Short
ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก

ผิดสัญญารักเพื่อนสมัยเด็ก

By:  ไอศกรีมCompleted
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
10Chapters
271views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ตอนที่พ่อแม่โทรมาบอกว่า ให้ฉันไปดูหน้าคู่ดูตัวของเพื่อนสมัยเด็กที่บ้านของเขานั้น เจ้าเพื่อนสมัยเด็กคนนี้กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างกายฉัน ฉันนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่น จึงกระซิบพูดเบาๆ ว่า "สวี่ซิงเหอ พวกเขาบอกว่าจะหาคู่ดูตัวให้นายด้วยล่ะ" เขาครางรับ "อืม" ในลำคออย่างงัวเงีย ก่อนจะรวบตัวฉันเข้าไปกอด "ซินซินเด็กดี เดี๋ยวเธอช่วยหาชุดให้ฉันสักชุดนะ แล้วก็ช่วยเซ็ตผมให้ฉันด้วย" พอเห็นฉันตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน สวี่ซิงเหอก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแค่นหัวเราะ: "เดี๋ยวนะ เป็นอะไรไป? เราสองคนก็เป็นแค่คู่นอนกันไม่ใช่เหรอ เธอคงไม่ได้คิดว่าฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆ หรอกนะ?"

View More

Latest chapter

More Chapters
No Comments
10 Chapters
บทที่ 1
ตอนที่พ่อแม่โทรมาบอกว่า ให้ฉันไปดูหน้าคู่ดูตัวของเพื่อนสมัยเด็กที่บ้านของเขานั้น เจ้าเพื่อนสมัยเด็กคนนี้กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างกายฉันฉันนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่น จึงกระซิบพูดเบาๆ ว่า "สวี่ซิงเหอ พวกเขาบอกว่าจะหาคู่ดูตัวให้นายด้วยล่ะ"เขาครางรับ "อืม" ในลำคออย่างงัวเงีย ก่อนจะรวบตัวฉันเข้าไปกอด "ซินซินเด็กดี เดี๋ยวเธอช่วยหาชุดให้ฉันสักชุดนะ แล้วก็ช่วยเซ็ตผมให้ฉันด้วย"พอเห็นฉันตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน สวี่ซิงเหอก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแค่นหัวเราะ: "เดี๋ยวนะ เป็นอะไรไป? เราสองคนก็เป็นแค่คู่นอนกันไม่ใช่เหรอ เธอคงไม่ได้คิดว่าฉันจะแต่งงานกับเธอจริงๆ หรอกนะ?"ฉันตั้งตัวไม่ทัน ทำได้เพียงขยับตัวกลบเกลื่อนความกระอักกระอ่วนฉันไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับสวี่ซิงเหอ จึงผลักเขาออก แล้วก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่"เสิ่นจูซิน มองหน้าฉันสิ" สวี่ซิงเหอใช้มือเท้าคางมองมา แววตาฉายแววหยอกเย้า "เธอคงไม่ได้คิดไปเองจริงๆ หรอกนะว่าเราเป็นแฟนกัน?"ในหัวของฉันมีแต่คำว่า 'คู่นอน' วนเวียนอยู่ มือไม้สั่นจนติดตะขอชุดชั้นในไม่ติดสักทีสวี่ซิงเหอดึงผ้าห่มออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อเอวที่ผอมเพรียว
Read more
บทที่ 2
ทันใดนั้นแม่ก็เปลี่ยนเรื่องพูด: "จริงสิซินซิน คือว่า... เดี๋ยวคู่ดูตัวของซิงเหอจะมาแล้วนะ ครั้งนี้คุณลุงสวี่กับทุกคนให้ความสำคัญมาก เห็นว่าซิงเหอวางแผนเตรียมการมานานแล้ว ซิงเหอยังบอกอีกว่า กลัวฝ่ายหญิงเขาจะอึดอัด ถ้ามีลูกที่เป็นผู้หญิงอยู่ด้วย เธอคงจะไม่เกร็งเท่าไหร่""แม่กับน้าสวี่สนิทกันมาตั้งกี่ปี วันนี้มาแล้วก็เลย..." แม่มองหน้าฉันอย่างลำบากใจ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็กลืนลงคอไปฉันขานรับ "อืม" แล้วฝืนฉีกยิ้มกว้าง: "วางใจเถอะแม่ ก็แค่ช่วยบิ๊วบรรยากาศ พูดเชียร์ๆ หน่อย หนูรู้งานน่า"แม่มองฉันด้วยสายตาปวดใจ ใช่สิ... ก็รูปคู่ของฉันกับสวี่ซิงเหอยังวางอยู่บนหัวเตียง ของทุกชิ้นที่เขาให้ ฉันเก็บรักษาไว้อย่างดีราวกับสมบัติล้ำค่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมุดบันทึกที่เขียนระบายความรักไว้ยิบยับจนปิดไม่มิดเล่มนั้น แม่จะไม่ดูออกได้ยังไง?พวกเราเดินกลับบ้านกันเงียบๆ จังหวะที่เปิดประตูบ้าน ฉันก็พูดโพล่งขึ้นมาว่า: "เดือนหน้าพ่อจะเกษียณแล้ว เราย้ายไปอยู่ที่ไห่หนานกันเถอะค่ะ"ฉันมองแม่ที่กำลังตกตะลึง แล้วยิ้มอ้อนวอน: "ก็พ่อกับแม่วางแผนจะไปเกษียณที่นั่นอยู่ตลอดเลยไม่ใช่เหรอคะ อีกอย่างห
Read more
บทที่ 3
ดูเหมือนสวี่ซิงเหอจะเพิ่งเรียกสติกลับคืนมาได้ เขาคงจำได้ว่าปีนั้นมีคนมาสารภาพรักกับฉัน เขาที่ร้อนรนจนทนไม่ไหว แอบดื่มเหล้าย้อมใจ แล้วขโมยกำไลหยกประจำตระกูลมาเคาะประตูบ้านฉันกลางดึก ร้องห่มร้องไห้โวยวาย แถมยังคุกเข่าอ้อนวอนขอให้ฉันสวมกำไลวงนี้ไว้เขาขยับเนกไทให้คลายออก ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน: "เมื่อกี้ฉันตื่นเต้นมากไปหน่อย ของ… ที่ฉันให้ไปแล้วไม่มีเหตุผลต้องเอาคืนหรอก... เธอเก็บไว้เถอะ""ไม่เป็นไร ฉันจะคืนให้ เดี๋ยวกลับไปเอาที่บ้านมาคืนเดี๋ยวนี้แหละ" ฉันลุกขึ้นยืนพูดแทรก น้ำเสียงราบเรียบ "จะรีบไปรีบมา ไม่ทำให้เสียเวลาหรอก"ไม่รอให้ใครทันได้ทักท้วง ฉันหยิบกระเป๋าแล้วก้าวยาวๆ เดินออกจากบ้านทันทีตอนที่ฉันกลับมาพร้อมกับกำไล ขณะที่กำลังจะเคาะประตู ก็ต้องชะงักเพราะเสียงโห่ร้องต้อนรับดังขึ้น... "ยินดีต้อน..."รอยยิ้มของสวี่ซิงเหอแข็งค้างทันทีที่เห็นหน้าฉัน "ทำไมเป็นเธอ?"ดูเหมือนเขาจะคิดไม่ถึงว่าฉันจะกลับมาอีก และคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะเอากำไลมาคืนจริงๆ เพราะตอนที่ฉันยื่นกำไลใส่มือเขา สวี่ซิงเหอทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่สุดท้ายเขาก็เก็บมันไป แล้วกระซิบข้างหูฉันเบ
Read more
บทที่ 4
"เธอไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?" เท้าซ้ายฉันก้าวพ้นประตูไปแล้วแท้ๆ แต่สวี่ซิงเหอกลับคว้าตัวฉันไว้ "ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง?"ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ แถมยังมีหลินอีอยู่ด้วย หน้าฉันร้อนผ่าวด้วยความอาย ฉันสะบัดตัวออกอย่างแรง: "ฉันจะมีแฟนหรือไม่มีแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?"ฉันตะคอกกลับด้วยความโมโห "พ่อแม่ฉันยังไม่เห็นว่าอะไรเลย นายมายุ่งอะไรด้วย!""ซิงเหอ!" คุณลุงสวี่กดเสียงต่ำ ดุอย่างจริงจัง "นั่งลงเดี๋ยวนี้! ทำตัวไม่รู้กาละเทศะเลย"ฉันถือโอกาสโค้งลาพวกผู้ใหญ่ "คุณลุงคุณน้า สวัสดีค่ะ"เสียงหวานใสแฝงความนัยของหลินอีดังไล่หลังมา: "จูซินสวยขนาดนี้ แถมยังขึ้นเวทีแสดงบ่อยๆ รอบตัวคงมีหนุ่มๆ มาจีบไม่ขาดสายแน่ๆ...” "เรื่องมีแฟนก็คงเป็นเรื่องปกติแหละเนอะ เมื่อกี้ฉันยังเห็นรอยจูบแดงๆ ที่ใต้ผ้าพันคอของน้องเขาอยู่เลย"เหมือนจะรู้ตัวว่าพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะทำท่าเขินอายแล้วแก้ตัว: "พวกเราเด็กศิลปะนิสัยอาจจะไม่เหมือนกันน่ะค่ะ พวกเราวาดรูปก็จะเงียบๆ เรียบร้อยหน่อย ส่วนพวกเด็กนาฏศิลป์เขาก็จะค่อนข้างเปิดเผยน่ะค่ะ...” "แต่ฉันก็เคารพการตัดสินใจของลูกผู้หญิงทุกคนนะ"หลังจ
Read more
บทที่ 5
"แต่ว่า..." แม่ขมวดคิ้ว อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร "ซินซิน ลูก..."ฉันก้มลงดูนาฬิกา "เอาหน่าแม่ หนูพูดจริงนะ" "หนูสบายดีแล้วก็มีสติครบถ้วน ไม่ต้องห่วงหนูหรอก" "พ่อกับแม่ต่างหากที่ควรจะห่วงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ต้องใช้ได้แล้ว"ฉันจุ๊บแก้มแม่เบาๆ "หนูมีธุระ ขอตัวก่อนนะคะ"พอคิดว่าเวลาและการจากลาอาจจะช่วยเยียวยาแผลใจได้ จิตใจฉันก็สงบลงมาก ความรักที่ฉันมีให้อย่างศรัทธาและร้อนแรง แม้จะไม่ได้เอ่ยปากบอกออกไป แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียหน้าเดิมฉันคิดว่าฉันกับสวี่ซิงเหอจะจากกันด้วยดี แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ฉันจะเข้าห้องไม่ได้ฉันยืนอยู่หน้าประตู กดรหัสผ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า[รหัสผิดพลาด] [รหัสผิดพลาด] ......ไฟโทสะลุกโชนขึ้นในใจทันที หลังจากเคาะประตูแล้วไม่มีคนตอบ สติก็เริ่มกลับมา ฉันถึงเพิ่งนึกได้ว่าควรโทรหาสวี่ซิงเหอสัญญาณสายไม่ว่างดัง ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด แล้วสายก็ตัดไป พอฉันโทรสายที่ห้า สวี่ซิงเหอก็ส่งข้อความมา: [เดทอยู่ ห้ามกวน]ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ กลั้นใจไม่ให้สบถคำหยาบออกมา แล้วพิมพ์กลับไป: [รหัสผ่าน]วินาทีถัดมา เครื่องหมายตกใจสีแดงตัวเบ้อเริ่มก็ทิ่มแทงนัยน์ตาฉัน สวี่ซิงเห
Read more
บทที่ 6
ขอบตาของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีหนึ่งชั่วโมงให้หลัง ฉันตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าในบ้านหลังนี้ไม่มีของชิ้นไหนที่ฉันอยากจะนำติดตัวไปด้วยอีกแล้ว สวี่ซิงเหอก็ทำกับข้าวเสร็จพอดี ยกออกมาวางเต็มโต๊ะ กับข้าวมากมายวางเรียงรายอยู่ตรงหน้าฉันยังแอบคิดในใจว่า บางทีวันหน้าเราอาจจะยังเจอกันในฐานะเพื่อนธรรมดาได้ เพราะถึงยังไงก็มีความผูกพันกันมาตั้งหลายปีฉันยื่นมือออกไป จังหวะที่ตะเกียบกำลังจะคีบอาหาร ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสวี่ซิงเหอตะโกนขึ้นมาว่า "อย่าเพิ่ง!"เขาวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหาอย่างรีบร้อน ก่อนจะยื่นจานแบ่งใบเล็กๆ ทรงกลมให้ฉัน: "เธอกินแค่อย่างละคำก็พอนะ ที่เหลือฉันจะรีบห่อไปให้หลินอีตอนที่มันยังร้อนๆ อยู่"สวี่ซิงเหอชูจานใบจิ๋วที่เส้นผ่าศูนย์กลางยังเล็กกว่าฝ่ามือขึ้นมา: "เธอรีบชิมสิว่าอันไหนอร่อยที่สุด อันไหนอร่อยฉันจะได้ตักไปเยอะหน่อย” "ส่วนอันไหนที่เธอกินแล้วไม่อร่อย ฉันก็จะไม่ห่อไป ทิ้งไว้ให้เธอกินก็แล้วกัน..."เพล้ง! ฉันขว้างตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง มือของเขายังค้างอยู่กลางอากาศฉันลุกขึ้นยืนพรวดพราด ขาเก้าอี้ครูดไปกับพื้นส่งเสียงกรีดแหลมบาดหู น้ำเสียงของฉันสั่นเครือ: "สวี่ซิ
Read more
บทที่ 7
เธอถือโอกาสสอดแขนคล้องแขนสวี่ซิงเหออย่างเป็นธรรมชาติ แล้วยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ดูอ่อนหวานนุ่มนวลถึงขีดสุดฉันยิ้มตอบตามมารยาท วางขวดไวน์ในมือลงกับพื้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หันกลับไปจดจ่อกับการคุยกับรุ่นพี่ต่อ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่า สวี่ซิงเหอที่อยู่ด้านหลังยังคงจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ละไปไหนไม่ได้ฉันดื่มไวน์แดงไปสองแก้ว แต่สติยังครบถ้วนดี ตอนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ถือโอกาสเติมหน้าไปด้วย เห็นทุกคนคุยกันว่า เดี๋ยวจะพากันไปเยี่ยมอาจารย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาคมนาฏศิลป์ที่ฉันเคารพ สมัยเรียนท่านเอ็นดูฉันมาก ยังไงฉันก็ต้องไปพอเช็คความเป๊ะของเมคอัพเสร็จ ฉันก็ผลักประตูห้องน้ำออกมา…"จูซิน?" หลินอีในชุดเดรสสีขาวปรากฏตัวขึ้นอย่างเฉิดฉายฉันตอบรับ: "สวัสดีค่ะ"จังหวะที่กำลังจะเดินสวนกัน เธอกลับคว้าข้อมือฉันไว้หมับ ฉันเจ็บจนพยายามจะสะบัดออก แต่กลับพบว่าผู้หญิงที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอมคนนี้ แรงเยอะจนน่าตกใจหลินอีมองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าปลอดคน ก็โน้มหน้ามากระซิบข้างหูฉัน: "เธออยู่กินกับสวี่ซิงเหอมาตั้งครึ่งปี พอฉันกลับมาปุ๊บ ทุกอย่างก็พังทลาย เธอคงโกรธมากส
Read more
บทที่ 8
สวี่ซิงเหอมองสำรวจฉันที่ไร้รอยขีดข่วน: "ทำไมเธอถึงไม่เป็นอะไรเลย? อีกอย่าง นิสัยเธอฉันยังไม่รู้อีกเหรอ? ตอนเด็กๆ ก็ห่วงเล่น ลากฉันไปอยู่สวนสนุกจนพ่อแม่ต้องแจ้งตำรวจ สุดท้ายก็เป็นฉันไม่ใช่เหรอที่ต้องคอยตามเช็ดตามล้างให้ตลอด!" "เธอเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น โกรธที่หลินอีแย่งของของเธอไป... เธอเลยทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้!" "ขอโทษหลินอีเดี๋ยวนี้!"สายตาของผู้คนรอบข้างที่มองมาทางฉัน เต็มไปด้วยความสงสัยและดูถูกเหยียดหยามฉันแค่นหัวเราะออกมาหนึ่งที "ได้สิ ฉันจะขอโทษ"สวี่ซิงเหอมีท่าทีอ่อนลง: "เธอก็บอกเองว่าไม่มีแฟน ครั้งที่แล้วเธอก็แค่ประชดว่า...""ฉันขอโทษนะ" ฉันพึมพำเบาๆ ก่อนจะตะโกนลั่น: "ขอโทษพ่อแกสิ!"ฉันง้างมือเล็งไปที่แก้มอีกข้างของหลินอีที่หลบอยู่หลังสวี่ซิงเหอ แล้วตบฉาดลงไปเต็มแรงฉันสะบัดข้อมือเบาๆ: "เดี๋ยวฉันจะส่งคลิปเสียงลงในกลุ่มแชท"ฉันเสยผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยให้เข้าที่ เผยรอยยิ้มการค้าที่เป็นเอกลักษณ์: "เชิญทุกคนรับฟังและพิจารณากันได้ตามสบายเลยก็แล้วกันนะ"คืนนั้นฉันกลับบ้าน ต่อมาฉันก็นัดไปหาอาจารย์เป็นการส่วนตัว เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ความมั่นใจในใจก็เต็มเปี่ยม ฉ
Read more
บทที่ 9
"ส่วนความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอ มันคือ...""สวี่ซิงเหอ" ฉันพูดแทรกด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังคุยกับคนแปลกหน้าที่บังเอิญผ่านมา "เราเป็นแค่ 'คู่หู' กันไม่ใช่เหรอ?” "ขอให้นายเจอคู่หูที่เข้าขากันได้ดีกว่านี้ก็แล้วกัน"ฉันยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ สุดท้ายฉันก็พูดทิ้งท้ายว่า: "เลิกติดต่อฉันได้แล้ว ตอนที่นายลบเพื่อนฉัน นายทำแบบไม่ลังเลเลยนี่ ตอนนี้จะมาตามตื๊อทำไมอีก"ฉันนึกขึ้นได้ เลยเสริมไปอีกคำ: "น่ารำคาญ"ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้เกษียณ หรือเพราะอากาศที่นี่ดีต่อสุขภาพจริงๆ สีหน้าพ่อกับแม่ดูสดใสขึ้นมาก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องกลับไปจัดการเรื่องโอนบ้านช่วงตรุษจีน พวกท่านคงไม่อยากกลับไปแล้ว"งั้นหนูกลับไปจัดการเองก็ได้" ฉันพูดพลางก้มดูเอกสารในมือ "หนูจัดการได้น่า"พ่อกับแม่หันมองหน้ากัน "ช่างเถอะ พ่อกับแม่ไม่วางใจ อีกอย่างบ้านสวี่เขาชวนไปกินข้าววันไหว้ส่งเจ้าด้วย กินเลี้ยงเสร็จแล้วเราค่อยกลับมาฉลองวันส่งท้ายปีเก่าที่นี่ เวลากำลังพอดีเลย"ฉันไม่ได้เจอสวี่ซิงเหอมาเกือบครึ่งปีแล้ว ที่แท้ คนที่ฉันเคยคิดว่าขาดเขาไม่ได้ ก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น"ซินซินมาแล้วเหรอจ๊ะ! สวยขึ้นเป็นกองเลย!" น้าสวี
Read more
บทที่ 10
"เราเคยคุยกันเรื่องแต่งงานไม่ใช่เหรอ?” "เธอลืมไปแล้วเหรอ? เราเป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกันนะ สัญญาว่าจะแต่งงานกันตอนโต ตอนเล่นพ่อแม่ลูก เธอก็เป็นแม่ ฉันเป็นพ่อ...” "แถมเรายังคบกันเกือบปี ช่วงเวลานั้น เรา... มีความสุขกันมากไม่ใช่เหรอ..."ความเย่อหยิ่งจองหองที่มีเมื่อครู่พังทลายลงจนหมดสิ้น สวี่ซิงเหอเริ่มมีน้ำเสียงสะอื้น: "พวกเรา... เกือบจะได้แต่งงานกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” "ครั้งนี้เธอต้องแกล้งพูดประชดเหมือนคราวที่แล้วแน่ๆ ใช่ไหม?"พ่อตบโต๊ะดังปัง ลุกขึ้นยืนทันที: "นี่แกหมายความว่าซินซินโกหกแกงั้นเรอะ? จะบอกว่าพวกเราทั้งบ้านรวมหัวกันหลอกแกหรือไง?” "ฉีเหยียนน่ะเป็นคนดีมาก ให้เกียรติพวกเราเสมอ ถึงแม้ซินซินจะเพิ่งตอบตกลงคบหากับเขา แต่พวกเราทั้งบ้านก็เชื่อมั่นว่า สองคนนี้จะคบกันไปจนถึงขั้นแต่งงานแน่นอน..."ฉันกลัวพ่อจะโกรธจนล้มป่วย เลยรีบเข้าไปลูบหน้าอกพ่อเบาๆ ให้ใจเย็นลง: "สวี่ซิงเหอ ต่อไปอย่าได้เอาเรื่องสัญญาหมั้นหมายวัยเด็กมาพูดอีกเลย" "มันก็แค่เรื่องล้อเล่นในวงเหล้าของผู้ใหญ่ ถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้" "นายเป็นคนพูดเองนะ ลืมไปแล้วหรือไง?"สุดท้ายงานเลี้ยงก็จบลงอย่างไม่น่าอ
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status