Home / โรแมนติก / ผู้สาวสายฝอ / 2. ปัดวิบากกรรม

Share

2. ปัดวิบากกรรม

last update Last Updated: 2025-05-20 22:06:40

ปัดวิบาก...ตัดกรรม

-----------------------

สุธนเดินเข้าไปในห้องนอนของคนึงนิจ มองสำรวจไปรอบๆ เห็นตุ๊กตาหล่นอยู่ที่พื้นหนึ่งตัว ซึ่งเป็นตัวเดียวกับเมื่อวานที่เขามอบให้เธอ เขาเดินไปหยิบขึ้นมาและมองจ้องเปิดดูเสื้อผ้าที่ใส่เป็นเดรสสีชมพู หน้าตาของตุ๊กตายิ้มสวยกว่าอีกตัวที่เธอเพิ่งเอามาด้วยซ้ำ เขาคิดว่าน่าจะเป็นตัวนี้ที่ส่งเสียงกรี๊ดจนเธอตกใจรีบทิ้งลงพื้นแล้ววิ่งออกมากอดเขา

“ไม่เห็นมีอะไรเลย...นิจ เข้ามาดูสิ ผมอุ้มขึ้นมากอดอยู่” เขากอดตุ๊กตาไว้ที่อกตะโกนออกมา แต่ไม่ได้ยินเสียงของเธอ เลยเดินออกจากห้องเพื่อเอาไปให้ดูว่าไม่มีอะไร

“ไม่ค่ะ...นิจ ขอคืนให้คุณพ่อนะคะ” สาวน้อยแทบไม่อยากมองมันเลย

“หนูว่า...คงจริงอย่างที่พ่อปู่เตือน” คำพูดเธอทำให้สุธนสงสัย

“มีอะไร...รึ”

“ลุงหมอดูเตือนว่าหนูมีเคราะห์ และไม่ควรอยู่ที่บ้าน”

“อย่างมงาย...”

“แล้วตุ๊กตานี่ไปได้จากที่ไหนมาคะ...” เธออยากรู้

“ผมไม่รู้ เพราะลูกน้องใน สน. มอบให้ผู้กำกับ แต่ท่านไม่เอา ดันมาวางไว้บนโต๊ะผม” เขามองหน้าสาวน้อยส่ายหัว

“ไว้เข้า สน.พรุ่งนี้ผมจะถามพวกนั้นดู”

“แล้วจะให้ผมเอาไปไว้ไหนดี...” เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ แต่จะพยายามเอาใจเพื่อให้เธอรู้สึกดีกับเขา

“คุณพ่อ...เอาไปไว้ข้างบนห้องนอนเลยค่ะ หนูคงนอนไม่รับแน่ๆ คืนนี้ พรุ่งนี้คุณพ่อจะกลับบ้านใช่ไหมคะ...”

“ใช่...ทำไม”

“หนูขออนุญาตไม่อยู่บ้านสองวันนะคะ จะไปปัดวิบากที่บ้านพ่อปู่”

“แล้วมีใครไปด้วยไหม...ผมเป็นห่วง” สุธนมองหน้าเธออย่างไม่ค่อยเห็นด้วย

“มีค่ะ...เพื่อนหนูเอง เธอมีปัญหาครอบครัวต้องไปอาบน้ำมนต์ด้วยกัน”

“แล้วเรามีอะไร ต้องไปอาบน้ำมนต์ด้วย ผมไม่เห็นคุณจะมีอะไร”

“พ่อปู่ทักว่าหนูมีเคราะห์ค่ะ...” คำพูดของเธอทำสุธนถอนหายใจ

“เอา...ผมไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามีเหตุร้าย รีบโทรมา จะสั่งให้จ่าไปดู” เขาเริ่มกังวล

“บ้านหมอดูอยู่แถวไหน...” เขาเริ่มไม่ไว้ใจกับคำพูดของสาวน้อย

“แถวบางบัวทอง เส้นทางออกไปสุพรรณบุรี”

“ก็คงแถว สน. ที่ผมรับผิดชอบ มีอะไรให้ช่วย รีบโทรมาทันที” เขาสั่งเธอเสียงเข้ม

เธอบอกน้อยหน่าในไลน์ให้ช่วยหาข้อมูลจากป้าของเธอ เพราะหญิงสาวเริ่มกังวลกับความประหลาดของตุ๊กตาที่รับมา

ทั้งคู่นัดกันที่ร้านขายกาแฟหน้าปากซอยบ้านลุงหมอดู คนึงนิจนั่งรถแท็กซี่ไปเอง เธอตกใจตื่นแต่เช้าเพราะฝันแปลกมาก เธอไม่กล้าเล่าให้สุธนรับรู้เกรงว่าเขาจะไม่สบายใจ

“เรามาถึงตั้งแต่แปดโมง กลัวสายเพราะอยู่ไกล” น้อยหน่ากำลังดื่มกาแฟรอ

“เราไม่ดื่มนะ เมื่อคืนมีเรื่องโคตรน่ากลัว” คนึงนิจเล่าอย่างขนลุก

“เป็นยังไง...” น้อยหน่าทำหน้าตกใจ

“ตุ๊กตาตัวที่มีอยู่ก่อนแล้ว ส่งเสียงกรี๊ดนะสิ” เธอพูดอย่างกังวล

“เฮ้ย...ตกลงรู้ไหมว่าตัวไหน ถ้ามีอยู่หนึ่งตัวก่อนแล้ว มันคงไม่ใช่เพราะเป็นตัวที่ไม่ได้ลงคาถา...จะส่งเสียงได้ยังไง” เพื่อนเธอแย้ง

“นั่นล่ะ...ที่เราตกใจ กำลังเอาตัวที่อุ้มไปเมื่อวานวางข้างตัวที่มีอยู่ก่อนแล้วตรงหัวเตียง ไอ้ตัวที่วางอยู่ก่อนแล้วดันร้องกรี๊ด ฉันตกใจปัดมันกระเด็น วิ่งออกจากห้องแทบบ้า” เธอพูดแล้วยังตกใจไม่หาย

“เราเอากุมารทองไป...ลูกร้องไห้งอแงทั้งคืนเลย วันนี้เอาพี่เลี้ยงกับลูกไปฝากบ้านแม่ตั้งแต่เช้า เราแทบไม่ได้นอน ง่วงสุดๆ กะจะดื่มอีกแก้วนะเนี่ย กลัวหลับตอนทำพิธี” น้อยหน่าก็มีเรื่องประหลาดเหมือนกัน

“แล้วถามป้ารึยัง”

“ป้าเขียนมาบอกสั้นๆ ว่า ลุงคนนี้แกมีญาณวิเศษ รู้อะไรจะเกิดล่วงหน้า และทำนายแม่นมากกก” น้อยหน่าลากเสียงยาว

“เราฝันเมื่อคืนด้วย น่ากลัวอ่ะ” คนึงนิจไม่อยากเล่า เธอตกใจตื่นตอนตีสี่เหงื่อท่วมทั้งที่ห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ

คนึงนิจไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟังเพราะไม่อยากให้เธอตกใจ หรือเพราะเธอเก็บเอาเรื่องที่ลุงหมอดูทำนายไปฝัน

ทั้งคู่ไปถึงหน้าบ้านของลุงหมอดูเกือบเก้าโมงตามนัด มีผู้ชายอายุเกือบหกสิบหน้าตาเหี่ยวแห้งน่ากลัวพอๆ กับลุงหมอดูเมื่อวานออกมาเปิดประตูหน้าบ้านต้อนรับ

“ทำไมไม่เห็นมีใครมาดูหมอเลย เงียบจนวังเวง” น้อยหน่ากระซิบข้างหูของคนึงนิจ

“ดีแล้ว...ไม่ต้องรอนาน แต่คืนนี้เราต้องอยู่ที่นี่ มันน่ากลัวกว่าตอนนี้นะ” สาวน้อยหน้าหวานอย่างคนึงนิจก็ปอดแหกเหมือนกัน

ทั้งสองคนเดินตามลุงคนนี้อ้อมจากด้านหน้าเข้าไปด้านหลังของตัวบ้าน พวกเธอเดินไปตามทางแคบๆ ด้านข้างแล้วไปโผล่เห็นลานหลังบ้านกว้าง เป็นลานซีเมนต์มีห้องน้ำอยู่สามห้องเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้ออาบน้ำ ก่อนที่ลุงหมอดูจะออกมาทำพิธี พวกเธอเห็นสายยางที่เป็นหัวฉีดสปริงถูกต่อเข้ากับก๊อกน้ำซึ่งมีท่อต่อลงในอ่างน้ำซีเมนต์ขนาดใหญ่ที่ทำเป็นคอกสี่เหลี่ยม น้ำจากในอ่างนี้คงถูกส่งตรงเข้าสู่หัวฉีดสปริงเมื่อเปิดก๊อก

“พวกหนูเข้าไปเปลี่ยนเสื้ออาบน้ำในห้องน้ำนั่น แล้วออกมาเตรียมตัว” ลุงหน้าตาเหี่ยวแห้งสั่งสาวทั้งสองคน

“เร็วนะ...พ่อปู่กำลังจะลงมา” พวกเธอรีบเดินเข้าห้องน้ำทันทีหลังจากได้ยินเสียงสั่ง

พ่อปู่ลุงหมอดูเมื่อวานกำลังเดินออกมาจากประตูหลังบ้านถือขันน้ำเก่าๆ ขนาดโตเท่าชามน้ำแกง ตรงมาที่อ่างน้ำซีเมนต์แล้วเทน้ำจากขันลงไป แล้วเสกคาถาร่ายมนต์เป็นภาษาที่คนึงนิจคิดว่าเหมือนเมื่อวานนี้

“ทั้งสองคนพนมมือขึ้น พ่อปู่จะเอาสายยางฉีดทั่วตัว” เสียงแหบแห้งของลุงหมอดูสั่งเธอทั้งสองคน

“น้ำเย็นนิดหน่อย..มีอะไร ห้ามวิ่งออกไปจากที่นี่เด็ดขาด” ชายชราสั่งเสียงเข้ม

ขณะที่สายยางน้ำฉีดออกมาที่ตัวของหญิงสาวสองคนเบื้องหน้า เสียงร่ายมนต์คาถาเสกเป่าออกมาจากปากของลุงหมอดูตลอดเวลา ตามด้วยเสียงหวีดหวิวโหยหวนผสมผสานราวกับประสานเสียงกันไม่ขาดสาย ทำให้คนึงนิจขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัว ส่วนน้อยหน่าก็หนาวสั่นตัวโยนราวผีสิง

เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงพิธีกรรมในการปัดวิบากของทั้งสองคนจึงจบลงด้วยดี โดยที่ทั้งสองไม่เตลิดออกจากบริเวณที่ลุงหมอดูได้สั่งไว้ก่อนแล้ว

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าไปรอด้านหน้า พ่อปู่จะตัดกรรมให้” เสียงแหบแห้งกล่าวเบาๆ

คนึงนิจรู้สึกใจสั่นยังไม่หาย ส่วนน้อยหน่าเพื่อนสาวยังมีอาการตัวสั่นสะท้านไม่หยุด ทั้งสองได้แต่มองหน้ากันไม่ได้พูดอะไรก่อนจะต่างคนต่างเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ทันทีที่ทั้งสองเปิดประตูออกมาเกือบพร้อมกัน น้อยหน่าจึงเอ่ยขึ้นก่อน

“ทำไมตัวสั่นไม่หายเลยอ่ะ น้ำก็ไม่ได้เย็นมาก”

“เราก็ใจสั่นหวิวๆ เหมือนจะเป็นลมอ่ะ” คนึงนิจจ้องหน้าเพื่อนอย่างหวั่นใจ

ทั้งสองสาวจับมือให้กำลังใจกัน และเดินตามลุงคนที่รออยู่เพื่อนำพวกเธอไปเข้าประตูด้านหน้าบ้าน ลุงหมอดูพยักหน้าให้สัญญาณเข้าไปนั่งพับเพียบตรงหน้าเขา

“อีหนูคนนี้...เรากรรมหนักนะ” คนึงนิจสะดุ้งใจสั่น

“มีอะไรหรือคะ”

“ต้องนั่งเข้ากรรม ตัดกรรมกับพ่อปู่ทั้งคืน”

“ฮ่ะ...ไม่ต้องนอนเลยรึคะ” เสียงใจเต้นดังมากราวกับจะระเบิดออกมา

“ไม่ต้องกลัว...นางคนนี้อีกคนจะต้องนั่งเข้ากรรมทั้งคืนเหมือนกัน”

“เหรอคะ...หนูต้องทำยังไงกันคะ” น้อยหน่าถามขึ้น

“พวกเราสองคน...นั่งหลับตา ห้ามลืมตาจนกว่า...พ่อปู่จะบอก ห้ามออกจากตรงนี้เด็ดขาด ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร” เสียงสั่งของชายชราหมอดูทำทั้งสองคนหันมองหน้ากันทันที

จากนั้นพ่อปู่ให้ทั้งสองคนเดินตามเข้าไปห้องด้านในที่เป็นเหมือนห้องพระ คนึงนิจตาเบิกโพลงตกใจ น้อยหน่าเช่นกันตัวสั่นสะท้านหนักกว่าเดิม

“โห...อะไรนั่น เต็มห้องไปหมดเลย” ทั้งสองคนแทบจะพูดขึ้นพร้อมกัน ขนหัวลุกซู่ จนต้องหันมากอดกันกลม

“ไม่ต้องกลัว...พ่อปู่อยู่ตรงนี้” ลุงหมอดูพูดเสียงกังวาน

“อวิช...ชา...” คนึงนิจปากสั่นตะกุกตะกักเบาๆ

“เดรฉาน...วิชา” น้อยหน่าเอ่ยอย่างหวาดกลัว

คนึงนิจมองจ้องวัตถุทรงกลมสีเทาดำที่วางอยู่บนแท่นด้านบนสุด ใจเต้นรัวขาสั่น...หลอนสุดขีด

“เฮ้ย...นั่นมัน...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้สาวสายฝอ   9. พ้นมนต์ดำ

    ด้วยศักดิ์ศรี...จะไม่ทำอะไรเด็ดขาดถ้าเธอไม่ยอมรับ------------------------หลังจากกินข้าวเช้าที่บ้าน แม่สุภาเร่งให้สุธนพาคนึงนิจไปหาหลวงตาที่วัด แม่ของเขาไปด้วย แต่จะตามไปพร้อมป้าสำเนียงและทวี เธอรู้ว่าสุธนรู้จักหลวงตารูปนี้ดี เขาเคยมาบวชอยู่ที่วัดนี้ ท่านเป็นผู้มีอาคมขมังเวทตั้งแต่สมัยยังหนุ่มเคยไปฝึกสายกรรมฐานแถวอีสานอยู่นับสิบปี ก่อนจะกลับมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดเดิมแห่งนี้“กราบนมัสการหลวงตา...ครับ” สุธนเข้าไปนั่งกับพื้นพร้อมคนึงนิจก้มลงกราบท่าน ขณะท่านมองมาทั้งคู่อย่างยินดี“วันนี้...เราว่างหรือ” ท่านถามขึ้น“ไม่ว่างหรอกครับ แต่ผมต้องมาจัดการตามที่หลวงตาสั่งโยมแม่ไป”“เอ่อ...ไว้รอมากันให้ครบทุกคน หลวงตาจะเป่ามนต์เสกล้อมพวกเราไว้ทุกคน ไม่งั้นมันจะกลับมาเล่นงานทุกคนที่เข้าไปยุ่งกับอิหนูคนนี้” ท่านกล่าวเตือน“โยม...ไม่นาน จะกลับมาหาหลวงตาอีก”“ทำไมหรือครับ...”“ไม่มีอะไร...จะกลับมา... หลวงตาต้องเรียก โยมผู้กำกับ” ท่านหัวเราะเสียงแห้ง“โอ...จริงหรือครับ”“ตอนนี้...มีใครเป็นใหญ่ในสน.ล่ะ”“ยังไม่มีคำสั่งลงมาครับ...ผมรักษาการแทน” สุธนตอบ“นั่นล่ะ...วิบากของโยมกำลังตามมา...ระวังด้วย อิหนูนี

  • ผู้สาวสายฝอ   8. ต้องมนต์ดำ...คำสาป

    เพราะสายลมนี้ทำให้ฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง------------------------รุ่งขึ้นแม่สุภาพาคนึงนิจสาวน้อยที่นางคิดว่าเธอต้องถูกหมอดูเสกคาถาใส่ทำให้เธอกลายเป็นคนสติไม่อยู่กับตัว“กินข้าวแล้ว แม่จะพาเธอไปพบหลวงตาที่วัด” แม่ของสุธนพูดกับเขาเสียงเบา ไม่อยากให้สาวน้อยของเขาได้ยิน“ครับ...ฝากแม่ดูแลเธอด้วยนะครับ” เขายังดูกังวลกับเธอ“แม่จะให้สำเนียงไปด้วย เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยแม่ดูแล” แม่เขาดูกังวลเช่นกัน“ขอบคุณครับ วันนี้ผมมีประชุมทั้งวัน เสร็จงานจะรีบกลับมา อาจค้างที่นี่อีกคืนถ้าถึงดึก”แม่ไปเรียกป้าสำเนียงข้างบ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนคนึงนิจ ส่วนนางรีบโทรไปหามัคนายกที่ดูแลปรนนิบัติหลวงตา โชคดีที่วันนี้หลวงตาไม่มีกิจนิมนต์ เธอจึงรีบพาสาวน้อยออกจากบ้านให้หลานชายลูกป้าสำเนียงขับรถไปส่งหลวงตามองดูสาวน้อยที่เดินตามสุภาเข้ามานั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าท่าน ขณะเธอกำลังก้มลงกราบท่านจึงทักขึ้นทันที“โยม...พานางหนูนี่มาทำไม...”“อิฉันเห็นว่า อาการมันแปลกๆ คะ หลวงตา”“ลูกสาวโยมรึ” ท่านมีสีหน้ากังวล“ไม่ใช่ค่ะ...เป็นแฟนของลูกชาย”“จะอยู่ที่นี่นานไหม...ต้องทำพิธีถอนมนต์ดำ” ท่านบอกกับสุภา“ให้พ่อหนุ่มไปเอาไข่ไก่มา..

  • ผู้สาวสายฝอ   7. อยากกอดคนนั้น

    แผงอกอุ่นนี้...จะให้ไอรักซึมซาบเข้าไปในหัวใจเธอ...สักวัน------------------------คนึงนิจสาวน้อยนอนกอดสุธนตั้งแต่เธอยังไม่หลับจนหลับไปจนถึงรุ่งเช้า หนุ่มใหญ่เช่นเขาเริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาสองสามวัน ไปทำงานก็ยังคิดถึงเป็นห่วงเธอ กังวลว่าเธอจะเป็นอะไรมากกว่านี้ไหม บางครั้งต้องให้จ่าแดงคนสนิทที่รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากกว่าทุกคน โทรมาหาป้าสมใจคอยถามเรื่องอาหารการกินและอาการของเธอ เขาพยายามบอกให้ป้าสมใจหลอกล่อให้เธอกินยาตามที่หมอสั่งเช้าวันนี้เขารู้สึกไม่อยากไปทำงาน แต่อยากพาสาวน้อยคนนี้ไปเที่ยวนอกเมืองแถวบ้านเดิมของเขาก่อนเข้าตัวเมืองจังหวัดสุพรรณบุรี พาเธอไปพบแม่ของเขาที่อายุค่อนมากแล้ว ท่านอยู่กับหลานสาวอายุสิบเจ็ดปี“หนูนิจ วันนี้ไปเที่ยวกันนะ” เขาเอ่ยปากชวนระหว่างกินข้าวมื้อเช้าด้วยกัน“เหรอคะ...ที่ไหน” เธอแต่งตัวสวยเหมือนพร้อมออกบ้าน“ไปบ้านแม่ผม...ไม่ไกลจากนี่สักหนึ่งชั่วโมงก็ถึง ไปทานข้าวบ้านแม่ ท่านทำอาหารอร่อยนะ” เขาเอ่ยชวนเธอ“ดีจังค่ะ...”“ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ชุดนี้สวยดีแล้ว” เขาบอกเธอ และหันไปสั่งป้าสมใจให้ขึ้นไปเอายาลงมา เขาจะเอาไปด้วย“หนูต้องทำอะไรบ้าง เวลาเจ

  • ผู้สาวสายฝอ   6. ใครคนนั้น

    จะกลายเป็นเพื่อนใจตัวร้าย...ในวันที่เธอหายดี------------------------น้อยหน่าทำเรื่องลางานให้คนึงนิจส่งไปที่ฝ่ายบุคคล และคนที่ลงชื่ออนุมัติคือมาร์คุส ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทที่เธออยู่ใต้สายงานโดยตรง มาร์คุสสงสัยว่าทำไมสาวน้อยที่มีภารกิจต้องดูแลประสานงานกับลูกค้าช่วยเขา ไม่มาทำงานวันที่สองแล้ว“ให้คุณชนากานต์ขึ้นมาพบผมตอนบ่ายสามโมง” เขาสั่งเลขาให้ตามน้อยหน่ามาพบเพื่อสอบถาม“คุณชนากานต์ลาช่วงบ่ายแล้วค่ะ บอส” เลขาตอบเขา“โทรหาเธอเลย”เลขาติดต่อน้อยหน่าได้แล้วโอนสายให้เขา...“คุณนิจเป็นอะไรไม่มาทำงาน ลาพักร้อน” เขาถามด้วยความสงสัย เพราะมีงานหลายอย่างที่ยังคั่งค้าง“เธอไม่สบายค่ะ บอส”“เป็นอะไร...มากหรือ” เขาพูดภาษาไทยได้ชัดเจน เพราะอยู่ที่นี่เกือบห้าปี“บอสอยากไปเยี่ยมไหมคะ”“เธออยู่บ้านตรงไหน ส่งโลเคชั่นมาให้ ผมจะให้คนขับรถไปดูพรุ่งนี้”รุ่งขึ้นสุธนฝากให้ป้าสมใจดูแลเรื่องอาหารการกิน เขาบอกให้สั่งจากร้านในหมู่บ้านมาส่งไม่ต้องทำกับข้าวให้ลำบาก เขามีภารกิจประชุมเรื่องคดีสำคัญทั้งวัน จึงไม่มีเวลาที่จะโทรสอบถาม แต่สั่งให้ป้าโทรกลับไปถ้าเธอมีอาการผิดปกติมาร์คุสนายใหญ่ของคนึงนิจให้คนขับรถไ

  • ผู้สาวสายฝอ   5. ฝันกระเจิง

    ทำหัวใจกระเจิง-------------------สุธนมองจ้องหน้าคนึงนิจสาวน้อยนัยน์ตาคมขนตาเป็นแพยาว ผิวสีน้ำผึ้งของเธอขับกับรูปใบหน้าเหลี่ยมจมูกมีสันเล็กน้อย แก้มแดงเรื่อๆ องค์ประกอบบนใบหน้าของเธอได้รูปเป็นสาวยุคใหม่ที่สวยสะอาง แต่ตอนนี้สติของเธอไม่ได้เรื่องได้ราวไปเสียแล้ว เขาเกิดความกลัวจนไม่น่าเป็นไปได้ พื้นอารมณ์ที่นิ่งสุขุมของเขาจากอาชีพและอุปนิสัยแต่เดิมนั้น ทำให้เขาไม่เคยหวาดกลัวอะไรมาก่อนเท่านี้ หรือเป็นเพราะเขาเริ่มใกล้ชิดเธอในความสัมพันธ์เพียงแค่สามเดือนที่ผ่านมาเขาตัดสินใจเขียนข้อความไปในแช็ตถึงน้อยหน่าเพื่อนของเธอ“ผมอยากขอให้คุณช่วยลางานพักร้อนให้นิจได้ไหมครับ”“ค่ะ...จะลองถามฝ่ายบุคคลดูก่อนนะคะ”“พรุ่งนี้จะแจ้งคุณนะคะ”เขาต้องหาคนมาอยู่เฝ้าเธอ ท่าทางแบบนี้ไม่น่าไว้ใจแล้ว เขาจึงโทรขอให้ป้าที่ทำความสะอาดในสำนักงานช่วยหาคนมาดูแลเธอด่วน“นิจ...ผมจะหาคนมาเฝ้าคุณนะ” เขาบอกเธอ วันนี้เขาไม่ได้ไปทำงาน สั่งงานทางออนไลน์“ไม่ต้องค่ะ คุณพ่อ นิจดูแลตัวเองได้ค่ะ” เธอยังรู้สึกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร“ไม่ได้...ถ้าเป็นอะไรไป ผมแย่เลย”เขากลัวว่าเธอเกิดเพ้อเจ้อทำร้ายตนเองขึ้นมา เขาจะรู้สึกผิดและไม่แน่ว่

  • ผู้สาวสายฝอ   4. เรื่องจริง (หรือฝัน)

    เธอพบเขาในฝัน-------------------สองสาวตกใจเมื่อหญิงสาวอายุประมาณสามสิบวิ่งถลันออกมาจากห้องด้านในที่เป็นห้องพบแพทย์“คุณ!...หมอยังไม่ทันตรวจ เป็นอะไร” หมอตามออกมาหน้าตาตกใจ“ไม่ค่ะ...ฉันกลัว” หญิงสาวคนนี้วิ่งเข้ามากอดคนึงนิจแน่นไม่ยอมปล่อย แม้หมอจะให้ผู้ช่วยในคลินิกมาช่วยกันพูดก็ตาม“คุณ...ไม่ต้องกลัวนะ” คนึงนิจเสียงเบากำลังจะเป็นลม ใจเต้นหวาดผวาไปด้วยแล้วน้อยหน่าต้องรีบประคองเพื่อนสาวที่ถูกผู้หญิงที่ส่งเสียงร้องกรี๊ดกอดเอาไว้แน่น เธอตกใจเช่นกันว่าเกิดเรื่องอะไรที่แปลกประหลาดขนาดนี้“เฮ้ย...นิจ อย่าหลับเชียวนะ ฉันกลัวอ่ะ” น้อยหน่าตบหน้าคนึงนิจเบาๆน้อยหน่าเรียกหมอให้เข้ามาดูว่าเพื่อนของเธอเป็นอะไร“ผมจะตรวจดูก่อน...ช่วยประคองเพื่อนคุณเข้าไปห้องตรวจข้างใน เร็วนะ” หมอเร่งให้ผู้ช่วยในคลินิกสองคนมาช่วยน้อยหน่า“เพื่อนคุณเป็นลม ชีพจรเต้นเบา คงต้องฉีดกลูโคส” หมอจัดเตรียมยาฉีดให้เพื่อนสาว ส่วนผู้หญิงคนที่ร้องกรี๊ด ถูกผู้ช่วยในร้านพาเธอไปนอนพักที่ห้องตรวจอีกห้องเพื่อรอญาติมารับกลับ“คุณหมอคะ ผู้หญิงคนที่ร้องกรี๊ดเธอเป็นอะไรคะ” น้อยหน่ายังสงสัย จึงถามขึ้น“เธอประสาทหลอน ญาติพามาตรวจ แล้วออกไ

  • ผู้สาวสายฝอ   3. จิตแตกกระเจิง

    หลอน...มู...จนขาสั่น จิตกระเจิง--------------------------------“สะ...สะ เสียงดังกังวาน...ออกมาจาก หะ...หัวกะ...กะ...โหลกนั่น...” คนึงนิจหันไปกอดกับน้อยหน่าหลับตาปี๋ เสียงเบาตะกุกตะกัก“บอกแล้วไม่ต้องกลัว...พ่อปู่สื่อวิญญาณอยู่” ลุงหมอดูเดินเข้ามาจับหัวสาวทั้งสอง และตบหลังพวกเธอเบาๆเอาล่ะสิ...คนึงนิจสะดุ้งขาสั่น ขนใต้ผิวหนังตั้งชันเหมือนจับไข้ น้อยหน่าเหงื่อแตกด้วยความกลัว สองสาวยังกอดกันค่อยเขยิบก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ“ห้ามออกไปจากห้องเด็ดขาด...เข้ามานั่งพับเพียบตรงหน้าพ่อปู่” ชายชราหมอดูเสียงเปลี่ยนเป็นห้าวก้อง หน้าตาจากที่เหี่ยวแห้งกลับดูเป็นหนุ่มมีพละกำลังเขานั่งลงในท่าขัดสมาธิหลับตาลง สองสาวมองหน้ากันอยากวิ่งออกไปแต่ประตูห้องดันถูกปิดจากด้านนอก พวกเธอจำยอมค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งพับเพียบกับพื้น ก้มหน้าไม่ยอมมองตรงไปข้างหน้า กลัวพวกหัวกะโหลกแยกเขี้ยวอยู่เต็มห้อง มองไปทางไหนเหมือนกำลังจ้องมาที่พวกเธอ“วิธังเสติ ......” พ่อปู่ร่ายคาถายาวไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ และยกมือทำท่าเหมือนโปรยคาถาครอบคลุมไปทั่วห้อง“โอม...นะมะจิตตัง...ยะจับใจ ...พุทธะหลงใหล...” เสียงของผู้เฒ่าหน้าทารก ณ บัดนาวด

  • ผู้สาวสายฝอ   2. ปัดวิบากกรรม

    ปัดวิบาก...ตัดกรรม-----------------------สุธนเดินเข้าไปในห้องนอนของคนึงนิจ มองสำรวจไปรอบๆ เห็นตุ๊กตาหล่นอยู่ที่พื้นหนึ่งตัว ซึ่งเป็นตัวเดียวกับเมื่อวานที่เขามอบให้เธอ เขาเดินไปหยิบขึ้นมาและมองจ้องเปิดดูเสื้อผ้าที่ใส่เป็นเดรสสีชมพู หน้าตาของตุ๊กตายิ้มสวยกว่าอีกตัวที่เธอเพิ่งเอามาด้วยซ้ำ เขาคิดว่าน่าจะเป็นตัวนี้ที่ส่งเสียงกรี๊ดจนเธอตกใจรีบทิ้งลงพื้นแล้ววิ่งออกมากอดเขา“ไม่เห็นมีอะไรเลย...นิจ เข้ามาดูสิ ผมอุ้มขึ้นมากอดอยู่” เขากอดตุ๊กตาไว้ที่อกตะโกนออกมา แต่ไม่ได้ยินเสียงของเธอ เลยเดินออกจากห้องเพื่อเอาไปให้ดูว่าไม่มีอะไร“ไม่ค่ะ...นิจ ขอคืนให้คุณพ่อนะคะ” สาวน้อยแทบไม่อยากมองมันเลย“หนูว่า...คงจริงอย่างที่พ่อปู่เตือน” คำพูดเธอทำให้สุธนสงสัย“มีอะไร...รึ”“ลุงหมอดูเตือนว่าหนูมีเคราะห์ และไม่ควรอยู่ที่บ้าน”“อย่างมงาย...”“แล้วตุ๊กตานี่ไปได้จากที่ไหนมาคะ...” เธออยากรู้“ผมไม่รู้ เพราะลูกน้องใน สน. มอบให้ผู้กำกับ แต่ท่านไม่เอา ดันมาวางไว้บนโต๊ะผม” เขามองหน้าสาวน้อยส่ายหัว“ไว้เข้า สน.พรุ่งนี้ผมจะถามพวกนั้นดู”“แล้วจะให้ผมเอาไปไว้ไหนดี...” เขามองเธออย่างไม่เข้าใจ แต่จะพยายามเอาใจเพื่อให้เธ

  • ผู้สาวสายฝอ   1. วิชามาร

    อวิชชา...วิชามาร หรือ อะไรกัน--------------------------------ช่วงเย็นเลิกงานน้อยหน่ารีบมาที่โต๊ะของคนึงนิจได้เวลาห้าโมงตรงเผง แล้วทั้งคู่รีบออกจากตัวตึกข้ามไปฝั่งตรงข้ามสั่งอาหารจานเดียวมากินอย่างเร่งรีบ เพราะเพื่อนเธอบอกว่าบ้านหมอดูอยู่ไกลแถวนอกเมือง น่าจะแถวๆ บ้านของคนึงนิจ เส้นทางเลยออกไปทางบางบัวทองทั้งสองไปถึงค่อนข้างค่ำมากเกือบทุ่มเศษ บ้านไม้สองชั้นเก่ามากตัวบ้านน่าจะเกินสามสิบปี น้อยหน่าจับมือคนึงนิจอย่างไม่แน่ใจ“เฮ้ย...ไหนๆ มาถึงแล้ว มันจะถอยไม่ได้นะ” เธอบอกน้อยหน่าแบบใจกล้า แต่ในใจก็ตื่นเต้น หน้าตาของบ้านเหมือนบ้านผีสิง“นี่ถ้ามาคนเดียว ฉันหนีก่อนเลย ไม่กล้าลงจากรถอ่ะ” น้อยหน่าทำหน้าหวาดกลัว“ใครแนะนำ...”“ป้าฉันนะสิ...”ทั้งสองคนโผล่หน้าเข้าไปก่อน ขณะที่คนข้างในเปิดออกมาพอดี ข้างในเป็นโถงกว้างมีคนกำลังรออยู่แล้วสามคน หนึ่งในสามกำลังเข้าไปทำพิธีอยู่“โห...นี่มูกันแบบสุดๆ เลยว่ะ” คนึงนิจมองพิธีแบบเสกคาถาร่ายภาษาที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน“นั่นดิ...เข้าท่าไหม กลัวเสียเงินฟรี”“ไม่ลองไม่รู้”และแล้วผู้ชายแต่งตัวแบบพราหมณ์ห่มผ้าสีขาวผ้านุ่งแบบโจงกระเบน กวักมือเรียกสองคน“อีหนูสองค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status