แชร์

บทที่ 19 十九

ผู้เขียน: PinkyPaw
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-13 11:13:21

ความเย็นชาของภรรยาไม่ได้ทำให้สามีจดจำสักนิด..

วันนี้ดูเทพอสูรจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำกับข้าวไปก็ยังยิ้มไม่หุบจนซวนเฟยกับชิงเหลียงสงสัย

"ทำไมวันนี้นายท่านถึงอารมณ์ดีนักหรือขอรับ" เจ้าครึ่งนกถาม

"เดี๋ยวพวกเจ้าก็รู้" ซีจงจวินไม่ยอมบอก เพียงหันไปตักผัดผักใส่จานส่งให้เจ้าครึ่งงู

เขากะเก็บไว้เป็นความลับ รอกระทั่งถึงตอนเย็นค่อยบอก

..เมื่อคืนก่อน ในห้องห้องหนึ่งซึ่งเมื่อก่อนว่างโล่ง ตอนนี้มีเครื่องเรือนไม้วางตั้งทั้งตู้หนังสือ โต๊ะกว้างตรงกลางห้อง และตั่งยาวตรงข้างหน้าต่าง

จากนั้นก็ขนเอาของของมี่ฮวามาจัดใหม่ วางหนังสือเรียงเป็นระเบียบ ผืนผ้าหลากเนื้อหลายสีถูกพับเก็บเรียบร้อยในลิ้นชักเดียวกับอุปกรณ์เย็บปัก เครื่องเขียนถูกจัดวางบนโต๊ะครบครัน

จากการสังเกตมาสักพักรวมกับที่ถามจากเจ้าอสูรเด็กทำให้รู้ว่าตอนกลางวันมี่ฮวามักจะนั่งเย็บนู่นปักนี่ในห้องชมสวนหรือไม่ก็วาดรูปเขียนกลอน ส่วนตอนกลางคืนก็จะอ่านหนังสือในห้องนอน

ด้วยความอยากเอาใจ ซีจงจวินจึงแอบทยอยขนของของนางมาไว้ให้ และก็กะจะซื้อเพิ่มด้วย

เขาชอบเวลาเห็นภรรยาตั้งใจทำอะไรสักอย่าง แม้จะเป็นงานเล็กๆน้อยๆฆ่าเวลาแต่คนมองก็ยังชุ่มชื่นหัวใจ

นอกจากนี้นางยังทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นมาก เดินไปทางไหนก็มักจะเห็นแจกันใส่ดอกไม้สดที่เปลี่ยนทุกวัน ในสวนก็มีดอกไม้กลิ่นหอมโชยมากับลมพร้อมเสียงใสจากกระดิ่งแขวนหน้าบ้าน

แล้วยังมีของแต่งบ้านสวยๆ ทั้งภาพแขวนลายทิวทัศน์ธรรมชาติที่ซีจงจวินไม่ค่อยจะได้พบเห็น ด้านข้างมีคำกลอนสั้นๆเขียนไว้ มู่ลี่ลูกปัด ผ้าม่านหลากสี ลายสัตว์บ้าง ดอกไม้บ้าง นางนั่งปักนั่งเย็บร้อยเองกับมือ

บ้านนี้มีชีวิตชีวาก็เพราะมี่ฮวามาอยู่.. ซีจงจวินเห็นเป็นเช่นนั้น

จัดสำรับเช้าเสร็จแล้ว เทพอสูรก็ออกไปทำงานตามปกติโดยมีเด็กรับใช้มายืนส่งตรงหน้าบ้าน

...

ที่บันไดขึ้นเขาสวรรค์ยังคงมีเทพอสูรหน้าตาน่ากลัวเฝ้าปากทางอยู่เหมือนเคย

แต่วันนี้บรรยากาศดูต่างไปนิดหน่อย ไม่รู้ซีจงจวินตื่นเต้นอะไรถึงมีท่าทางอยู่ไม่ค่อยสุขเช่นนั้น เดินวนไปมาบ้าง ยืนยิ้มคนเดียวบ้าง

ตงหลิงจวินมองแล้วได้แต่ถอนหายใจส่ายหน้า ตั้งแต่รู้ตัวว่ามีความรักสหายของเขาก็เปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน

เมื่อก่อนซีจงจวินมักทำตัวเป็นก้อนหินหรือไม่ก็เสาเรือน ไม่แสดงสีหน้า พูดจาน้อยคำ ใจเย็นสุขุมมากจนดูคล้ายก้อนน้ำแข็งเดินได้

เดี๋ยวนี้น่ะหรือ ความน่าสะพรึงกลัวมลายสิ้น ไอสังหารที่เคยมีราวกับถูกดูดหายไปจนเกลี้ยง ชอบพูดชอบถาม เปิดปากแต่ละทีหนีไม่พ้นเรื่องของภรรยาสักครั้ง

"มีสิ่งใดน่าตื่นเต้นหรือซีจง" ตงหลิงจวินถามเพราะทนดูคนที่เอาแต่ชะเง้อมองออกไปยังผืนป่าด้วยความร้อนรนไม่ไหว

"ข้ารอพบพี่เป่ยหานกับพี่หนันอี้ขอรับ"

"หืม? เหตุใดเจ้าถึงรอพวกเขาใจจดใจจ่อนัก"

"ข้าวานให้ช่วยเรื่องสำคัญน่ะขอรับ"

เรื่องสำคัญ..?

ตงหลิงจวินขมวดคิ้ว ไม่นาน เมื่อตะวันจะเลิกทอแสง ร่างของเทพอสูรองค์หนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ชายป่า

หนันอี้จวินเหาะลงมา หลังจากเอ่ยทักทายเล็กน้อยก็เริ่มพูดธุระสำคัญทันที

"เอ้านี่ ของที่เจ้าฝากซื้อ" เขายื่นมือออกมา เสกหีบใบใหญ่สองใบวางลงด้านหน้าสหายที่มองมันตาเป็นประกาย

"ขอบคุณพี่หนันอี้ที่ลำบาก คราวหลังข้าต้องตอบแทนท่านแน่นอนขอรับ"

"ตอบแทนอะไรล่ะซีจง เงินก็เงินเจ้าทั้งนั้น ดีเสียอีกนานๆทีข้าจะได้พาเมียกับลูกๆไปเดินเล่นที่ตลาดแดนมารสักครั้ง ลูกๆข้าตื่นเต้นกันใหญ่ แถมยังขอให้พาไปเที่ยวบ่อยๆอีก"

ได้ยินเช่นนั้นซีจงจวินก็ปลื้มใจ สหายของเขาช่างอารีเหลือเกิน

หลังรับของจากหนันอี้จวิน เป่ยหานจวินก็ปรากฏกายขึ้นด้วยสภาพดูอิดโรยเล็กน้อย

"ของที่เจ้าฝากซื้อได้แล้วนะซีจง" พูดจบก็เสกหีบใบใหญ่หนึ่งใบ ใบกลางหนึ่งใบออกมา พร้อมถุงเงินเล็กอีกหนึ่งถุง

"ข้ายังหาซื้อได้ไม่มาก คิดว่าสมควรกลับแล้ว เลยรีบเอามาให้เจ้า นี่คือเงินที่เหลือ"

เป่ยหานจวินยื่นถุงเงินให้ แต่ซีจงจวินโบกมือปฏิเสธ

"ที่เหลือนั่นพี่เป่ยหานรับไปเถิดขอรับ ข้าทำให้ลำบากแล้ว ไม่นึกว่าจะไปกวนเวลาพักผ่อนเช่นนี้"

เห็นหน้าตาที่ดูสดใสน้อยกว่าวันอื่นๆของเป่ยหานจวินก็คิดว่าเพราะตนไปรบกวน

"ไม่เลยๆ เจ้าไม่ได้รบกวนอะไร ข้ากินอิ่มนอนหลับไปหลายชั่วยามเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ที่มีสภาพแบบนี้เพราะเจ้าพวกลูกตัวแสบดันตื่นเต้นที่ได้ไปเที่ยวตลาดแดนเซียนมากเกินไป เล่นซนจนข้ากับเมียไล่จับแทบไม่หวาดไม่ไหว"

ว่าแล้วก็ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย เป่ยหานจวินเป็นหมีภูเขามาก่อนแท้ๆ ไม่รู้เหตุใดถึงมีลูกซนเยี่ยงลิงทโมนไปได้

สุดท้ายซีจงจวินก็ถูกยัดถุงเงินกลับมาใส่มืออยู่ดี เป่ยหานจวินเต็มใจช่วยเหลือไม่คิดอะไรมาก

"ขอบคุณพี่เป่ยหานกับพี่หนันอี้อีกครั้งขอรับ เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว ขอกลับเลยนะขอรับ"

ฉับพลันซีจงจวินหอบหีบทั้งสี่ใบกลับบ้าน ไม่รอสหายที่เหลือกล่าวล่ำลาให้จบคำ

เมื่อเขาหายไปแล้ว ตงหลิงจวินหันมาทำหน้าสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นฉายชัดก่อนอ้าปากถาม

"ซีจงฝากพวกท่านซื้ออะไรหรือ"

"พวกของเล่นฆ่าเวลาน่ะ" หนันอี้จวินตอบ

"ของเล่นอะไรนะ?"

"ก็พวกหนังสือ ตำรา อุปกรณ์เย็บปักถักร้อย เครื่องเขียน อะไรเทือกนั้น" เป่ยหานจวินขยายความ ทำให้ตงหลิงจวินเข้าใจได้ทันที

"อ้อ.. มิน่า ถึงได้รีบร้อนปานนั้น"

"เอาเถิด รักกันใหม่ๆก็เป็นเช่นนี้ ตอนเจ้าแต่งเมียแรกๆแทบไม่มาทำงานเลยไม่ใช่รึ"

หนันอี้จวินแกล้งแหย่ นึกไปถึงเมื่อสองพันปีก่อนที่ตงหลิงจวินแต่งงาน ช่วงนั้นเทพอสูรอินทรีถึงกับปล่อยให้เทพอสูรแมงป่องยืนเฝ้าบันไดสวรรค์ผู้เดียวตั้งหลายเดือน

"มันก็จริงอยู่ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆเช่นนั้น มันออกจะดูแปลกตาไปสักหน่อย"

"ข้าว่าก็ไม่ได้แย่อะไรนักหรอก ซีจงก็ดูจะมีความสุขดีว่าไหม"

เป่ยหานจวินเอ่ยกลั้วหัวเราะ นึกถึงสีหน้าซีจงจวินเมื่อครู่แล้วยังหยุดขำไม่ได้

"แม่นางเซียนของเจ้านั่นอ้อนให้ซื้อของมากมายเช่นนี้ น้ำผึ้งป่าสวรรค์คงหวานสู้ไม่ได้เสียแล้ว"

ตงหลิงจวินเอามือลูบคาง ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะนึกอะไรดีๆออกแล้วยิ้มกว้างเสียจนตาปิด

"เจ้าคิดอะไรแผลงๆขึ้นมาอีกเล่าตงหลิง" เป่ยหานจวินมองแล้วทำหน้าไม่ไว้ใจ

"ไม่ใช่ความคิดแผลงๆ ข้ากำลังนึกวิธีช่วยซีจง ทำให้เมียรักเมียหลงจนไปไหนไม่ได้เลยต่างหาก" ตงหลิงจวินเอ่ย หันมาบอกลาสหายทั้งสองแล้วเหาะขึ้นฟ้ากลางม่านดาราไปบ้าง

ได้แต่หวังว่าวิธีของตงหลิงจวินจะไม่รุนแรงเกินไปนัก..

....

ซีจงจวินกลับถึงเรือน ทำอาหารยกขึ้นโต๊ะเอาใจภรรยาเหมือนเดิม

"ซวนเฟยกับชิงเหลียงบอกว่าเจ้าทำห้องให้ข้า"

มี่ฮวาทักขึ้น คนฟังจึงหันมายิ้มกว้างพร้อมพยักหน้ารับเบาๆ

"ข้ามีของให้ท่านด้วย"

แล้วซีจงจวินก็เสกหีบสี่ใบนั้นออกมาเปิดข้างในให้ชม

หนังสือตำราทั่วสารทิศถูกอัดมาเต็มแน่น แพรพรรณชั้นดีหลายสิบพับ เข็มด้าย ใยนุ่น ไหมพรม ลูกปัด พู่กันอย่างดีหลายขนาด หมึกหลากสีและแท่นฝนมีราคา กระดาษอย่างแพงเป็นปึกๆ

มี่ฮวานั่งพิจารณาของเหล่านั้นครู่หนึ่ง ก่อนช้อนสายตามองคนที่นั่งอยู่ไกลๆ

เทพอสูรตรงมุมห้องกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิดไปว่านางต้องดีใจมากแน่

"ชอบหรือไม่" เขาถาม ดวงตาจดจ้องมาที่นางเป็นประกายระยิบระยับอย่างคาดหวัง

"หมายถึงอะไร"

"ก็..ห้อง กับของพวกนี้"

หัวใจเขาเต้นเร็วเป็นจังหวะระทึก ลุ้นว่าคำตอบจากปากนางจะเป็นเช่นไร

"ชอบ"

คำสั้นๆคำเดียวนั้นทำให้ซีจงจวินภูมิใจเหลือเกิน บรรยากาศยินดีรอบตัวเขาราวกับจะทำให้ดอกไม้ทั้งสวนผลิบานได้

แต่..

"แค่ของเท่านั้น ส่วนคนให้.. ข้าชังนัก"

ฟังเสียงหวานเอ่ยวาจาเชือดเฉือนจบ รอยยิ้มเบิกบานเมื่อครู่สลายไปโดยพลัน

นางยังชังกันอยู่อีกหรือ...

เพราะตรงนี้ไม่มีกระจก ซีจงจวินจึงไม่รู้ว่าสายตาของเขายามก้มต่ำมองพื้น มันดูหม่นหมองเศร้าสร้อยแค่ไหน

แต่มี่ฮวากลับเหยียดยิ้มกับท่าทางของคนผู้นั้น เพราะนางไม่เคยมองเขาในทางที่ดี

คิดว่าสีหน้านั้นเป็นการแสร้งทำ เรียกร้องความสงสาร...

..คิดว่าเอาของมาล่อเท่านี้แล้ว นางจะยอมทำดีตอบอย่างนั้นหรือ หวังสูงเกินไปแล้วซีจงจวิน

"คงไม่ต้องรอให้ข้ายกของหนักๆพวกนี้ไปเก็บเองหรอกนะ"

นางว่าจบ มือหนาทั้งสามคู่ทำงานทันที เทพอสูรยกหีบไม้ทั้งสี่ใบเดินออกจากห้องมาจัดไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้ภรรยาหยิบหาใช้สะดวก

ที่นางไม่ดีใจคงเพราะของเหล่านี้นางมีอยู่แล้ว และมากจนใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด..

แค่หาซื้อมามอบให้ไม่กี่หีบ ไหนเลยจะเทียบได้...

แต่ที่บอกว่าชังนั่นพูดจริงอย่างนั้นหรือ...

ซีจงจวินครุ่นคิด แม้รู้มาตลอดว่าท่าทางของภรรยาที่มีต่อเขามันแสดงออกชัดเจนตั้งแต่วันแรก กระนั้นซีจงจวินกลับนึกว่าหากทำดีด้วยใจจริง นางอาจจะมองเขาใหม่

ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา มีเพียงข้าคนเดียวที่คิดไปเอง รู้สึกมากขึ้นไปเองอย่างนั้นหรือ...

ความเกลียดที่มี มันจะมากเสียจนไม่อาจทลายลงได้เลยหรือ...

แล้วข้าทำสิ่งใดให้เกลียดหรือ...

สุดท้ายซีจงจวินก็เข้านอนไปพร้อมกับความสงสัยที่ต้องเก็บเอาไว้ถามตัวเองเพียงคนเดียว

หลายชั่วยามต่อมา เช้าวันใหม่ก็เริ่มต้นท้องฟ้าด้านนอกเป็นสีม่วงอ่อน พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นแต่สรรพชีวิตต้องลุกมาออกหากิน

เทพอสูรก็เช่นกัน..

ทุกวันเขาจะตื่นขึ้นมารับบรรยากาศวันใหม่อย่างสดชื่น พร้อมกับคิดว่าวันนี้จะเอาใจมี่ฮวาอย่างไรดี

บางวันคิดออก บางวันคิดไม่ออก เป็นเช่นนี้วนเวียนไป ราวกับคนความจำเสื่อม เลอะเลือนจนลืมความเจ็บปวดในวันวานหมดสิ้น

ไม่รู้ว่าลืมจริงๆ..หรือแสร้งทำเป็นไม่นึกถึงเพื่อปกป้องความรู้สึกจากความทุกข์ที่กัดกิน สะสมจากแผลเล็กเป็นแผลใหญ่ตรงกลางใจ..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 72 七十二

    ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 71 七十一

    เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 70 七十

    "ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 69 六十九

    สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 68 六十八

    ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 67 六十七

    เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status