EP 18
น้องชาย
_________
ราตรีได้ใจ ยิ่งกอดยิ่งรัดร่างอดีตสามี ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเพ่งมองมายังตัวบ้าน ณ ตรงนั้น ใต้ร่มเงาของต้นอโศก เขาคิดว่ามีใครบางคนยืนอยู่ หล่อนกำลังมองมาทางนี้ และเมื่อรู้ว่าเขาเห็นเข้าแล้ว หล่อนก็รีบจากไป ทว่าบางอย่างผิดปกติ สองขาหล่อนมิได้หนักแน่นตอนก้าวเดิน และก่อนที่มือจะได้จับลูกบิดประตูห้อง ร่างงามก็ร่วงผล็อยลงพื้น
“เทียน...เทียน!”
มือแกร่งแกะมือบางของราตรีออก ก่อนจะสะบัดทิ้งอย่างแรง เขาวิ่งไปหาเทียนหยดที่หน้าห้องหล่อน ส่วนราตรีก็ตามมาอย่างเคืองขุ่น
“เทียน! เทียน?” เขาดึงร่างเทียนหยดขึ้นจากพื้น หล่อนยังพอมีสติ แต่ยืนนิ่งๆ ไม่ได้ เขาต้องดึงร่างหล่อนมาพิงอกไว้ “เธอเป็นอะไร! เทียน? เธอต้องไปหาหมอ!” สมัตถ์ร้อนรน เทียนหยดหลับตานิ่งๆ ยิ่งได้กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจเขาก็ยิ่งปวดศีรษะ
“ไม่...ฉันแค่เพลีย” บอกแล้วยกมือกุมขมับ คอแห้งจนอยากดื่มน้ำสักแก้ว
“ออเซาะ สมใจเธอแล้วสินะที่ได้สมัตถ์ไปครอง” ราตรียืนกอดอกจ
เทียนหยดหลับตาพริ้ม รับรู้ถึงสัมผัสของไออุ่นที่แผ่วเบาราวขนนก เหมือนมีปุยเมฆละเอียดอ่อนจุอยู่ในหัวใจของเธอ และเมื่อเขาขยับวางริมฝีปากร้อนทับริมฝีปากเธอ ดุนดันลิ้นร้อนชื้นเข้ามาหาความนุ่มอุ่นในโพรงปาก ความรู้สึกที่คล้ายๆ ว่าได้ลิ้มรสขนมสายไหมก็บังเกิด“อื้อ...พะ...พอ...แค่กๆ” คนสวยส่งเสียงไอด้วยระคายคอ“เทียน? ป่วยใช่ไหมเนี่ย”“ไม่...เอ่อ...ฉัน...เหม็นบุหรี่คุณ เหม็นจนปวดหัว แล้วก็ฉันหิวน้ำด้วย” เธอสารภาพสมัตถ์ดีดตัวออกห่างอย่างสำนึกผิด “ขอโทษ...สาบานว่าจะไม่สูบอีก ฉันสูบแค่ตอนเครียดๆ จริงๆ นะ” แก้ต่างหน้ายุ่ง กลัวว่าหล่อนจะโกรธคนสวยมีรอยยิ้มจางๆ หลับตาลงเพราะเพลียเกินจะกล่าว หัวใจในอกมีความสุขแปลกๆ สุขในเรื่องเล็กน้อยที่มิเคยพบเจอ“ฉันจะไปเอาน้ำมาให้ เธออย่าเพิ่งหลับนะ”หญิงสาวพยักหน้าแม้ยังหลับตา สมัตถ์เดินออกจากห้องไป นานหลายนาที นานจนเทียนหยดเกือบจะหลับไปแล้ว แต่เขาก็กลับมาจริงๆ กลับมาพร้อมกับนมและน้ำอย่างละแก้ว แถมกลิ่นมิ้นต์สดชื่นที่อวลอยู่รอบกาย“ฉันกลัวเ
EP 18น้องชาย_________ราตรีได้ใจ ยิ่งกอดยิ่งรัดร่างอดีตสามี ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังเพ่งมองมายังตัวบ้าน ณ ตรงนั้น ใต้ร่มเงาของต้นอโศก เขาคิดว่ามีใครบางคนยืนอยู่ หล่อนกำลังมองมาทางนี้ และเมื่อรู้ว่าเขาเห็นเข้าแล้ว หล่อนก็รีบจากไป ทว่าบางอย่างผิดปกติ สองขาหล่อนมิได้หนักแน่นตอนก้าวเดิน และก่อนที่มือจะได้จับลูกบิดประตูห้อง ร่างงามก็ร่วงผล็อยลงพื้น“เทียน...เทียน!”มือแกร่งแกะมือบางของราตรีออก ก่อนจะสะบัดทิ้งอย่างแรง เขาวิ่งไปหาเทียนหยดที่หน้าห้องหล่อน ส่วนราตรีก็ตามมาอย่างเคืองขุ่น“เทียน! เทียน?” เขาดึงร่างเทียนหยดขึ้นจากพื้น หล่อนยังพอมีสติ แต่ยืนนิ่งๆ ไม่ได้ เขาต้องดึงร่างหล่อนมาพิงอกไว้ “เธอเป็นอะไร! เทียน? เธอต้องไปหาหมอ!” สมัตถ์ร้อนรน เทียนหยดหลับตานิ่งๆ ยิ่งได้กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจเขาก็ยิ่งปวดศีรษะ“ไม่...ฉันแค่เพลีย” บอกแล้วยกมือกุมขมับ คอแห้งจนอยากดื่มน้ำสักแก้ว“ออเซาะ สมใจเธอแล้วสินะที่ได้สมัตถ์ไปครอง” ราตรียืนกอดอกจ
“เจ็บ...ไหม...”“ไม่...ดี...มันดี...แล้ว อืม...”สองตาของหนุ่มสาวสานสบกันราวกับจะสื่อสารแทนวาจา ยิ่งมองสมัตถ์ยิ่งหลงใหล ดวงตาที่อยู่ตรงข้ามช่างงดงามเหลือเกิน มันปรือน้อยๆ ราวกับยั่วเย้าให้เขากระแทกสะโพกโยกเข้าหาหล่อนอีกแรงๆสองแขนเรียวเลื่อนมาโอบรอบคอเขา ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรสราคะที่สมัตถ์ปรนเปรอมาให้ หลงลืมไปว่าก่อนหน้านี้สัญญากับตัวเองว่าอย่างไร สัญญากับมารดาคนดีว่าอย่างไร!แรงส่งจากร่างสูงพาเทียนหยดเสร็จสมเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้สมัตถ์ก็เสร็จสมพร้อมๆ กับเธอ เธอก้มมองเมื่อเขาถอดถอนท่อนลำแห่งความสุขออกไป มีหยาดธารารักส่วนหนึ่งหยดลงบนโต๊ะขาวสะอาด เหมือนว่ายางอายบางส่วนของเธอกำลังพุ่งโจมตี เธอลุกมาหากางเกงชั้นใน รีบสวมมันแล้วหากระดาษชำระไปเช็ดรอยเปื้อนบนโต๊ะ ส่วนสมัตถ์นั่นหรือ เขากลับมาอยู่ในชุดสูทแสนสุภาพเรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่นาที“บ้าจริง ฉันมาทำอะไรในห้องนี้” ถามตัวเองเรียกสติ ด้านนอกนั้นรถรายังวิ่งไปมา ได้แต่หวังว่ากระจกทึบมันจะทึบมากพอมิให้คนข้างนอกมองเห็นคนข้างในได้“ใช่ ฉันเองก็...ไม่รู้ว่
“โอเคค่ะ งั้นฉันกลับนะคะ” บอกแล้วร่ำลาสมัตถ์ที่หน้าประตู มันเป็นห้องขนาดใหญ่ ที่เชื่อมกับส่วนของออฟฟิศ มีผนังสามด้านทำจากกระจกทึบแสงที่คนภายในนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ ด้านหน้าหันเข้าถนนใหญ่ ส่วนด้านหลังหันเข้าหาโกดังสมัตถ์เลื่อนประตูช้าๆ ให้มันเปิดออก พอเดินเข้าไปได้ก็จัดการล็อกมันเสีย ไม่อยากให้ใครโผล่มากวนการเจรจาที่กว่าจะหาจังหวะมาคุยได้ช่างยากเย็นเหลือเกินเสียงเพลงเก่าเพลงหนึ่งแว่วเข้าหูทันทีที่เข้ามายืนอยู่ในนี้ เนื้อร้องและท่วงทำนองของเพลงนั้นทำให้เขาต้องมุ่นคิ้วหนักๆ เพราะมันช่างไม่เข้ากับสาวยุคใหม่อย่างเทียนหยดเอาเสียเลย_______เพลง ‘แอบรักผัวเขา’ เพลงเก่าๆ จากแอปยูทูป เล่นจบไปหลายรอบแล้ว แต่เทียนหยดก็ยังกดให้มันเล่นอีก ปากก็ร้องคลอตามเบาๆ บางครั้งก็ยิ้มสมเพชตัวเองไปด้วยสมัตถ์เฝ้ามองอย่างพิจารณา ที่หล่อนหายหน้าไปเพราะอยากทบทวนอะไรหรือเปล่า ก็ในคืนที่ตกเป็นของเขานั้น ในห้วงความคิดของหล่อนก็ยังคงมีแต่จีรวัฒน์ เขาไม่อยากเข้าข้างตัวเอง ไม่อยากคิดเองเออเองหรอกว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะหล่อนมีใจ
“ใช่ ฉันว่ามันโอเคเลย พรุ่งนี้อย่าลืมดูตอนเขาเอาของมาส่งล่ะ อ้อ...เรื่องพนักงาน ฉันอยากให้พร้อมทำงานในวันที่ 5 ที่จะถึงนี้นะ” เธอย้ำถึงสิ่งที่นิดาควรจัดการในฐานะมือขวาสุดเฉียบ“ค่ะๆ บอสอยากได้อะไรเพิ่มไหมคะ ที่ห้องส่วนตัว” นิดาถาม เตรียมไอแพดขึ้นมาบันทึกสิ่งที่เทียนหยดต้องการ แต่คนเป็นบอสกลับส่ายหน้า ทว่าวินาทีต่อมาก็ดันนึกบางอย่างออก“ฉันอยากได้...ตู้เย็น...ใช่ ตู้เย็นเอาไว้ใส่ของกิน อืม...ของกิน” เอ่ยคล้ายละเมอแต่แววตาดูจริงจังจนนิดาชักงง“ในห้องครัวของออฟฟิศก็มีนะคะ จะเอาขึ้นไปทำไม แช่ของกินมากๆ เปิดออกมานี่กลิ่นไม่ดีแน่ๆ ค่ะ มันจะดีหรือคะ”เทียนหยดส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ แต่ก็ยอมเออออตามที่นิดาแนะ ออฟฟิศเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ เธอจะย้ายออกมาจากโสภณวิชญ์ จะไม่ทนอยู่ร่วมบ้านกับสมัตถ์และอดีตภรรยาของเขาอย่างแน่นอน___________ราตรีในชุดนอนแสนบางเบา เดินเข้ามาในห้องนอนของสมัตถ์อย่างถือสิทธิ์ บรรจงวางนมสดแก้วใหญ่ไว้บนโต๊ะข้างเตียง เขาอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงดังซู่ๆ อยู่ในนั้น เธอนั่งล
“โกหก! คอยดูสิ อีกไม่นานพวกคุณก็คงกลับมาคืนดีกัน รักกัน แล้วก็แต่งงานกันอีกครั้ง ส่วนฉัน! ก็เป็นได้แค่ดอกไม้รายทางที่คุณชื่นชมแล้วเขี่ยทิ้งเท่านั้นเอ...อื้อ...”ประโยคนั้นของหญิงสาวไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจนจบ ด้วยว่าริมฝีปากถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากเขา สองมือของสมัตถ์โอบกอดร่างงาม รัดรึงกายสาว ริมฝีปากก็คอยจ้วงลิ้นเข้าสู่โพรงปากนุ่มอุ่นเทียนหยดเรี่ยวแรงไม่ค่อยมีด้วยว่าเพิ่งสร้างไข้ พอถูกจุมพิตสูบวิญญาณจากเขา จึงทำได้เพียงรอรับมันอย่างไร้การทัดทาน“อืม...เทียน...เทียน...”สมัตถ์ครางอืออา เลื่อนใบหน้าลงหาซอกคออุ่น สูดเอากลิ่นที่ปรารถนา ความสดใหม่ของเทียนหยดกำลังทำให้เขาคลั่ง เขาคิดถึงกลิ่นนี้ คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ในตัวหล่อน มันวิเศษเสียจนทำให้เขาหงุดหงิดตอนไม่ได้รับมันอีก ก็อยากไปหาหล่อนที่บ้านสวน แต่ว่า...ความละอายใจก็ทำให้เขาต้องทนรออยู่ที่นี่ เขาเป็นฝ่ายเดินจากมาอย่างชายผู้ไร้ความรับผิดชอบ ทั้งที่มิใช่นิสัยของตัวเองเลย“ปล่อย สมัตถ์...ปล่อย ฉัน...หายใจไม่ออก” เธอร้องขอ ต้องเอนกายพิงร่างสูงของคนตรงหน้า เลือดลมสูบฉีดร
EP 17เมีย_____________สมัตถ์จำต้องปลีกตัวจากมาตามคำร้องขอของผกากรอง หัวใจยังคงกระวนกระวายไร้ความสุข นี่สินะที่เขาเรียกว่าความห่วงใย มันไม่แปลกหรอกที่เขาดันมีความรู้สึกนี้ แต่มันแปลกก็ตรงที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีมันเพื่อเทียนหยด เพื่อคนที่เขาเคยเรียกว่าศัตรูผิวเนื้อร้อนผ่าวของเทียนหยดถูกทำให้ลดลงด้วยสองมือของผกากรอง นางเพียรเช็ดตัวให้บุตรสาวอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จนตอนนี้เนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทว่ามันเป็นการเหนื่อยที่คุ้มค่า เพราะเทียนหยดเริ่มได้สติ และอุณหภูมิของร่างกายลดลงแล้ว“แม่...” เสียงแผ่วเบาครางเรียกมารดา น้ำตารินทางหางตา รู้สึกอ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และมารดาก็ยังเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ข้างเธอ ในวันที่เธออ่อนแอที่สุด“ชู่ว์...เงียบ อย่าพูดมาก พักผ่อน” นางสั่งในแบบของตัวเอง รู้สึกเคอะเขินยามแสดงให้เทียนหยดรู้ถึงความห่วงใยที่นางมีให้ริมฝีปากงามเริ่มบิดเบ้ คนป่วยที่จิตใจอ่อนแอกำลังถูกความรู้สึกผิดเล่นงาน ยิ่งฝ่ามือบางของมารดาเพียรเอาผ้าชุบน
“โอ...คุณพระคุณเจ้า!”เสียงของมารดาดังขึ้นไม่ไกล เทียนหยดกำลังช่วยสาวใช้ขนสัมภาระลงจากท้ายรถ แต่มารดาที่รักเหมือนจะมองเห็นอะไรสักอย่างเข้า และมันทำให้นางตกตะลึงพึงเพริศอย่างที่สุดเทียนหยดหันมองตามมารดา และร่างที่ยืนอยู่ข้างนางศรีสุรางค์ก็ทำให้เธอต้องอ้าปากค้าง ราตรีอยู่ที่นี่ หล่อนกลับมาแล้ว กลับมาทวงของของหล่อนคืนสินะ ให้ตายสิ เธอต้องพ่ายแพ้จริงๆ ใช่ไหม“นึกว่าจะไม่กลับมาซะแล้วนะ แม่ผกากรอง” นางศรีสุรางค์ทักทายตามแบบฉบับของนาง และผกากรองก็ตอบกลับในแบบของตัวเองเช่นกัน“ตอนแรกก็ว่าจะไม่มาละค่ะ แต่เหมือนมีหลายเรื่องต้องจัดการ โดยเฉพาะการทำให้สตรีวัยชราแถวๆ นี้ตาสว่าง”“เธอหมายความว่ายังไงฮะ”ศรีสุรางค์เท้าสะเอวรอเอาเรื่อง มั่นใจว่าผกากรองว่าตัวเอง“หมายความตามนั้นค่ะ แม่นั่นทำร้ายหลานคุณแทบปางตาย คุณคิดยังไงถึงให้หล่อนกลับมาคะ!” ถามดังๆ ไปยังคนที่เดินเล่นอยู่ริมสนาม ศรีสุรางค์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังยอมให้ราตรีกลับเข้ามาในครอบครัวอีกครั้งได้อย่างไร“ฉันต้องตอ
“ฉันตบแกเรียกสติ แกควรได้สติไม่ใช่มาโวยวายใส่ฉันนะ! แกรักษาสิ่งที่ผู้หญิงหวงแหนเอาไว้ได้ยี่สิบกว่าปี ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะเสียมันให้กับคนที่ไม่รู้ค่าของมันเลย เขาไม่ได้รักแก เขาเพิ่งหย่ากับเมีย และแกก็กลายเป็นเพียงของเล่นแก้ว่างของเขาเท่านั้นเอง!”เทียนหยดสะอื้ีนฮักๆ เมื่อถูกซ้ำเติม มือข้างหนึ่งกุมแก้มขวา มันชาหนึบไปทั้งวงหน้าด้วยการกระทำของมารดาแท้ๆ แล้วอย่างไรเล่า สิ่งที่บุตรสาวทำได้คงเป็นแค่การหันหลังให้มารดาที่รักแล้วเดินกลับเข้าห้องไปพร้อมกับหัวใจที่เป็นแผลยับเยินผกากรองตามมาเงียบๆ ปาดน้ำตาอย่างทุกข์ระทมไม่แพ้คนเป็นลูก แลเห็นบุตรสาวนั่งอยู่ข้างฟูกนอนอันยับย่น บางแห่งมีร่องรอยของโลหิตเปรอะเปื้อนเป็นจุดๆ โธ่เอ๋ย...สมัตถ์ช่างไม่ทะนุถนอมแก้วตาดวงใจของนางบ้างเลย เขาไม่สงสารเทียนหยดบ้างหรือ บุตรสาวนางมิใช่สตรีก๋ากั่นโชกโชนเรื่องอย่างว่าสักนิด“เขาไม่ใช่ของแก เทียนหยด เลิกร้องไห้เพราะเขาซะที เก็บที่นอนหมอนมุ้งซะ ไม่มีประโยชน์ที่แกจะเก็บไว้ประจานตัวเอง” นั่นคือสิ่งที่ผกากรองสั่งความบุตรสาวอยู่ที่หน้าประตู ก่อนจะก้าวจากไปพร้อมหัวใจของคนเป็นแม่