แชร์

9.แต่งงาน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-16 12:08:30

น่าแปลกที่วันนี้ฝนไม่ตก ทั้งที่เมื่อวานตกหนักมากมายขนาดนั้น เย่วเล่อถือพัดลายดอกมู่ตานสีชมพูเอาไว้ในมือ ริมฝีปากบางหยักยิ้มขึ้นมาส่งให้จุนเฟิงที่นั่งอยู่บนรถม้าร่วมกันกับเธอ

เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่พร้อมกับทำท่าทีเขินอายมาสักพักแล้ว ราวกับว่าเขาคิดว่าเธอและหนิงหลงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน

"อันที่จริง วันนี้ข้ามีธุระกับท่านแม่ทัพนิดหน่อยเท่านั้นเอง...การมาพบกันครั้งนี้มิได้..มีเรื่องที่เกินเลย.."

"สายตาของข้ามิได้มองเถ้าแก่เนี้ยเช่นนั้นเลยขอรับ ข้าน้อยเพียงยินดีที่ท่านแม่ทัพหนิงยอมเปิดใจรับสตรีสักนางเข้ามาในหัวใจอันบอบช้ำของท่าน..."

หมายความว่ายังไงกันนะ หนิงหลงพึ่งถูกทิ้งมาอย่างนั้นหรือ?

"อ่า..เรื่องนั้น.."

"ท่านแม่ทัพหนิงพึ่งถูกทิ้งมาขอรับ น่าเห็นใจมากนะ ทั้งที่ตระกูลหนิงส่งของหมั้นไปแล้วแท้ๆแต่กลับยกเลิกงานมงคลในระหว่างที่ท่านแม่ทัพมาออกรบ เพราะฉะนั้นข้าน้อยยินดีมากขอรับ ที่สตรีคนใหม่ของท่านแม่ทัพจะเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนงาม"

เย่วเล่อมิได้กล่าวคำใด เธอมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า พร้อมกับหัวใจที่มีอาการหน่วงเล็กน้อย.. นี่คงจะเป็นเหตุผลที่เสน่ห์อันล้ำเลิศของเธอไม่สามารถทลายกำแพงที่สูงชันในใจของเขาเข้าไปได้สินะ

เพราะว่าเขายังปักใจกับความรักครั้งเก่าอยู่

สตรีโชคดีผู้นั้นเป็นใครกันนะ แถมนางยังกล้าทิ้งชายที่แสนดีอย่างหนิงหลงได้ลงคอ!

รถม้าจอดที่หน้าค่ายทหาร เย่วเล่อหยิบผ้าขึ้นมาคลุมศีรษะของเธอเอาไว้ อันที่จริงมิต้องปกปิดก็ได้แต่เธอเป็นห่วงชื่อเสียงของหนิงหลง จึงเลือกที่จะปกปิดเอาไว้ว่าสตรีที่มาหาเขาคือหญิงหม้ายเช่นเธอ

ในมือของจุนเฟิงคืออาหารเลิศรสของโรงเตี๊ยมซูฮวา เย่วเล่อคิดเอาไว้ว่าเขาจะต้องยังไม่ได้ทานมื้อเย็นอย่างแน่นอนเธอจึงนำอาหารพวกนี้ติดมือมาด้วย

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอห้องที่ว่างเปล่าไร้เงาของหนิงหลง

"ท่าทางท่านแม่ทัพจะยังคุยงานไม่เสร็จ เถ้าแก่เนี้ยรออยู่ที่นี่ได้เลยนะขอรับ"

เธอพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มจางๆให้กับจุนเฟิ่ง

ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นไผ่ในวันฝนตก มันคือกลิ่นที่พอได้ดมแล้วรู้สึกสบายใจ ถึงแม้ว่าในยามนี้เธอจะไม่มีสัมผัสจิ้งจอกแล้วแต่ทว่าเธอก็สามารถได้กลิ่นพวกนี้ได้อย่างชัดเจน

พอได้สังเกตดีๆห้องของหนิงหลงนั้นเรียบง่ายมากกว่าที่คิด เย่วเล่อเดินไปที่โต๊ะทำงานของเขา มีม้วนตำราและแผนที่มากมายวางอยู่ เธอยกม้วนตำราพวกนั้นขึ้นมาอ่าน แน่นอนว่ามันคือกลยุทธ์ในการออกรบ

"หนิงหลง..ข้าจะกลับแล้วนะ มีอะไรฝากไปให้..."

ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับชายผู้หนึ่งที่กล่าวทักทายอย่างสนิทสนมกับเจ้าของห้อง เพียงแต่ว่าในยามนี้หนิงหลงไม่อยู่ มีเพียงแต่เย่วเล่อเท่านั้นที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา

แววตาของเธอมิได้แสดงท่าทีที่ตกใจ เธอส่งยิ้มให้ชายแปลกหน้าพร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้ามาหาเขา

"ท่านแม่ทัพไม่อยู่เจ้าค่ะ หากต้องการพบท่านแม่ทัพคุณชายกรุณารอสักครู่..."

กว่าจิ่วเฉินจะหาเสียงตัวเองเจอก็ใช้เวลาสักครู่ ความงดงามที่อยู่เบื้องหน้ามันไม่ปกติสักนิด เขาท่องยุทธภพมาทั่วหล้ายังมิเคยพบเจอกับความงดงามที่สามารถสะกดสายตาของเขาได้ถึงเพียงนี้เลย อีกทั้งน้ำเสียงที่กล่าวออกมาก็ก้องกังวาน...

นี่คือภรรยาของหนิงหลงอย่างนั้นหรือ? ชักจะอยากรู้จักแล้วล่ะสิ

"เช่นนั้นข้าขอนั่งรอแม่ทัพหนิงอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน"

เยว่เล่อเดินมายังโต๊ะทานข้าว นางหยิบกาน้ำชาที่เตรียมมาเทใส่ถ้วยก่อนจะวางเอาไว้เบื้องหน้าของชายแปลกหน้า

"ไม่รู้มาก่อนเลยว่าหนิงหลงมีฮูหยินที่งดงามเช่นนี้"

"อ่า..ข้ากับท่านแม่ทัพนั้นเป็นเพียงสหายเจ้าค่ะ ฮูหยินท่านแม่ทัพจะต้องดีพร้อมและงดงามมากกว่าข้าอย่างแน่นอน"

จะหาสตรีที่งดงามมากกว่านี้ได้ที่ไหนกัน? ต่อให้พลิกแผ่นดินหาก็ไม่อาจหาพบได้

หนิงหลงเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทีที่เร่งรีบ เพราะเขาได้รับรายงานจากจุงเฟิงว่าเย่วเล่อมาถึงแล้วแต่ทว่าเขาไม่คิดว่าจิ่วเฉินจะมานั่งเสนอหน้าอยู่ที่นี่ด้วย

ภาพที่ทั้งสองนั่งคุยกันพร้อมกับรอยยิ้มนั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดพิลึก..

"หนิงหลงมาพอดีเลย ข้าจะกลับไปที่เมืองหลวงแล้ว เจ้าจะฝากสิ่งใดไปให้ฟางหรงรึเปล่า?"

หนิงหลงมองหน้าของเย่วเล่อ ก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบห่อผ้าพร้อมกับจดหมายส่งให้สหาย

"ฝากสิ่งนี้ให้ฟางหรงด้วย บอกว่าข้าจะกลับไปที่เมืองหลวง..ไปเยี่ยมเยียนนางในวันที่ให้กำเนิดหลานคนที่สี่อย่างแน่นอน"

"ได้เลย เอาไว้พบกันที่เมืองหลวงนะหนิงหลง"

ถึงแม้จิ่วเฉินจะเอ่ยคำลา แต่ทว่าเขากลับมิได้ออกไปแต่อย่างใด สายตาของสหายนั้นชัดเจนมากพอว่าเขากำลังสนใจเย่วเล่ออยู่

"คงจะดีหากว่าข้าจะขอทราบชื่อของแม่นางเอาไว้ เมื่อท่านเป็นสหายของหนิงหลง ย่อมถือเป็นสหายของข้าด้วย"

เย่วเล่อส่งยิ้มให้กับจิ่วเฉินก่อนที่เธอจะส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้กับหนิงหลง

"ไปได้แล้วจิ่วเฉิน ข้ากับนางมีเรื่องที่จะต้องคุยกัน..เป็นการส่วนตัว"

จิ่วเฉินหรี่ตามองหนิงหลง

"เห็นแก่ที่เจ้าเป็นสหายร่วมรบมาอย่างยาวนาน ครั้งนี้ข้าจะยอมเจ้าก็แล้วกัน"

จิ่วเฉินส่งยิ้มให้กับเย่วเล่อก่อนที่เขาจะลุกออกไป

"เหตุใดถึงบอกกล่าวกับเขาว่าเป็นสหายของข้า?"

เธอหยิบอาหารออกมาจัดวางบนโต๊ะ

"แล้วจะให้บอกกล่าวกับสหายของท่านว่าข้าเป็นฮูหนิงของท่านหรืออย่างไร?"

หนิงหลงนั่งลงตรงข้ามเย่วเล่อ

"ใช่...การบอกว่าเป็นฮูหยินของข้า น่าจะดีต่อเจ้าที่สุดในยามนี้"

เพราะว่านี่คือยามวิกาล มิมีสตรีที่ไหนออกจากบ้านในยามนี้ จะมีก็แต่นางคณิกาเท่านั้น การที่นางบอกว่าเป็นเพื่อนกับเขาถ้าเป็นคนอื่นน่าจะมองนางด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลนไปแล้ว แต่โชคดีที่เป็นจิ่วเฉินเพราะเจ้านั่นมองว่าทุกคนนั้นเท่าเทียมกัน

เย่วเล่อเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของหนิงหลงด้วยสายตาที่เจือปนไปด้วยความตกใจ

"แล้วถ้าหากว่าสหายของท่านเป็นคนที่นี่เล่า..คราวนี้ไม่ใช่เพียงแค่ข้าเท่านั้นแต่ท่านเองก็จะเดือดร้อนไปด้วยอยากแต่งงานกับข้าจริงๆรึไง.."

ถ้าหากว่านั่นคือการช่วยเหลือนาง เขาก็ยินดีที่จะทำ

เพราะการที่พลังเซียนของนางอยู่ที่เขา นางจะต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากมากทีเดียว

"เอาเช่นนั้นก็ได้ เราน่ะมาแต่งงานกันเถอะ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   ตอนพิเศษ เรียบง่าย

    นี่คืองานแต่งที่ทวยเทพทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนมาร่วมยินดี งานแต่งของมหาเทพบรรพกาล กับเทพจิ้งจอกผู้งดงามราวกับภาพวาดแน่นอนว่ามู่หยางจัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยครั้งนี้เขามิได้คำนึงถึงฤกษ์มงคลใดๆ เขาจัดงานในทันทีที่อาการของเยว่เล่อดีขึ้น ยามนี้นางคือภรรยาของเขาอย่างแท้จริงและพวกเรากำลังอยู่ที่หุบเขาแห่งเซียน เขารู้ดีว่าภรรยาชื่นชอบที่นี่ จึงมิคิดพานางไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นฟ้า "ภรรยาเจ้าติดค้างคืนเข้าหออยู่นะ..."เยว่เล่อหัวเราะเบาๆท่านเทพบรรพกาลผู้นี้จับเธอกินจนแทบมิเหลือเรี่ยวแรงในทุกค่ำคืน ยามนี้เธอเหนื่อยล้ากับการต้อนรับเทพที่มาร่วมยินดีเขาจะมิวายจะรังแกเธออีกอย่างนั้นหรือ"ท่านพี่ควรจะให้ข้าได้พักบ้าง"มู่หยางหัวเราะเบาๆ เขาอุ้มเยว่เล่อขึ้นมาวางเอาไว้บนเตียง"วันพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเยี่ยมอาเหยา ที่โรงเตี๊ยมนั่นของทุกอย่างที่เจ้าเคยใช้ อาเหยายังคงเก็บเอาไว้ให้เป็นอย่างดี..."เยว่เล่อส่งยิ้มจางๆให้สามี อาจจะเพราะเรานั้นอยู่ที่โลกมนุษย์มานาน คำเรียกขานเช่นนี้จึงสบายใจยิ่งกว่าการเรียกขานที่ห่างเหินอย่างที่พวกเซียนชอบกล่าวเธอคือภรรยาและเขาคือสามี เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว มิต้องการสิ่งใดที่ยุ่งย

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   25.ไม่แยกจาก

    หิมะโปรยปรายลงมาพร้อมกับเยว่เล่อที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เธอยกมือขึ้นมาเพื่อรอรับหิมะที่ตกลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าร่างกายของหนิงหลงนั้นสลายหายไปในอากาศเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าพลังเซียนของเธอนั้นอ่อนแอลงจนไม่สามารถคงสภาพของเขาเอาไว้ได้ เธอยังคงโอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของเขาทุกคืนก่อนนอน ถึงแม้ผิวกายของเขาจะเย็นเฉียบก็ไม่เป็นไร เธอยังคงพูดคุยกับเขาราวกับว่าเขายังอยู่ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะสูญสลายไปแล้ว...การมีชีวิตอยู่โดยไร้ท่านมันทรมานเหลือเกินหนิงหลง ข้าร่ำร้องขอความตายจากสวรรค์ในทุกค่ำคืนเผื่ออย่างน้อยที่ปลายทางมันจะมีท่านยืนรออยู่และแล้ววันที่เธอรอคอยก็เดินทางมาถึงในวันที่พลังเซียนของเธอกำลังจะหมดลง อายุขัยที่ยาวนานกำลังจะสิ้นสุด เยว่เล่อสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา เธอแต่งหน้าและแต่งตัวให้งดงามกว่าทุกวันเพื่อในยามที่ได้พบเจอหนิงหลง เธอจะได้งดงามที่สุดในสายตาของเขาเธอกำลังนั่งรอความตายที่คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆให้หิมะพวกนี้ฝังกลบร่างของเธอเอาไว้ ร่างของสาวงามพลันหายไปเหลือเพียงแต่ร่างจิ้งจอกที่มีขนสีขาวกลมกลืนไปกับหิมะที่นอนหายใจรวยรินอยู่มารับข้าไปได้แล้ว.

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   24.รอคอย

    ไร้สิ้นลมหายใจ หัวใจที่เคยเต้นแรงในยามที่โอบกอดเธอเอาไว้ ยามนี้มันไม่เต้นอีกแล้วปราณเซียนของเธอที่แบ่งให้เขาเอาไว้ถึงครึ่งบัดนั้นมันแตกสลายไปหมดแล้ว เธอมาช้าเกินไป เพราะมัวแต่ร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนั้นจึงไม่ได้มาทันล่ำลากับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ใบหน้างามอาบไปด้วยน้ำตาเพราะกับร่างกายที่สั่นเทา เยว่เล่อยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนที่นางจะลุกขึ้น "ใคร...ใครเป็นคนฆ่าเขา?" เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเมื่อถามถึงว่าใครกันที่สามารถล้มแม่ทัพหนิงผู้เกรียงไกรได้ ตามแขนและคอของหนิงหลงมีรอยเชือกแสดงว่าคนพวกนี้คงจะมัดมือมัดแขนของเขาเอาไว้หรืออาจจะมีการใช้ใครสักคนต่อรองเพื่อให้เขาวางอาวุธลง... แล้วยอมจำนน ไม่ว่าใครก็ไม่สำคัญทั้งนั้นเพราะว่าเธอจะฆ่าให้หมด...จะนำเลือดของคนพวกนี้มาล้างเท้าให้หนิงหลงเสียให้หมดทุกคน มีมือมาแตะที่ไหล่ของเยว่เล่อ พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นอาเหยา "ในใจเกิดความร้อนรุ่มขึ้นมา ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าเถ้าแก่เนี้ยจะต้องมีเรื่อง...ถ้าท่านจะจัดการคนพวกนี้ ให้ข้าน้อยเป็นผู้กระทำเถิดนะขอรับ" เพราะเยว่เล่อเป็นเซียน อีกทั้งนางสูญเสียพลังเซียนไปกว่าครึ่ง ทุกๆการใช้พลังของเทพจิ้งจอกอ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   23.พ่ายแพ้

    หนิงหลงหรี่ตามองนักดนตรีผู้หนึ่งที่กำลังตีกลองอยู่ เขารู้สึกว่าแววตาที่นางมองมาที่เขานั้นมันแตกต่างจากคนอื่นเพราะนางมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เจือปนไปด้วยความโกรธ ส่วนนางรำนางอื่นๆต่างมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เย้ายวนอ่า..เขาคิดว่าเขาพบเจอภรรยาตัวเองแล้วล่ะนะ"หลิงหยุนวันนี้ข้าพบเจอสตรีที่ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้วล่ะสิ...""...มีสตรีใดที่งดงามมากกว่าภรรยาของเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ? บ้าไปแล้วหนิงหลง"หนิงหลงยกมือขึ้นเพื่อให้การแสดงหยุด เขาเดินเข้ามาหานักดนตรีสาวที่กำลังนั่งตีกลองอยู่ พร้อมกับยื่นมือไปหานาง"เจ้าบรรเลงเพลงได้ถูกใจข้ายิ่งนัก แน่นอนว่าข้าอยากจะฟังฝีมือในการบรรเลงเพลงของเจ้าให้ชัดเจนกว่านี้..ลุกขึ้นมาเถิด"เยว่เล่อถึงกับหน้าชา นางมิรู้ว่าสามีล่วงรู้ถึงตัวตนของนางหรือว่าเขาเพียงแค่แสดงท่าทางเจ้าชู้ไปเรื่อยแล้วมันบังเอิญที่เขาเลือกนักดนตรีนางนี้...ที่นางปลอมตัวมาเขาเดินจับจูงมือของนางเพื่อจะพาไปด้านนอกกระโจมจัดเลี้ยงเพราะเวลานี้เป็นเวลาดึกมาแล้ว ใจจริงของหนิงหลง เขานั้นอยากจะหาเหตุผลออกไปจากที่นี่อยู่พอดี"ซุกซนเกินไปแล้วภรรยา เจ้าคิดว่าสามีจะจดจำเจ้ามิได้อย่างนั้นหรือ?"เยว่เล่อเม้มปา

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   22.แผนการ

    หนิงหลงกระโดดขึ้นม้า เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฟางเซียนในขบวน เราจะไปตั้งค่ายกันที่ใกล้สนามรบมากกว่านี้อีกหน่อย ไม่ไกลจากที่นี่มากนักแต่ทว่าเขาไม่เห็นความจำเป็นที่นางจะต้องตามไป"คือว่าข้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ ให้ข้าได้ทำประโยชน์เพื่อทหารกล้าทุกนายที่ช่วยเหลือข้าเถอะนะ"ฟางเซียนรีบกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้หนิงหลง เพราะเขามองมาที่นางด้วยแววตาที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่นางรู้ฟางเซียนรู้ดีว่าหนิงหลงนั้นเป็นห่วงนาง เขาไม่อยากให้นางไปที่สนามรบเพราะเขาหวาดกลัวว่านางจะเป็นอันตราย ที่เขามองมานั่นก็เพราะว่าเป็นห่วงนางรับรู้ได้จากแววตาที่โมโหของเขา"อย่าทำพลาดเพราะโอกาสมีเพียงครั้งเดียว จำให้มั่นว่าเจ้าจะต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้""รู้แล้วน่า ข้ามิใช่คนโง่ไม่ต้องมาสั่ง!"ฟางเซียนกล่าวกับชูชางเสียงต่ำที่พยายามขยับริมฝีปากให้น้อยที่สุดเพราะนางไม่ต้องการให้ผู้อื่นรับรู้ว่านางและแม่ทัพชูรู้จักหรือว่าสนิทกันทุกคนควรจะรับรู้ว่านางและแม่ทัพหนิงต่างหากที่รู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีฟางเซียนยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินตามขบวนทหาร..."นายหญิงก็เห็นใช่หรือไม่ สตรีผู้นั้นไม่น่าวางใจสักนิด เราควรจะตามไ

  • พรสามประการของเทพจิ้งจอก   21.ตัดไฟแต่ต้นลม

    ฟางเซียนอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่เลอะเทอะเป็นชุดที่สะอาดเรียบร้อย นางเดินออกมาด้านนอกเพื่อรอทานอาหารพร้อมกันกับพวกทหารมากมายแน่นอนว่านางได้รับความนิยมมากทีเดียวเพราะมีใบหน้าที่งดงาม แถมหนิงหลงยังประกาศว่านางคือลูกสาวของตระกูลฝูอีกด้วย แน่นอนว่าความนิยมยิ่งเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเพราะท่านพ่อนั้นเป็นถึงเสนาบดี "ข้าคิดว่าเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน"ชูชางนั่งลงตรงข้ามฟางเซียน พร้อมกับมองหน้าเธอด้วยแววตาที่มิได้สนอกสนใจใบหน้านี้เลย...เช่นนั้นบุรุษผู้นี้สนใจสิ่งใดกันล่ะ ถ้ามิใช่สนใจในตัวนาง ถ้าจำไม่ผิดฟางเซียนคิดว่าเธอเห็นเขาเดินตามสตรีชุดแดงมาเมื่อตอนบ่าย เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกัน เธอเริ่มมองเห็นเค้าลางความเป็นไปได้มากขึ้นแล้วชายผู้นี้จะต้องหลงรักว่าที่ภรรยาของหนิงหลงเป็นแน่ฟางเซียนยกยิ้มพร้อมกับเลื่อนจอกสุราไปให้เขา"ความรักนั้นน่าตลก...""สำหรับข้ามันมิได้น่าขำสักนิดเพราะว่าข้านั้นพร้อมจะแลกทุกอย่าง..แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่าง"ความงามขนาดนี้ไม่แปลกใจจริงๆที่ชายผู้นั้นจะแสดงออกชัดเจนเช่นนี้ เพียงแต่มันน่าสนใจเพราะว่าเธอเองก็อยากได้หนิงหลง.. เพราะว่าเขาเป็นแม่ทัพ แน่นอนว่าเขาจะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status