“ฉันเปล่า…” เบียงก้ารีบปฏิเสธทันที “เธอกล้าโกหกฉันเหรอ? ถ้าเธอไม่ได้แอบชอบเขา แล้วใครกันล่ะที่ชอบซุ่มอยู่หลังกำแพงและแอบมองออกไปที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียนมัธยมที่อยู่ติดกันอย่างกับคนบ้านั่นน่ะ?” คลอเดียหยอกล้อเธอถึงเรื่องของอดีตเบียงก้ายังจำเหตุการณ์ในสมัยมัธยมของเธอได้ดี เธอมักจะชอบจ้องมองทิวทัศน์ที่สวยงามและผู้คนอย่างโง่เขลาสมัยเรียนมัธยม และคนที่เธอให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ รุ่นพี่ครอว์ฟอร์ด จากโรงเรียนมัธยมที่อยู่ติดกันคลอเดียคาดเดาได้ว่า เบียงก้าอาจจะกำลังเขินอายอยู่ เธอจึงพูดต่อว่า “เขาหล่อเหล่ามากขนาดนั้น! และยังน่าเกรงขามอีกด้วย! มีใครบ้างล่ะที่จะไม่ตกหลุมรักเขา? เธอไม่เห็นจะต้องอายเลย”เบียงก้าสำลักเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเริ่มแดง จากนั้น ใบหน้าของรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดที่อยู่ภายในใจก็แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของลุค ครอว์ฟอร์ดโดยไม่รู้ตัวมีข่าวลือว่า ลุคมีน้องชายที่ชื่อ หลุยส์ และทั้งสองพี่น้องก็มีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของรูปลักษณ์ และเบียงก้าก็ยังไม่เคยเห็นหลุยส์เป็นการส่วนตัวมาก่อนถ้าหากว่า หลุยส์ คือรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ด แต่ลุค คือคนที่อยู่ในใจของเธอตลอดเวลา ดังนั้น มันคงจะ
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านแล้ว เควินก็รู้สึกปวดหัวทั้งคืนเจนนิเฟอร์พลิกบ้านทั้งหลังเพื่อมองหาเอกสารสัญญาหลังจากที่เธอค้นหาอยู่นาน เธอก็พึมพำกับมาลีว่า “เควินเล่นตุกติกอะไรกับฉันแน่ ทำไมเขาถึงยังไม่ตายไปอีก!”“แม่หมายความว่ายังไง? เรายังจะได้รับค่าชดเชยสำหรับการหรือถอนด้วยจำนวนเงินหลักแสนใช่ไหม? เงินจำนวนมากที่พวกเราไม่เคยเห็นในชีวิตของเราเลย” มาลีกล่าวกับแม่ของเธอในขณะที่เธอขมวดคิ้วและช่วยแม่ของเธอหาเอกสาร เธอกล่าวต่อว่า “ถ้าเขาจะต้องตาย เขาก็ควรจะอดทนรอจนกว่าเราจะได้เงินก้อนนั้นมาสิ”“นี่เป็นความผิดของเธอที่ฉันจะต้องใช้ชีวิตที่ยากลำบากร่วมกับเขา” จากนั้น เจนนิเฟอร์ก็ย้ายเก้าอี้และมองหาเอกสารนั้นที่ด้านบนของตู้รองเท้าหนึ่งชั่วโมงผ่านไป การค้นหาของแม่และลูกสาวก็สิ้นสุดลงอย่างไร้ประโยชน์เจนนิเฟอร์เข้าไปในห้องนอนด้วยใบหน้าที่เย้ยหยัน เธอตรวจดูให้แน่ใจว่าเควินหลับแล้ว เธอจึงออกมาและไปที่ห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารที่ลูกสาวของเธอสั่งมา ในขณะที่พวกเขาทานอาหาร มาลีก็ถามขึ้นว่า “นี่แม่ แม่คิดว่าใครคืออดีตภรรยาของเขา? ทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องอดีตภรรยาไม่ให้พวกเรารู้ด้วย?”“ลูกโง่เหรอ?
เบียงก้าลืมตาที่มีน้ำตาขึ้น แก้มของเธอแดงราวกับสีของดอกกุหลาบ ในขณะที่เธอมองดูชายตรงหน้าอย่างสับสนดวงตาที่เฉียบคมของลุคเต็มไปด้วยความหลงใหลในขณะที่จ้องมองลึกลงไปในดวงตาของเธอ พวกเขาเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ดังนั้น เขาจึงก้มลงจูบเธออีกครั้งเบียงก้าลืมตาขึ้นในขณะที่เธอกำลังจมดิ่งลงในจูบอันแสนดูดดื่มของชายผู้นั้นเธอมองเห็นจมูกที่สูงสง่าและคิวที่ลึกล้ำที่แตกต่างไปจากผู้ชายทั่วไป ภายใต้แสงไฟสลัวในยามค่ำคืน ความละเอียดอ่อนของเขานั้นช่างขัดแย้งกับตัวตนของเขายิ่งนักมือที่ใหญ่โตของชายผู้นั้นโอบที่ศีรษะของเธอพร้อมกับคางที่เชิดขึ้น จุมพิตอันเร่าร้อนของชายผู้นั้นไล่ลงไปที่เขาคอจนไปถึงเนินอกของเธอ…“อืม…” เบียงก้าถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้นมองดูเขา ริมฝีปากอันเร่าร้อนของชายผู้นั้นทิ้งรอยเอาไว้บนผิวหนังของเธอ ในขณะที่เขายังคงรูปไร้ร่างกายของเธอต่อไปความเร้าอารมณ์ระหว่างพวกเขาค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นเบียงก้ามีประสบการณ์เพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะในเรื่องของการจูบ ในขณะที่ลุคเป็นคนเดียวที่ทำมันอย่างต่อเนื่องแรงกระตุ้นจากเขาส่งผ่านมาหาเธอเบียงก้าหลับตาลงครู่หนึ่ง จากนั้นชายผู้น
ทันทีที่เบียงก้าพูดคำว่ามีนัดดูตัว เธอก็ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะได้เห็นคิวที่คิ้วขมวดอย่างไม่พอใจของชายผู้นั้นที่ดูน่ากลัวขึ้นเล็กน้อย“ปล่อยฉันไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะรั้งฉันเอาไว้!”ราวกับว่าเธอไม่ได้พูดกับลุค แต่เธอเพียงแค่พูดให้ตัวเองได้ยินลุคเบิกตากว้างในทันที เบียงก้าถูกกดลงบนขาของชายผู้นั้น เธอเม้มริมฝีปากแน่นในขณะที่เธอแทบจะขาดอากาศหายใจหลังจากนั้นไม่นาน มืออันใหญ่โตของชายผู้นั้นที่เอวของเธอก็หลุดออก ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งที่กำลังกุมข้อมือของเธอเอาไว้ก็คลายลง...เธอถูกปล่อยแล้ว ในที่สุด เบียงก้าก็เป็นอิสระ ใบหน้าของเธอว่างเปล่าเธอลุกขึ้นและจัดระเบียบเสื้อผ้าของเธอ จากนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาแต่เมื่อเธอเปิดประตูรถ ชายผู้นั้นก็โผงผางเข้ามาด้วยอารมณ์ที่หึงหวง เขาลากเธอกลับมา จากนั้น เขาก็โยนเธอลงบนที่นั่งบนรถอีกครั้ง “ไปดูตัว แต่ทำไมถึงนุ่งน้อยห่มน้อยแบนนี้ล่ะ? นี่เป็นแผนการของคุณเพื่อการยั่วยวนผู้ชายอย่างนั้นเหรอ?” ลุคพูดจาข่มขู่เธอดวงตาที่สับสนของชายผู้นั้นจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาที่ตื่นตระหนกของเธอเบียงก้าได้ยินคำพูดที่ขุ่นเคืองเหล่านั้นเธอ
สิบนาทีต่อมา…“ฉัน ฉันทำไม่ได้” เบียงก้ากล่าวด้วยท่าทางที่ตกใจและดวงตาที่เบิกกว้างลุคกดร่างกายของเขาเข้ากับเธอ ริมฝีปากอันเย้ายวนของเขากดลงบนริมฝีปากที่บอบบางและอ่อนโยนของเธอเล็กน้อย ริมฝีปากของเขาแตะกับเธอเบา ๆ ร่างกายของเธอสั่นเทาในขณะที่เขารอการตอบสนองจากเธอ“ฉัน…ฉัน…” เธอหลับตาแล้วพูดขึ้นว่า “ฉัน ฉันทำไม่ได้...คุณอย่า...”ลุคมองดูหน้าอกที่สั่นเทาของเธอ จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นนั่งในที่นั่งคนขับของเขา ชายผู้นั้นเลื่อนกระจกรถลงและจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ ราวกับว่าเขาทำมาเป็นพันครั้งแล้ว เขาเหลือบมองออกไปภายนอกและพ่นควันบุหรี่ เขายกนิ้วอันเรียวงามของเขาขึ้นมาและกดเข้าที่ขมับที่เจ็บปวดของเขาลุคยินดีรอจนกว่าที่เธอจะพร้อมจูบเขาหลังจากเติบโตมาได้ยี่สิบเก้าปี เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่เขาเคยได้รับ ก็มากกว่าจำนวนโรงแรมที่เธอเคยได้นอนเสียอีกอย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยปล่อยให้เรื่องนี้รบกวนจิตใจของเขาและทำตามใจชอบเหมือนที่ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่คงจะได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการไปแล้วเช่นเดียวกับที่เธอเคยพูด ทั้งหมดที่เขาทำคือทำให้ผู้หญิงวิ่งเข้าหาเขาโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องกระดิกนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงอวบหรื
"มานัดบอดนี้ ฉันก็คงจะไม่ได้มองหาอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ"เธอแค่อยากจะออกจากสถานนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เท่านั้นเธอรู้สึกเครียดมากขึ้นเมื่อลุคนั่งอยู่อีกฝั่งเหมือนเทวดาผู้พิทักษ์“คุณไม่มีผู้ชายในแบบนี้ที่คุณชอบเลยใช่ไหมครับ? ถ้างั้น ผมขอเล่าประวัติของผมให้คุณฟังก็แล้วกัน” ในขณะนั้น โทรศัพท์มือถือของลีออนข้างถ้วยกาแฟก็ดังขึ้น “ขอโทษนะครับ แต่ผมต้องรับสายนี้”หลังจากที่ลีออนพูดเช่นนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนเบียงก้าถอนหายใจด้วยความโล่งอกถึงกระนั้น เธอก็ไม่กล้าพอที่จะขยับเขยื้อนใด ๆ เพราะกลัวว่าจะเผลอกันไปเจอสบตากับชายหนุ่มโต๊ะข้าง ๆลุคเองก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไรมากมายเช่นกัน เขาเพียงแค่อ่านหนังสือพิมพ์และจิบกาแฟรสขมเป็นครั้งคราวหมายเลขนั้นแสดงชื่อ "ป้าอลิสัน"ลีออนรับสาย“ลีโอ นัดบอดเป็นยังไงบ้าง หลานป้า?” อลิสันถามอย่างกังวลใจและต้องการทราบผลการนัดดูตัวครั้งนี้โดยเร็วที่สุดลีออนเหลือบมองเบียงก้าซึ่งนั่งอยู่คนเดียวห่างออกไป และพูดอย่างเหลือทน “ป้าอลิสัน ผู้หญิงคนนี้สวยเหลือเกินครับ แต่ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอเลย”เมื่ออลิสันได้ยินว่าเขาพูดเช่นนั้น เธอเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมา “ท
เบียงก้าเงยหน้าขึ้นและมองลุคตาไม่กะพริบหลังจากช่วงเวลาอันยาวนานผ่านไป ตอนนี้มันรู้สึกราวกับว่านาฬิกาได้หยุดหมุน เธอแทบจะกลับมาเป็นปกติอย่างที่เคยไม่ได้เลย และอารมณ์ที่เกินบรรยายยังคงปลุกเร้าเธออย่างถึงที่สุดภายใต้ขนตายาวและสั่นเทาของเธอ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาลุค ครอว์ฟอร์ดคือรุ่นพี่ครอว์ฟอร์ดคนนั้นความสงสัยในใจของเธอเมื่อในอดีตแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพที่ประจักษ์ตรงหน้าเธอผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปมากตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเธอเองก็เช่นกัน…โชคดีที่หลายปีผ่านไป จากสนามของโรงเรียนจนไปสู่สังคมการทำงาน ชุดนักเรียนที่กว้างและหละหลวมไปจนถึงชุดทำงานมืออาชีพ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอยังคงได้พบกับชายผู้ครอบครองหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธออยู่เสมอน่าเศร้าใจเหลือเกิน ตอนที่เธอออกจากโรงเรียนมัธยมไป ชีวิตเธอไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ควรและเธอก็ชักนำตนเองเข้าไปสู่คำว่ามลทินอีกด้วยเมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน เบียงก้าก็จำจุมพิตอันร้อนแรงที่พวกเขาทำร่วมกันในรถเมื่อไม่นานได้ ทันใดนั้น อารมณ์รุนแรงและเร่าร้อนผุดขึ้นในใจเธอ แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมาเธอไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ดูเหมือนว่าเวลาจะหมุนย้อ
เบียงก้าไม่สามารถทนฟังเรื่องราวได้อีกแล้ว"ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ" เธอวางแก้วลงแล้วลุกขึ้นเธอยอมรับ! เธออิจฉา และหึงหวงอย่างมากในช่วงยี่สิบสี่ปีที่ผ่านมา เธอไม่มีความสุขเลยนับตั้งแต่พบว่าแท้จริงชีวิตเป็นอย่างไร เธอไม่รู้ว่าอะไรทำให้เธอมีความสุข สมัยยังเด็ก มื้ออาหารทุกมื้อของเธอช่างเย็นชืดและเธอยังถูกเด็กคนอื่นรังแกอีก และจากนั้นสมัยมัธยมปลาย เธอถูกเพื่อนร่วมชั้นทั้งล้อเลียนและตำหนิต่าง ๆ นานาเธอรู้ตั้งแต่อายุยังน้อยว่าเธอไม่มีสิ่งที่เด็กคนอื่นเขามีกันตอนที่เกิดมานั่นคือแม่หากเป็นสิ่งที่คนอื่นต้องอ้อนวอนและทำงานหนักเพื่อสิ่งนั้น เธอรู้ว่าเธอไม่มีทางได้สิ่งนั้นมาครอบครองเหมือนลุค ครอว์ฟอร์ด ในที่สุด เธอก็กลายเป็นผู้ใหญ่และถึงวัยที่ทุกคนบอกว่าเป็นวัยแห่งอิสระและเสรีภาพ เธอไม่เคยรู้สึกถึงอิสระหรือความสุขจากสิ่งเหล่านั้นเลย ทั้งหมดที่เธอมีก็เป็นเพียงโซ่ตรวนแห่งความจริงอันโหดร้ายเพียงเท่านั้น‘เบียงก้า ชาติที่แล้ว เธอคงทำบาปทำกรรมเอาไว้หนักหนาพอตัวสินะ‘นั่นคือเหตุผลที่เธอต้องใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อไถ่บาปที่ผ่านมาของเธอในชีวิตนี้’ในคฤหาสน์มีห้องน้ำอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว