เธอตอกกลับจนคนที่เป็นห่วงถึงกับสะอึก เขารีบมาที่โรงแรมหลังจากที่ทราบข่าวจากรุ่งรุจีเพื่อนสนิทอีกคนว่า วันนี้ วชิราภรณ์เดินทางมาที่โรงแรมแห่งนี้พร้อมกับวุฒิชัย เพื่อจัดการกับคนรักของน้องสาวต่างมารดาเหมือนรายอื่นๆ ณัชญ์รีบรุดมาที่นี่เพราะกลัวว่าเธอจะพลาดพลั้งตกเป็นของวุฒิชัยจริงๆ แต่พอมาเจอประโยคคำพูดของเพื่อนสาว ทำให้จิตใจของเขาห่อเหี่ยวขึ้นมาทันที
“ที่ณัชญ์มาที่นี่เพราะณัชญ์เป็นห่วง ถ้าผึ้งไม่ใช่เพื่อนของณัชญ์ ณัชญ์จะไม่ยุ่งด้วยเลย”
น้ำเสียงแกมน้อยใจของเพื่อนสนิท ทำให้วชิราภรณ์รู้สึกตัวว่าตนเองนั้นพูดแรงเกินไป เธอรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้เป็นห่วงเธอมากแค่ไหน บางครั้งห่วงมากจนรู้สึกรำคาญและอึดอัด
“ผึ้งขอโทษนะ ณัชญ์อย่าโกรธผึ้งนะ”
วชิราภรณ์กล่าวขอโทษเสียงหวานและออดอ้อน เดินเข้ามาเกาะแขนณัชญ์อย่างเอาใจ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ “ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันเถอะ ฉลองความสำเร็จของผึ้งไง เดี๋ยวโทรบอกให้จีไปที่บ้านผึ้งเลย”
“ก็ได้” เป็นอีกครั้งที่ณัชญ์ใจอ่อนกับทีท่าและน้ำเสียงอ้อนหวานๆ ของเพื่อนสาว อาจเป็นเพราะว่าชายหนุ่มรักวชิราภรณ์มาก...มากจนมองข้ามคำพูดและการกระทำของเธอ สองหนุ่มสาวพากันเดินไปยังร้านขายอาหารในละแวกใกล้เคียง เลือกซื้ออาหารหลายอย่างก่อนจะเดินทางกลับไปยังบ้านของวชิราภรณ์
“ฮือๆๆ ฮือ” เสียงสะอื้นไห้ดังออกมาจากลำคอของเขมิกาอย่างต่อเนื่อง มือเล็กกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ข้อความภาพที่ถูกส่งมายังคงปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือ เสียงสะอื้นดังออกมาถึงนอกห้อง วรางค์คนางค์ที่กำลังเดินผ่านห้องส่วนตัวของลูกสาวชะงักเท้าโดยพลัน เปลี่ยนทิศทางการเดินจากความตั้งใจเดิมจะลงไปชั้นล่าง เดินตรงไปยังห้องของบุตรสาวทันที นางเคาะประตูสามครั้งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง
“เป็นอะไรเขม ลูกร้องไห้ทำไม” นางถามลูกสาวเมื่อทรุดกายลงนั่งบนเตียงนอน
“คุณแม่ขา...เขม เขม...ฮือ”
หญิงสาวที่กำลังร้องไห้ไม่ตอบคำถาม แต่กลับโผกอดร่างของมารดาเอาไว้แน่น ร้องไห้กับอกแสนอบอุ่นและเป็นที่พักพิงเธอได้ทุกครั้งที่ประสบพบเจอกับคำว่าทุกข์ ฝ่ามือของวรางค์คนางค์ลูบศีรษะของลูกสาวเบาๆ คล้ายกับปลอบประโลม กระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นราวกับจะปกป้อง
“ร้องไห้ทำไมลูก ใครทำอะไรลูกแม่” นางถามหลังจากที่เสียงสะอื้นไห้ของลูกสาวทุเลาลง
“คุณแม่ขา ดูนี่สิคะ”
เขมิกายื่นโทรศัพท์ที่อยู่ในมือให้มารดา นางรับมันไว้แล้วก้มมองภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ดวงตาขอสตรีวัยห้าสิบปีเบิกกว้างด้วยความตกใจ บุคคลที่อยู่ในภาพคือวุฒิชัย คนรักของลูกสาว ในภาพไม่ได้มีเพียงแต่วุฒิชัยเท่านั้น ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งอยู่ในภาพนั้นด้วย ทั้งสองอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน แล้วที่สำคัญท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างมีผ้าห่มคลุมทับเอาไว้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ทั้งคู่เพิ่งผ่านกิจกรรมอะไรมา
“ผู้หญิงคนนั้นส่งมาให้เขมค่ะคุณแม่ เธอบอกว่า บอกว่า เธอขอพี่วุฒิค่ะ ฮือ”
เสียงร้องไห้ของเขมิกาดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อนึกถึงคำพูดที่ยังคงก้องอยู่ในหู หญิงสาวจำเสียงของต้นสายได้ดี เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน เขมิกาจะได้ยินทุกครั้งที่เห็นภาพบาดอารมณ์ อีกทั้งยังเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ความรักของเธอครั้งนี้ได้อับปางลงแล้ว แต่ที่เธอไม่เข้าใจก็คือ ผู้หญิงปริศนาคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ เหตุใดจึงแย่งชิงคนรักของเธอด้วย หากแย่งไปแล้วยังรักกันอยู่เธอพอจะเข้าใจ มันไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งคู่จะเลิกร้างกันในเวลาต่อมา เขมิกาจึงไม่เข้าใจจุดประสงค์ของหญิงสาวปริศนาคนนั้นเลย
“โถ...ลูกแม่ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย แม่ไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงคนนี้ว่า ต้องการอะไรมาทำกับเขม
แบบนี้ทำไม”
วรางค์คนางค์ก็ต้องการคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน สี่ครั้งแล้วที่เขมิกาต้องร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องที่เหมือนหนังเก่ามาเล่าใหม่ ซ้ำๆ หลายครั้ง หัวใจของคนที่เป็นแม่เจ็บช้ำไม่แพ้กัน
“เขมก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่า ผู้หญิงคนนั้นต้องการอะไร ทำแบบนี้ทำไม เขมจะทนไม่ไหวแล้วนะคะคุณแม่ ฮือ”
เขมิกาถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีเยี่ยม ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ถูกอบรมให้สมกับเป็นกุลสตรีไทย เธอได้รับความอบอุ่นทั้งจากบิดาและมารดา หญิงสาวจึงเปรียบเสมือนแก้วที่เปราะบาง ไม่มีภูมิคุ้มกันพร้อมที่จะแตกสลายได้ทุกเมื่อ หากมีอะไรมากระทบจิตใจ อย่างเช่นเรื่องนี้เป็นต้น หากไม่มีมารดาคอยปลอบโยนและให้กำลังใจ เขมิกาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร
“เขมต้องอดทนนะลูก ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลก เขมของแม่ต้องเข้มแข็ง การที่ผู้หญิงคนนั้นแทรกเข้ามาในความรักของลูก มันก็เหมือนเป็นการพิสูจน์ความหนักแน่น ความจริงใจของชายคนนั้นๆ ว่าจะรักลูกแม่จริงมากน้อยแค่ไหน ให้ลูกแม่ได้รู้ตัวก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกันไป เพราะถ้าถึงวันนั้นเขมจะต้องเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด เชื่อแม่นะลูก เขมต้องเข้มแข็งและอดทน”
“เขมไม่เข้าใจเลยค่ะคุณแม่ เขมไม่เคยไปแย่งของของใคร ไม่เคยแย่งชิงความรักของใครด้วย ไม่เคยแม้แต่จะคิด แล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้มาแย่งคนที่เขมรักด้วยล่ะคะคุณแม่”
ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา เขมิกาถูกแย่งชิงคนรักไปถึงสี่คน ซึ่งแต่ละครั้งมักเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เธอยังจำน้ำเสียงของสตรีในภาพได้ไม่มีวันลืม เพราะมันเหมือนกันทุกครั้งที่เกิดเรื่องเช่นนี้ และความเจ็บปวดทางใจมีมากไม่ต่างกันเลย
คำพูดของลูกสาวกระแทกใจของคนที่เป็นแม่อย่างจัง หรือนี่มันจะเป็นผลกรรมที่นางได้ทำไว้ในอดีต มันไม่ได้ย้อนกลับเข้ามาหานางอย่างที่สมควรจะเป็น ผลกรรมกลับพุ่งเป้าไปที่เขมิกาแทน ลูกสาวเป็นคนรับกรรมแทนนาง กรรมที่ยังติดเป็นชนักปักหลังนั้นก็คือ นางแย่งชิงณัฐพลมาจากอดีตภรรยาของเขานั่นเอง
“เขมไม่ผิดหรอกลูก เขมลูกแม่ไม่ผิด เขมต้องเข้มแข็งนะลูก ถ้าลูกอ่อนแอเมื่อไหร่ ผู้หญิงคนนั้นก็จะได้ใจ เธอก็จะทำอย่างนี้ซ้ำๆ ซากๆ การที่ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าคนรักของเขมคือใคร นั่นหมายความว่าเธอต้องรู้การเคลื่อนไหวของลูก เพราะฉะนั้นอย่างอ่อนแอ เขมต้องยืนหยัดให้ได้ เขมต้องลุกขึ้นสู้บ้างนะลูก คนที่อ่อนแอมักตกเป็นเหยื่อของคนที่เข้มแข็งเสมอ ถ้าเขมอ่อนแอมันก็ยิ่งได้ใจ”
มารดาพูดถูก ผู้หญิงคนนั้นต้องรู้ความเคลื่อนไหวของเธอ ไม่เช่นนั้นจะไม่รู้ว่าคนรักของเธอนั้นคือใคร ทว่าในความเป็นจริงมันทำได้ยากยิ่ง เขมิการรักใครรักจริง ไม่เผื่อใจไว้สำหรับคำว่าผิดหวังเลย ดีที่ว่าเธอกับวุฒิชัยคบหากันได้ไม่ถึงสามเดือน ความรักจึงยังไม่แน่นในอุรา ความเจ็บปวดจึงมีไม่มากเท่าคนรักคนก่อนๆ
“เขมจะเข้มแข็งค่ะ เขมจะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ”
“ดีมากลูก ล้างหน้าล้างตาซะนะ แล้วลงไปทานข้าวนะลูก”
“ค่ะแม่” เขมิการับคำมารดาเสียงเบา เธอส่งยิ้มบางๆ ให้วรางค์คนางค์ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ล้างหน้าขจัดความทุกข์ที่แต่งแต้มติดบนดวงหน้าออก ต่อไปนี้เธอจะต้องเข้มแข็ง จากผู้แพ้ต้องเปลี่ยนเป็นผู้ชนะให้ได้
295หนึ่งปีผ่านไป หลากหลายเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างมากมายในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีทั้งสุขและทุกข์แตกต่างกันไป ณัชญ์ได้แต่งงานกับอรุณวรรณหลังจากที่เธอหายป่วย มีความสุขตามประสาครอบครัวที่อบอุ่น คงจะขาดอยู่อย่างหนึ่งที่ณัชญ์เพียรพยายามทำมาตลอดก็คือ การผลิตทายาท แต่สุดท้ายความพยายามของณัชญ์ก็สัมฤทธิ์ผล เขาสามารถเสกทารกน้อยเข้าไปอยู่ในท้องของภรรยาได้สำเร็จ ณ วันนี้อรุณวรรณท้องได้หนึ่งเดือนแล้ว ตัณติกรกับรุ่งรุจีก็มีความสุขไม่ยิ่งหย่อนกว่าใคร หลังจากที่แต่งงานได้เพียงสองเดือน ข่าวดีก็เกิดขึ้นกับคนทั้งคู่ ข่าวที่ว่านั้นก็คือ รุ่งรุจีตั้งครรภ์หนึ่งเดือน นั่นเท่ากับว่า เคล็ดลับและเทคนิคที่ตัณติกรศักษามาเห็นผล ความดีใจไม่ได้มีเพียงเขาและเธอเท่านั้น คนที่ดีใจจนออกนอกหน้าประหนึ่งว่าตัวเองกำลังตั้งท้องเองก็คือ อัชฌา ที่ขนซื้อของบำรุงร่างกายไปให้พี่สะใภ้ จนคนที่ท้องทานแทบไม่หวาดไม่ไหว และแล้วอัชฌาก็ได้หลานชายสมใจ ธัญญ์กับวชิราภรณ์ครองคู่กันอย่างมีความสุข ธัญญ์ดูแลเอาใจใส่ลูกเมียและแม่ยายเป็นอย่างดี และตอนนี้ความบาดหมางระหว่างกัญญากับธัญญ์ก็ต่อกันสนิท ไม่หลงเหลือควา
294หน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสิ่งนั้น สิ่งที่ทำให้หญิงสาวรู้ว่าเขาปรารถนาเธอมากเพียงใดหลังจากที่ธัญญ์ก้าวขึ้นมาบนเตียง เขาไม่รีรอที่จะฝังร่างสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับกายสาว แต่กว่าจะฝ่าความคับแน่นที่ไม่เคยล่วงล้ำเข้าไปจนสุด เหงื่อของเขาก็ไหลชโลมกาย ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ หลายครั้ง เช่นเดียวกับเธอที่รู้สึกอึดอัดและเจ็บเล็กน้อยธัญญ์จูบเธออีกครั้งหลังจากที่นำพาร่างกายฝังลึกสุดทาง จุมพิตอย่างดื่มด่ำ เรียกร้องและเร้าอารมณ์ มือนุ่มๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายแข็งแกร่งของธัญญ์อย่างเบามือ ใช้ปลายเล็บกรีดเป็นทางตรงกลางแผ่นหลังจนถึงเอว ลากปลายเล็บขึ้นๆ ลงๆ ไปมา จนเกิดเสียงครางเล็กๆ ในลำคอหนา“คุณธัญญ์ คุณธัญญ์” ทันทีที่ปากนุ่มได้รับอิสระ วชิราภรณ์ก็ปลดปล่อยเสียงครางรัญจวนออกมา เพราะเขาเริ่มบรรเลงเพลงรักแบบเต็มรูปแบบ เอวใหญ่ออกแรงขับเคลื่อนจากจังหวะเบา ช้าๆ แต่เน้นในจุดเชื่อมต่อในช่วงนาทีแรกจากนั้นค่อยๆ เพิ่มความแรงในเวลาต่อมา ความร้อน อาการเสียวสะท้านเดินทางมาย่ำเยือนกายสาวยามที่เขาขับจังหวะเข้าใส่ ส่งผลให้เธอส่ายร่อนสะโพกรับแรงกระชั้น ความหฤหรรษณ์ในการเสพสมในครั้งนี้จึงเพิ่มพูน แน่นในทรวง
293ธัญญ์กล่าวคำมั่นสัญญากับวชิราภรณ์ต่อหน้าฟ้าเบื้องบน ทะเลเบื้องล่าง เป็นคำมั่นที่เขาตั้งปฎิญาณไว้ในใจว่า ทำได้อย่างแน่นอน เธอน้ำตาปริ่มเมื่อได้ยินคำพูดหนักแน่นและสัญญาจากปากได้รูป“ผึ้งรักคุณค่ะ รักยังไงก็รักอยู่อย่างนั้นและจะรักตลอดไป”“เรามาเข้าหอกันเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”เขาพูดกระซิบอยู่ที่ใบหูสะอาดของเธอ ก่อนจะช้อนอุ้มร่างสวยขึ้นสูง ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องนอน บรรจงวางร่างของวชิราภรณ์บนเตียงหนานุ่มอย่างเบามือ“ผมรักผึ้งครับ”ดวงตาพราวระยับของธัญญ์จ้องมองดวงตาประกายสวยของเธอนิ่งหลังจากที่กล่าวคำรักจบ ก้มใบหน้าลงจูบหน้าผากมน เรื่อยมาถึงดวงตาทั้งสองข้าง อ้อยอิ่งอยู่นานบนพวงแก้มนวลที่ถูกเขาสูดดมความหอมข้างละหลายครั้ง ก่อนจะมาแนบสนิทริมฝีปากบนกลีบปากสีชมพูอ่อนของเธอปลายลิ้นใหญ่แทรกซอนเข้าไปค้นหาความหวานหอมในช่องปากสาว ที่มีดีกรีรสชาติยอดเยี่ยมอยู่ทุกอณู แน่นอนว่าคนที่ร้างลา ร้างสัมผัสมานานเป็นปี ต้องรีบกอบโกยหารสหวานที่รสชาติยังคงติดค้างอยู่ในรู้สึก ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ปบ่อยให้เขารุกรานเพียงคนเดียว ตอบสนองจูบกลับไปจนเกิดเสียงครางครึ้มในลำคอหนาลิ้นเล็กนุ่มที่กล้าหาญตวัดพันพัวลิ้นใหญ่ ดู
292การจดทะเบียนสมรสในวันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเขาและเธอ เพราะวชิราภรณ์บอกกับธัญญ์ว่า เธอไม่ต้องการพิธีแต่งงาน ขอเพียงเขาใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงในการจดทะเบียนสมรสและรักเธอด้วยหัวใจที่แท้จริงเท่านั้นก็พอแล้ว ซึ่งคำขอของวชิราภรณ์นั้น ธัญญ์ให้ได้ทุกข้อทั้งคู่ก้าวเดินมายังรถตู้ราคาหลายล้านที่จอดอยู่บนลานจอดรถของสำนักงานเขต ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถคันนั้น พอทุกคนนั่งประจำที่ กำพลสารถีได้ทะยานรถออกสู้ถนนสายหลัก มุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลสงฆ์เพื่อเลี้ยงภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรที่พักรักษาตัวอยู่ที่นั่น หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เดินทางไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ถวายสังฆทานเพื่อเป็นสิริมงคลของการดำเนินชีวิตคู่ ตบท้ายด้วยการเลี้ยงฉลองชีวิตคู่กันสองต่อสองด้วยการล่องเรือเดินทางจากเมืองไทยไปประเทศญี่ปุ่น พอถึงที่นั่นทั้งสองจะอยู่ท่องเที่ยวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศอังกฤษเป็นลำดับต่อไปบนเรือสำราญขนาดใหญ่ที่บรรจุนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือกว่าหนึ่งพัน กำลังแล่นอยู่บนทะเลสีฟ้าครามในยามพลบค่ำมุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในขณะที่เรือกำลังแล่นวชิราภรณ์ได้เดินออกมาจากห้องพักที่อยู่ชึ้นบนสุดของเรือส
291สองเดือนครึ่งต่อมาธัญญ์กับวชิราภรณ์เดินลงมาจากสำนักงานเขตหลังจากที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนหน้าที่จะจดทะเบียนดังกล่าว ธัญญ์ได้ให้เจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงที่เขาจ้างวานให้ไปเปลี่ยนชื่อและนามสกุลจากเดิมคือนายพุฒิพงศ์ คงถาวร มาเป็น ธัญญ์ ซันแมคควีน อมรวัฒนา มาทำการจดทะเบียนหย่ากับวชิราภรณ์ เมื่อขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย ธัญญ์ได้จดทะเบียนสมรสกับเธอทันทีบ้านที่ห่างหายจากความสุขมานานเป็นปี ได้พลิกฟื้นกลับมาใหม่เต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง หลังจากที่ธัญญ์ออกจากโรงพยาบาล เขาก็กลับมายังบ้านที่เคยอยู่ร่วมกับวชิราภรณ์ แล้วเขาก็ได้พาคนที่เคยหนีจากที่นี่ไปให้หวนกลับมาอยู่ร่วมบ้านอีกครั้ง แต่มีอีกสองชีวิตที่เข้ามาพักพิงอาศัยด้วยคือ กัญญากับกวินทร์ ธัญญ์คิดว่าบ้านหลังนี้เล็กเกินไปสำหรับครอบครัวของเขา เพราะคิดว่าตนเองต้องมีทายาทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เขาจึงคิดว่าจะหาบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่านี้ ความบังเอิญเกิดขึ้นเมื่อบ้านข้างๆ ติดป้ายประกาศขาย เนื่องจากจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ธัญญ์ตัดสินใจซื้อในทันที เนื้อที่ของบ้านหลังนี้กว่า 250 ตารางวา สามารถปลูกบ้านหลังใหญ่ เนื้อที่
290“เป็นอะไรคนดีของผม” เขาถามเมื่อก้าวขึ้นเตียงแล้วทอดกายลงนอนข้างร่างของสาวสวยที่มีท่าทางเหมือนคนกำลังร้องไห้“จี จีกลัว” เธอตอบเสียงสั่น“กลัวอะไรครับ” ตัณติกรเอ่ยถาม กรีดน้ำตาสาวที่เอ่อล้นตรงขอบตาอย่างแผ่วเบา“จี จีไม่บริสุทธิ์ จีกลัวคุณอาร์มไม่มีความสุข” รุ่งรุจีบอกสามีตามตรง“คิดอะไรโง่ๆ ความสุขของผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจีจะมีความสาวให้ผมหรือเปล่า ความสุขของผมคือได้อยู่ใกล้ๆ จี ได้รัก ได้ดูแล ได้เอาใจใส่และได้รับความรักจากจีต่างหาก อย่างอื่นผมไม่สนใจ ต่อให้จีผ่านผู้ชายมาเยอะกว่านี้ผมก็ไม่สน ผมรักจีที่เป็นจี รักที่ปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต”ตัณติกรกล่าวความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจให้คนที่เขารักได้รับฟัง คำพูดของเขาทำให้สาวขี้กลัว หากยจากอาการดังกล่าวเป็นปลิดทิ้ง ความประหม่าเหือดหายไปจนสิ้น“จีรักคุณอาร์มค่ะ คุณอาร์มจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่จีจะมอบหัวใจให้”“แค่นี้แหละครับที่ผมต้องการ ผมรักจีนะครับ”เขามอบจุมพิตหวานๆ ทาบทับเรียวปากสวยเป็นอันดับแรกหลังจากที่พูดจบ ตามมาด้วยมือแกร่างที่เริ่มสำรวจเรือนร่างอรชรของภรรยา ไล่ตั้งแต่โคนขาสาวที่ถูกลูบไล้อย่างแผ่วเบา ทำเอาเธอรู้สึกเสียววาบร้อนวูบข