เรือนไผ่ริมธารอันเร่าร้อน สู่วังหลวงอันหนาวเย็น อบอวลอุ่นไอรักที่ซ่อนเร้น นางผู้ปรากฏกายให้เห็น พร้อมบุตรสาวของเขา *** นางคืออดีตจอมยุทธ์หญิงฝีมือฉกาจในร่างหญิงสาวอ่อนแอไร้ค่า เขาคือองค์รัชทายาทหนุ่มรูปงาม ในคราบชายอัปลักษณ์ การแต่งงานเกิดขึ้นที่ริมธาร ความเร่าร้อนในค่ำคืนหนึ่งคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง *** มิใช่เพียงเพราะสัญญาหมั้นหมาย หากแต่เป็นเพราะเขากับนางรักกันมาก รักกันมานาน ทว่าภาพที่เห็นคืออันใด น้องสาวแสนดีกับชายคนรักกำลังเดินจูงมือกันอย่างหวานชื่น และหายไปทางเรือนแห่งหนึ่ง หลังจากลอบติดตามและแอบมองเนิ่นนาน เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ก็ยิ่งไม่เข้าใจ พวกเขาทำอะไร? นั่นคือคู่หมั้นอันเป็นที่รักของนางกับน้องสาวผู้แสนดี พวกเขาคงเจอกันโดยบังเอิญ แล้วทักทายกันตามประสา นางมิอาจคิดการไม่บังควรกับพวกเขา... “ช้าก่อน!” ซานซานตวาดก้อง “นี่ข้าต้องเป็นวิญญาณสิงร่างนางโง่งมผู้นี้อย่างนั้นหรือ? คู่หมั้นตัวเองกำลังขย่มกับน้องสาวก็ยังไม่เข้าใจ ข้าจะบ้าตาย ขอลงนรกแทนได้ไหม?” “ไม่ได้!” “...!?”
view moreดินแดนใต้หล้าแบ่งแยกหลากแคว้นหลายชนเผ่า ปกครองด้วยผู้นำของแต่ละพื้นที่ตามแบบวิถีของตนเอง
แผ่นดินใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่ามักปกครองโดยบุคคลอันถูกเรียกขานว่าฮ่องเต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นโอรสสวรรค์ ส่วนแผ่นดินผืนเล็กผืนน้อยมักจะปกครองกันเองด้วยหัวหน้าเผ่าหรืออ๋องศักดินา แต่ยังคงขึ้นตรงกับฮ่องเต้ของแผ่นดินใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่า
ทว่านอกเหนือจากอำนาจราชศักดิ์และระบบการปกครองต่างๆ เหล่านั้น ยังมีชาวยุทธ์ยอดฝีมือแฝงตัวไปทั่วหล้า ก่อตั้งสำนักต่างๆ ทำงานให้ชนชั้นสูงอยู่เงียบๆ รับเงินเป็นกอบเป็นกำเพื่อดำรงชีพ หนึ่งในนั้นคือ สำนักเซียนหย่งสือ เป็นสำนักที่มีนักฆ่าเดนตายมากมาย ทำงานลึกลับฝังตัวซ่อนเร้นให้องค์กรใต้ดินมาช้านาน
เจ้าสำนักแห่งนี้คือประมุขหญิงผู้ยิ่งใหญ่แห่งใต้หล้า
นามว่าซานซาน
หญิงสาวผู้นี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นนางมารร้าย บาดแผลตามร่างกายล้วนบ่งบอกได้ดีว่าผ่านการนองเลือดมามากมายปานใด กระทั่งใบหน้ายังไม่เหลือส่วนใดให้เรียกว่าอิสตรี
ดวงตาของนางมืดดำมีเส้นเลือดแดงก่ำราวปีศาจมีแผลเป็นบวมเป่งดุจตะขาบพาดผ่านตั้งแต่หน้าผากลากยาวลงมาถึงปลายคาง ริมฝีปากแหว่งเว้า จมูกบิดเบี้ยวเสียรูปทรง
ซานซานมีฝีมือล่าสังหารฉกาจ นอกจากมีความสามารถพลิกแพลงทุกสิ่งรอบตัวเป็นอาวุธร้ายได้ตามแต่ใจ ยังฝึกทุกสรรพวิชาจนสำเร็จได้โดยง่าย นิสัยรักสวยรักงามใดๆ นางไม่เคยสน
นอกจากเป็นเจ้าของเคล็ดวิชาฝ่ามือมรณะยังลอบฝึกวิชาหมื่นพิษ วิชาไอมาร ปราณเทพสังหาร เคล็ดวิชานารีพิฆาต ไสยเวทย์มนต์ดำอำมหิต
เรียกได้ว่าวิชามารอันชั่วร้ายทั้งหลายนางล้วนแตกฉานมีความสามารถไร้ขีดจำกัด ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นในพริบตา
ทว่าน่าเสียดาย ถึงแม้ว่าจะเก่งกาจปานใด หากแต่ใจยังเป็นหญิงสาวผู้อ่อนไหว ที่ผ่านมาด้วยเพราะไม่เคยรู้จักคำว่ารัก จึงฝักใฝ่เพียงการฝึกวิชาและเข่นฆ่าล่าสังหาร กระทั่งวันหนึ่งมีชายงามส่งยิ้มให้
ซานซานผู้ไม่เคยมีผู้ใดส่งยิ้มให้กลับได้รับรอยยิ้มนั้นจากบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งโดยบังเอิญ ทำให้นางเกิดรักแรกพบ ทั้งหลงใหลจนไม่ลืมหูลืมตา ทว่าเขากลับมีภรรยาอันเป็นที่รักอยู่แล้วหนึ่งคน กระนั้นซานซานไม่สนใจ นางไม่ไยดีต่อศีลธรรม ปราศจากความละอายต่อฟ้าดิน คิดแย่งชิงชายคนนั้นมาครอบครองให้จงได้
ซานซานวางแผนชั่วร้ายหมายมาดให้ภรรยาเข้าใจสามีผิดมหันต์ คิดจับตัวบุรุษมากักขัง และคิดสังหารภรรยาให้ตายตก
เรียกได้ว่าเป็นนางมารต่ำทรามจิตใจอำมหิตโดยแท้แค่คิดอย่างเดียวยังโฉดชั่วปานนั้น
ทว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือเมฆายังมีดวงตะวันสาดแสงอันร้อนแรงแผดกล้า เมื่อเรื่องต่ำช้าของซานซานถูกอาจารย์ล่วงรู้เข้าผ่านดวงจิตที่พวกเขาสื่อถึงกัน
ท่านปรมาจารย์เซียนหย่งสือ คืออาจารย์ของซานซาน
เขาคือผู้ละแล้วซึ่งเส้นทางนองเลือดของยุทธภพ หลุดพ้นจากเส้นทางสายมาร หันเหไปเลือกหนทางแห่งเซียน บำเพ็ญเพียรตบะสูงส่ง จึงมอบสำนักให้ซานซานดูแล
ท่านผู้นี้คือภูผาที่แข็งแกร่งผงาดกล้าในใต้หล้า ยิ่งกว่าภูเขาเช่นซานซาน และยิ่งโหดร้ายกว่าผู้ใดทั้งหมด
ท้ายที่สุด นอกจากซานซานจักมิได้บุรุษมาครอบครอง ทั้งยังมิทันพรากสามีจากภรรยา นางก็ถูกอาจารย์จัดการก่อนแล้ว
ชีวิตก็ยังมิอาจรักษา...
ศิษย์โหดเหี้ยม มีหรืออาจารย์จักใจดี
ด้วยวิชาดูดวิญญาณของอาจารย์เซียนหย่งสือ วิญญาณของซานซานจึงถูกกระชากออกจากร่าง ได้ยินเพียงประโยคยามสิ้นชีพจากอาจารย์ดังก้องกังวานว่า
“จงชดใช้กรรมเสียดีๆ ชีวิตนี้จักได้ไม่สูญเปล่า”
นับเป็นจอมมารผู้กลับตัวเป็นเทพเซียนโดยแท้จริง...
เพราะต้องชดใช้กรรม นำคุณธรรมค้ำจุนโลกา
เป็นนางมารกลับใจ สร้างคุณงามความดีชดเชยความผิด
ทำให้ซานซานต้องไปสิงร่างของสตรีนางน้อยผู้หนึ่ง ซึ่งโง่งมเหลือเกิน ชีวิตอัปยศอดสูที่สุด
ดูเถิด! ท่านอาจารย์ช่างลงทัณฑ์ข้า …นางมารผู้นี้!
สามวันต่อมา...ราชโองการสมรสพระราชทานอย่างเป็นทางการก็เดินทางมาถึงจวนสกุลหลิวมหาขันทีส่วนพระองค์ยืนอยู่กลางโถง สองมือถือแผ่นผ้าสีทองกางออกเบื้องหน้า ทำท่าจะประกาศก้องอย่างเป็นทางการ กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณหนูหลิวฉานเหยาจู่ๆ ก็ล้มตึงลงบนพื้นห้อง สองตาเหลือกถลน กลีบปากอวบอิ่มที่ทาชาดสีแดงมีน้ำลายฟูมออกมา นางชักดิ้นชักงอมีท่าทางอเนจอนาถอย่างมาก ขันทีจำต้องม้วนพระราชโองการมงคลสมรสเก็บใส่กล่อง ยืนมองเหตุการณ์วุ่นวายกลางโถงเงียบๆสมรสพระราชทานยังมิได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งยังไม่มีใครรับราชโองการ ขั้นตอนยังไม่ทันสมบูรณ์กลับเกิดเรื่องขึ้นเช่นนี้ ลางร้ายโดยแท้...หลิวฉานเหยาหมดสติหลับใหลนับแต่วันนั้น หลายวันผ่านไปยังคงไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมา หมอแต่ละคนตรวจอาการเสร็จก็ทำได้แค่ส่ายหน้า จนปัญญาหาสาเหตุ ทำได้แค่รักษาตามอาการประคองลมหายใจหนึ่งเดือนต่อมาในค่ำคืนหนึ่ง หลิวฉานเหยาพลันฟื้นคืนสติขึ้นมา ทว่ากลับกลายเป็นสตรีไม่สมบูรณ์เหมือนเก่า นางนั่งเหม่อลอยคล้ายเด็กน้อย พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง บางครั้งยังซึมเซา บางคราวยังนั่งกล่าวคำเรื่อยเปื่อยแล้วหัวเราะคนเดียวถึงแม้ว่าราชโองการยังไม่ถู
หญิงสาวหมุนตัวอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง ซบหน้าลงตรงแผงอกหนา แนบพวงแก้มกับกล้ามเนื้อตึงแน่น ใช้มือลูบไล้เบาๆ ส่งผ่านความรู้สึกวาบหวามผ่านปลายนิ้วทะลุเนื้อผ้า“ท่านอยากแต่งกับนางหรือไม่เล่า?”ชายหนุ่มเชยคางมน ก้มหน้าสบตาภรรยาที่ได้กราบไหว้ฟ้าดินแล้วตั้งแต่บ้านไผ่ริมธาร“ใจข้ามีเพียงเจ้า”รอยยิ้มหวานพลันปรากฏบนใบหน้างาม ซานซานรับรู้ถึงความจริงใจจากแววตามั่นคงและวาจาหนักแน่นนั้นจ้าวเหว่ยก้มหน้าลงจุมพิตกลีบปากอิ่ม ส่งผ่านความร้อนจากปลายลิ้นให้ซึมลึกถึงความรู้สึกแห่งก้นบึ้งของหัวใจเนิ่นนานผ่านไปจึงถอนริมฝีปากตนออกอย่างเอื่อยเฉื่อย เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่วงท่าคุ้นชิน จับร่างเล็กนุ่มนิ่มให้หมุนเข้าหา จับสองขาเรียวเสลาแยกออกแล้วตวัดรอบเอวเขาสองเรือนกายเริ่มบดเบียดเนิบนาบ เสียงเสียดสีของเสื้อผ้าเกิดขึ้นครู่ใหญ่ ก่อนที่ทุกชิ้นที่ห่อหุ้มทั้งสองค่อยๆ คลายตัวเลื่อนออกจากช่วงไหล่ เผยผิวกายขาวเนียนใต้แสงเทียนรำไรทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กัน ซานซานรู้สึกได้ถึงความคะนึงหา รับรู้ความรักของเขาได้จากอ้อมอกอบอุ่นกว้างหนา วงแขนแข็งแกร่งทรงพลัง ฝ่ามือหยาบกระด้าง ทุกสัมผัสที่เขามอบให้นัยน์ตาลึกล้ำของจ้าวเหว่
หลังงานเลี้ยงเลิกรา ซานซานยังไม่ลืมลอบไปหาบุตรสาวที่ตำหนักฮุ่ยเยี่ยนเนื่องจากดึกมากแล้ว เด็กหญิงลู่หลิ่งจึงนอนตัวกลมอยู่บนเตียงอุ่น ซานซานเข้ามาหอมแก้มลูกน้อยหลายที จนลู่หลิ่งปรือตาสะลึมสะลือ“ท่านแม่”เห็นลูกงัวเงียยกมือขยี้ตาทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง ซานซานจึงตบก้นกล่อมแม่นางน้อยให้นอนหลับต่อ“ไม่ต้องลุก แม่มิได้จะรบกวนเจ้า แค่อยากมาหอมแก้มให้หายคิดถึง”เด็กหญิงนอนลง กลิ้งใบหน้าซุกหมอนหนุน ม้วนตัวกับผ้าห่มอุ่น บ่นอู้อี้ “ท่านพ่อรอนานแล้วกระมัง ท่านแม่รีบไป”คนถูกไล่พลันหรี่ตา “เจ้าลูกคนนี้ เห็นพ่อดีกว่าแม่”เด็กหญิงหัวเราะคิก หันหลังหลับต่อเนื่องจากซานซานย้ายออกจากตำหนักฮุ่ยเยี่ยนแล้ว เรือนพักเดิมจึงไม่มีสิทธิ์เข้านอนตามอำเภอใจ นางจึงลอบไปตำหนักบูรพา ทำตัวเป็นจอมโจรเด็ดบุปผาแน่นอนว่าโจรคือนาง บุปผาคือสามีเมื่อเข้ามายังด้านในอันเป็นห้องส่วนตัวอยู่ชั้นสองของเรือนหลัก ปลายเท้าเล็กแตะพื้นแผ่วเบา ดวงตางามกวาดมอง แสงเทียนในห้องมีเพียงริบหรี่ สาดส่องรำไร เห็นเงาร่างสูงใหญ่ของบุรุษยืนเอามือไพล่หลังอยู่ริมหน้าต่าง คล้ายรอคอยอยู่แล้วเป็นนาน ซานซานเดินเงียบเชียบ มองสามีผู้สูงศักดิ์ของตนนิ่งๆ เนิ่
ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เบาๆ “ดี...เช่นนั้นเราประสงค์มอบสมรสพระราชทานให้เจ้ากับรัชทายาทเป็นไร?”โดยไม่ต้องคิด หลิวฉานเหยารีบคุกเข่าตอบรับอย่างเร็ว ด้วยเกรงว่าฮ่องเต้จะเปลี่ยนพระทัยและกลัวรัชทายาทจะปฏิเสธทั้งรวดเร็วและรวบรัด ทั่วทั้งงานพลันเงียบสงัดในบัดดลจ้าวเหว่ยพลันเบิกตา เรียวนิ้วที่คลึงจอกเหล้าชะงักค้าง สายตาคมมองพระบิดาอย่างไม่อาจเชื่อแต่ไหนแต่ไรมา เสด็จพ่อมักจะถามความเห็นชอบจากเขาก่อนเสมอ ไม่เคยกระทำการอุกอาจเช่นนี้ไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง ไม่ทันได้ยับยั้ง ยิ่งไม่ถามความคิดเห็นใดๆ ก่อนใคร หมายความว่าอย่างไร?มีความจริงอีกหนึ่งประการ ตระกูลหลิวเป็นตระกูลใหญ่ ค้ำชูราชวงศ์ต้าถังมาช้านาน ฮองเฮายังประทับนั่งอยู่เคียงข้างโอรสสวรรค์ จ้าวเหว่ยไหนเลยจักปฏิเสธได้ยิ่งไม่อาจหักหาญน้ำใจขุนนางที่จงรักภักดีจากรุ่นสู่รุ่นต่อพระพักตร์ฮ่องเต้และธารกำนัลในยามนี้ จ้าวเหว่ยจึงทำได้แค่ลุกขึ้นแล้วเดินมายืนเบื้องหน้าแท่นประทับ ประสานมือโค้งคำนับอย่างเงียบงัน ปรายสายตามองพระบิดาอย่างเย็นชาลมราตรีเย็นฉ่ำ ชายผ้าบุรุษพลิ้วไหว แผ่ซ่านกลิ่นอายอันน่าหลงใหลเฉพาะตัวออกมารัชทายาทหนุ่มรูปงามในอาภรณ์ม่วงอมทอง ก
ใต้ม่านราตรีสีหม่น กลับมีเบื้องล่างเป็นโคมประดับหลากสีส่องสว่างทั่ววังฮ่องเต้ทอดพระเนตรการแสดงความสามารถจากคุณหนูผู้งดงามของเหล่าตระกูลขุนนางต่างๆ ด้วยความพึงพระทัยลมเย็นโชยเอื่อย ค่ำคืนยาวนาน งานเลี้ยงยังคงดำเนินไป บุปผาพลิ้วไหว ให้เย้ายวนใจ ดอกแล้วดอกเล่า กระทั่งถึงการแสดงของสตรีที่จักรพรรดิทรงรอคอยคุณหนูตระกูลหลิว...นางมีนามว่า หลิวฉานเหยาหญิงสาวแสดงความสามารถศาสตร์ศิลป์ด้วยบทเพลงสูงส่งทั้งไพเราะจับใจและหาฟังยาก หลังจากเรียวนิ้วกรีดกรายทำนองสุดท้าย การบรรเลงจึงจบลง ตามด้วยเสียงปรบมือชื่นชมจากผู้คนทั่วทั้งงานนางค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแช่มช้าแล้วพาร่างระเหิดระหงมาหยุดยืนเบื้องหน้าโอรสสวรรค์ ก้มศีรษะย่อกายทำความเคารพต่อพระพักตร์ด้วยกิริยางดงาม กล่าวคำแนะนำตัวตามด้วยการบรรยายบทเพลงที่เพิ่งจบไปด้วยน้ำเสียงกังวานหวานดั่งระฆังเงิน “สงครามยาวนานดุจนิรันดร์ เหลือไว้เพียงความสิ้นหวัง ก่อเกิดมหาบุรุษดั่งสวรรค์สร้าง ดำรงไว้ซึ่งสงบสุขชั่วนิจนิรันดร์ หม่อมฉันขอถวายบทเพลงนี้ต่อฝ่าบาทเพื่อเป็นเกียรติแด่จอมทัพต้าถังและเชิดชูเหล่าทหารกล้าทุกคนเพคะ”ดวงหน้าตกแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมล้ำค่า ดวงตาที่ถูก
ยังคงเป็นเหมือนทุกครั้ง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่กองทัพ หลังสิ้นศึกกลับเมืองหลวง มักมีงานเลี้ยงรออยู่เสมอขุนนางมากมายตบเท้าเข้ามาร่วมงาน ร่วมแสดงความจงรักภักดี แย้มยิ้มยินดีกับชัยชนะ ยังไม่ลืมพาคุณหนูผู้สูงศักดิ์ออกจากจวนมาให้ยลโฉมด้วยยามนี้องค์ชายวัยหนุ่มแน่นของราชวงศ์ต้าถังมีน้อยยิ่งเพราะองค์ชายรองจ้าวหยางถูกเนรเทศ องค์ชายสามจ้าวหมิงถูกสังหาร ที่เหลืออยู่มีแค่สองคน คือองค์ชายสี่จ้าวเหวิน และองค์ชายใหญ่ซึ่งก็คือรัชทายาทจ้าวเหว่ยองค์ชายสี่นั้นมีพระชายาเอก ชายารอง และอนุชายาครบครันไม่ขาดไม่เกิน ในขณะที่องค์รัชทายาทยังไม่มีใครในตำหนักบูรพาเลยสักคน ไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาก็พอจะล่วงรู้ได้ ว่าเป้าหมายของคุณหนูงดงามล้วนตกอยู่ที่ผู้ใดเบื้องบนเยื้องจากแท่นประทับมังกรหนึ่งระดับคือที่นั่งประจำตำแหน่งองค์รัชทายาทจ้าวเหว่ยนั่งอยู่บนนั้น ใบหน้าหล่อเหลายังคงสงบราบเรียบดุจเดิม ทว่าแววตาลึกล้ำกลับสั่นไหวเบาๆเขาอยากให้ใครบางคนมานั่งด้วยกันเต็มที่แล้วงานเลี้ยงยังคงดำเนินไปเหมือนเช่นทุกครั้ง คุณหนูวัยออกเรือนได้รับเกียรติออกมาแสดงความสามารถอันสูงส่งงดงามทว่าที่แตกต่างคือการประกาศมอบรางวัลให้ทหารที
Mga Comments