ตอนที่ 2
เต็นท์และรสรักของเรา
“โกรธแม่ใช่ไหมถึงได้จะไปต่างจังหวัดแบบนี้”
ผกาพยายามยันตัวขึ้นจากที่นอนเมื่อได้รู้จากปากของ ลูกชายว่าพรุ่งนี้เช้าภาคินจะเดินทางไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด
“ผมไม่ได้โกรธคุณแม่เลยก็แค่รู้สึกน้อยใจแต่ก็ไม่เกี่ยวกับการเดินทางไปครั้งนี้ครับ ผมอยากไปเที่ยวที่น่านมานานและบางทีผมอาจจะหาแม่ของลูกได้ที่นั่นกลับมาจากเหนือคราวนี้คุณแม่อาจจะได้ข่าวดีก็ได้นะครับ
ชายหนุ่มไม่ได้คิดอย่างที่พูดในตอนแรกแต่ทันทีเมื่อเขาเห็นหน้ามารดาแผนการทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจอย่างน้อยขนมผิงก็ไม่ใช่คนที่นี่การที่เขาจะจ้างเธอให้เป็นแม่พันธุ์มีลูกให้ก็อาจจะเป็นความลับที่ปิดมิดเพราะเธอไม่มีคนรู้จักที่เชียงใหม่บางทีการไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้เขาอาจจะทำการผลิตทายาทตัวน้อยสำเร็จในครั้งนี้เลย
“จริงหรือเปล่าลูก อย่าหลอกคนแก่นะถึงแม้ว่าลูกจะยังไม่มีหลานให้แม่ในเร็ว ๆ นี้ไปยังน้อยให้แม่เห็นสักครั้งเถอะว่ามันพอจะมีทาง ลูกเองไม่อยากมีครอบครัวไม่อยากมีเมียแม่ก็จะไม่บังคับแต่เอาเป็นว่าลูกไปหาวิธีการที่จะมีหลานให้แม่และขออย่างหนึ่งเลือกแม่พันธุ์ที่หน้าตาน่ารักหน่อยหลานของแม่จะได้หน้าตาดีกลับมาคราวนี้หวังว่าแม่คงจะได้เห็นหน้าตาแม่พันธุ์ของลูกนะ”
ชายหนุ่มจากที่ตั้งใจพูดตอนแรกแค่เพียงหวังว่าจะให้มารดาของเขาไม่รู้สึกน้อยใจที่เขาขอเดินทางไปต่างจังหวัดถึงหนึ่งสัปดาห์แต่ในเมื่อหลุดปากพูดไปแล้วและเขาเองก็เริ่มมองเห็นทาง ภาคินจึงตั้งใจจะเดินหน้าทำตามแผนให้สำเร็จภายในทิปนี้ให้ได้
“คุณมีของพร้อมจริงๆสำหรับการแคมป์ปิ้ง”
ภาคินหันไปมองรถด้านหลังที่เต็มไปด้วยของสำหรับ การแคมป์ปิ้งนอนกางเต็นท์ของขนมผิงที่เธอยกมาใส่รถเขาและเป็นคนจัดแจงวางทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบ
“ผิงก็ซื้อมาเติมเรื่อย ๆ ทำอย่างกับว่าไปเที่ยวทุกอาทิตย์ทั้งที่ความจริงครั้งสุดท้ายที่ฉันไปนอนกางเต็นท์ก็เกือบปีแล้วค่ะ”
รถยนต์สำหรับเจ็ดที่นั่งเต็มไปด้วยข้าวของเคลื่อนตัวออกจากเชียงใหม่ในเวลาเกือบเที่ยงสองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาต้นไม้และลำธารสายเล็ก ๆ ถึงแม้บางช่วงจะถูกขัดอารมณ์ด้วยสภาพถนนที่กำลังซ่อมแซมแต่มันก็ไม่ได้ทำให้หัวใจของคนทั้งสองรู้สึกสดชื่นน้อยลงเพราะต่างคนต่างรู้ว่าปลายทางที่รออยู่มันสวยงามแค่ไหน
“คืนนี้ผมว่าเรานอนพักที่โรงแรมกันก่อนไหมขึ้นดอยตอนมืดเราเองต่างก็ไม่ชินทางคงจะไม่ค่อยปลอดภัยและขึ้นไปตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะมีที่กางเต็นท์ไหมพรุ่งนี้เช้าออกกันแต่เช้ามืดจะดีกว่าเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วย”
ค่ำคืนนี้ภาคินตัดสินใจเช่ารีสอร์ตเล็ก ๆ แต่บรรยากาศดีเป็นที่พักร่างกายเตรียมพร้อมกับการเดินทางไปแคมป์ปิ้งบน อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าชายหญิงที่เคยเป็นคนแปลกหน้าต่อกันในเมื่อวานก็รีบรับประทานอาหารเช้าของทางรีสอร์ตและเดินทางขึ้นดอยทันที
“อากาศดีจังเลยค่ะเปิดกระจกดีกว่าผิงชอบอากาศแบบนี้อยากสูดให้เต็มปอดกลับไปทำงานกรุงเทพฯก็คงไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเที่ยวแบบนี้แล้วไว้ถ้าวันไหนคุณมาอย่าลืมโทรศัพท์ไปชวนกันบ้างนะคะ”
ภายใต้รอยยิ้มและดวงตาที่ดูสดชื่นแต่มันมีความเศร้าซ่อนอยู่ในนั้นเพราะตลอดเวลา 3 ปีที่ขนมผิงใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่ยอมไปทำงานที่กรุงเทพอีกแต่ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของเธอไม่มีทางเลือกพ่อของเธอที่กำลังป่วยด้วยโรคไตก็ยังคงต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมากเงินที่เธอได้จากครอบครัวของอดีตคนรักคงช่วยให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือนแต่เธอจะนั่งรอเวลาจนเงินหมดแล้วค่อยหางานทำไม่ได้
“คุณไม่สนใจมาทำงานบริษัทผมจริง ๆ หรือ...อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจตอนนี้ก็ได้ เวลาหนึ่งสัปดาห์ที่เราไปเที่ยวด้วยกันบางทีความเป็นคนดีของผลอาจจะทำให้คุณเปลี่ยนใจอยากอยู่ใกล้ ๆ เพื่อจะไปเที่ยวด้วยกันก็ได้”
หญิงสาวหันไปมองคนขับที่กำลังพูดไปเรื่อย ๆ ด้วยสายตาแปลกใจที่ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ทำรอยยิ้มสดใสดูเจ้าเล่ห์เป็นเสือผู้หญิงขึ้นมาทันที
“เมื่อวานยังดูคุณเป็นคนพูดน้อยอยู่เลยแค่ข้ามคืนเท่านั้นกลายเป็นคนพูดเก่งไปเสียแล้ว คุณภาคิน ฉันเรียกชื่อถูกใช่ไหมคะเพราะตั้งแต่เราได้คุยกันฉันยังไม่กล้าเรียกชื่อคุณเลย”
ชายหนุ่มยกมือหนาขึ้นมาลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกรู้ทัน เมื่อคืนเขาคุยกับเธอด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ใจส่วนวันนี้เขามีแผนการในใจรอยยิ้มบนใบหน้าแววตาและคำพูดทุกอย่างจึงไม่เหมือนเดิม
“ว่าแต่ผมแล้วคุณล่ะชื่ออะไรขนมผิงหรือผิงเฉย ๆ กันแน่”
“ขนมผิงค่ะ ขนมผิงแสนอร่อยแถมยังหอมด้วยรับรองว่าคุณภาคินต้องติดใจ”
ตอนที่ 12ครอบครัว เฌอพาปูนปั้นมาหาย่า ก่อนที่เด่นจันทร์จะยอมเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล “สาวน้อยของย่า” ปูนปั้นดีดแขนขาดีใจเมื่อได้ยินเสียงที่เธอคุ้นเคย จนผู้ใหญ่ทั้งสามคนต่างต้องเช็ดน้ำตา เด็กน้อยก็คือเด็ก เขารู้แต่ว่าเสียงนี้คือเสียงของคนที่ดีกับเขา “คิดถึงย่าใช่ไหม เดี๋ยวไม่นานเราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันนะ” เตชินปล่อยให้เด่นจันทร์ได้เล่นกับหลานโดยมีเฌอปรางคอยดูแลอยู่ ส่วนเขาแยกตัวออกมาคุยกับหมอที่กำลังจะทำเรื่องส่งต่อ คุณหมอคิดว่ามารดาของเขาคงอยู่โรงพยาบาลไม่นาน เพราะดูแล้วท่านยอมรับในตัวเอง และยอมรับที่จะรักษา เพราะไม่อยากมีจิตใจที่เป็นแบบนี้ เตชินดีใจ ที่อีกไม่นาน ชีวิตของเขาจะได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่เด่นจันทร์เข้าโรงพยาบาล ลออต้องมาอยู่บ้านของลูกเขยเพื่อดูแลหลานสาว เพราะเฌอปรางต้องออกไปช่วยสามีทำงาน ดาริณก็ยังคงทำงานอยู่เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้น กิจการทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่โตมากแต่ผลกำไรก็ได้เพิ่มขึ้นทุกเดือน ทุกคนรวมทั้งครอบครัวของเฌอปรางไปเยี่ยมเด่นจันทร์ทุกอาทิตย์ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกว่
ตอนที่ 11ตาสว่างนาทีที่ต้องเลือก เตชินได้อ่านข้อความทั้งหมด เขาเดินไปหามารดา พร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้เธอได้อ่าน “ไม่จริงลูก แม่ก็แค่อยากพูดให้เมียลูกกลัวก็เท่านั้น” เด่นจันทร์เดินเข้ามากอดลูกชาย หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสีย “หยุดเถอะครับแม่ ดาริณบอกผมหมดแล้ว เพราะผมใช้หนี้แทนพ่อกับแม่ให้เธอหมด ผมไม่คิดว่าความรักที่แม่มีให้ผม มันจะทำร้ายคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องแบบนี้ แม่รักผมแบบไหน ผมก็รักลูกผมแบบนั้น ดูแลตัวเองให้ดีนะครับแม่” ชายหนุ่มกำลังจะหันหลังเดินออกจากบ้านไป เขากลับต้องหยุดเมื่อได้เสียงมารดาตะโกนตามหลังมา “แกมันเนรคุณ ฉันเก็บแกมาเลี้ยง แม่แกมันก็แค่คนใช้ที่ถูกพ่อแกข่มขืน ฉันสงสารกลัวมันจะทำแท้งเอาแกออก เลยรับแกมาเป็นลูก ดูแลทุกอย่าง เลี้ยงแกให้ดีที่สุด สุดท้ายฉันก็ไม่อาจเปลี่ยนสายเลือดชั่ว ๆ ของแกได้ แกมันเลวเหมือนพ่อกับแม่แกไม่มีผิด” เตชินเข่าทรุดนั่งลงไปกับพื้น วันนี้มันคือวันอะไรของเขา ลูกเมียหนีไป สุดท้ายต้องมารู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของเด่นจันทร์ กลับเป็นลูกที่เกิดจากที่แม่ของเธอโดนข่มขืน “ผมจะกลับมา
ตอนที่ 10มือที่3 ปัญหาไม่ได้ถูกอธิบาย เฌอปรางไม่ถามอีกฝ่ายก็ไม่กล้าพูด ความสนิทสนมของดาริณและเตชินดูมากขึ้นทุกวัน เด่นจันทร์ก็พยายามที่จะพูดใส่หัวของเฌออยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุดหญิงสาวก็ถึงขีดสุดของความอดทน เฌอไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ฟัง เธอจึงตัดสินใจที่จะเล่าให้น้องชายของเธอช่วยหาทางแก้ปัญหา “พี่คุยกับพี่เตก่อน แต่ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ก็หย่าแล้วกลับบ้านเรา” เฌอตัดสินใจทำตามที่น้องชายแนะนำ เธอรอจนเกือบสามวัน ถึงจะมีเวลาเหมาะที่จะคุยเรื่องนี้กับสามี ตอนนี้ปูนปั้นอายุได้สามเดือนแล้ว เป็นเวลาสามเดือนที่ลูกสาวแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบพ่อแม่ลูกเลย วันนี้เฌอตั้งใจจะคุยทุกอย่างให้จบ “เตชิน เราคิดว่าความสนิทสนมที่เธอกับดาริณมีให้กัน มันมากเกินไป เราไม่สบายใจ และก็ทนที่จะรู้สึกแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว” เตชินทำท่าเหมือนคำพูดของภรรยาเป็นเรื่องตลกเป็นการแสดงความหึงที่ดูน่ารัก “ดาริณเขาน่ารักไม่ถึงครึ่งของเฌอเลย เราไม่นอกใจหรอก อย่าทำเป็นหึงแค่มีสามีหน้าตาดีแค่นี้” ชายหนุ่มทำท่าจะจับมือภรรยา แต่เฌอป
ตอนที่ 9ดูแลหรือกักขัง เด่นจันทร์ดูแลลูกสะใภ้เรียกได้ว่าแทบจะไม่ให้คลาดสายตา มีหลายครั้งที่แม่สามีลืมตัว เผลอพูกจาออกคำสั่งมากเกินไปแต่พอรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่ถูกใจ เธอก็จะเปลี่ยนเป็น ขอโทษแทน “แม่ก็ไม่เคยมีหลานกับเขา ใจมันก็ห่วง แม่รู้ตัวว่าเผลอพูดจาไม่ดีกับเฌอไปบ่อย ๆ ให้อภัยคนแก่อย่างแม่นะ ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารัก ว่าห่วงหลานเท่านั้น” เฌอปรางจับมือส่งยิ้มให้กับแม่สามี ทั้งที่หัวใจของเธอมันกำลังคิดตรงข้ามกับท่าทางที่แสดงออกไป “เฌอเข้าใจค่ะ” หญิงสาวไม่ได้เข้าใจอย่างที่เธอพูด เพราะเธอมองว่าชีวิตของเธอตอนนี้เหมือนนกน้อยในกรงทอง เตชินเองก็ขยันทำงานมากขึ้น เพราะเด่นจันทร์เปิดสาขาที่หก ทั้งที่ก็รู้ว่าตอนนี้ลูกชายของเธอเมียกำลังท้อง เฌอปรางอดคิดไม่ได้ ว่าเด่นจันทร์กำลังต้องการให้เธอและสามี อยู่ด้วยกันให้น้อยที่สุด เพราะบางคืนเตชินถึงขั้น ต้องนอนที่สาขาใหม่ไม่ได้กลับมานอนบ้าน วันนี้เป็นวันที่หมอนัด เพราะเริ่มใกล้คลอดคุณหมอจะนัดถี่ขึ้น เด่นจันทร์พาลูกสะใภ้ไปหาหมอ โดยมีคนขับรถคอยบริการ
ตอนที่ 8แม่ย่าเดินหน้าเอง เด่นจันทร์เธอรู้จักหมอเก่ง ๆ หลายคนและหลายสาขา เพราะกิจการของเธอต้องยุ่งเกี่ยวกับหมออยู่แล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะพาเฌอปรางไปปรึกษาหมอเพื่อวางแผนครอบครัว “แม่ต้องขอโทษหนูเฌอด้วยนะลูก ที่ไม่ได้บอกก่อน แต่แม่กลัวถ้าเตชินรู้เขาจะไม่ยอม” แม่สามีพูดกับลูกสะใภ้เมื่อเธอพามาถึงโรงพยาบาล ที่ได้โทรศัพท์มานัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว เฌอปรางรู้สึกแปลกใจที่เด่นจันทร์ดูรีบมีหลานมาก อยากมีคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่การแสดงออกมันทำให้รู้ว่ารีบมาก “ไม่เป็นไรค่ะ มันก็เหมือนกับเราได้มาวางแผนครอบครัว ถ้าหากวันใดท้อง ตัวน้อยก็จะได้แข็งแรงด้วยค่ะ” คนพามาส่งยิ้มให้กับความโง่ของลูกสะใภ้ ที่เชื่อเธอทุกอย่างไม่ว่าเธอจะให้ทำอะไร คุณหมอแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายทั้งของสามีและภรรยา มีการแจ้งวันที่ไข่ตก เพื่อจะได้ผลที่ดีมากขึ้น เฌอปรางคุยกับหมอไปก็เขินไปด้วย เพราะเธอไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น “เราเลือกเพศได้ไหมคะคุณหมอ” เด่นจันทร์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นทางคุณหมอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เธออยากได้หลา
ตอนที่ 7ความสุข(ปลอม)หลังแต่งงาน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและใหญ่โตสมกับ เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าแม่สถาบันความงาม ที่มีทรัพย์สินนับรวมแล้วเป็นร้อยล้าน ทั้งที่ส่วนใหญ่ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการ ฌอนน้องชายคนเดียวของเฌอ ทำหน้าที่ช่วยพ่อกับแม่จัดเตรียมงานให้พี่สาว ฌอนกับเตชินเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยเป็นเด็กผู้ชายโลกส่วนตัวสูง เขาจึงไม่ค่อยคุยกับใคร หลังจากงานกินเลี้ยงเสร็จ ทั้งสองคนบ่าวสาวก็เดินทางมาเข้าหอที่บ้านของเตชิน ลออกับธนทำหน้าที่ส่งตัว ระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่ข้างนอกเด่นจันทร์พยายามชวนฌอนคุย แต่เด็กหนุ่มกลับพูดแต่ครับอย่างเดียว เด่นจันทร์สัมผัสได้ถึงความเป็นคนเอาจริงเอาจัง และอารมณ์ร้ายของฌอน เธออยากจะตีสนิทเพราะกลัวอนาคตถ้าเธอตัดสินใจทำอะไรลูกสะใภ้ไปกลัวว่าเจ้าเด็กน้อยหน้านิ่งคนนี้ จะมาเป็นขวากหนามทีหลัง “เรียนจบแล้ว จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ไหน” เด่นจันทร์อยากรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะได้อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้พี่สาวแค่ไหน “ยังไม่ได้คิดครับ” คนถามถอนหายใจ เธอหมดความพยายามแล้ว นั่