เวนิสาไม่กล้ามองชิ้นส่วนสำคัญแห่งบุรุษ กางเกงชั้นในตัวน้อยถูกดึงรั้ง ศศินเฝ้ามองเนินเนื้อที่อยู่ระหว่างซอกขาของเธอราวกับมันเป็นของล้ำค่า ดวงตาเขาเต็มไปด้วยไฟเสน่หา มันลามเลียร่างเธอจนร้อนไปหมด
และแล้วกางเกงชั้นในตัวจิ๋วก็หลุดออกจากปลายเท้า หญิงสาวใช้ศอกดันร่างขึ้นมามอง ศศินเคลื่อนกายลงไปด้านล่าง เขานอนคว่ำอยู่ระหว่างเรียวขาของเธอ กำลังใช้ปากสำรวจตรวจตราสามเหลี่ยมอวบอูมที่อยู่ระหว่างซอกขา ทุกวินาทีที่ปลายลิ้นเขาปาดไล้หยอกเย้า เขาจะจ้องมาที่ตาของเธอ เธอได้แต่อ้าปากส่งเสียงครางเท่านั้น
“อูย...พี่คะ...อย่า...” ต่อให้ร้องขอเช่นไรศศินก็ไม่หยุดทำร้ายกันด้วยปลายลิ้น เขาซุกหน้าลงไปดื่มด่ำอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน นานจนร่างกายเธอแตกผลิดอกผลแห่งความสุข ชาวาบไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่หลั่งล้นออกมาจากร่องหลืบอันเร้นลับ
“พี่คะ พอเถอะ...ฉันรู้สึก...วูบๆ วาบๆ ยังไงไม่รู้”
“ไม่รู้จริงๆ หรือว่าตัวเองเป็นอะไร”
คนถูกถามพยักหน้าเร็วๆ หลับตาพริ้ม ดื่มด่ำกับความสุขที่ส่งตรงมาจากซอกขา อาการชายังมีอยู่ รู้สึกถึงความไวของเส้นประสาทที่อออยู่ตรงสามเหลี่ยมเนิ
แสงตะวันเรืองรองที่ปลายคุ้งฟ้าด้านทิศตะวันออก เวนิสาลืมตาขึ้นมาอย่างเพลียแรง เธอหลับไปตอนไหนจำไม่ได้ รู้แต่ว่าเมื่อคืนร่างกายถูกใช้งานอย่างหนัก ทั้งจูบ ทั้งกอด ทั้งพลิกคว่ำพลิกหงาย สะพานโค้งก็มี ครบค่ะ! ครบทุกท่วงท่า!ครืด...ประตูกระจกของห้องแต่งตัวถูกเลื่อนออกจนสุด เผยให้เห็นร่างอันชุ่มด้วยหยดน้ำของศศิน เขาคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และกำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวเวนิสาตาโตเท่าไข่ห่าน อะไรละนั่น แค่มีเซ็กซ์กันแล้วไม่ได้หมายความว่าจะแก้ผ้า...แบบนั้น...ได้นะ!ผ้านวมนุ่มๆ ถูกดึงขึ้นมาปิดหน้าของเวนิสา เหลือทิ้งไว้ตรงดวงตากลมแป๋วน่าเอ็นดู หญิงสาวยังจ้องเขาอยู่ เขาก็เหล่มามอง ยิ้มเยาะอะไรสักอย่าง“มองแบบนั้นอยากจัดอีกสักรอบเหรอ”คนถูกถามส่ายหน้าพรืด เบะปากด้วยอยากจะร้องไห้“สมใจแล้วสิ เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าจะได้ร้องขอชีวิต หึๆๆ”เสียงหัวเราะของคนที่กำลังแต่งตัวทำให้เวนิสานึกขยาด ร่างกายที่ปวดร้าวทุกสัดส่วนทำให้เธอยอมพ่ายแพ้ ไม่เอาอีกแล้ว พอเลย งดทำลูกตลอดชีวิต!“ลุกได้แล้ว วันนี้มีสอนไม่ใช่เหรอ&rd
เวนิสาไม่กล้ามองชิ้นส่วนสำคัญแห่งบุรุษ กางเกงชั้นในตัวน้อยถูกดึงรั้ง ศศินเฝ้ามองเนินเนื้อที่อยู่ระหว่างซอกขาของเธอราวกับมันเป็นของล้ำค่า ดวงตาเขาเต็มไปด้วยไฟเสน่หา มันลามเลียร่างเธอจนร้อนไปหมดและแล้วกางเกงชั้นในตัวจิ๋วก็หลุดออกจากปลายเท้า หญิงสาวใช้ศอกดันร่างขึ้นมามอง ศศินเคลื่อนกายลงไปด้านล่าง เขานอนคว่ำอยู่ระหว่างเรียวขาของเธอ กำลังใช้ปากสำรวจตรวจตราสามเหลี่ยมอวบอูมที่อยู่ระหว่างซอกขา ทุกวินาทีที่ปลายลิ้นเขาปาดไล้หยอกเย้า เขาจะจ้องมาที่ตาของเธอ เธอได้แต่อ้าปากส่งเสียงครางเท่านั้น“อูย...พี่คะ...อย่า...” ต่อให้ร้องขอเช่นไรศศินก็ไม่หยุดทำร้ายกันด้วยปลายลิ้น เขาซุกหน้าลงไปดื่มด่ำอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน นานจนร่างกายเธอแตกผลิดอกผลแห่งความสุข ชาวาบไปตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่หลั่งล้นออกมาจากร่องหลืบอันเร้นลับ“พี่คะ พอเถอะ...ฉันรู้สึก...วูบๆ วาบๆ ยังไงไม่รู้”“ไม่รู้จริงๆ หรือว่าตัวเองเป็นอะไร”คนถูกถามพยักหน้าเร็วๆ หลับตาพริ้ม ดื่มด่ำกับความสุขที่ส่งตรงมาจากซอกขา อาการชายังมีอยู่ รู้สึกถึงความไวของเส้นประสาทที่อออยู่ตรงสามเหลี่ยมเนิ
ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลาย ดูเอาเถิด นี่ตั้งใจจะยั่วกันอีกแล้วใช่ไหมถึงได้ใส่ชุดนอนเซ็กซี่ขนาดนี้“อืม...ฟินสุดๆ ถ้าไม่กลัวอ้วนจะกินให้เกลี้ยงกล่องเลย” เวนิสาผู้มิรู้ว่าถูกแทะโลมทางสายตา ยังมีความสุขอยู่กับการลิ้มรสขนมหวานสีน้ำตาลเข้ม“ทำเป็นพูดดี อิ่มมาจากร้านกาแฟแล้วไม่ใช่เหรอ”คราวนี้เวนิสาถึงบางอ้อ ที่แท้เขาเห็นเธอที่ร้านกาแฟหรอกหรือ เห็นตอนไหน เห็นเมื่อไหร่ เอ...หรือว่าเขาจะ...“โอ๊ะๆๆ อย่าบอกนะว่าที่ทำบรรยากาศเหมือนพายุจะเข้านี่เป็นเพราะเห็นฉันอยู่กับปลายภู ว้าว...น่าดีใจนะเนี่ย”“เพ้อเจ้อ ไม่เกี่ยวกับเธอแล้วก็นายนั่นสักนิด”“จริงเหรอ”“แน่นอน” ยืนยันแล้วเสมองตัวอักษรในหนังสือ แต่อ่านเท่าไรก็ไม่เข้าสมอง เพราะตาคอยแต่จะมองไปยังแม่เนื้อนวล ลำคอหล่อนขยับเคลื่อนเบาๆ ในทุกครั้งที่กลืนกินช็อกโกแลตเนื้อนุ่ม ชุดนอนน่ารักแต่แอบเซ็กซี่ก็กวนใจเขาเสียเหลือเกิน ผ้าบางๆ แบบซีทรูช่างน่าโมโห อยากจะฉีกให้ขาดด้วยสองมือนัก“ว่าแต่...เธอสนิทกับเขาเหรอ หรือว่ากิ๊กกัน&rdq
“อย่าขยี้แรงอย่างนั้นสิ เดี๋ยวคอนแทคเลนส์บาดตาเอานะ” ว่าแล้วเอื้อมมือไปดึงนิ้วเรียวออกจากดวงตา แต่โดนเจ้าหล่อนปัดมือเขาทิ้ง“เรื่องของฉัน อย่ายุ่ง”“ไม่ยุ่งไม่ได้ครับ ทั้งห่วงทั้งหวง ทุกส่วนที่เป็นตะวันสำคัญกับผมนะ”เด็กน้อยหยอดคำหวาน รวีกานต์ทำตัวไม่ถูกก็เสไปหยิบเครื่องดื่มมาจิบ ใบหน้ายังไร้รอยยิ้ม“บอกแล้วว่าฉันไม่สนนาย ฉันรักบอสของฉัน รักมากด้วย”“อา...เจ็บจัง” เด็กน้อยบอกอย่างเจียมตน เอามือกุมอกแล้วนิ่วหน้ารวีกานต์ทำเมิน“เจ็บอะไร สาวๆ นายออกจะเยอะ รวยด้วย ขับเบนซ์เชียว”“สาวที่ไหน นั่นพี่สาว”“คิดว่าฉันจะเชื่อหรือไง”“จริงๆ นะ ไม่ได้คิดอะไรเลย เคารพเหมือนพี่แท้ๆ” เขาแก้ต่างพัลวัน“คนรวยแบบนั้นเขาจะมาเอ็นดูน้องชายแบบนายเหรอ มันคนละชั้นน่า” ว่าเหมือนเยาะปลายภูหน้าสลด เขาไม่ชอบเลยที่รวีกานต์พูดแบบนี้ เหมือนว่าหล่อนเห็นเงินสำคัญมากกว่าทุกสิ่ง“คนดีๆ ก็ยังมีครับ คนที่
[6]ความหึงเป็นเหตุ________________ศศินขับรถกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่ดีเป็นพิเศษ เขาเพิ่งเสร็จธุระกับลูกค้าที่ออกมาพบตั้งแต่บ่าย การเจรจาเรื่องงานผ่านไปได้ด้วยดี เขาเหลือบมองถุงของฝากบนเบาะข้างตัวแล้วอมยิ้มบางๆ เวนิสาต้องยิ้มแป้นตอนได้รับแน่ๆบิ๊กบอสขับรถไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่ไม่คุ้นชิน ผ่านห้างใหญ่ โรงเรียน ร้านสะดวกซื้อหรือแม้แต่สถานีรถไฟฟ้า รถจอดติดไฟแดงที่แยกอันแออัดแยกหนึ่ง เขากวาดสายตามองไปด้านข้าง จำได้ว่ามีร้านกาแฟของคนรู้จักตั้งอยู่นี่ที่“อ้อ...อยู่นั่นเอง ทำเลเหมาะน่าจะขายดีละนะ” เปรยแล้วสอดส่ายสายตามองทางนั้น แล้วจู่ๆ หัวคิ้วเข้มก็ได้เลื่อนเข้าหากัน สตรีและบุรุษคู่หนึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องมุ่นคิ้ว ฝ่ายชายเหมือนเดินออกมาส่งฝ่ายหญิงที่ลานจอดรถ ท่าทางสนิทสนมกัน พูดคุยหยอกล้อ บ้างมีตบหัวลูบหลังราวคุ้นเคยกันนักหนา รอยยิ้มที่ฝ่ายหญิงมีให้ฝ่ายชายทำให้เขาต้องส่งเสียงครางออกมาอย่างรำคาญใจ หล่อนจะยิ้มกว้างอะไรขนาดนั้น มีความสุขมากหรืออย่างไร
ก่อนเข้าบริษัทวันนี้ศศินแวะซื้อของกำนัลเล็กน้อย เขาไม่รู้จะให้อะไรกับรวีกานต์ดี ค่าที่หล่อนช่วยไม่ให้เขาโดนรถเฉี่ยวเมื่อวาน ทว่าเมื่อนึกดีๆ ก็จำได้ว่ามีของอยู่อย่างที่จำเป็นสำหรับหล่อน เขาได้ของสิ่งนั้นจากร้านสินค้าแบรนด์เนม ก่อนจะออกจากห้างก็จำได้ว่ามีสตรีอีกคนที่ควรซื้ออะไรไปปลอบขวัญเสียหน่อย เขาได้ของสองสิ่งที่มูลค่าต่างกันอย่างสิ้นเชิง หนึ่งคือร่มลายดอกไม้เล็กๆ คันละเกือบสองพัน มันเป็นของนำเข้าเลยราคาแพง ส่วนอีกอย่างคือช็อกโกแลตกล่องเหมาะมือ ราคาไม่กี่ร้อยบาทเขามาถึงที่ทำงานเกือบสิบเอ็ดโมง ตั้งใจว่าจะเอาของไปให้รวีกานต์ด้วยตัวเองเพื่อแสดงความจริงใจ อีกอย่าง...เขาคิดว่าควรลงไปดูสวัสดิการเรื่องอาหารการกินของพนักงานสักหน่อย____________บุรุษร่างสูงยืนเก้กังอยู่หน้าโต๊ะรับประทานอาหารที่ตั้งเรียงไว้เต็มบริเวณ ในมือมีถุงกระดาษแบรนด์ดังถืออยู่พร้อมกับถาดอาหารที่เลขาอาสาไปตักมาให้ อาหารเที่ยงของบริษัทหน้าตาสู้อาหารในร้านแพงๆ ไม่ได้เลย“ไปนั่งกับพวกผมไหมครับบอส”ณพพร เลขาร่างผอมเอ่ยกับเจ้านายอย่างเกรงอกเกรงใจ“อย