อันนาถึงกับตาเบิกกว้าง ร่างกายแข็งทื่อเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ก้นกบ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ แล้วมองลงไปบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา
ปรากฏคราบสีแดงเข้มเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง หัวใจของอันนาหล่นวูบด้วยความอับอาย เธอไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในห้องของมาร์คัส โดยเฉพาะต่อหน้าเขา "คุณมาร์คัส..." เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาเพราะความรู้สึกผิดปนกับความกลัว เธอรู้ว่ามาร์คัสเป็นคนรักความสะอาดมากแค่ไหน มาร์คัสที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกแลตชิ้นต่อไปถึงกับชะงัก เขามองตามสายตาของอันนา ก่อนที่ดวงตาคมกริบ จะหยุดอยู่ที่คราบแดงบนผ้าปูที่นอน ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตากลับฉายแววประหลาดใจระคนกับความไม่เข้าใจ "นี่มันอะไร?" มาร์คัสถามเสียงเรียบ แต่ความเย็นเยือกในน้ำเสียงนั้นทำให้อันนาตัวสั่น "อันนา...อันนาขอโทษค่ะ" อันนารีบพูดเสียงตะกุกตะกัก น้ำตาเริ่มไหลริน "อันนาไม่รู้ว่า...ไม่คิดว่ามันจะมาวันนี้..."อันนาพูดด้วยความรู้สึกผิดเพราะเธอกลัวว่าจะทำให้มาร์คัสรังเกียจ มาร์คัสขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้โกรธอย่างที่อันนาคิด แต่เขากลับลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เตียง มองคราบเลือดด้วยความสงสัย อันนาคิดว่าเขาจะด่าทอหรือไล่เธอออกไป แต่เขากลับถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม "นี่คืออะไร อันนา" เขาถามอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคำถาม "อันนา...อันนาเป็น...เป็นประจำเดือนค่ะ" อันนาตอบเสียงกระซิบอับอายจนอยากจะมุดดินหนี มาร์คัสเงียบไปชั่วขณะ เขากำลังประมวลผลคำตอบของเธอ ผู้ชายอย่างเขาไม่เคยต้องมาใส่ใจเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ ยิ่งกับเรื่องของผู้หญิงแล้ว เขายิ่งไม่เคยรับรู้ มาร์คัสเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาราเชนทร์ทันที "ราเชนทร์! มาที่ห้องฉันเดี๋ยวนี้!" เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม ไม่นานนัก ราเชนทร์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าห้องด้วยท่าทีงุนงง เขายังคงประหลาดใจกับคำสั่งกะทันหันของผู้เป็นนาย "นายท่านมีอะไรให้รับใช้ครับ"ราเชนทร์ที่ได้รับคำสั่งก็รีบเข้ามาในห้องของเจ้านายทันทีและเขาก็มองเจ้านายสลับกับอันนา มาร์คัสไม่ตอบ เขาแค่ผายมือไปที่ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด อันนาที่เห็นราเชนทร์ก็ยิ่งอับอาย หน้าแดงก่ำไปหมด "ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้เดี๋ยวอันนาจัดการเองดีกว่า ไม่รบกวนคุณราเชนทรผินะคะ" อันนาพยายามบอกกับมาร์คัสและราเชนว่าเธอสามารถดูแลตัวเองได้เพราะเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง ราเชนทร์มองตามมือผู้เป็นนาย และเมื่อเห็นคราบแดงบนเตียง เขาก็ถึงกับตาค้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น! "บอกป้าสมศรีให้แม่บ้านเตรียม...ของพวกนั้นให้เธอ" มาร์คัสพูดเสียงห้วน ราวกับไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี "แล้วก็สั่งให้แม่บ้านมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนด้วย" "ครับนาย!" ราเชนทร์เข้าใจในทันที ผู้หญิงของเจ้านายกำลังมี...ประจำเดือน นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในคฤหาสน์แห่งนี้มาก่อนเพราะมาร์คัสไม่เคยอนุญาตให้ใครย่างกรายเข้ามาในคฤหาสน์หลังงาม คู่นอนทุกคนล้วนแล้วจบลงที่คอนโดสุดหรูที่มักเป็นที่เสพสำราญของมาร์คัส และทุกคนอยู่ภายใต้ข้อตกลงกฎเหล็ก จบงานแล้วจ่ายเงิน ห้ามวุ่นวายหรือตามหึงหวงราวีนอกจากจะไม่ได้เงินอาจจะไม่เหลือชีวิตและลมหายใจ เขารีบก้มหัวรับคำสั่งแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการตามคำสั่งของมาร์คัส ส่วนอันนารู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้เหลือเกิน ที่ต้องมานั่งให้มาร์คัสเห็นสภาพที่น่าอายของเธอ ไม่พอ ยังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของเขามาเห็นอีกอีกนิดเดียวเธอคงได้มุดดินหนีเกิดมาไม่เคยต้องให้ใครมาวุ่นวายเรื่องไม่เป็นเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ "คุณมาร์คัสค่ะ ไม่ต้องให้ใครซักผ้าปูที่นอนนะคะ เดี๋ยวอันนาจัดการเองค่ะ" อันนาคุ้นชินกับการที่เธอจะต้องดูแลตัวเองมากกว่าให้ใครมาดูแล เธอเพราะชีวิตของเธอจะต้องดูแลตัวเองตลอดอยู่แล้ว "ไม่ได้.!" มาร์คัสเอ้ยเสียงเข้ม "ทำไมไม่ได้คะ" อันนาหันมาถามด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่อยากให้ใครมายุ่งกับเรื่องพวกนี้จริงๆ "ไม่ได้ก็คือไม่ได้ไม่มีเหตุผลอันนา!" มาร์คัสที่ไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้ก็ออกมาพูดอย่างเด็ดขาด "แต่เรื่องแบบนี้ ปกติเขาจะไม่ให้ใครทำให้กันนะคะคุณมาร์คัส" อันนาพยายามอธิบายให้มาคัดเข้าใจในชีวิตของเธอที่ผ่านมา "ทำไม.?" มาร์คัสเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงคำถาม "ปกติคนที่เป็นประจำเดือนแบบนี้ เขาจะไม่ค่อยให้คนอื่นมายุ่งเรื่องส่วนตัวแบบนี้ค่ะเพราะมันเป็นเรื่องที่น่าอาย แล้วมันก็สกปรกเราจะไม่ให้ใครมาแตะต้อง" อันนาก็ได้อธิบายเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ให้กลับมาคัดฟังซึ่งความจริงนี่เป็นคนแรกในชีวิตของมาร์คัสที่เขามานั่งฟังอะไรแบบนี้ "ไม่เป็นไร ต่อไปนี้เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ทุกเรื่องของเธอฉันจะเป็นคนดูแล" อันนาเธอมักจะได้ยินคำว่า "เธอเป็นผู้หญิงของฉัน" จากมาคัสตลอดเวลาและตอนนี้เธอกลับรู้สึกใจเต้นแรงน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและดูมีเสน่ห์ของมาร์คัสกำลังละลายกำแพงใจหินของทั้งสองคนลง มาร์คัสไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งลงข้างเตียงอีกครั้ง มองอันนาด้วยสายตาที่ยังคงเต็มไปด้วยคำถามผสมความไม่เข้าใจ "เธอ...เป็นบ่อยเหรอ" เขาถามออกมาตรงๆเพราะปกติเขาก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้นอกจากกระบอกปืนและเรื่องบนเตียงธุรกิจที่มาร์คัสจะทำอยู่ไม่กี่อย่าง อันนาพยักหน้าเล็กน้อย "เดือนละครั้งค่ะ" มาร์คัสพยักหน้ารับอย่างเข้าใจคร่าว ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกแลตชิ้นสุดท้ายที่อยู่ในมือของอันนา แล้ววางมันลงบนโต๊ะ "พอแล้วล่ะ เธอต้องไปทำความสะอาดร่างกาย" เขาบอกเสียงเรียบและมองไปที่อันนาด้วยแววตาที่อ่อนลงกว่าทุกครั้ง อันนาลุกขึ้นช้าๆ ด้วยความอับอาย เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้มาร์คัสนั่งอยู่ลำพังในห้องที่ตอนนี้กลิ่นช็อกโกแลตปนกับกลิ่นคาวเลือดจางๆ ในห้องน้ำ อันนาจัดการทำความสะอาดร่างกายอย่างละเอียด เธอรู้สึกแย่กับตัวเองเหลือเกินที่ทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แม้เขาจะไม่ได้โวยวาย แต่แววตาของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาดอันนาถึงกับตาเบิกกว้าง ร่างกายแข็งทื่อเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ก้นกบ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ แล้วมองลงไปบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา ปรากฏคราบสีแดงเข้มเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง หัวใจของอันนาหล่นวูบด้วยความอับอาย เธอไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในห้องของมาร์คัส โดยเฉพาะต่อหน้าเขา"คุณมาร์คัส..." เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาเพราะความรู้สึกผิดปนกับความกลัว เธอรู้ว่ามาร์คัสเป็นคนรักความสะอาดมากแค่ไหนมาร์คัสที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกแลตชิ้นต่อไปถึงกับชะงัก เขามองตามสายตาของอันนา ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะหยุดอยู่ที่คราบแดงบนผ้าปูที่นอน ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตากลับฉายแววประหลาดใจระคนกับความไม่เข้าใจ"นี่มันอะไร?" มาร์คัสถามเสียงเรียบ แต่ความเย็นเยือกในน้ำเสียงนั้นทำให้อันนาตัวสั่น"อันนา...อันนาขอโทษค่ะ" อันนารีบพูดเสียงตะกุกตะกัก น้ำตาเริ่มไหลริน "อันนาไม่รู้ว่า...ไม่คิดว่ามันจะมาวันนี้..."อันนาพูดด้วยความรู้สึกผิดเพราะเธอกลัวว่าจะทำให้มาร์คัสรังเกียจมาร์คัสขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้โกรธอย่างที่อันนาคิด แต่เขากลับลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้เตียง มองคราบเลื
มาร์คัสจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานของอันนาที่นอนอยู่บนเตียง แล้วทวนคำว่าเธออยากกินช็อกโกแลต ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอมีสีเลือดฝาดแดงระเรื่อเพราะพิษไข้"คุณมาร์คัสขา อันนาขอกินช็อกโกแลตได้ไหม" อันนาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อย เพราะเวลาป่วยเธอจะอยากกินของหวานโดยเฉพาะช็อกโกแลต และไม่อยากทานข้าวเลยมาร์คัสจ้องมองอันนาตาไม่กะพริบ เขากำลังหลงผู้หญิงตรงหน้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น นี่เป็นรอยยิ้มแรกที่อันนายิ้มให้เขา เพียงเพราะอยากกินช็อกโกแลตแค่นั้นหรือ แต่เขาก็ไม่ได้อนุญาตหรือปฏิเสธ“กินข้าวก่อน แล้วฉันจะพาไปซื้อช็อกโกแลต ตกลงไหม” มาร์คัสใช้กลยุทธ์เหมือนพ่อที่หลอกให้ลูกสาวกินข้าว“สัญญานะคะว่าถ้าอันนาทานข้าวหมดจะพาไปซื้อช็อกโกแลต” เธอดีใจจนยิ้มหวานในรอบสองสามวันที่ผ่านมา นี่เป็นรอยยิ้มที่ดูสดใสที่สุด“อืม” เสียงทุ้มต่ำในลำคอเป็นเชิงว่ารับปาก ถ้าอันนาเป็นเด็กดี เขาสัญญาว่าจะดีกับเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมอันนาดีใจจนลุกพรวด แต่ไม่ได้ดูร่างกายที่อ่อนแอของตัวเอง เธอจึงล้มพับนั่งลงข้างเตียง“โอ๊ย!” กลางลำตัวของเธอรู้สึกเจ็บแปลบ เพราะการระบมและอักเสบจากการเสียดสีที่รุนแรง เธอจึงต้องเงยหน้าขึ้นเหมื
หลังจากเสร็จภารกิจและกิจกรรมช่วงนั้นตลอดทั้งวัน อันนาเอาแต่นอนหลับเพราะเธอรู้สึกเจ็บระบม และเหมือนว่าความซวยของเธอจะไม่หมดแค่นั้น เพราะอยู่ดีๆ อันนาก็ไข้ขึ้นสูงและตัวร้อน"คุณหนูอันนาทานข้าวหน่อยนะคะ" ป้าสมศรีที่เดินขึ้นเอาข้าวมาให้อันนาบนห้อง แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน ป้าสมศรีจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเอง ทำให้เห็นอันนานอนซม เหงื่อโทรมใบหน้า ป้าสมศรีเห็นสภาพใบหน้าที่ซีดเซียวจึงรีบเดินเข้าไปปลุกอันนา"คุณหนูอันนาคะ ป้าเอาข้าวมาให้" จังหวะที่เอื้อมมือไปแตะตัวของอันนา ทำให้ป้าสมศรีรู้ว่าอันนาตัวร้อนผ่าว เธอจึงตกใจและรีบไปแจ้งรายงานให้กับนายท่าน ของเธอ คือ มาร์คัส อย่างรวดเร็วมาร์คัสที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวในคฤหาสน์ หลังจากเสร็จกิจกรรมกับอันนาตลอดช่วงเช้า ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่าย กว่าๆ เมื่อเขารู้ว่าอันนาอยู่ๆ เกิดอาการไข้ขึ้นตัวร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุซึ่งใจจริงเขารู้สาเหตุอยู่แล้วว่านั่นน่าจะเกิดจากตัวเขา เขาจึงได้เชิญหมอประจำตระกูลมาที่บ้าน"ป้าสมศรี หมอมาหรือยังครับ" มาร์คัสหันมาถามป้าสมศรีที่ยืนอยู่ข้างๆ"คุณหมอกำลังมาค่ะคุณมาร์คัส" ป้าสมศรีหันมาตอบแล้วยืนโค
มาร์คัสยังคงไม่หยุด เขาก้มหน้าลงดูดดุนติ่งเสียวของเธออย่างไม่ลดละ ราวกับกำลังลิ้มรสของหวานที่ถูกใจ ร่างกายของอันนาบิดเร่าไปมาด้วยความทรมานปนสุข เธอเกร็งไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่นในที่สุด เมื่อความเสียวซ่านมาถึงขีดสุด ร่างกายของอันนาก็กระตุกเกร็งเกร็งไปทั้งตัวก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำหวานออกมาเลอะหน้าของมาร์คัส ราวกับเป็นการบ่งบอกถึงจุดสูงสุดของความต้องการมาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากกลีบกุหลาบที่บอบช้ำ ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยธารน้ำหวานนั้น เขายกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองอันนาที่นอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ"หวาน..." มาร์คัสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาลุกโชนกว่าที่เคย "เธอทำให้ฉัคลั่ง อันนา"มาร์คัสไม่รอให้อันนาได้พักหายใจ เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดกลืนทุกเสียงครวญครางและหอบหายใจของเธอ ความดิบเถื่อนและความเร่าร้อนของเขาไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแม้แต่น้อย มือหนาข้างหนึ่งรวบร่างบอบบางของเธอให้แนบชิดกับกายแกร่ง อีกข้างหนึ่งจับเรียวขาของเธอให้ยกพาดบ่าอย่างไม่รีบร้อน"อื้อออ...!" อันนา
ผ้าถูกถอดทิ้งกรองลงบนพื้นเหลือเพียงกางเกงที่สวมใส่หน้าอกอวบอิ่มดูเย้ายวนเหมือนเชื้อเชิญให้มาร์คัสมาสัมผัสและเชยชมแอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบกระทบกายของอันนา แต่ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเย็นตามอุณหภูมิห้องเลยความเร่าร้อนที่ได้รับมาจากผู้ชายตรงหน้าทำให้อันนาล่องลอยเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัววนอยู่ในท้องมันทั้งสุขและเสียวในเวลาเดียวกันเหมือนมีไฟฟ้าโลดแล่นช็อตแปล๊บ ๆ ภายในร่างกายที่ร้อนระอุ อันนาทั้งกลัวและอยากจะหนีไปแต่แรงอารมณ์ของอันนาที่ถูกถ่ายทอดมานั้นมันทำให้เธอตกเป็นทาสของมาร์คัสในเวลานี้"ฮืม ...เด็กดี ..หวาน" มาร์คัสพูดเสียงเบาๆเอยชมอันนามันทำให้อันนารู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าว"พอแล้วได้ไหมคะ..อ้าส์" อันนาที่เสียวกระสันจนครางส่งเสียงเย้ายวนออกมา ปากบอกให้พอ แต่พอโดนมาร์คัสหยอกเย้ายอดประทุมเธอก็แอ่นอกให้เขาอย่างเต็มใจร่างกายกับปากของเธอมันช่างตรงข้ามกันทุกระเบียบนิ้ว"หึ!" มาร์คัสเปล่งเสียงเย้ยหยันในลำคอออกมา เขาถูกอกถูกใจที่อันนาผู้หญิงที่เขาเลือกตอบสนองไวต่อความต้องการของเขา"เธอนี่มันร่าน! ฮืม..." สองมือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียน จากสันหลังลงมาที่เอวคอดแล้วเลื่อนมาที่สะโพกงอน มาร์คัสบีบเค้นจนขึ้นเ
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยมาคัสก็บอกให้อันนาเดินตามเขาไปที่ห้องทำงานคำพูดที่แสนเย็นชาการกระทำที่หยาบกระด้างเหมือนกับหินทุบลงพื้นมันทำให้อันนารู้สึกเกรงกลัวมาขัดขึ้นทุกวัน"ค่ะคุณมาร์คัส มีอะไรหรือเปล่าคะ" อันนารวบรวมความกล้าหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้วก็ถามมาคัดออกไปตรงๆ"เซ็นซะ เอกสารที่เธอควรต้องเซ็น"มาร์คัสไม่อธิบายอะไรให้กับอันนาฟันแต่บอกให้อันนาเซ็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้าของเธออันนาหยิบเอกสารขึ้นมาตั้งใจจะอ่านให้จบแต่มาร์คัสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า "ไม่ต้องอ่านหรอก เอกสารเซ็นหนังสือสมรสของเราสองคน..!" มาร์คัสที่พูดจาเย็นชาไม่ได้สนใจอาการสีหน้าตกใจของอันนาเลย"แต่ว่าอันนายังไม่ได้ตกลงนะคะ" อันนาหันมาพูดกับมาร์คัสเพราะเธอรู้สึกไม่เป็นธรรมเหมือนโดนมัดมือชก"ไม่จำเป็นต้องตกลง เพราะชีวิตของเธอเป็นของฉัน ทุกตารางนิ้วในร่างกายเธอตอนนี้เป็นของฉัน!" อันนาเธอรู้สึกมือเหงื่อออกจนชุ่มทั้งตื่นเต้นทั้งโมโหอยากจะเอามือไปข่วนหน้าคนที่เย็นชายังมาร์คัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"ลงชื่อของเธอลงในหนังสือสัญญาสมรสนี้ให้เรียบร้อยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น"มาร์คัสไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น คำว่าดีขึ้นดี