Share

พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก
พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก
ผู้แต่ง: พะเนินเทินทึก

บทที่ 1 เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

กลางดึกคืนหนึ่ง รถยนต์ลินคอล์น เอสยูวีสีดำคันหนึ่งกำลังขับตรงไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ดีไซน์หรูหรา ในย่านชานเมืองอันมั่งคั่งที่สุดของเมือง

ภายในคฤหาสน์หลังนั้น

ผ้าไหมผืนหนึ่งปกปิดดวงตาของเบียงก้า เรย์นอยู่

ชายหนุ่มคนนั้นไม่ต้องให้เธอรู้ว่าเขาเป็นใคร

“อย่ากลัวไปเลยนะ หายใจเข้าลึก ๆ ”

“เธอทำได้ เบียงก้า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการปลูกถ่ายตับเพื่อให้คุณพ่อมีชีวิตอยู่ไปได้ ถือว่าเป็นการเสียสละเล็กน้อยเพื่อพ่อก็ได้นะ”

เสียงรถเคลื่อนตัวเข้าใกล้คฤหาสน์มากยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้เธออยู่สุขแม้แต่วินาทีเดียว

เมื่อถึงจุดนี้แล้ว สิ่งที่เธอสามารถทำได้คือการพูดกับตนเอง ให้กำลังใจและปลอบประโลบไปพร้อมกัน

ทันทีที่ลุค ครอว์ฟอร์ดปรากฏกายตรงหน้า ชายหนุ่มคนนั้นช่างสูงสง่า เขาพลันชายตามองเบียงก้าซึ่งกำลังเดินเข้ามาในห้องของเขา เธอยังเป็นเพียงหญิงสาว และเหมือนเพิ่งจะแตกเนื้อสาว

“สวัส…สวัสดีค่ะ…” เธอสัมผัสได้ว่าร่างกายของชายหนุ่มย่าวก้าวเข้ามาเธอทีละน้อย แม้ว่าทัศนวิสัยของเธอจะมืดมิด แต่เธอก็ก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ เสียงทักทายของเธอตะกุกตะกักอย่างเด่นชัด

เธอตระหนักได้ว่าช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมา เธอได้เตรียมใจและละทิ้งทุกความสับสนไปหมดแล้ว ดังนั้นความเขินอายของเธอมลายหายไปสิ้น ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงเสียที ทว่า เธอกลับกดความรู้สึกหวาดกลัวไปไม่ได้ ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน

เธอต้องการหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน

ลุคไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำในคืนนี้นั้นถูกต้องรึเปล่า ทว่า เขารู้ดีว่าก่อนที่จะถึงวันเกิดปีหน้า เขาจำเป็นต้องหาคู่ครองและมีลูกสักคน เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเรียกร้อง

ลุคมองลงมายังร่างเล็ก ๆ และบอบบางของเด็กสาว "เธอกลัวอะไรอย่างนั้นเหรอ?"

น้ำเสียงของชายผู้นั้น ฟังดูอ่อนหวาน ทุ้ม และชวนฝัน

เบียงก้าตกใจเล็กน้อย ‘ทำไมน้ำเสียงของเขายังดูหนุ่มและน่าฟังขนาดนี้ล่ะ? ชายวัยกลางคนจะมีเสียงอันน่าหลงใหลแบบนี้ได้ยังไงกัน?’

“ฉันไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และก็ไม่ได้เป็นโรคอย่างพวกเห็นหุ่นผู้หญิงแล้วเกิดอารมณ์ขนาดนั้นด้วย” น้ำเสียงของชายหนุ่มนั้นทุ้มและนิ่มนวล ดูเหมือนเขาตั้งใจจะปลอบโยนเธอ

เขามั่นใจว่าเธอไม่ได้เขินอายแต่อย่างใด ไม่สิ เธอหวาดกลัวเขาต่างหาก

ก่อนที่เธอจะเรียกสติกลับมาได้ เสียงของชายคนนั้นก็ดังขึ้นต่อ “เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ”

ชายคนนั้นเอ่ยอย่างไร้ความอบอุ่น ราวกับว่าเขากำลังกล่าวประกาศเริ่มต้นการประชุม น้ำเสียงช่างเอาจริงเอาจังอย่างน่าประหลาด

วินาทีถัดมา อ้อมแขนของเขาพลันเข้ามาอุ้มเธอขึ้น!

….

นี่เป็นครั้งแรกที่เบียงก้าถูกผู้ชายอุ้มเช่นนี้ หัวใจของเธอก็แทบจะหยุดเต้น

“ถ้าเจ็บ ก็ช่วยบอกให้ผมช้าลงกว่านี้นะ!” ลุคเอ่ยอีกครั้ง เขาคิดว่าการกล่าวเตือนเธอก่อนจะทำให้เขาดูอ่อนโยนกับเธอมากยิ่งขึ้น

แต่เบียงก้ากลับตื่นกลัวมากกว่าเดิม

เขาเอื้อมมือไปคว้าตัวเธอ

เธอถอยออกห่างจากตัวเขา

“อย่าหนีสิ!” ชายคนนั้นตะเบงรุนแรงมากเสียจนลูกกระเดือกของเขาเด่นชัดออกมา เขาพลันคว้าข้อมืออันเรียวงามและดึงเธอเข้ามาสวมกอด และกล่าวเตือนออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้ม “อย่าหันหลังกลับไปเลยนะ”

เบียงก้าไม่กล้าแสดงกิริยาดื้อดึงอีก นั่นเป็นเพราะว่าคำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงระเรื่อ

ณ ขณะนั้น หากเขาเป็นชายหนุ่มสุดหล่อเหลาและร่ำรวย ทำไมเขาถึงต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้เด็ก

และผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างเธอด้วย?

เป็นไปได้ไหมว่าจริง ๆ แล้ว…เขาอาจจะอัปลักษณ์?

"ฉันมีคำถามหนึ่งคำถามค่ะ"

"ว่ามา" เสียงของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยความร้อนรน และมืออันอบอุ่นของเขาก็ปลดเสื้อผ้า

ของเธอออกด้วยความเร่งรีบ

“มันควรที่จะเป็นไปตามกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วสิคะ แล้วทำไม… จู่ ๆ คุณถึงอยากทำในแบบธรรมชาติละคะ?” นั่นเป็นคำถามที่กวนใจของเธอเป็นอย่างมาก

ลมหายใจอันอบอุ่นของชายคนนั้น เป่าเข้ามาที่หน้าผากของเธอ

ทันทีทีเอ่ยถามเช่นนั้นออกไป เธอพลันตื่นตกใจกับลมหายใจของเขา

เสียงครางเล็กแหลมของเธอแปรเปลี่ยนอารมณ์บางอย่างในน้ำเสียงของลุคไป เขาตอบกลับ “ฉันไม่อยากสูญเสียโครโมโซมไปแม้แต่ตัวเดียว ดังนั้นถ้าเราตัดเรื่องคนกลางออกไป มันคงจะดีกว่ามากเลยแหละ เธอยอมรับเหตุผลแบบนี้ได้รึเปล่าล่ะ?”

วินาทีถัดมา เขาใช้มืออันใหญ่โตของเขาบีบเธอแน่น!

"โอ๊ย…"

เหงื่อใส ๆ เริ่มไหลซึมบนหน้าผากของเบียงก้า ไม่มีความคิดใดแล่นผ่านหัวของเธออีกแล้ว...

เธอพยายามขัดขืน แต่เขากลับตรึงเธอลงอย่างรุนแรงและง่ายดาย เธอขยับร่างกายไม่ได้เลย!

เธอเป็นดั่งดอกไม้ที่อ่อนโยนและบานสะพรั่ง ลุคเข้าใจดีว่าถ้าต้องการลูกสักคน เขาต้องลงมือทำเช่นนี้ และเขาคิดว่า ทางเดียวที่เขาจะบรรเทาความรู้สึกผิดของเขาได้ คือการปฏิบัติต่อเธออย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและหายใจถี่ยิ่งขึ้น รู้สึกว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมร่างกายและสัญชาตญาณของเขาได้อีกต่อไป

ในคืนนั้น เบียงก้ารู้สึกเหมือนเป็นใบไม้ที่ล่องลอยอยู่บนผิวน้ำ เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกมากมาย ความเจ็บปวด น้ำตา ความสิ้นหวัง และความเซื่องซึม…

เบียงก้าไม่รู้ว่าเขาจากไปเมื่อไหร่

เมื่อลืมตาตื่นมา เธอมองดูนาฬิกาและเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสาม

แม่บ้านเฟย์ โทมัสยังไม่เข้านอน เธอเดินตรงเข้าไปหาเบียงก้า และเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม “ให้ดิฉันพาคุณไปห้องน้ำนะคะ คุณเรยน์!”

“ขอบคุณค่ะ แต่เดี๋ยวฉันจัดการเองได้ค่ะ” เบียงก้างุนงงเล็กน้อย รอยคราบน้ำตาทำให้ผิวของเธอตึงเล็กน้อย

เธอไม่สามารถเปิดเผยสถาพร่างกายอันไม่น่าดูให้แม่บ้านคนนั้นเห็นได้

เฟย์เดินออกไปจากห้องนอน

หลังจากนั้น เบียงก้าก็ลุกจากเตียงและเดินไปที่ห้องน้ำ

เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ เธอก็กลับมาที่ห้อง ทั้งผ้าปูที่นอนและผ้าห่มถูกเปลี่ยนจากของเดิมไปเรียบร้อย

คืนนั้น เหตุการณ์หนึ่งก็ผลุบเข้ามาในความฝันของเธอ

เธอฝันถึงปีนั้น สมัยมัธยมต้น เธอกำลังศึกษาอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของคุณปู่ สายฝนแห่งฤดูใบไม้ไม้ผลิโปรยปรายลงมา ขณะนั้น เธอและเพื่อนร่วมชั้นยืนอยู่ตรงกำแพงโรงเรียนเพื่อแอบดูการแข่งขันบาสเก็ตบอลในสนามบาสของโรงเรียนมัธยมปลายด้านข้าง ไอดอลของโรงเรียนนั้นทั้งหล่อเหลาและเท่ห์เหลือเกิน ท่วงท่าในการเลี้ยงลูกของเขาขโมยหัวใจของพวกเธอไปแล้ว นักเรียนคนนั้นเป็นเด็กหนุ่มย้ายมาจากต่างโรงเรียน เขามีชื่อว่า ครอว์ฟอร์ด

วันรุ่งขึ้น เบียงก้าลืมตาตื่นจากฝัน ร่างกายของเธอรู้สึกเจ็บปวดและเหนื่อยผิดปกติ

เธอยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ถือแปรงสีฟันและจ้องกระจกเป็นเวลานาน แม้ว่าจะสะลืมสะลือ แต่เธอยังจำความฝันเมื่อคืนนี้ได้แม่น พี่ครอว์ฟอร์ด รุ่นพี่ในความทรงจำเป็นดั่งเจ้าชายในฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงของเด็กสาวทุกคน

ในตอนนั้นเธอยังเด็ก เธอตัวเล็ก ไร้ค่า แถมยังโดนรังแกที่โรงเรียนอีก เธอยังไม่เข้าใจว่าความรักระหว่างชายและหญิงนั้นหมายถึงอะไร ดังนั้นเมื่อเธอหมดหนทางและสิ้นหวังอย่างที่สุด เธอได้แต่จินตนาการ และเพ้อฝันว่าเธอมีพี่ชายที่จะคอยปกป้องเธอ

ต่อมา เมื่อถึงวัยที่เธอจะมองหาความรักอันเบ่งบานเป็นครั้งแรก เธอพลันนึกถึงครอว์ฟอร์ด เด็กหนุ่มในความทรงจำของเธอ เขาเรียนอยู่ช่วงชั้นที่สูงกว่าที่โรงเรียนข้างกัน ก่อนที่จะหายตัวไป

เธอหมกมุ่นอยู่กับความคิดของเธอ แต่ในไม่ช้าเธอก็ถูกเรียกสติกลับมารู้สึกตัวเองโดยน้ำที่ล้นออกมาจากอ่าง

เธอส่ายหัวและสาปแช่งตัวเองอยู่ภายในใจ ว่าตัวเธอเองน่ารังเกียจจริง!

‘เบียงก้า นับตั้งแต่วันนี้ เธอไม่สมควรที่จะชอบเขาอีกต่อไป!’

เธอเอาแต่ขังตัวเองอยู่ภายในห้อง

คืนนั้น เบียงก้าได้รับข้อความ

ผู้ชายคนนั้นจะมาที่นี่อีกครั้ง

เฟย์ค่อนข้างประหลาดใจ นายน้อยเพิ่งมาที่นี่เมื่อคืนนี้ แล้วทำไมคืนนี้ เขาถึงกลับมาอีกที่นี่อีก?

คฤหาสน์วุ่นวายจนแทบจะระเบิด พวกเขาต้องเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อมโดยเร็วที่สุด!

เบียงก้ารู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังพังทลาย แต่เธอไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถเรียกร้องอะไรจากสถานการณ์เช่นนี้ได้เลย

ลุคสวมใส่กางเกงขายาวสีดำดูดีมีระดับและสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว หลังจากที่เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ เขาก็ตรงดิ่งไปที่ห้องนอนที่เบียงก้าพักอยู่

เธอไม่กล้าพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น เธอแทบไม่กล้าหายใจ ภายในห้องนั้นเงียบมาก ถึงขั้นที่หากมีเสียงเข็มหมุดหล่นกระทบพื้น คงดังกึกก้องอย่างแน่นอน!

ลุคถือเสื้อคลุมในมือขวา ยกมือซ้ายขึ้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่ถูกปิดตาอย่างมิดชิด จากนั้น เขาก็เอาฝ่ามือใหญ่ของตนแตะบริเวณหลังคอของเธอ และดึงเข้าหาเขาอย่างนุ่มนวล จนร่างกายเธอแนบชิดกับร่างเขา!

เบียงก้าสะดุด ตัวแข็งทื่อไปหมด และเธอกลั้นหายใจ และไม่กล้าขยับร่างกายแม้แต่นิด!

ลุคก้มหน้าลงมองหญิงสาวในอ้อมกอดของเขา เขาเกร็งลำคอและเม้มริมฝีปากอันบางเบา สายตาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าอันขาวผ่องซึ่งเล็กจ้อยเท่าฝ่ามือของเขาเท่านั้น

ดวงตาของเขาร้อนแรงขึ้นทีละน้อย สายตาของเขาร้อนรุ่ม ขณะที่สายตาคู่นั้นเคลื่อนลงต่ำลง

อย่างช้า ๆ เขาก็จ้องมองริมฝีปากอันอ่อนโยนของเธอ…

ถึงกระนั้น มีสัญญาข้อหนึ่งที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามจูบ

ให้ตายสิ เขาเริ่มที่จะเสียใจกับเงื่อนไขข้อนั้นซึ่งเขาตั้งเองเสียแล้ว!

“มาเริ่มกันอีกครั้งเถอะ” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เขาโยนเสื้อคลุมทิ้งไป และปิดไฟในขณะที่อุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมแขน

ในความมืด เธอขมวดคิ้วและปากก็กัดหมอนแน่น! เธอไม่กล้าเปล่งเสียงแม้แต่นิดเดียว!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status