Home / โรแมนติก / ผู้สาวสายฝอ / 3. จิตแตกกระเจิง

Share

3. จิตแตกกระเจิง

last update Last Updated: 2025-05-20 22:08:06

หลอน...มู...จนขาสั่น จิตกระเจิง

--------------------------------

“สะ...สะ เสียงดังกังวาน...ออกมาจาก หะ...หัวกะ...กะ...โหลกนั่น...” คนึงนิจหันไปกอดกับน้อยหน่าหลับตาปี๋ เสียงเบาตะกุกตะกัก

“บอกแล้วไม่ต้องกลัว...พ่อปู่สื่อวิญญาณอยู่” ลุงหมอดูเดินเข้ามาจับหัวสาวทั้งสอง และตบหลังพวกเธอเบาๆ

เอาล่ะสิ...คนึงนิจสะดุ้งขาสั่น ขนใต้ผิวหนังตั้งชันเหมือนจับไข้ น้อยหน่าเหงื่อแตกด้วยความกลัว สองสาวยังกอดกันค่อยเขยิบก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ

“ห้ามออกไปจากห้องเด็ดขาด...เข้ามานั่งพับเพียบตรงหน้าพ่อปู่” ชายชราหมอดูเสียงเปลี่ยนเป็นห้าวก้อง หน้าตาจากที่เหี่ยวแห้งกลับดูเป็นหนุ่มมีพละกำลัง

เขานั่งลงในท่าขัดสมาธิหลับตาลง สองสาวมองหน้ากันอยากวิ่งออกไปแต่ประตูห้องดันถูกปิดจากด้านนอก พวกเธอจำยอมค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งพับเพียบกับพื้น ก้มหน้าไม่ยอมมองตรงไปข้างหน้า กลัวพวกหัวกะโหลกแยกเขี้ยวอยู่เต็มห้อง มองไปทางไหนเหมือนกำลังจ้องมาที่พวกเธอ

“วิธังเสติ ......” พ่อปู่ร่ายคาถายาวไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ และยกมือทำท่าเหมือนโปรยคาถาครอบคลุมไปทั่วห้อง

“โอม...นะมะจิตตัง...ยะจับใจ ...พุทธะหลงใหล...” เสียงของผู้เฒ่าหน้าทารก ณ บัดนาวดังกึกก้องราวหนุ่มน้อยไม่ปาน

น้อยหน่าเงยหน้าขึ้นหลังจากที่พ่อปู่สั่งให้เธอขยับเข้าไปใกล้อีกนิด

“เฮ้ย...เอามือออกไป” น้อยหน้ายกมือปัดฝ่ามือของพ่อปู่ เขากำลังจับหน้าผากเธอประคองหัวเข้าไปใกล้ปากของเขา

“ไม่ต้องกลัว พ่อปู่กำลังจะเป่าหน้าผากให้ผัวรักผัวหลง” ชายชราตอนนี้อยู่ในร่างคนหนุ่มแน่นกำลังจะทำอะไรบางอย่าง เขาเริ่มถอดเสื้อสีดำคลุมร่างตัวโคร่งออก เห็นกล้ามหน้าอกเป็นมัด คนึงนิจตัวสั่นเอามือปิดตาแต่ยังแอบมองลอดนิ้วออกมา

“อีหนูอีกคน เข้ามาใกล้กว่านี้หน่อย พ่อปู่จะเป่ามนต์ปกป้องไม่ให้เกิดอะไรขึ้น” พ่อปู่ในร่างชายหนุ่มอายุราวสามสิบเศษกำลังโน้มตัวเข้ามาและลุกยืนขึ้นส่วนบนเปลือยเปล่า ส่วนล่างสวมกางเกงสีดำตัวฟิตเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ร่างกายเหมือนพวกเล่นกล้าม

“ขะ...ขออยู่ห่างๆ ได้ไหมคะ...” เสียงคนึงนิจสั่นๆ และพยายามขยับตัวถอยออกมาเรื่อยๆ แต่เหมือนชายชราในร่างใหม่ขยับใกล้เข้ามาอยู่เรื่อยๆ

“ไม่ต้องกลัว...อีหนู พ่อปู่กำลังปัดเคราะห์หนักให้” เขาพยายามจะเข้ามากอดเธอ แต่คนึงนิจไม่ยอม หันไปมองน้อยหน่าว่ายังไง

“เฮ้ย...ทำอะไรเพื่อนฉันน่ะ...” เสียงน้อยหน่าตะโกนขึ้น ตกใจที่เขากำลังถอดกางเกงสีดำตัวฟิต

ทั้งสองสาวลุกยืน น้อยหน่าตัวอวบกว่าคนึงนิจเลยพยายามผลักชายชราในร่างใหม่ออกไปห่างๆ แต่เหมือนร่างกายของเขาแทบจะไม่ไหวติงกับแรงผลักของสาวอวบนี้เลย ทำไมชายชราจึงกลายเป็นคนแข็งแรงดุจปีศาจ

คนึงนิจตกใจที่เห็นร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยสักเป็นรูปประหลาดที่บริเวณลำตัวส่วนล่าง และเจ้าหนูลูกมหาเทพนั้นเธอนึกถึงคำตลกเรียกมันว่า apple เต็มไปด้วยลวดลายงูเลื้อยพันกันจนถึงต้นขา

“เวร...มาเจอเรื่องลามก วิชามารให้แล้ว” คนึงนิจตะโกนกรีดร้องอย่างสุดเสียง

“ไม่ต้องโหยหวนเป็นเปรต ข้ากำลังทำพิธี...” ชายร่างใหม่กำลังนั่งลงร่างกายเปลือยเปล่า แต่สาวทั้งสองลุกยืนถอยหลังชนประตูห้อง แต่ยังไงก็ไม่สามารถดันประตูออกไปได้เหมือนมันถูกล็อกไว้จากด้านนอก

“มานั่งลง...ข้าจะทำพิธีต่อ” เสียงชายหนุ่มสั่งแบบไม่พอใจพวกเธอสองคน

ทั้งสองคนเห็นเขานั่งหลับตาบริกรรมคาถาเงียบๆ โดยไม่ลืมตาเลย สองสาวมองหน้ากันว่าจะยังไงดี คนึงนิจพยักหน้าให้เพื่อนสาวอย่างใจกล้า ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าและนั่งพับเพียบต่อหน้าเขา ตามด้วยสาวอวบที่ยังตกใจอยู่

และแล้วพวกเธอกำลังนั่งเงียบๆ อยู่เฉยๆ เสียงดังตูมตามด้านนอกทั้งประตูถูกเขย่าแทบจะแตกออก ทำให้ทั้งสองสาวขยับเข้ามาใกล้กันหันหลังไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไม่ต้องหันไปดู!!!...” เสียงก้องกังวานจากชายร่างกำยำสั่ง

“ห้ามออกจากที่ห้องนี้เด็ดขาด” เขายังสั่งเสียงดุ

แต่เสียงด้านนอกยังเหมือนกำลังสู้รบกันอย่างดุเดือด เสียงคล้ายประทัดระเบิดตูมตามราวกับหนังไซไฟ คนึงนิจร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว น้อยหน่าตัวสั่นเข้าไปกอดเพื่อน รู้สึกผิดมากๆ ที่ชวนเธอมาเป็นเพื่อนแล้วเกิดเหตุการณ์สยองจนขนหัวลุก

“ข้าจะเอาอีนาง...พวกนี้ไป” เสียงแหลมทะลุจากด้านนอกเข้ามา

“มึงเข้ามากูจะเอาให้เข็ด...ไป ไป ไป” เสียงชายร่างกำยำตะโกนเสียงดังไล่เสียงที่ทะลุเข้ามาตลอด สองสาวกอดกันแน่นมือของทั้งสองเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็ง

เวลาแห่งความน่าหวาดผวาผ่านไปจนเกือบย่ำรุ่ง น้อยหน่าง่วงนอนมากเธอหลับฟุบลงไปนอนที่พื้นข้างคนึงนิจ ส่วนสาวน้อยหน้าหวานใจสั่นเครียดจนสมองล้า เธอก็นั่งหลับสัปหงกหัวทิ่มอยู่เช่นกัน

รุ่งสางประมาณตีสี่เศษ ลุงหมอดูเปิดประตูออกไป และยังคงไม่ปลุกสาวสองคน เขาออกไปเดินบริกรรมจงกรมอยู่ด้านหลังบ้านที่เป็นลานสำหรับอาบน้ำมนต์

ทันใดนั้นคนึงนิจตกใจตื่นและเขย่าตัวเพื่อนสาวทันที บอกให้ลุกขึ้นและมองไปยังประตูเห็นเปิดอยู่ ภายในห้องเธอไม่เห็นชายหนุ่มกำยำนั้นเลย น้อยหน่ายังเอาแต่งัวเงียสะลึมสะลือ

“เฮ้ย...น้อยหน่าไปเถอะ อย่าอยู่อีกคืนเลย ฉันกลัวแทบจะช็อกตายอยู่แล้ว”

“เออ...ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยงเมื่อวานจนป่านนี้ ไม่รู้สึกหิวเลยว่ะ” สาวอวบจิตผวาไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย

“นั่นดิ...เราเหมือนกัน จิตแตกกระเจิง”

ทั้งสองลุกขึ้นค่อยย่องออกจากห้องเดินไปที่ประตูด้านหน้าแล้วผลักออกไป เมื่อไม่เห็นมีใครทั้งสองจึงก้าวออกจากรั้วบ้าน พวกเธอรีบสาวเท้าไปที่รถเก๋งแล้วน้อยหน่าก็เปิดประตูสตาร์ทรถทันที แต่เธอยังอดไม่ได้หันไปมองตัวบ้านที่โทรมจนไม่น่าเรียกว่าอะไรได้ นอกจากคำว่า ‘บ้านผีสิง’

รถบึ่งออกไปอย่างรวดเร็วไปจนถึงหน้าปากซอย น้อยหน่าเห็นร้านข้าวแกงเปิดอยู่เลยจอดรถแล้วเดินลงไปหาอะไรกิน

“ป้าคะ...รู้จักบ้านหมอดูญาณทิพย์ข้างในไหม” น้อยหน่าเริ่มถามขณะเจ้าของร้านกำลังยกจานอาหารมาส่งให้

“น่ากลัวใช่ไหมล่ะ”

“ค่ะ...”

“...มีคนมาทำพิธีกันอยู่บ่อยๆ เห็นเข้าออกกันอยู่เป็นประจำ”

“แล้วป้าเคยเข้าไปดูไหมคะ” คนึงนิจยิงคำถาม

“เคยไปดูครั้งหนึ่ง แกให้ไปเข้าพิธีอะไรนี่ล่ะ ป้ากลัวจนต้องไปหาหมอ”

ทั้งสองคนมองหน้าป้าตาค้าง

“ขนาดนั้นเลยรึคะ”

“ใช่...ลุงแกเป็นปีศาจ”

“ฮะ...อะไรนะคะ”

“แกถอดเสื้อผ้า รอยสักเต็มตัว แล้วก็ทำอะไรประหลาดๆ”

“ยังไงคะ”

“อย่าให้ป้าเล่าเลย...เดี๋ยวญาณแกมาทำร้ายป้า”

“โห...ขนาดนั้นเลยหรือ” ป้าจ้องหน้าสองคนแล้วเดินเข้าไปหลังร้าน

น้อยหน่ามีสีหน้ากังวล รีบกดโทรศัพท์หาป้าเธอทันที

“ป้าสร้อยคะ...หนูกลัวมากเลยค่ะ ลุงหมอดูเป็นคนแปลกๆ ไหมคะ”

“แม่นมากกก  อย่าทำอะไรให้แกโกรธนะ จะตามมาเอาคืน”

“ฮะ...ตายห่า...”

“มันจะยุ่งล่ะ ต้องอยู่ให้ครบสองวัน ถ้าแกบอกให้ไปปัดวิบาก” ป้าของเธอยังแนะนำต่อ

“ป้าไม่กลัวรึ น่ากลัวมากเลย”

“ฉันเจอมาเยอะ สมัยก่อนน่ากลัวกว่านี้ นี่แค่น้องๆ”

“อะไรนะ...หนูไม่เข้าใจ”

“พิธีกรรม...ไม่ได้มีอะไรเลย แค่นั่งสมาธิ ลุงแกจะถอดเสื้อถอดผ้าก็เรื่องของแก เพราะแกมีวิชาอาคม และบางทีแปลงร่าง...”

“โห...ขนาดไม่มีอะไรนะเนี่ย กลัวจนขนหัวลุกหมดแล้ว”

“ถ้าไม่อยู่ต่อ ไม่มีใครว่า ลุงแกแค่เตือนเท่านั้น”

“ค่ะ...แค่นี้นะคะ” น้อยหน่าวางสาย เธอหันไปมองหน้าคนึงนิจที่ละเลียดข้าวแทบไม่ลงคอ เพื่อนสาวดื่มน้ำตลอดเหมือนคอแห้งกลืนข้าวไม่ลง

“เอาไงดี...” น้อยหน่าขอความเห็นเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้างหน้า

“ไปกันเถอะ...เราจะเป็นลม ว่าจะแวะคลินิกแถวใกล้ๆ บ้าน ส่งเราลงตรงนั้น” คนึงนิจไม่อยากอยู่ต่อ เธอเหมือนกำลังจับไข้ เหมือนคนโบราณบอกว่าจับไข้หัวโกร๋น

ทั้งสองคนไปถึงคลินิกขณะกำลังนั่งรอหมอ

“กรี๊ด...กรี๊ด...กรี๊ด ช่วยด้วย!!!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้สาวสายฝอ   31. สานฝัน...ด้วยกัน (อวสาน 2)

    สานฝันด้วยกัน..บนริมฝั่งแอตแลนติก --------------------------------------สุธนเดินทางพร้อมคนึงนิจซึ่งตั้งท้องได้เกือบสามเดือนครึ่ง สาวน้อยท้องแรกแทบมองไม่ออกว่าเธอกำลังมีเด็กอยู่ในครรภ์“เอ้าทำไมไม่ใส่เดรสหลวมๆ” ผู้กำกับหนุ่มใหญ่บ่นเธอเรื่องการแต่งตัว“คุณพ่อคะ...นิจท้องไม่โตเลย เหมือนคนมีหน้าท้องแค่นั้น นี่ยังใส่กางเกงยีนส์หลวมนิดๆ ได้อยู่เลย”------------ณ เมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษสุธนหรี่ตามองรูปร่างสาวน้อย เธอเป็นสาวบอบบางมาก ทำให้พรางรูปร่างได้ดี และช่วงระยะแรกเธอไม่มีอาการของคนท้องที่เรียกกันว่า morning sickness“ที่รัก...ไม่ใช่เป็นหาดทราย นี่เป็นหินกรวด เราเอาเสื่อยางไปปูนอนดูดาวริมหาดกัน” เธอถูกเปลี่ยนคำเรียกให้ดูแสนหวาน เขาขอร้องให้เธอเรียกเขาว่า darling หรือสามีที่รัก น่าจะเหมาะสมมากกว่าคำเดิมที่เรียกกันอยู่ทุกวัน“คุณพ่อ...อุ๊ย ขอโทษ...คุณสามีที่รัก นิจไม่ได้เป็นอะไรนะคะ เสื้อผ้าเราก็หนาพอไม่ให้หินตำได้หรอกค่ะ”“น่า...ผมถือไปเอง”ตอนใต้ของอังกฤษอากาศกำลังเย็นสบาย เขาและเธอใส่เสื้อผ้าบางออกมารับลมเย็นพัดจากทะเล เพื่อสูดโอโซนเข้าเต็มปอดทำให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งส่งผลดีต

  • ผู้สาวสายฝอ   30. สานฝัน...ด้วยกัน (อวสาน 1)

    สานฝันด้วยกัน...ท่ามกลางราตรีประดับดาว---------------------------------------------คนึงนิจลาออกจากงานหลังจากกลับมาได้หนึ่งสัปดาห์ด้วยเหตุผลการดูแลครอบครัว น้อยหน่าแจ้งว่าสำนักงานใหญ่ส่งบอสฝรั่งคนใหม่มาแทนมาร์คุส และเสนอให้กลับไปเริ่มทำงานได้อีกครั้งถ้าเธอพร้อมแต่ทว่าเธออยากใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับเขา สุธนยังอยู่ในช่วงระยะพักฟื้นที่บ้านของแม่สุภา ย่างเข้าเดือนที่สามสภาพร่างกายของเขาเริ่มคืนกลับมาฟิตเหมือนเดิม ชายหนุ่มขอลาพักราชการเพิ่มอีกหนึ่งเดือน“ขอบใจมาก...ที่ดูแลผมจนหายดี” คนึงนิจสุขใจที่มีส่วนทำให้เขาฟื้นตัวเร็วขึ้น เธอพาเขานั่งรถเข็นชมท้องทุ่งรอบบ้านแม่ของเขาทุกเช้าเย็น มาบัดนี้สภาพร่างกายของเขาแข็งแรงฟิตจนได้ที่...กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ“เดือนหน้า...เราไปอังกฤษกันนะ” เขายังไม่ลืมสัญญา“ไป Brighton ผมชอบทะเล” เขาเคยบอกเธอว่าอยากใช้เวลาโรแมนติกกับท้องทะเล อยากให้ลูกมาเกิดที่นั่น“คุณพ่อคะ...นี่เกือบสามเดือนแล้ว คงหมดสิทธิ์ล่ะค่ะ”“ไม่เป็นไร...ผมทำได้ ไม่ต้องกังวล” เขาอมยิ้มมองหน้าเธอ“คืนนี้ ขอนอนดูดาวตรงระเบียงห้อง บอกทวีให้มายกเตียงเสริมไปวางที” สาวน้อยกุลีกุจอโทรไปบอกญาติผู้

  • ผู้สาวสายฝอ   29. ลุ้นใจแทบขาด

    ใจจะขาดแย่แล้ว ...ขอให้ฟื้นขึ้นมากอดคนที่รออยู่ ---------------------------------------------------ทันทีที่เครื่องบินแลนดิ้งสนามบินช่วงสายของวันใหม่ คนึงนิจรีบเช่ารถพร้อมโชเฟอร์ตรงไปยังโรงพยาบาลในตัวเมืองสุพรรณบุรีสาวน้อยหน้าตายับยู่ทั้งซีดเซียวไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มถามอย่างลนลาน ทันทีที่เธอเห็นป้าสำเนียง“ป้าคะ...ผู้กำกับเป็นยังไงบ้างคะ เป็นยังไงบ้างป้า!!!”“อาการยังไม่ดีขึ้น...หลวงตาเพิ่งกลับไป” เธอเดินตามป้าสำเนียงไปยังห้องไอซียูอย่างหวั่นใจน้ำตาของเธอร่วงเป็นสายทันทีที่ป้าสำเนียงพยักหน้าให้ตามเข้าไปดูอาการ หญิงสาวมองไปที่เตียงคนไข้ แม่สุภานั่งฟุบหน้าอยู่ข้างเตียงลูกชาย“แม่คะ...นิจอยู่นี่แล้วค่ะ” เธอเดินเข้าไปกระซิบข้างหูแม่ของสุธนแม่ของชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้มากอดหญิงสาว แล้วโน้มตัวลงไปบอกลูกชายเบาๆ“สุธน... หนูนิจ กลับมาแล้วลูก...”“คุณพ่อคะ...นิจปลอดภัยนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยนิจไว้” เธอก้มลงไปกระซิบบอกเขาข้างหูทั้งสามคนจำต้องเดินออกมาจากห้องคนไข้ พยาบาลกำลังตรวจสอบระบบการรักษาของชายหนุ่มตามแพทย์สั่งอยู่เป็นระยะ เขายังอยู่ในขั้นวิกฤตต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา“หลวงตาว่ายังไ

  • ผู้สาวสายฝอ   28. ผลกรรม

    คนที่เคยน่ารัก...กลับกลายเป็นคนร้าย ---------------------------------------มาร์คุสหัวเราะเสียงดังลั่น“Oh…oh amazing! ตื่นเต้นที่สุด ผมนึกว่าจะขอมากกว่านั้น” เขาพูดยังไม่ทันจบ โถมตัวเข้ากอดรัดฟัดสาวน้อยหน้าหวานผิวสีน้ำผึ้ง เธอคนนี้เป็นสเปกสาวเอเชียที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด“บอสคะ...ฟังนิจยังไม่ทันจบเลย” เธอดิ้นจนหลุดออกมาจากวงแขนของเขา“ผมให้สองล้านเลย ไม่ต้องพูดมากเสียเวลา ผมอยากให้จบๆ ไป” เขาหรี่ตามองเธออย่างกับเป็นเหยื่อที่กำลังถูกขย้ำ“ไม่ใช่ค่ะ...นิจขอ หนึ่งล้าน...ดอลลาร์!!!” เสียงเน้นคำสุดท้ายทำมาร์คุสตาโตด้วยความโมโหสุดขีด เขาขว้างเสื้อสูทที่กำลังถอดออกใส่หน้าเธออย่างแรง“No patience!!! ความอดทนผมหมดไปแล้ว”เขาเดินเข้ามาใกล้ตรงที่คนึงนิจนั่งรออยู่ กำลังจะโน้มตัวลงมาเพื่ออุ้มเธอเข้าไปห้องนอนด้านใน“บอสคะ นิจขออย่างหนึ่ง จะให้เท่าไหร่ นิจไม่เกี่ยง ขออย่างเดียวให้เกียรติกันหน่อย นิจอยากดื่มไวน์ฉลองกัน อยากเมาก่อน...จะได้ทำใจได้” เธอตัดสินใจเพื่อความสบายใจของฝรั่งคนนี้“ดีมาก ขอผมโทรไปสั่ง room service นิจเข้าไปอาบน้ำรอผมก่อน”คนึงนิจรู้ดีว่าเขาคงอยากมึนๆ ไปกับเธอ บอสของเธอชอบให้เธอฝันไ

  • ผู้สาวสายฝอ   27. เหตุคุกคาม

    คุณค่าของคนไม่ได้ถูกตีราคาด้วยมายาแห่งเงินตรา------------------------คนึงนิจตกใจตื่นขึ้นมาช่วงใกล้สว่าง เธอสังหรณ์ใจสั่นว่าสุธนอาจไม่รอดในครั้งนี้ เธอมีความเชื่อตั้งแต่สมัยยังเด็ก ยายเธอเคยเล่าว่าการเสี่ยงทายถามเรื่องเดือดร้อน ให้เราตั้งจิตอธิษฐานขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เธอมีสิ่งเดียวที่สามารถนำมาใช้ได้คือ สร้อยคอลูกประคำทำด้วยเม็ดน้ำตาของพระศิวะ ซึ่งหลวงตาที่สุธนเคารพมอบให้มา เพื่อความสบายใจก่อนไปทำงานวันนี้ เธอจึงอยากถามความเป็นความตายของเขาคนึงนิจตั้งจิตกำสร้อยประคำแล้วขอผลลัพธ์การเสี่ยงทาย“หากคุณพ่ออาการดีขึ้น ขอให้เม็ดลูกประคำร้อนขึ้นที่ฝ่ามือ” เธอพร่ำถามคำถามอยู่นานเกือบ 10 นาที เม็ดลูกประคำไม่ตอบสนอง“หากคุณพ่อยังอาการไม่ดีขึ้น ขอให้ฝ่ามือร้อนจากเม็ดลูกประคำ” แค่ไม่ถึงอึดใจ ผลตอบสนองทันที คนึงนิจมือสั่นใจเต้นแรงเป็นห่วงอาการของสุธน เสียงสะอื้นจากกลางอกดังขึ้นทันทีเธอส่งข้อความไปที่แช็ตของเดฟ เขาตอบกลับมาว่าวันนี้เป็นเวรของ ‘เครก’ เดฟเขียนตอบกลับมาอีกว่าหน่วยสืบสวนกลางที่นี่ทราบแล้ว สุธนถูกลอบสังหารด้วยมูลเหตุของการสืบจับคนร้ายในขบวนการมาเฟียออนไลน์ก่อนเตรียมตัวไปทำงานเธอสวด

  • ผู้สาวสายฝอ   26. ถึงคราวเคราะห์ (2)

    ฝ่ายหนึ่งอาการสาหัสปางตาย ฝ่ายหนึ่งถูกคุมคาม------------------------เมื่อเสียงรถบรรทุกดังไกลออกไปแล้ว จ่าแดงจึงรีบวิ่งออกจากแอ่งตมที่เป็นโพรงแคบๆ ใกล้ริมบึงที่มีบัวหลวงขึ้นอยู่เต็ม หากมองไกลๆ ในความมืดเหมือนปลักเลนเป็นหย่อมเป็นหย่อม ทำให้กลุ่มมือสังหารไม่ทันได้สังเกตลูกน้องของสุธนกระโดดข้ามคันนาถลามายังรถกระบะ ก้มมองหาเจ้านายไปรอบคันรถ เขาคิดว่าตอนนี้ชายหนุ่มน่าจะอาการสาหัสจนไม่ได้ยินเสียงเรียกชายกลางคนผู้นี้หน้าตาเต็มไปด้วยโคลนกระวนกระวายใจร้อนรุ่มกลัวว่าสุธนจะถูกลูกกระสุนจนเสียชีวิต เขาโบกมือเป็นสัญญาณให้รถที่กำลังแล่นบนถนนมองเห็น โชคดีว่ารถกระบะคันนี้หยุดข้างทางทันที ชายหนุ่มสองคนกระโจนลงคันนาแล้ววิ่งรี่ตรงมายังรถกระบะที่จ่าแดงกำลังมองหาร่างคนบาดเจ็บ หนุ่มฉกรรจ์ทั้งคู่ช่วยจ่าแดงยกรถเอียงไปด้านหนึ่ง จึงเห็นร่างชายหนุ่มนอนจมโคลนเปื้อนเลือดแดงฉาน ยังโชคดีที่หนึ่งหนุ่มรู้จักเพื่อนอาสาของหน่วยกู้ภัย จึงโทรเข้าไปหาหน่วยที่ใกล้ที่สุดมาช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลร่างของสุธนถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เขาถูกกระสุนปืนอาก้าถึงสิบนัด ลูกกระสุนนัดหนึ่งเข้าจุดสำคัญต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status