิ

  • ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก   บทที่ 5

    "แต่ว่า..." แม่ขมวดคิ้ว อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร "ซินซิน ลูก..."ฉันก้มลงดูนาฬิกา "เอาหน่าแม่ หนูพูดจริงนะ" "หนูสบายดีแล้วก็มีสติครบถ้วน ไม่ต้องห่วงหนูหรอก" "พ่อกับแม่ต่างหากที่ควรจะห่วงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ต้องใช้ได้แล้ว"ฉันจุ๊บแก้มแม่เบาๆ "หนูมีธุระ ขอตัวก่อนนะคะ"พอคิดว่าเวลาและการจากลาอาจจะช่วยเยียวยาแผลใจได้ จิตใจฉันก็สงบลงมาก ความรักที่ฉันมีให้อย่างศรัทธาและร้อนแรง แม้จะไม่ได้เอ่ยปากบอกออกไป แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียหน้าเดิมฉันคิดว่าฉันกับสวี่ซิงเหอจะจากกันด้วยดี แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ฉันจะเข้าห้องไม่ได้ฉันยืนอยู่หน้าประตู กดรหัสผ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า[รหัสผิดพลาด] [รหัสผิดพลาด] ......ไฟโทสะลุกโชนขึ้นในใจทันที หลังจากเคาะประตูแล้วไม่มีคนตอบ สติก็เริ่มกลับมา ฉันถึงเพิ่งนึกได้ว่าควรโทรหาสวี่ซิงเหอสัญญาณสายไม่ว่างดัง ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด แล้วสายก็ตัดไป พอฉันโทรสายที่ห้า สวี่ซิงเหอก็ส่งข้อความมา: [เดทอยู่ ห้ามกวน]ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ กลั้นใจไม่ให้สบถคำหยาบออกมา แล้วพิมพ์กลับไป: [รหัสผ่าน]วินาทีถัดมา เครื่องหมายตกใจสีแดงตัวเบ้อเริ่มก็ทิ่มแทงนัยน์ตาฉัน สวี่ซิงเห

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status