ราตรียังคงมืดมิด กลืนกินไปทั่วดินแดนห้องหนึ่งทางอีกฝากของเรือนยังคงมีแสงเทียนสว่างไสว ทว่าบุคคลภายในห้องกลับมีแต่ความมืดมนในใจเรือนร่างสง่างามของจ้าวหมิงนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียงหลังใหญ่ สลบไสลมิได้สติ โดยมีหยุนผิงคอยดูแลเช็ดเนื้อตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อย่างทุลักทุเล อะไรที่ไม่ควรเห็นก็เห็นจนหมด หน้ามืดตาลายไม่หยุด“เฮ้อ!” หญิงสาวถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรไม่อาจทราบ “ฝ่ามือของข้ามีวิชามารต้านศัตรูสังหารผู้คน แต่กลับต้องมาใช้เพื่อเช็ดตัวบุรุษดูแลอย่างทะนุถนอม ช่างเสียเกียรติสิ้นดี”หยุนผิงบ่นอุบอิบด้วยสีหน้าเศร้าสลดแววตามืดมนต่อไปเนิ่นนานให้หลัง จ้าวหมิงก็ค่อยๆ สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเมื่อเรียวตาคมปรับแสงสลัวรอบตัวได้แล้วจึงมองเห็นสตรียั่วยวนตรงหน้า ร่างสง่าจึงสะดุ้งผุดขึ้นนั่งอย่างตกใจ“เจ้า!” แม้ไม่มีวรยุทธ์เลิศล้ำอันใด แต่จ้าวหมิงกลับเป็นคนที่มีสติฉับไว “เจ้าคือหยุนผิง”เจ้าของนามพลันชะงักมือที่ถือผ้าหมาดเพื่อเช็ดหน้าเขา หยุนผิงมององค์ชายรูปงามอย่างตกใจเช่นกัน “ท่านรู้จักข้าหรือ?”แววตาหญิงสาวคล้ายมีประกายสีแดงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็นแววตาที่เปล่งประกายความอำมหิตบางเบาครานี้จ้าวห
เส้นเสียงขาดหายไป ชายหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิดลึกซึ้งนึกถึงญาติสนิทผู้ผูกพันมานานปีอย่างเคร่งเครียด ครู่หนึ่งจึงเอ่ยต่อ“กระทั่งคุณหนูตระกูลใหญ่ผู้ที่ถูกวางตัวว่าต้องเป็นฮองเฮา อายุครบสิบห้าปีได้เวลาแต่งเข้าวังมา ไม่กี่ปีให้หลัง เสด็จอาก็เริ่มห่างจากข้าไป แต่ก็ยังมีความรู้สึกอันดีต่อกัน”ยามเล่าเรื่องราวด้วยเส้นเสียงเรียบเรื่อยจ้าวเหว่ยยังวิเคราะห์ไปด้วย “เจ็ดปีที่แล้ว ยามนั้นข้าเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท เสด็จอาคล้ายกับผิดใจกับเสด็จพ่อครั้งหนึ่ง ไม่นานก็เห็นพวกเขากลับมาเป็นปกติดังเดิม ทว่าไม่นานข้าก็ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเกือบตาย ต้องเร้นกายอยู่ที่ผิงเหยียน”ยิ่งพูดแววตาคมยิ่งมืดดำ“ที่แท้ข้าก็ถูกหลอกให้ไขว้เขว กำจัดศัตรูรายทาง โดยเว้นช่องว่างเพียงเขามาโดยตลอด”ซานซานเห็นสามีเคร่งเครียด จึงเอื้อมปลายนิ้วลูบไล้สัมผัสเบาๆ ตรงแผงอกอุ่นหมายปลอบใจ “เดิมทีข้าเพียงต้องการสร้างฐานะอีกสักหน่อยแล้วคิดจะหวนสู่ยุทธภพ แต่กลับเจอท่านที่เป็นเหย่หนิวตัวจริง ข้าจึงล้มเลิกเส้นทางสายเดิมที่เป็นปรปักษ์กับราชสำนัก ทำตัวเป็นภรรยาที่ดี ไต่เต้าฐานะตามที่สามีต้องการ แล้วก็คอยระวังหลังให้ท่านด้วย
จ้าวเหว่ยยิ้มกว้าง “เจ้าแก่มาก”“...!?”หลังจากนั้น แม่นางในอ้อมแขนก็ปั้นปึ่งแง่งอน เดือดร้อนสามีต้องปลอบใจอีกหลายกระบวนท่า เสื้อผ้าที่สวมให้ก่อนหน้า จำต้องถอดออกอีกครา เตียงนอนสั่นไหวร้อนเร่าอีกครั้ง ฝ่ามือหนากระชับเอวคอดกิ่ว ส่งภรรยาสู่ทุ่งดอกไม้ไฟที่ปะทุพร่างพราวอยู่เต็มฟากฟ้า ก่อนคุยกันอีกหนภายใต้ผ้าห่มหลังกิจกรรมรัญจวนสุขสมผ่านพ้น เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่ปลายเตียงนอน โดยที่ไม่รู้จะใส่ทำไม ในเมื่อสุดท้ายก็นอนเปลือยกายคุยกันอยู่ดีสิ้นเสียงหอบกระเส่า และเสียงครวญครางหวิวแผ่ว การสนทนาประสาคู่ชีวิตจึงดังอีกครา“สำนักเซียนหย่งสือของข้าแตกซ่านเมื่อหลายร้อยปีก่อนเหลือเพียงสำนักนารีแดงยืนหยัด ทว่ากลับระส่ำระส่ายไม่มั่นคง โดยมีนางมารโลหิตคอยประคับประคองภายใต้การคุกคามจากอำนาจราชสำนัก” ซานซานเอ่ยขึ้นหลังจากหายเหนื่อย แหงนดวงหน้าที่มีหยาดเหงื่อเกาะพราวออกจากแผงอกหนา“นางคือหยุนผิง เป็นศิษย์สาวรุ่นหลังที่เหลือของข้าเอง ยามนี้ถูกโซวอ๋องขู่เอาสำนักเป็นตัวประกัน สั่งให้นางทำงานลับหลายครั้ง ล่าสุดถูกสั่งให้เข้าหาองค์ชายสาม เพื่อปั่นหัวเขาให้แตกหักกับท่าน”“ที่แท้คนที่ไม่เคยระแวงกลับควรระวังท
หลังสิ้นศึกรักอันรุ่มร้อนซานซานลุกขึ้นด้วยท่าทางอิดโรยโดยมีจ้าวเหว่ยแต่งกายให้ด้วยสีหน้าเอิบอิ่ม หลังจากยืนเป็นตุ๊กตาให้สามีหมุนซ้ายขวา กระทั่งผูกสายคาดเอวแล้วพาไปนั่งบนตักอุ่นที่เก้าอี้ตัวเดียวกัน ซานซานก็เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเพราะครวญครางใต้ร่างสามีจนเส้นเสียงเหือดหาย จึงต้องจิบชาไปหลายถ้วย ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะเล่ารู้เรื่องแรกเริ่มชายหนุ่มยังนึกสงสารภรรยาที่ถูกเขาเคี่ยวกรำ แต่เมื่อฟังไปฟังมากลับสงสารตัวเอง“นี่ข้ามีภรรยาอายุหลายร้อยปีเชียว”ใต้หล้ากว้างใหญ่ไพศาล มีเรื่องราวเร้นลับนับหมื่นพัน น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเชื่อถือกัน กลับทำแม่นางหัวใจกระตุก“สำนักเซียนหย่งสือเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าเมื่อหลายร้อยปีก่อนและเจ้าสำนักเช่นข้าก็เป็นผู้คิดค้นเคล็ดวิชาร้ายกาจเอาไว้ในตำนาน ท่านควรภาคภูมิสตรีของตนที่เก่งกล้าสามารถ มิใช่กังวลที่มีเมียแก่นะ” น้ำเสียงสูงลิ่วบ่งบอกว่าขุ่นเคืองมาก สตรีทุกคนไม่ชอบให้ใครว่าแก่ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องจริง แต่จ้าวเหว่ยก็อดใจสั่นมิได้“สามีที่ภรรยาแก่กว่าสิบปีมิใช่ว่าไม่เคยปรากฏ แต่เจ้า...เจ้าแก่มากเกินไปแล้วจริงๆ”“เหย่หนิว!” ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเหยีย
ซานซานสะท้านเล็กน้อย ดวงตาคู่งามฉายแววซับซ้อนชายหนุ่มกระชับอ้อมแขนกอดภรรยาแน่นขึ้น กล่าวเสียงทุ้มนุ่ม “เช่นนั้นเจ้าบอกข้าได้หรือยัง ว่ารู้จักกับนางได้อย่างไร เกี่ยวข้องกันหรือไม่?”คู่รักอื่น แม้ได้อยู่ในฐานะสามีภรรยาต่อธารกำนัล พากันออกงานเชิดหน้าชูตาสง่าผ่าเผย แต่กลับหาใช่คู่ชีวิตที่แท้จริงไม่ ซึ่งแตกต่างจากจ้าวเหว่ยและซานซานแม้พวกเขามิได้เปิดเผยฐานะอันทรงเกียรติต่อธารกำนัลแต่กลับเป็นสามีภรรยาที่เรียกได้ว่าคู่ชีวิตและคู่คิดอย่างแท้จริงเห็นนางเงียบงัน ท่าทางไม่มั่นใจ นิ้วมือเรียวยาวจึงเอื้อมขึ้นมาเกลี่ยเบาๆ ที่ข้างแก้มนวล จากนั้นก็เลื่อนไปลูบเรือนผมเรียบลื่นของนาง รอฟังอย่างใจเย็นซานซานช้อนตามองเขา ปลุกปลอบความกล้า ท้ายที่สุดก็เอ่ยอย่างหนักแน่น “ในเมื่อท่านไม่มีสิ่งใดปิดบังข้าแล้ว เช่นนั้นหากข้าบอกความจริงก็หวังว่าท่านจะไม่ตกใจ และเชื่อในสิ่งที่ข้าจะบอกทั้งหมด”จ้าวเหว่ยชะงักปลายนิ้ว เลิกคิ้วเล็กน้อย “ดูทีว่าความจริงของเจ้าคงไม่ธรรมดา ข้าต้องทำใจก่อนไหม?”ซานซานพยักหน้าจริงจัง “ทำใจไว้บ้างก็ดี”คราวนี้เป็นชายหนุ่มที่นิ่งอึ้งจ้องนางในอ้อมแขนเป็นนาน สุดท้ายเพียงกล่าวเสียงเนือย“เร
ชายหนุ่มเห็นหน้าหยุนผิงก็จำได้ทันที เรียวคิ้วขมวดแน่น ฉงนเพียงครู่ก็เข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายคงเป็นนักฆ่าปลอมตัวมาเป็นสาวงามดังคำน้องชาย เขาจึงหันมาจ้องหน้าภรรยา“เจ้ารู้จักนางหรือ?”ซานซานยังคงปั้นปึ่ง “ข้ากับนางรู้จักกันเกี่ยวอันใดกับที่ท่านทำตัวเหลวไหล เจ้าชู้หลายใจ นอกใจข้า”อาการเช่นนี้เห็นทีคงคุยกันไม่รู้เรื่องเป็นแน่ จ้าวเหว่ยจึงก้มหน้าจูบซานซานแรงๆ หนึ่งที ทำนางตะลึงนิ่งงัน เขาฉวยโอกาสนั้นช้อนร่างนุ่มขึ้นอุ้มแล้วใช้วิชาตัวเบาหายวับไปอู๋จวี้เห็นเช่นนั้นก็พรู่ลมหายใจโล่งอก คิดในใจอย่างชาญฉลาดว่า บรรดาสตรีเห็นรัชทายาทก็มักจะเป็นเช่นนี้ พวกนางต่างยื้อแย่งกันอย่างรุนแรง ใครพ่ายย่อมล้มเป็นธรรมดา อย่างน้อยก็เหลือหนึ่งคนให้เจ้านายได้คลายโทสะคิดเสร็จก็พุ่งตัวตามเจ้านายไป เพื่อเฝ้าหน้าประตูห้องให้คงเหลือแต่หยุนผิงที่ยืนโง่งมอยู่เช่นนั้น ชั่วอึดใจก็หันไปมองจ้าวหมิง เห็นเขานอนสลบหมดสภาพอยู่กับพวกสาวงามนางคงต้องช่วยเขาก่อน ค่อยไปถามอาจารย์อีกทีว่าจะเอาอย่างไรกันแน่!ภายในห้องส่วนตัวโอ่โถง บนเตียงร้อนเร่าสองร่างเปลือยเปล่าหยาดเหงื่อเกาะพราวนอนเกยกอดกันภายใต้ผ้าห่มอุ่น ทรวงอกหยุ่นนุ่มบดเบียดแ