หน้าหลัก / มาเฟีย / พรากรักมาเฟียเถื่อน / ตอนที่ 6 อย่าใจร้ายกับฉันนักเลย

แชร์

ตอนที่ 6 อย่าใจร้ายกับฉันนักเลย

ผู้เขียน: Philipnana
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-12 09:42:42

ฟุบ~

ร่างบางถูกวางลงบนเตียงด้วยความเบามือ ใบหน้าเรียบเฉยจ้องมองยังคนบนเตียงแววตานิ่งยากจะคาดเดา เขาเอาแต่ยืนมองเธออยู่แบบนั้น นำทัพถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้

ทว่า...

“เจ็บ~” น้ำเสียงแผ่วเล็ดลอดออกมาจากลำคอของคนที่กำลังหลับใหล เธอละเมองั้นเหรอ?

“….” เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแต่กลับมีเสียงพูดแทรกออกมา จะบอกว่าแกล้งคงเป็นไปไม่ได้ ผมนอนกับเธอทุกคืนรู้ว่าเวลาหลับมิลินเป็นยังไง

“มะ ไม่ทำ ลินกลัวแล้ว~ อย่าทำลินเลยนะ ฮึก!” ละเมอจริงด้วย เธอกลัวอะไร กลัวเขางั้นเหรอ

“….”

“ลินเจ็บ ลินยอมแล้ว..” ดวงตาคมยังคงจอจ้องไปที่หญิงสาว

“….”

“อยากไปหาแม่” ทว่าประโยคถัดมาของเธอทำเขาชะงักไปเล็กน้อย เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย

“น่าสมเพช” จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป คงคิดว่าเขาจะไปปลอบใจแล้วกล่อมให้นอนหลับต่อสินะ ฝันไปเถอะ เขาคงไม่เสียเวลากับผู้หญิงอย่างเธอหรอก

“พรุ่งนี้นายจะเข้าคาสิโนไหมครับ” ผมตวัดสายตาไปมองไอ้ไบค์

“ทำไม” ไม่มีงานอะไรมันจะให้ผมเข้าไปทำไม

“มีพวกไม่ยอมใช้หนี้หลายคนเลยครับ” ก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็พวกชอบชิ่งหนีหนี้สินะ มันอยากหนีให้มันหนีไป แต่ถ้าจับได้เมื่อไหร่คงจะรู้ว่าจุดจบพวกมันจะเป็นยังไง

“เล่นกับพวกมันหน่อย” สงสัยต้องการเพื่อนเล่น

“เป็นหรือตาย”

“หึหึ” อย่างมากก็แค่เลี้ยงไม่โต

“รับทราบครับ”

“....”

“แล้วเรื่องคุณมิลินล่ะครับ” ผมที่กำลังจะยกเหล้าเป็นต้องชะงักมือเมื่อมันถามถึงคนที่ผมเพิ่งพาขึ้นไปนอนบนห้อง

“มิลินทำไม” ขยับสายตาไปที่มันอย่างช้า ๆ

“ผมอยากให้นายเบามือกับเธอหน่อย ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง ผมสงสารเธอ” สงสาร.. หึ~

“ที่พูดมา..ต้องการให้กูเบามือหรือเพราะมึงรักเธอกันแน่”

“ผมเห็นคุณมิลินเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น”

“ก็ดี มึงคงรู้ใช่ไหมว่ากูไม่ชอบพวกกินบนเรือนขี้บนหลังคา ถ้ามันไม่รู้จักที่ตัวเองกูก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้ เข้าใจที่กูพูดใช่ไหม?”

“เข้าใจครับ”

“ไสหัวไปได้แล้ว”

“ครับ” ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้น ถ้าจะสงสารเธอสงสารเหยื่อไม่ดีกว่าเหรอ เธอจะรู้หรือเปล่าว่าคนที่เขาตกเป็นเหยื่อต้องทุกข์ทรมานใจแค่ไหน ต่อให้สิ่งที่เธอเคยทำไม่ได้มาจากความเต็มใจก็ตาม สุดท้ายแล้วมิลินก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนหลอกลวงอยู่ดี

วันต่อมา

ร่างบางพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ดวงตาสองข้างค่อย ๆ ลืมขึ้นมอง ทันทีที่ดวงตาเปิดสนิทใบหน้าสวยก็ขยับมองไปยังที่ข้าง ๆ ตัวเองก่อนจะพบกับความว่างเปล่า

เขาไปไหนกัน

แล้วเหตุการณ์เมื่อคืนก็ฉายเข้ามาในหัวเธอ อยู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอต้องกลายเป็นคนหวาดระแวงไปโดยปริยาย เขาจะรู้ไหมว่าเหตุการณ์เมื่อคืนมันทำให้เธอไม่อยากเจอหน้าเขาที่สุด อยากหนีไปจากตรงนี้ หนีไปจากปีศาจที่ทำร้ายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอะไรเธอถึงหลุดพ้นไปจากตรงนี้ไม่ได้สักที เธออยากตะโกนออกไปดัง ๆ กับเรื่องราวในอดีตว่าเธอไม่ได้อยากทำมันเลยสักนิด เธอมีทางเลือกด้วยเหรอ หากไม่ทำคนที่ถูกขายก็จะเป็นเธอเอง ไม่ใช่ว่าไม่เคยปฏิเสธ แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับคืนมาก็คือความรุนแรง เธอถูกพี่สาวตบตีรวมถึงถูกขังไม่ให้กินอะไร เคยคิดจบชีวิตตัวเองมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ถ้าเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากมีลมหายใจอยู่อีกต่อไปแล้ว

แกร๊ก! เสียงประตูดึงสติคนตัวเล็กให้รีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า หญิงสาวลุกนั่งพร้อมกับเลื่อนสายตามองไปยังคนที่เปิดประตูเข้ามา คุณนำทัพ

“นึกว่าจะนอนถึงพรุ่งนี้” คำขอโทษสักคำยังไม่มีหลุดออกจากปากเขาเลยสักครั้ง สิ่งที่เขาทำเมื่อคืนมันยังฝังอยู่ในหัว ทำไมเธอถึงรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้นัก

“ลินขอโทษค่ะ” นอกจากคำว่าขอโทษก็ไม่มีคำอื่นที่เธอจะพูดกับเขาได้แล้ว ในเมื่อตอนนี้เธอหนีไม่ได้ก็ต้องเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น แต่เธอก็เชื่อว่าสักวันเธอจะทำมันได้อย่างแน่นอน

“เมื่อคืนสนุกไหม” ถามพลางเลี่ยงไปนั่งที่โซฟาปลายเตียง

“คุณใจร้ายลินมากเลยรู้ไหม” เขายังมีความเป็นคนอยู่ไหม ทั้งที่รู้ว่าเธอกลัวแต่เขาก็เลือกที่จะทำมัน เขาไม่แม้แต่จะสนใจเสียงร้องของเธอเลยต่างหาก

“ทำไมถึงบอกว่าฉันใจร้ายล่ะ”

“ให้เขาพาลินไปทำไม ฮึก!”

“แค่เธอพูด..”

“มะ ไม่หรอก ต่อให้ฉันพูดหรืออ้อนวอนคุณก็ไม่คิดที่จะสนใจมันอยู่แล้ว ต่อให้ฉันตะโกนเสียงดังแค่ไหนคุณก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องของฉันเลยสักครั้ง ฮึก~”

“....”

“เมื่อไหร่คุณจะปล่อยลินไปสักที ฮื่ออ”

“อะไรกัน อยากไปจากฉันแล้วเหรอ”

“จะทรมานลินไปถึงเมื่อไหร่”

“อยู่กับฉันไม่มีความสุขเหรอมิลิน ฉันดูแลเธอดีไม่พอสินะ”

“ลินอยากเรียน ฮึก~ อยากมีเพื่อน อยากไปเที่ยวเหมือนคนอื่นเขาบ้าง” วินาทีที่ครูซบอกว่าจะส่งเธอมาเรียนต่างประเทศ ตอนนั้นเธอดีใจมาก เธอขอบคุณเขาทั้งน้ำตา มันเหมือนว่าเธอกำลังจะได้พบกับโลกใบใหม่ที่ไม่คิดว่าจะมีใครมอบให้ แต่แล้วทุกอย่างมันก็ต้องพังทลายลงไปจนหมดสิ้น มิลินต้องออกจากโรงเรียนกลางคันอีกครั้งเพราะคำนินทาและถูกกลั่นแกล้งจากคนทั้งโรงเรียน นั่นจึงทำให้เธอไม่สามารถไปสู้หน้าใครได้อีก สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องมาอยู่เป็นนางบำเรอให้กับเขาอยู่แบบนี้เธอไม่สามารถออกไปไหนได้เลย เธอต้องเจ็บปวดกับมันอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่ทุกคนถึงจะเห็นใจเธอสักที สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือคำพูดเหล่านั้น เธอถูกคนตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงหลอกลวง รวมถึงฆ่าพี่สาวตัวเองทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เลย ทุกคนเอาแต่โทษเธอทั้งที่ไม่มีใครรู้ความจริง

“ฉันก็ให้เธอเรียนแล้วนี่มิลิน” เป็นเธอเองไม่ใช่หรือไงที่หยุดเรียนไปดื้อ ๆ เขาเองก็ไม่เคยถามสาเหตุว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่ไปเรียน ทั้งยังไม่ได้สั่งลูกน้องไปสืบดูด้วย ตอนนั้นคิดว่าแค่ว่ามันไม่ได้สำคัญกับชีวิตตัวเอง ทำไมเราต้องไปเสียเวลากับผู้หญิงที่เอาแต่เรียกร้องความสนใจจากคนรอบตัว

“ใช่ คุณให้ฉันเรียน แต่คุณรู้อะไรไหม..ตลอดเส้นทางนั้นฉันต้องเจออะไรบ้างในแต่ละวัน..ฮึก! ฉันถูกเพื่อนแกล้ง ถูกเอาไปนินทา ถูกขังในห้องน้ำทั้งวันข้าวก็ไม่ได้กิน ถูกเอาของไปซ่อน คุณเคยรับรู้บ้างไหม กลับบ้านมาคำปลอบใจฉันยังไม่เคยได้รับเลย สิ่งที่ได้มีเพียงการกระทำอันแสนโหดร้ายจากคุณ จะทรมานฉันไปถึงเมื่อไหร่ ทำไมคุณไม่ฆ่าฉันไปเลยล่ะ” ภายในห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ และนี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวเผยความในใจออกมาจนหมด เขาไม่เคยรู้มาก่อนเรื่องที่เธอถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง หากเขารู้คงจะจัดการไปตั้งแต่วันนั้น เขาไม่เคยรู้เลย..

“….” นำทัพเอาแต่นิ่งเงียบแล้วมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของอีกคนอย่างไร้ความรู้สึก

“อย่าใจร้ายกับฉันนักเลย..ฮึก~”

“....” นำทัพยังคงเงียบ หญิงสาวร้องไห้อยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณรู้ไหมว่าฉันดีใจแค่ไหนที่เพื่อนคุณยอมส่งฉันมาอยู่ในที่ไกลแสนไกลคนพวกนั้น ตอนนั้นฉันคิดแค่ว่าฉันกำลังจะหลุดพ้นจากทุกอย่าง หลุดพ้นจากพี่สาวที่ใจร้ายกับฉันมาก ๆ แต่สุดท้ายฉันต้องมาเจอคุณ คนที่ทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ต่างกับพี่สาวฉันเลย พวกคุณเห็นฉันเป็นอะไรงั้นเหรอ? ฉันไม่ใช่คนใช่ไหม ฉันมันไม่มีความรู้สึกเลยใช่ไหมถึงได้ใจร้ายกับฉันขนาดนี้ ได้โปรดเถอะนะ อย่าทำให้ฉันเจ็บปวดไปมากกว่านี้เลย..”

“เธออยากกลับไปเรียนไหม” เขาตัดสินใจถามไปตามตรง หากเธออยากเรียนเขาจะให้กลับไปเรียนอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่เธอได้รับจากเพื่อนในโรงเรียนเขาจะเป็นคนจัดการเอง

“จะให้ฉันกลับไปสู้หน้ากับใคร คุณคิดว่าคนพวกนั้นเขายังอยากคบฉันอยู่เหรอ”

“เธอจะกลัวอะไร” เขาอยู่ตรงนี้เธอจะกลัวอะไร

“คุณไม่เป็นฉันคุณไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง” ทุกคำพูดของคนเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของเธอ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะลืมมันไปได้สักที

“….” แล้วเขาก็เงียบไปอีกครั้ง

ภายในห้องมีเพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ ของคนตัวเล็กโดยมีนำทัพนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองเงียบ ๆ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขาเอาแต่นั่งเฝ้าหญิงสาวร้องไห้ กระทั่งเธอหลับไปในที่สุดเขาจึงตัดสินใจออกจากห้องไปทันที

ช่วงบ่าย

“มิลินหายไปไหน” ร่างสูงเอ่ยถามลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เขาไปดูในห้องก็ไม่พบเธอ ห้องน้ำก็ไม่มี สวนหลังบ้านก็ไม่อยู่ซึ่งไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน

“ไปซื้อของครับ” ลูกน้องตอบกลับเจ้านายเสียงดังฟังชัด

“กับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่” ทำไมเขาถึงไม่รู้ ปกติแล้วเธอต้องรายงานเขาสิว่าจะไปไหนกับใคร

“เอ่อ..” ทว่าคำถามของเจ้านายทำลูกน้องถึงกับเงียบไปต่อไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องตอบข้อไหนก่อน ก็เจ้านายเล่นรัวคำถามมาขนาดนี้ใครมันจะไปตอบทัน

“ตอบกูมา”

“เฮียไบค์ครับ” ไบค์และคาเรนเป็นหัวหน้าลูกน้อง ทุกคนจึงเรียกทั้งสองว่าเฮีย

“ใครอนุญาตให้มันพามิลินไป”

“ไม่ทราบครับ”

“....” มาเฟียหนุ่มขบกรามแน่นด้วยอารมณ์หงุดหงิดอยู่ภายในใจ ไม่จำเป็นต้องขอเขาที่เป็นเจ้านายแล้วสินะเวลาจะไปไหนมาไหนกัน

ปัง! (ปิดประตูรถ)

“ฉันคงใจดีเกินไป” เขาพาตัวเองขึ้นมานั่งบนรถก่อนจะขับออกจากบ้านไปด้วยความรวดเร็วโดยไม่มีลูกน้องตามประกบเหมือนอยากทุกครั้ง

ณ ห้างสรรพสินค้า

ตึก

ตึก

“พี่ไบค์ ลินขอดูของใช้ตรงนี้นะคะ” คนตัวเล็กหันไปบอกชายหนุ่มที่เป็นคนพามาเดินห้างในครั้งนี้ เนื่องจากของใช้ส่วนตัวของเธอและนำทัพหมดจึงจำเป็นต้องออกมาซื้อด้วยตัวเอง เพราะมันเป็นคำสั่งเด็ดขาดของนำทัพที่ให้เธอเป็นคนจัดการในส่วนนี้ ของที่เขาใช้ทุกอย่างต้องเป็นมิลินเท่านั้นที่ดูแล

“ได้สิ งั้นพี่ไปรอที่ร้านกาแฟนะ” คนตัวเล็กมองตามมือบอดี้การ์ดหนุ่มไปก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ

“ได้ค่ะ”

“เอาของมา” ไบค์รับของจากมือคนตัวเล็กไปถือก่อนที่เขาจะเดินไปรอยังร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกล ไม่อยากให้เธอรู้สึกกดดันหากมีเขาเดินตามอยู่ตลอดเวลา จึงแยกตัวออกมานั่งรอดีกว่า

“อยู่ไหนนะ” ด้านมิลินยังคงเดินหาของที่ตัวเองต้องการ เธอเดินวนไปวนมาอยู่สามรอบก็ยังไม่เจอ เมื่อคิดได้ว่าควรไปถามพนักงานเธอจึงหมุนตัวเพื่อจะเดินไปหาพนักงานทว่า.. หางตากลับเหลือบไปเห็นของที่ต้องการพอดี แต่มันดันอยู่สูงเกินไป หญิงสาวมองซ้ายมองขวาว่ามีที่ให้ปีนขึ้นไปหยิบไหม

“ทำไงดี” ซึ่งในขณะนั้นเอง..

“จะเอาของเหรอครับ” เสียงทุ้มอบอุ่นของใครบางคนดังอยู่เหนือศีรษะทำให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะถอยห่างอัตโนมัติ

“ชะ ใช่ค่ะ” เหมือนอาการแพนิคจะกำเริบ เธอกลัวทุกครั้งที่คนแปลกหน้าเข้าหาแบบนี้ อาการของเธอแสดงออกชัดเจนว่ากำลังตื่นกลัวคนตัวโตตรงหน้า

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เม็ดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยทำอีกคนสงสัยอยู่ไม่น้อย ทั้งที่ในห้างแอร์เย็นขนาดนี้ทว่าอีกคนดันมีเหงื่อ มันดูไม่ปกติเอาเสียเลย

“ฉะ..ฉัน อึก~” ร่างบางทรุดตัวนั่งหอบหายใจอย่างยากลำบาก

“คุณใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ หายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วมองหน้าผม” เขาสังเกตว่าอาการของเธอมันดูแย่กว่าเดิม

“ฉะ ฉันกลัว”

“ไม่เป็นอะไรครับ มองหน้าผมนะ” เขาส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน พยายามชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหญิงสาว เมื่อเห็นว่าอาการอีกคนดีขึ้นแล้วเขาจึงลุกขึ้นไปหยิบของที่เธอต้องการมาให้

“ขอบคุณค่ะ” เธอขอบคุณคนเขาที่ช่วยเธอเอาไว้

“คุณเป็นแพนิคสินะ” เขารู้ได้ยังไงกัน

“คะ คุณรู้เหรอคะ”

“ผมเป็นหมอครับ” ใช่.. ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้เป็นหมอ อาการแค่นี้มองผ่าน ๆ ก็รู้แล้วว่าเธอเป็นอะไร แต่เท่าที่สังเกตเขาคิดว่าเธอควรรีบรักษามันก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้ จากที่ดูก็ไม่น้อยนะ เธอดูหวาดระแวงและตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา ขืนยังปล่อยไว้คนที่แย่จะเป็นตัวเธอเองนั่นแหละ

“ฉันไม่มีเงินรักษา” เธอก้มหน้าตอบเสียงเศร้า มือถือเธอยังไม่มีใช้เลย นำทัพยึดมันไปตั้งแต่วันนั้น เรื่องเงินคงไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะเอามาจากที่ไหน ให้ขอเขาก็คงจะเป็นไปไม่ได้แน่นอน

“หืม? งั้นเอาแบบนี้ไหมครับ”

“...” เงยหน้าสบตาหมอหนุ่ม

“วันเสาร์นี้คุณว่างไหม” เพราะมันตรงกับวันหยุดเขาพอดี เขาจะช่วยเธอเองหากเธออยากหายไปจากอาการนี้จริง ๆ เขาอยากช่วยเธอโดยไม่คิดค่ารักษาแม้แต่บาทเดียว ไม่รู้สิ.. มันแค่อยากช่วยเท่านั้น

“เสาร์นี้เหรอคะ” เธอคงออกจากบ้านไม่ได้แน่นอน

“ติดอะไรหรือเปล่าครับ”

“ละ ลินคงไปไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไมล่ะครับ งั้นเอาเบอร์คุณมาเดี๋ยวถึงวันนั้นผมจะติดต่อคุณไปเอง” ว่าพร้อมกับส่งมือถือไปให้คนตัวเล็ก

“ลินไม่มีมือถือ”

“ฮะ?” นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ เธอไม่ได้เล่นตลกกับเขาใช่ไหมเนี่ย

“ละ ลินขอตัวค่ะ!” คนตัวเล็กลุกพรวดพราดขึ้นด้วยความรวดเร็วเพื่อจะพาตัวเองหนีไปจากตรงนี้ ทว่า..

หมับ!

“เดี๋ยวครับ” ชายหนุ่มจับเข้าที่แขนเล็กพร้อมกับออกแรงดึงหญิงสาวไม่ให้วิ่งหนีไปได้

“...”

“ผมไมลส์ครับ”

“ส่วนกูนำทัพ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พรากรักมาเฟียเถื่อน   ตอนที่ 49 เฝ้าระวัง

    “ว่าแต่พี่ไบค์เป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวถามคนตัวโตขณะนั่งทานข้าวอยู่ในห้องอาหาร“มันไม่เป็นอะไรมาก” เขาโกหกเพื่อไม่ให้เธอคิดมาก ความจริงแล้วไบค์ยังอยู่ในอาการโคม่าเนื่องจากเสียเลือดมาก เขาได้แต่ภาวนาให้ลูกน้องปลอดภัย แคล้วคลาดจากสิ่งร้าย ๆ สักที“หนูอยากไปหาพี่ไบค์” เธออยากไปขอบคุณที่อีกคนเอาตัวมารับมีดแทน หากไม่ได้ไบค์ปานนี้คงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก คงได้ไปอยู่วัดที่ไหนสักแห่ง“ใจเย็นที่รัก เราต้องพักผ่อนก่อน” ขืนปล่อยให้เธอไปตอนนี้มีหวังเธอได้รู้ความจริงน่ะสิว่ามันยังไม่ฟื้น“หนูไม่เป็นอะไรแล้ว”“ไม่ได้ครับหมอบอกต้องดูแลตัวเอง” ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เป็นอะไรก็จริง แต่หมอได้สั่งเด็ดขาดห้ามเธอเดินหรือขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ ไม่อย่างนั้นเธอมีโอกาสแท้งได้ เนื่องจากแรงกระแทกที่เธอได้รับมันส่งผลต่อเด็กในท้องอยู่ไม่น้อย“ก็ได้ค่ะ” คนตัวเล็กทำหน้าสลดพร้อมกับยอมเชื่อฟังอย่างว่าง่าย“หายแล้วเฮียจะพาไปเยี่ยมมัน”“....” ยิ้มอ่อน“ทานต่อเถอะ” ทว่า..“เฮียรู้ไหม.. ตอนนั้นหนูกลัวมากเลย กลัวว่าตัวเองกับลูกจะไม่ได้กลับมาหาเฮียอีกแล้ว” หญิงสาวเอ่ยทั้งน้ำตา เธอกลัวว่าจะไม่ได้กลับมาเจอหน้าพ่อของลูกอีก ใครจะคิดว่

  • พรากรักมาเฟียเถื่อน   ตอนที่ 48 คุณแม่ขี้แย

    เช้าวันใหม่“หนูไม่เป็นอะไรแล้ว” หญิงสาวบอกกับพ่อของลูก ก็นำทัพเล่นประกบเธอไม่ห่างจนอีกคนรู้สึกอึดอัด เข้าใจว่าเขาห่วง แต่อารมณ์เธอยิ่งแปรปรวน กลัวว่าจะเผลอใส่อารมณ์แล้วเขาจะเสียใจ อีกอย่างเธอก็อยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปไหนเลย ข้างล่างก็ยังไม่ได้ลงไป“เฮียต้องอยู่ใกล้หนูกับลูก” เขาตอบหน้าตาย นำทัพกลับมาสนใจที่การเลือกชุดให้คนตัวเล็กต่อ“เฮียนี่นะ” ส่ายหน้าเนือย ๆ ขณะนั่นเอง..ครืน ครืน“มีคนโทรมาค่ะ” ในขณะที่เธอกำลังเดินดูเครื่องประดับในตู้ มือถือนำทัพที่วางอยู่ก็มีสายเรียกเข้า คนตัวโตเห็นดังนั้นจึงบอกให้เธอรับสายแทน“หนูรับให้เฮียหน่อย” เขาพูดโดยที่ไม่หันไปมอง“คะ?” มิลินแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาขอให้เธอรับสายให้อย่างนั้นเหรอ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอแตะต้องของส่วนตัวเขาไม่ได้เลย อยู่ ๆ คนตัวเล็กก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จริงที่นำทัพไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เอาเข้าจริงมันก็อดดีใจไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ หญิงสาวเผลอยิ้มจนลืมรับสาย“หนู”“ฮะ? อะ..อ๋อค่ะ” มือเล็กลุกลี้ลุกลนหยิบเอามือถือขึ้นมากดรับติ๊ด!“สวัสดีค่ะ”(คุณนำทัพอยู่ไหม) ทว่าคนตัวเล็กต้องนิ่งไปเมื่อคนที่โทรเข้ามาดันเป็นผู้หญิง ใบหน้าสวยหันไป

  • พรากรักมาเฟียเถื่อน   ตอนที่ 47 ใช่..กูเอง

    ตึกตึกเสียงฝีเท้าวิ่งหาที่หลบ ก่อนจะเห็นซอกหนึ่งที่น่าจะพอซ่อนตัวได้ ไม่รอช้ารีบพาตัวเองเข้าไปหลบทันทีตึกตึกกึก!“จะออกมาดี ๆ หรือให้กูไปลากคอออกมา" น้ำเสียงเย็นยะเยือกของร่างสูงผู้มาใหม่เอ่ยขึ้น เขาถอดแมสก์ที่ปิดใบหน้าออก ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบพลางเงยหน้าพ่นควัน“.....” มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา แววตาเฉียบคมขยับมองไปรอบ ๆ บริเวณ เท้าหนักก้าวไปหยุดที่รถยนต์คันหนึ่ง ก่อนจะย่อนก้นลงไปนั่งกับกระโปรงรถแล้วเอ่ยอีกครั้ง“กูมีทางเลือกให้มึงสองทาง” “.....”"ระหว่างพูดความจริง กับ.. ตายตรงนี้ มึงอยากได้แบบไหน" “.....”“กูมีเวลาเล่นกับมึงไม่มาก รีบออกมาซะ” แล้วคนที่ไซลอน กำลังคุยด้วยอยู่ตอนนี้ เป็นคนเดียวกับที่แทงไบค์จนต้องหามส่งโรงพยาบาล และทีมพวกมันถูกคนของเขาจัดการจนสิ้นซากหมดแล้ว จะเหลือก็แค่มันคนเดียวที่เขาต้องการจับเป็น ทว่ายังไร้เสียงตอบกลับจากอีกฝ่าย ไซลอนดันตัวขึ้นยืนแล้วมองไปรอบกายตัวเองอีกครั้ง "หึ~"ราวเกือบสิบนาทีได้ที่อีกคนไม่ยอมออกมาจากที่ซ่อน เมื่อมั่นใจว่าคนที่ตามล่าตนได้หายไปแล้วเขาจึงพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อคิดว่าตัวเองนั้นรอดแล

  • พรากรักมาเฟียเถื่อน   ตอนที่ 46 อุบัติเหตุ

    “ผมเห็นด้วยกับคุณศิธาครับ” นำทัพนั่งประชุมด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เพราะตอนนี้บริษัทที่คาเรนดูแลอยู่มีปัญหาอย่างหนัก พรุ่งเขาต้องกลับไปจัดการให้จบก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้ คาเรนไม่อยู่แล้วก็ต้องเป็นเขาที่เข้าไปจัดการด้วยตัวเอง เพราะไบค์ยังมีงานอีกที่ที่ต้องไปทำเหมือนกัน จะให้เขาโยนทุกอย่างให้ไบค์หมดก็คงไม่ได้ แค่ทุกวันนี้ที่ทำก็หนักมากแล้ว“แล้วคุณนำทัพจะเข้ามาเมื่อไหร่ครับ” หุ้นส่วนวัยกลางคนถามประธานหนุ่มที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ พวกเขาทุกคนต่างก็เครียดที่อยู่ ๆ หุ้นของบริษัทก็ตกฮวบ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งการเงินยังคลาดเคลื่อน พวกเขาต้องหาตัวต้นเหตุของเรื่องให้ได้“เร็วสุดคืนนี้” ถ้าช้าก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้า เขาต้องดูก่อนว่ามิลินจะไหวเดินทางหรือเปล่า แม้มันจะไม่ไกลมากแต่วันนี้เธอก็ไปเที่ยวมาทั้งวัน หากต้องเดินทางต่ออีกเขากลัวว่าเธอจะไม่ไหว ต่อให้นอนบนรถได้ก็เถอะ ถึงยังไงซะมันก็ยังไม่สบายตัวเท่าเรานอนบนเตียงหรอกนะ“พวกเราจะรอ” “ส่วนระ..” ซึ่งในขณะนั้นเอง..ติ๊ด ๆขวับ! ใบหน้าดูดีหลุบมองหน้าจอมือถือด้วยความรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณที่ถูกส่งมาจากคนตัวเล็ก เขาไม่รอช้ารีบหยิบมือถือ

  • พรากรักมาเฟียเถื่อน   ตอนที่ 45 จงเรียนรู้ที่จะใช้มัน

    “ดูแลมิลินให้ดี” มาเฟียใหญ่กำชับลูกน้องตัวเอง วันก่อนนำทัพรับปากคนตัวเล็กว่าจะพาไปเที่ยวในเมือง ทว่าวันนี้กลับมีงานเร่งด่วนเข้ามา เขาต้องอยู่ประชุมกับหุ้นส่วนทุกคน จึงไม่สามารถไปกับคนตัวเล็กได้ มิลินเมื่อรู้ว่าตัวเองจะไม่ได้ไปก็ซึมไปทันที คงเป็นอารมณ์น้อยใจของคุณแม่ที่ไม่ได้เที่ยว นำทัพเห็นดังนั้นจึงสั่งให้ไบค์พาไปแทน แล้วตัวเองจะตามไปทีหลัง เพราะการประชุมอย่างน้อยต้องใช้เวลานานอยู่พอสมควร“ครับ”“เฝ้าอย่าให้ห่าง เธออยากได้อะไรซื้อให้เลยอย่าขัดใจ” เขาส่งบัตรเครดิตให้ลูกน้องตัวเอง เผื่อเธออยากได้เสื้อผ้าหรืออะไรก็ให้ไบค์จัดการได้เลย ถ้าให้มิลินพกไว้เองเธอคงไม่ใช้แน่นอน ให้ไบค์นั่นแหละดีแล้ว“มาแล้วค่ะ” คนตัวเล็กเดินตรงมายังจุดที่พวกเขายืนอยู่ นำทัพทิ้งบุหรี่ในมือลงพื้นพร้อมกับใช้เท้าบี้จนแหลกละเอียด ผ้าเช็ดหน้าถูกดึงออกมาจากกระเป๋าเพื่อนำมาเช็ดมือให้สะอาด ไม่ให้มีกลิ่นบุหรี่ติดมือ“หมวกล่ะ” เขาถามหาหมวก วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน ใส่หมวกไว้จะได้ไม่โดนแดดมาก“นี่ค่ะ” มิลินเอาหมวกที่เก็บไว้ในกระเป๋าออกมาให้คนตัวโตดู ไว้ไปถึงที่เที่ยวค่อยเอาออกมาใส่ ยังไงตอนไปเธอก็อยู่บนรถอยู่แล้ว“อย่าห่างไ

  • พรากรักมาเฟียเถื่อน   ตอนที่ 44 ขอเจ็บแทน

    "จริงสิผมลืมไปเลย" เขานึกได้ว่ามีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้รายงานเจ้านาย"เรื่องไอ้คาเรนสินะ""ใช่ครับ""...." เงียบเพื่อรอฟัง"ไอ้คาเรนกลับญี่ปุ่นจริง ๆ ครับ""เพราะอะไรมันถึงไปโดยไม่บอก""ผมเองก็สงสัย มันเพิ่งถึงญี่ปุ่นเมื่อเช้านี้เอง" เขาตรวจไฟท์บินพบว่าคาเรนเดินทางถึงญี่ปุ่นในช่วงเช้าของวันนี้"งั้นก็ปล่อยมันไปก่อน" สงสัยจะเหนื่อยแล้วอยากพัก ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าถ้ามันอยากกลับบ้านทำไมไม่เดินมาบอกเขาดี ๆ ทำไมมันต้องเก็บข้าวของออกไปจากบ้านโดยไม่มีแม้แต่คำร่ำลา ตอนนี้ทั้งนำทัพและไบค์ต่างก็กำลังหาสาเหตุว่าเพราะอะไรคาเรนถึงทำแบบนี้ แล้วหวังว่าเหตุผลนั้นมันจะมากพออีกคนถึงยอมทิ้งทุกอย่างแล้วกลับบ้านตัวเองไป"ครับ""แล้วมึงล่ะ..อยากกลับไหม" ในเมื่อไบค์กับคาเรนมาด้วยกัน เป็นแบบนี้แล้วไบค์ไม่คิดอยากตามเพื่อนตัวเองไปหรือยังไง เขาไม่คิดห้ามถ้าไบค์จะกลับไปจริง ๆ ถามว่าเสียดายไหมแน่นอนมันต้องเสียดายอยู่แล้วเพราะไบค์เป็นคนที่ทำงานเก่งคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่คาเรนหรอกที่เป็นน้องชาย ยังมีไบค์อีกคนที่เขารักเปรียบเสมือนน้องชายคนหนึ่ง แม้จะมีด่ามีดุบ้างในบางครั้งแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะไล่อีกคนออก ไม่ใช่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status