공유

บทที่ 18 十八

작가: PinkyPaw
last update 최신 업데이트: 2024-12-13 11:12:49

สุริยันสาดแสง ซีจงจวินในชุดเกราะเหล็กพร้อมทำงานกำลังยกสำรับขึ้นโต๊ะ โดยมีสัตว์อสูรเดินตามหลังเพื่อเรียนรู้การทำงาน

"ทำไมนายท่านถึงทำกับข้าวเยอะขนาดนี้หรือขอรับ"

อสรพิษธาราเอ่ยถามขณะมองจานสองใบในมือตัวเอง และอีกห้าใบในมือของผู้เป็นนาย ก็ในบ้านมีกันอยู่แค่สองคน แต่นายท่านทำเผื่อเหมือนอยู่กันหกเจ็ดคน

"ข้าอยากให้มี่ฮวาได้กินของดีมากๆไว้"

เขาตอบขณะเรียงจานบนโต๊ะอย่างสวยงามเป็นระเบียบ ก่อนหันมาตั้งเตาอุ่นน้ำชาเล็กๆข้างโต๊ะ

"ของว่างตอนกลางวันอยู่ในครัว หากชากานี้หมดตอนเช้าก็ชงกาใหม่ให้มี่ฮวาด้วย"

"ชงอย่างไรหรือขอรับ"

วิหควายุถาม ซีจงจวินจึงค่อยๆสอนพวกมันไปทีละขั้นตอนจนกว่าจะเข้าใจ เพื่อจะได้ไม่ทำอะไรผิดพลาดตอนรับใช้ภรรยาเขา

"ถ้านางตื่นสายแล้วสำรับพวกนี้เย็นชืด เจ้าก็เอาไปตั้งเตาอุ่นใหม่เสีย น้ำแกงเอาลงหม้อต้มอย่างละใบ อุ่นข้าวใช้หม้ออันนี้ จะผัดของก็อย่าใส่น้ำมันมากเกิน"

ซีจงจวินพาบ่าวทั้งสองมาดูอุปกรณ์ในครัวอีกครั้งพร้อมอธิบายไปด้วย ก่อนจะเปิดเข่งหมั่นโถวนุ่มฟูให้เด็กน้อยดู

เขาหยิบขึ้นมาสองลูก ส่งให้มันคนละลูก เด็กน้อยรับของร้อนในมือมาเป่าแล้วมองผู้เป็นนายตาแป๋ว

"ถ้าหิวก็เอาสิ่งนี้ไปกิน แต่ต้องทำงานเสร็จก่อน เข้าใจหรือไม่"

"เข้าใจขอรับ" วิหควายุและอสรพิษธาราตอบอย่างพร้อมเพรียง ซีจงจวินก็เบาใจ

"ข้าไปทำงานแล้ว ตอนเย็นจะรีบกลับมา พวกเจ้าต้องดูแลบ้านให้ดีและดูแลมี่ฮวาให้ดีที่สุด เข้าใจหรือไม่"

"เข้าใจขอรับ"

กำชับคนรับใช้เสร็จ เทพอสูรหันไปหยิบหมั่นโถวอีกสองลูกเดินออกไปนอกบ้านโดยเร็ว

อสรพิษธารากับวิหควายุมองดูเขาแล้วได้แต่กะพริบตาปริบๆส่งไปเท่านั้น

..เหตุใดนายท่านถึงรีบร้อนนัก ไม่อยู่กินข้าวให้อิ่มทั้งที่ต้องออกไปทำงานทั้งวัน เช่นนี้จะไม่หิวโซก่อนกลับถึงบ้านหรือ..

พวกมันได้แต่คิดในใจขณะหันมองหน้ากัน

...

นายหญิงของบ้านตื่นขึ้นมาตอนช่วงสาย หลังจากอาบน้ำกินข้าวแล้วจึงลุกไปดูแลสวน ลงต้นไม้ใหม่ตรงที่เสียหายในคืนนั้น

เสร็จก็มานั่งพัก เป็นเวลาเดียวกับที่สัตว์อสูรทั้งสองทำงานบ้านเรียบร้อยแล้ว

"พวกเจ้าชื่ออะไรกัน"

นางหันไปพูดกับเด็กสองตัวที่นั่งอยู่ไม่ไกล คนถูกถามมองหน้ากันงงๆก่อนหันมาส่ายหน้าปฏิเสธ

"ไม่มีชื่ออย่างนั้นหรือ"

"ขอรับ นายท่านไม่เคยตั้งชื่อให้พวกข้าน้อยขอรับ"

"แล้วพวกเจ้ามาจากไหน"

"พวกข้าน้อยอาศัยอยู่ด้วยกันกลางป่าขอรับ"

พวกมันชี้ออกไปนอกรั้ว มี่ฮวาขมวดคิ้วสงสัย เพราะเจ้าสองตัวนี้เป็นอสูรต่างเผ่า เหตุใดถึงอาศัยอยู่ด้วยกันได้

"แล้วพ่อแม่ของพวกเจ้าล่ะ"

"ถูกอสูรตัวอื่นฆ่าตายเมื่อสามร้อยปีก่อนขอรับ"

"พวกเราถูกนายท่านช่วยเอาไว้และหาที่อยู่ที่พอจะปลอดภัยให้ขอรับ"

ฟังแล้วก็รู้สึกสงสาร มี่ฮวามองทั้งสองแววตาอ่อนลง ด้วยเนื้อแท้นางเป็นคนรักสัตว์ ส่วนท่าทางที่แสดงเมื่อคืนเป็นแค่การวางท่าต่อหน้าซีจงจวินเท่านั้นเอง

"ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าชื่อซวนเฟย ส่วนเจ้าชื่อชิงเหลียง" นางชี้ไปที่วิหควายุ และอสรพิษธาราตามลำดับ

"ขอบคุณนายหญิงที่เมตตาพวกข้าน้อยขอรับ" ทั้งสองนั่งคุกเข่าก้มหัวพร้อมกัน มี่ฮวามองแล้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดู

จะว่าไป ซีจงจวินก็ความคิดดีใช้ได้..

สุดท้ายมี่ฮวาก็นั่งคุยกับสัตว์อสูรทั้งสองจนหมดวัน ราวกับนางได้เพื่อนใหม่ไว้คลายเหงา

แค่มองดวงตากลมโตของเจ้าสองตัวนี้ก็ทำให้หลงเอาได้ง่ายๆเสียแล้ว

...

เข้ายามโหย่ว ซีจงจวินยังคงยืนเฝ้าหน้าบันไดเขาสวรรค์เหมือนทุกวัน

ในวันแรกที่เขาเหลือแขนเพียงห้าข้าง ทำเอาเพื่อนๆตกใจรีบร้อนถามอย่างเป็นห่วง แต่เมื่อผ่านมาแล้วหลายวัน เห็นว่าเจ้าตัวไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรก็ค่อยโล่งใจบ้าง

ตะวันใกล้ลับฟ้า ซีจงจวินรอคอยเวลากลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อ

"ผู้คุ้มกันประตูสวรรค์ให้เรา เจ้าแห่งชายแดนประจิม จงขึ้นมาหาเราเดี๋ยวนี้"

ใบหูยาวของอสูรแมงป่องกระดิกนิดๆหลังได้ยินเสียงหนึ่งซึ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดี

นั่นคือเสียงของผู้เป็นนาย...

สิ้นเสียงแล้วตงหลิงจวินถึงกับหน้าถอดสีทีเดียว เพราะหมู่นี้ซีจงจวินมักจะถูกเรียกขึ้นไปบ่อยครั้ง แล้วก็กลับลงมาบอกว่าโดนทำโทษอย่างไร

แค่คิดว่าต้องไปกำราบสัตว์อสูรดุร้ายในป่าหลายหน ตงหลิงจวินก็เหนื่อยแทน เพราะมันคือการบุกเดี่ยวออกไปรบกับกองทัพสัตว์ร้ายนับร้อยที่ไม่รู้จักหวาดเกรงอำนาจผู้ใด

ใช่ว่าเขาอ่อนแอ แต่ใครอยากจะเจ็บตัวบ่อยๆกัน โดนเข้าไปครั้งเดียวเป็นตงหลิงจวินคงไม่คิดทำผิดอีกหมื่นปี..

ซีจงจวินเหาะขึ้นเขาไปโดยเร็ว ไร้ซึ่งความลังเล ปล่อยให้สหายมองตามอยู่เบื้องล่าง

เมื่อขึ้นมาถึงแล้ว เทพอสูรแมงป่องคุกเข่าคำนับต่อหน้ามหาเทพทันที

"คารวะมหาเทพ"

เทพผู้อยู่สูงสุดบนเขาสวรรค์มองสายตาเรียบนิ่ง ก่อนเอ่ยกับซีจงจวิน

"เมื่อคืน เจ้านรกมาพบข้า"

เมื่อพูดถึงเจ้านรก ซีจงจวินสะดุ้งเล็กน้อย เกรงว่าตนจะทำอะไรผิดไปอีก

ช่วงนี้เขามัวแต่สนใจเรื่องในบ้านจนแทบจะละเลยหน้าที่ ถึงขั้นไม่รู้เรื่องเลยว่ามีวิญญาณหลุดออกมาเพ่นพ่านข้างบนตั้งหลายวัน

"หมู่นี้เจ้าทำงานแย่ลงนะซีจงจวิน"

"ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ" ซีจงจวินเอาหัวโขกพื้นสามครั้งเพื่อแสดงการขอโทษ

"ช่างเถิด ที่เรียกเจ้ามาวันนี้เราไม่ได้จะลงโทษอะไร"

มหาเทพกล่าวก่อนโบกมือครั้งหนึ่ง ด้านหน้าปรากฏท่อนแขนของซีจงจวินที่ขาดติดไปกับวิญญาณอาฆาตตนนั้น

เขาเบิกตาโตทันทีเมื่อมันลอยมาอยู่ตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆสมานเข้าตรงรอยแผลไหม้เอง

"เจ้านรกฝากข้าให้เอามาคืน บอกว่าของบนโลกอยู่ในภพนั้นไม่ได้"

มหาเทพกล่าวเท่านั้น ซีจงจวินรู้สึกได้ว่าเส้นประสาท กระดูกและกล้ามเนื้อที่แขนกำลังเชื่อมกันจนกลับมาทำงานปกติ

มันกลับมาหาเขาแล้ว...

เทพอสูรดีใจจนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงก้มหัวติดพื้นอีกครั้ง

"ขอบพระทัยมหาเทพ"

"อืม กลับไปทำงานของเจ้าเสีย และอย่าประมาทเลินเล่อ ละเลยหน้าที่จนเดือดร้อนอีก"

"พ่ะย่ะค่ะ"

ซีจงจวินเหาะกลับลงมาด้วยสีหน้าเบิกบาน ตงหลิงจวินเองก็พลอยดีใจไปด้วย

"เห็นเจ้ามีร่างกายสมบูรณ์เช่นนี้ ข้ายินดีกับเจ้าจริงๆ"

"ขอบคุณพี่ตงหลิงที่เป็นห่วง"

"รีบกลับบ้านไปอวดเมียเจ้าสิ นางต้องดีใจมากแน่" ตงหลิงจวินยิ้มกว้าง นั่นทำให้ใจซีจงจวินมีความหวังเอ่อล้น

ไม่ถึงชั่วยามต่อมา เมื่อตะวันลับฟ้า เทพอสูรแมงป่องตรงกลับบ้านอย่างเร่งรีบ

อยากเห็นใบหน้าตอนดีใจของนางเหลือเกิน...

เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านก็พบกับอสูรรับใช้ทั้งสองนั่งคุกเข่ารออยู่บนพื้นหน้าทางเข้า

"ต้อนรับนายท่านขอรับ" พวกมันเอ่ยอย่างพร้อมเพรียง และเมื่อเงยขึ้นก็ต้องทำหน้าตกใจอย่างพร้อมเพรียงเช่นกัน

แขนของนายท่าน.."

ซวนเฟยชี้ปีกของมันไปที่แขนขวากลางของผู้เป็นนาย ส่วนชิงเหลียงก็น้ำตารื้นร่วง

ซีจงจวินเอามือลูบหัวเด็กน้อยเบาๆ พวกมันคงดีใจที่เขากลับมาร่างกายปกติเช่นนี้

"นายหญิงของพวกเจ้าล่ะ" เขาถาม ชิงเหลียงจึงเลื้อยพาไปยังห้องที่มี่ฮวาอยู่

นางอยู่ในห้องที่มีประตูเปิดออกไปชมสวน กำลังจิบชารับลมตรงริมระเบียง เหม่อมองท้องฟ้าซึ่งพระจันทร์เริ่มเลื่อนขึ้นสูง

เมื่อได้ยินเสียงจากข้างหลังก็รู้ว่าซีจงจวินกลับมาจึงหันมอง

สายตานางยังเหมือนเดิม..คือไม่มีความรู้สึกอะไรเลย

เขายืนตรงท่วงท่าสง่าผ่าเผยในชุดเกราะทำงาน แต่สิ่งที่ดูสะดุดตาคือแขนข้างนั้นกลับมาแล้ว

"แขนเจ้างอกใหม่หรือ" มี่ฮวาถามด้วยสีหน้าเฉยเมย ซีจงจวินส่ายหน้าปฏิเสธแล้วยิ้มตอบ

"ท่านเจ้านรกนำมาคืน"

"อ๋อ"

นางรับรู้.. และทำเมิน ไม่เอ่ยสิ่งใดต่ออีก ซีจงจวินก็ยังยืนนิ่งอยู่ท่าเดิมไม่ขยับไปไหน

เขากำลังรอ.. รอด้วยความหวัง...

อย่างน้อย หากนางยิ้มหรือพูดอะไรสักคำ...

"ข้าหิวแล้ว"

"..."

เขาไม่ได้หวังจะได้ยินคำนี้สักหน่อย

"ไม่ได้ยินหรือ"

ซีจงจวินหลุบตาลงอีกครั้ง อยากเรียกร้องอะไรสักอย่าง

...แต่จะให้เรียกร้องอะไรได้เล่า

"ข้าบอกว่าข้าหิว ไม่ได้ยินหรือ!" มี่ฮวาเริ่มขึ้นเสียง หากยังไม่รีบวิ่งเข้าครัวเดี๋ยวนี้ นางคงได้ทุ่มระเบิดใส่เขาแน่ๆ

ซีจงจวินหันหลังกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม เมื่อยกสำรับมาแล้วก็นั่งกินมุมห้อง

ดวงตาฉายแววน้อยใจไม่มีปิดบัง ขณะที่มองสัตว์อสูรทั้งสองปรนนิบัตินางอย่างใกล้ชิด แต่ตัวเขากลับต้องนั่งห่างไปถึงสิบฉื่อ

"ชิงเหลียง รินน้ำชาให้ข้า"

"ขอรับ"

นางตั้งชื่อให้เจ้าครึ่งงูว่าชิงเหลียง...

"ซวนเฟย ตักอันนั้นให้ที"

"ขอรับ"

ส่วนเจ้าครึ่งนกได้ชื่อว่าซวนเฟย...

ใบหูยาวนุ่มดั่งหูวัวลู่ลงข้างใบหน้าด้วยความผิดหวัง เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่..ภรรยาไม่เคยเรียกชื่อเขาสักครั้ง

ซีจงจวินรู้ว่าต่อให้แขนของเขาจะขาดไปอีกสักกี่ข้างนางก็ไม่สนใจ

และในเมื่อตอนมันขาดไม่สนใจ ตอนได้กลับคืนมานางก็คงไม่ยินดีเช่นกัน

เทพอสูรได้แต่เก็บงำความรู้สึกอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้ชื่อเอาไว้ในใจ

ไม่ว่าความรู้สึกนี้จะเป็นอะไร มี่ฮวาก็คงไม่อยากจะรับรู้หรอก...

************

ยามโหย่วคือเวลา 17.00 น. ถึง 19.00 น.

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 72 七十二

    ค่ำวันหนึ่งในวสันตฤดู มี่ฮวามายืนรอสามีหน้าประตูบ้าน เห็นเขากลับช้ากว่าปกติก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาราวสามก้านธูปผ่านไปเขาก็ยังไม่มาทำเอานางร้อนใจไปหมด พวกลูกๆหิวจนทนไม่ไหวเลยพากันกินข้าวเย็นไปก่อนแล้ว เหลือแต่นางที่ยังรอกินพร้อมสามีทำไมถึงชักช้านัก..เพียงหลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏเงาร่างดำๆบนท้องฟ้าตรงหลังบ้าน ซีจงจวินเห็นมี่ฮวามองออกไปยังทางที่เขากลับทุกวันก็แปลกใจ"มี่ฮวา ข้ากลับมาแล้ว"ได้ยินเสียงเรียกนางจึงหันหลังเดินมาหาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง"ไปไหนมา""ข้าไปช่วยสัตว์อสูรอพยพอยู่เลยกลับช้า"ได้ยินคำเขาบอก นางหรี่ตามองเล็กน้อยคล้ายไม่ค่อยพอใจนัก"สัตว์อสูรที่ไหน""ตรงทางไปเขาสวรรค์นั่นแหละ พอดีข้าผ่านไปเห็นว่านางกำลังลำบากกับการย้ายถิ่นเลยช่วยไว้"เขาชี้แจงด้วยสีหน้างง ขณะอีกคนสะดุดใจในประโยคเมื่อครู่ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยอมรามือจากการเค้นถาม"เช่นนั้นก็แล้วไป วันนี้พวกลูกๆหิวจนรอเราไม่ไหว แต่ข้ายังไม่ได้กินข้าวเพราะรอท่าน" นางเข้ามาควงแขนเขาไว้ เอาใบหน้าถูไถออดอ้อนทำเอาสามีต้องอมยิ้มการทำแบบนั้นเขาคิดว่านางตั้งใจทำตัวน่ารัก แต่กลับกันนางกำลังแอบดมกลิ่นที่ติดตัวเขามาต่างหากในใจยังรู

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 71 七十一

    เจ็ดร้อยปีผ่านไป..ซวนเฟยกับกับชิงเหลียงอายุพันสามร้อยปีแล้ว ร่างกายกลายเป็นหนุ่มน้อยไม่ใช่เด็กตัวกะเปี๊ยกอีกต่อไปทั้งคู่ยังคงตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ในเรือนมีนายน้อยและคุณหนูเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคนจนทั้งสองกลายสภาพจากคนรับใช้เป็นพี่เลี้ยงเด็กโดยสมบูรณ์"ถูตรงนั้นให้ดีๆล่ะ"ซวนเฟยสั่งแมวป่าน้อยที่มักจะถูพื้นบ้านด้วยความเร็วเกินไปจนไม่แน่ใจว่าสะอาดจริงหรือไม่"เจ้าค่าาา ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านหัวหน้า" นางตอบกลับมาเสียงประชดเหมือนเคย"เจ้าด้วย บนเพดานยังมีฝุ่นอยู่เลย" คราวนี้หันไปว่าเจ้ากวางผา"ข้าจะปีนขึ้นเช็ดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" อสูรกวางผาตอบก่อนวิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นอย่างเร็วเพราะเจ้านายทั้งสองขยันมีลูกกันมาก เมื่อคนในบ้านเพิ่มงานก็เพิ่มตาม นายท่านจึงไปเสาะหาอสูรรับใช้ใหม่มาทำงานบ้าน ส่วนซวนเฟยกับชิงเหลียงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเฝ้าจับตาดูลูกๆให้เจ้าวิหควายุเดินตรวจความเรียบร้อยตามส่วนต่างๆไปเรื่อย นายท่านของมันได้ขยายเรือนออกไปกว้างกว่าเดิมหลายส่วน ยิ่งทำความดีความชอบปกป้องยุทธภพด้วยแล้ว ยิ่งได้รับประทานรางวัลอย่างงาม ที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้ต้องใช้เวลาเดินตรวจตรานานขึ้น"ซวนเฟย! ซ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 70 七十

    "ท่า..ท่านป้อ!"เด็กน้อยเกอซือชี้นิ้วไปที่บิดา เอ่ยเรียกแล้วยิ้มแป้น แก้มยุ้ยๆขึ้นสีระเรื่อช่างน่าเอ็นดูคนถูกเรียกตาเป็นประกาย อุ้มลูกขึ้นมาไว้ในมืออดใจไม่ได้ต้องจูบแก้มหนักๆสักหลายที"เก่งมากลูกพ่อ"ซีจงจวินดูจะภูมิใจเหลือเกิน มี่ฮวาที่นั่งปักผ้าอยู่ไม่ไกลมองพ่อลูกเล่นกันก็พลอยยิ้มตามไปด้วย"ท่าน..แม่!""จ้า เก่งมากเสี่ยวเกอ"นางยอมวางมือจากเข็มปักผ้าแล้วมาเล่นกับลูกบ้าง เกอซือเริ่มเติบโต ช่างน่ารักน่าเอ็นดู"ท่านตา ท่านยาย ท่านป้า"เกอซือเหมือนพยายามท่องคำที่ถูกสอนมา เสร็จแล้วก็หัวเราะตบมือเพราะคนเหล่านั้นใจดีและรักเกอซือเช่นกันตั้งแต่มี่ฮวาตั้งท้อง พ่อแม่นางมาเที่ยวหาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคลอดเกอซือออกมาตายายก็ดูจะเห่อหลานกันมาก ขยันมาบ้านนี้จนเด็กน้อยจำได้"พ่อจ๋า วันไหนว่างๆเราพาลูกไปเยี่ยมตายายดีหรือไม่"เดี๋ยวนี้สรรพนามที่ใช้เรียกสามีเปลี่ยนไป เพราะทั้งคู่อยากให้ลูกจำได้และเรียกตาม"เช่นนั้นข้าจะทำเรื่องลางานสักสองวัน"ภรรยาว่าอย่างไรเขาไม่เคยขัดอยู่แล้ว ในเมื่อนางอยากพาลูกออกไปเที่ยวเล่นบ้างเขาก็ตามใจดีเหมือนกัน นานๆทีจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นางกับลูกจะได้ไม่เบื่อความอุดอู้ใน

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 69 六十九

    สิบปีต่อจากนั้นมี่ฮวาตั้งครรภ์ครั้งแรก จากที่ได้รับการดูแลอย่างดี ตอนนี้สามีนางแทบไม่ให้ลุกเดินขยับไปไหนเลยด้วยซ้ำซวนเฟยกับชิงเหลียงเองก็ถูกสั่งให้ช่วยกันดูแลนางเป็นพิเศษกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยเสียงร้องอุแว้ดังลั่นเรือน เซียนหมอสตรีมือฉมังจากแดนเทพที่ซีจงจวินไปเชิญเดินออกมาหาพ่อเด็กด้วยสีหน้ายินดี"เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ"นางบอกแล้วยื่นห่อผ้าให้ซีจงจวินอุ้ม เทพอสูรมองหน้าเด็กทารกในมือแล้วแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เด็กคนนี้มีร่างกายเป็นเทพตัวขาวผ่องอมชมพูน่าทะนุถนอม แต่มีลักษณะคล้ายพ่อตรงที่บนหน้าผากมีเขาเล็กๆงอกออกมาสองคู่ ซึ่งมันจะค่อยๆขยายไปตามกาลเวลาซีจงจวินก้มลงหอมแก้มลูกเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาภรรยาในห้องซวนเฟยมีหน้าที่ไปส่งท่านเซียนหมอ ชิงเหลียงช่วยเช็ดตัวให้มี่ฮวา ซีจงจวินนั่งลงข้างเตียงซับเหงื่อให้เล็กน้อยก่อนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากนาง"ลูกเรา"เขายื่นเด็กน้อยให้นาง มี่ฮวารับเด็กที่ร้องไห้จ้าตั้งแต่เมื่อครู่มาไว้ในอ้อมแขน โอ๋กล่อมด้วยความรักใคร่"ตั้งชื่อว่าอะไรดีเจ้าคะ" นางถาม สามีใช้เวลาคิดครู่สั้นๆก่อนตอบเสียงนุ่มทุ้ม"เกอซือ"ได้ยินชื่อนั้นนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ยิ้มให้

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 68 六十八

    ผ่านไปกี่คืนวันแล้วไม่รู้ตั้งแต่ซีจงจวินได้ร่างคืนมา เขาได้เป็นเทพเฝ้าประตูสวรรค์ดังเดิม ทุกวันทำงานตามปกติคล้ายเหตุการณ์เมื่อสี่สิบกว่าปี่ก่อนไม่เคยเกิดขึ้น"ข้ากลับมาแล้ว"ตะวันพึ่งลาลับขอบฟ้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา ร่างเทพอสูรบึกบึนก็มาโผล่หน้าประตูเรียบร้อย น้ำเสียงของซีจงจวินดูร่าเริงมาก ผิดกับตอนเช้าก่อนออกไปทำงานที่จะอิดออดถ่วงเวลาอยู่นั่น"สำรับพร้อมแล้ว"ภรรยาผู้น่ารักเดินออกมาจากห้องอาหาร เนื้อตัวเป็นกลิ่นของคาวหวานคลุ้งไปหมด แต่สามีก็ยังวิ่งเข้ามาสวมกอดหอมฟัดนางเสียจนแทบล้มพับ"กินข้าวอาบน้ำก่อนซีจงจวิน"มี่ฮวาต้องรีบปราม ไม่เช่นนั้นนางจะไม่อาจหลุดจากอุ้งมือพันธนาการของสามีไปได้นับวันซีจงจวินยิ่งทำตัวเหมือนเป็นเด็กเข้าไปทุกที เขาชอบอ้อน ชอบเอาใจ จนบางครั้งมี่ฮวาก็อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนเขารู้ถึงตัวตนด้านนี้บ้างหรือเปล่าซีจงจวินยอมผละออกแต่โดยดี หลังจากถอดชุดเกราะออกแล้วก็มานั่งกินข้าว ไปอาบน้ำ เตรียมเข้านอนพร้อมภรรยาสุดที่รักแต่จะเรียกว่าเข้านอนเลยก็ไม่ได้เพราะก่อนหน้านั้นต้องมีกิจกรรมสำหรับคู่รักเสียก่อนซีจงจวินถึงจะยอมนอน"มี่ฮวา"สัมผัสจากปลายนิ้วสะกิดหลังเบาๆให้นางหันมาห

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 67 六十七

    เป็นจูบที่หวานที่สุดในชีวิตซีจงจวิน พอนางขยับเปิดปากเขาก็สอดลิ้นเข้าไปชิมรสชาติด้านใน กระหวัดเกี่ยวอย่างโหยหาเมื่อตักตวงจนมากพอแล้วมี่ฮวาผลักเขาออกเพื่อพักหายใจเล็กน้อย ดวงตายังสบประสานกันอย่างหวานฉ่ำ"เชื่อหรือยังว่าข้ารักเทพอสูรซีจงจวิน ไม่ใช่จงซีจ้านผู้นั้น"มี่ฮวารู้ว่าที่ซีจงจวินขอให้มหาเทพใส่จิตเขาลงไปในร่างของจงซีจ้านเพราะอะไรคนตอบพยักหน้าเล็กน้อย ช้อนสายตาขึ้นมองนางอย่างเด็กน้อยที่กลัวจะถูกว่าเมื่อทำผิด"ข้า.. เห็นว่าเจ้ายอมนอนกับข้าในร่างจงซีจ้าน เลยคิดว่าหากอยู่ในร่างนั้นเจ้าอาจจะชอบมากกว่า"ซีจงจวินไม่มั่นใจในตัวเองเอามากๆเลยสินะ ถึงได้มีความคิดแบบนี้มี่ฮวาระบายลมหายใจยาว กระเถิบขึ้นไปนั่งบนตักสวมกอดเขาไว้แน่นๆ ซุกหน้ากับแผ่นอกอีกรอบ"ข้าไม่สนว่าจะอยู่ในร่างไหน ขอแค่เป็นท่านก็พอ""เจ้าไม่รังเกียจข้าแล้วใช่หรือไม่""ไม่เลย ข้ากลับชอบด้วยซ้ำเวลาที่ท่านกอดข้าแบบนี้ข้ารู้สึกอบอุ่นปลอดภัย"นางชอบมือทุกข้างที่มอบความรู้สึกหลากหลายให้ มันมีความรักเจืออยู่ในทุกการกระทำร่างกายทั้งคู่ที่แนบชิดบดเบียดกันสร้างความร้อนขึ้นมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าแค่กอดจากนางผู้เป็นที่รักเริ่มไม่เพียงพอเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status