‘คุณเริ่มต้นด้วยการถอดเสื้อผ้าของคุณออกไปก่อนเลย’
แต่สิ่งที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเธอ กลับเป็นเพียงแค่เสียงครางในลำคอ และการพยักหน้ารับ เมื่อเขาจูบเธออีกครั้งอย่างดูดดื่ม
รสจูบของจักรินทร์ช่างหอมหวานเกินจะต้านทาน ในอดีตธาริกาเคยหัวเราะเยาะความคิดที่ว่า มนุษย์เราจะสามารถรับรู้ถึงรสชาติที่แสนวิเศษจากรสจูบของกันและกัน ตามที่เคยอ่านพบในนิยายรักเล่มโปรด ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริงดังนั้น
รสจูบของจักรินทร์หวานละมุน และชวนให้โหยหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และยังอบอวลไปด้วยรสชาติบางอย่างที่เธอเองก็มิอาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ มันแผ่ซ่าน แทรกซึมไปทั่วทุกอณูของร่างกายเธอ ราวกับไวน์รสเลิศ ที่ทำเธอละลายแทบจะทั้งตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เธอพร้อมที่จะจูบเขาไปทั้งคืน หากเขาปรารถนา เริ่มรู้สึกเสียใจ ที่เคยผละถอยห่างจากเขาในคืนนั้น
ฝ่ามือแข็งแรงค่อย ๆ เลื่อนลงมาโอบล้อมแผ่นหลังบอบบาง และเคลื่อนต่ำลงมายังสะโพกผาย แล้วบีบเคล้น กระชับแน่น เพ
“เธอสวยมากรู้มั้ย ฉันไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยไปทุกสัดส่วนเท่าเธอมาก่อน”ธาริกายิ้มและดึงเขาเข้ามาใกล้ “งั้นก็แสดงให้ดูสิคะ ฉันต้องการคุณในตัวฉัน ฉันรอนานพอแล้ว”เขาเลิกคิ้ว “รอนานเหรอ ฉันคิดว่าเธอลืมไปแล้วว่าฉันรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”“แต่ฉันรู้ดีว่าฉันต้องการอะไร”“แน่ใจเหรอ” เขาถามด้วยเสียงต่ำเกือบจะเป็นเสียงคำราม “เธอรู้จริง ๆ เหรอว่ากำลังพูดอะไรอยู่”เธอมองเขาอย่างท้าทาย “แน่นอน ฉันต้องการคุณ และฉันต้องการคุณตอนนี้”“ขอดี ๆ สิ ที่รัก”“แด๊ดดี้ขา ฉันต้องการคุณ ได้โปรด”“แล้วเธอต้องการให้ฉันอยู่ที่ไหน”ถามพร้อมกับขยี้ไข่มุกกับปุ่มเนื้ออ่อนไหว เธอส่งเสียงเฮือก คิดอะไรไม่ออก“ในตัวฉัน แด๊ดดี้ อ๊า...”“เด็กดี”จัก
จักรินทร์รู้สึกพึงพอใจในผลลัพธ์ เพราะได้ทำทุกสิ่งตามที่ตั้งใจไว้ เขาทำให้ธาริการู้สึกดีอย่างถึงที่สุด และทำให้ครั้งแรกของเธอกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไปตลอดกาลแต่เหตุใดในใจของเขายังคงรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติไป...ในเมื่อเขาก็ได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครองแล้วมิใช่หรือเขาได้ช่วงชิงความบริสุทธิ์ของเธอมาแล้ว และถึงเวลาแล้วมิใช่หรือ ที่ความตื่นเต้นเร้าใจ ความต้องการเป็นผู้ครอบครองนี้ จะค่อย ๆ จางหายไปแต่เหตุใดกันเล่า เขาถึงยังคงต้องการเธออยู่ช่างแปลกประหลาดยิ่งที่ในตอนนี้เขากลับโหยหาในตัวเธอมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีกหรืออาจเป็นเพราะเขายังคงมองว่าเธอยังคงเป็นของต้องห้ามที่กระตุ้นให้และท้าทายต่อกิเลสที่ต้องการครอบครอง แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ หรือแท้จริงแล้วมันอาจจะมีอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นกันแน่หรือบางที…อาจจะไม่ใช่ ทั้งสองอย่างเ
จักรินทร์วางของลงกับพื้น พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ และยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจเหนือศีรษะในขณะเดียวกันอิทธิพัทธ์ก็เตรียมพร้อมที่จะยิงธนูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขากำลังขึ้นสายธนูและเล็งไปยังเป้าที่ตั้งอยู่ไกลที่สุด จากนั้นก็ปล่อยมือ ลูกธนูวิ่งฝ่าอากาศออกไป ทว่ามิได้เข้าเป้าตรงกลางเป้าตามที่หวัง แต่ก็ยังคงโดนเป้าอยู่ดี นับว่าเป็นการยิงที่น่าประทับใจไม่น้อย“แล้วตกลงว่านายมีเรื่องอะไรจะพูดหรือไอ้หมอ” อิทธิพัทธ์เอ่ยถาม หันหน้ามามองจักรินทร์จักรินทร์หยิบลูกธนูขึ้นมา และถือคันธนูในท่า เตรียมพร้อมยิง“ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี”“ก็เริ่มเล่าจากตรงที่แกค้างเอาไว้นั่นแหละ” ชัชชนเสนอแนะ พลางยกยิ้ม เขาใช้เวลานานเป็นพิเศษในการเล็งเป้าที่ตั้งอยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นจึงค่อยปล่อยลูกธนูออกจากคันธนู และลูกธนูก็ปักเข้าไปในเป้า...ทว่ากลับเป็นเพียงแค่บริเวณขอบนอกของเป้าเท่านั้น“ก็...ดีมากแล้วนี่” อิทธิพัทธ์เอ่ย
มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ธาริการู้ว่าการที่เธอกับจักรินทร์ลางานพร้อมกันไม่ได้เป็นที่สงสัย แต่เธอก็ยังอดกังวลไม่ได้มีสิ่งหนึ่งคือปฏิกิริยาของเธอในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม จะต้องปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นแน่ แค่การที่เขาเป็นผู้ชายคนแรก ก็ถือเป็นเหตุผลที่มากเพียงพอแล้วเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่ประการใด ประสบการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา ช่างยอดเยี่ยมเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ทั้งหมด และจักรินทร์ก็อ่อนโยนต่อเธออย่างน่าประทับใจทว่าในใจของธาริกากลับมีความกังวลขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะจริงจังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากการใกล้ชิดกันถึงเพียงนั้นเธอสงสัยว่าเธออาจจะกำลังเริ่มหลงรักเขาเข้าให้แล้วจริง ๆ ก็เป็นได้และหากมันเป็นเช่นนั้นจริง มันก็คงจะเป็นหายนะครั้งใหญ่ในชีวิตของเธออย่างแน่นอนเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะจัดการกับสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วน
“ฉันก็ไม่ได้จะให้เธอแสร้งทำสักหน่อย นี่เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อจริง ๆ หรือ ใช่…พวกเราจำเป็นที่จะต้องรักษาระยะห่างที่เหมาะสมในสถานที่ทำงาน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องหลบหน้าฉันถึงขนาดนี้”“ฉัน…ไม่แน่ใจว่าคุณหมอเข้าใจความรู้สึกของฉันจริง ๆ หรือเปล่านะคะ”ในใจของธาริกายังคงไม่ปรารถนาที่จะเอื้อนเอ่ยออกไปว่า เธอเริ่มคิดว่าตนเองกำลังมีความรู้สึกพิเศษให้เขา เพราะมั่นใจว่า หากเขาล่วงรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ เขาจะต้องผละถอยห่างจากเธอไปอย่างแน่นอนและนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เธอปรารถนาจะให้เกิดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นก็อธิบายให้ฉันฟังหน่อย” น้ำเสียงของจักรินทร์อ่อนลง“เอ่อ...ฉันว่าเราไปนั่งคุยกันได้ไหมคะ” ธาริกาเสนอ“ไปสิ”จักรินทร์ตอบรับในทันที เขาผุดลุกขึ้น และดึงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ ให้หญิงสาว จากนั้นจึงค่อยเลื่อนเก้าอี้ของตนเองมาข้าง ๆ เพื่อจะได้น
จักรินทร์แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้ในระหว่างที่ขับรถ ทว่าเขาก็ตระหนักดีว่าเขาไม่ควรที่จะแตะต้องเนื้อต้องตัวเธออีกเป็นอันขาด เพราะในตอนนี้ ธาริกากำลังรู้สึกไม่สบายใจและยังเริ่มก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เขาไม่ควรได้รับจากเธอยิ่งไดสัมผัสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็จะยิ่งเลวร้ายลงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เขาปรารถนาที่จะจัดการในโมงยามนี้ด้วยเหตุนั้นจักรินทร์จึงไม่แม้แต่จะหันไปมองหญิงสาวเลยในระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันเขาจำเป็นที่จะต้องสร้างระยะห่างที่เหมาะสมขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง ทว่าก็ต้องไม่มากจนเกินไป จนอาจจะทำให้เธอเกิดความสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขาเพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง และถ้าสมมติเธอเริ่มมีความรู้สึกพิเศษให้เขาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็ไม่อยากที่จะปล่อยให้เธอต้องมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับความสัมพันธ์ครั้งนี้เมื่อกลับมาถึงบ้าน จักรินทร์ลงมาเปิดประตูรถให้หยิงสาว
ช่างเป็นเด็กที่เจ้าเล่ห์เสียจริงใบหน้าหวานแหงนเงย เหยเกไปด้วยความสุขสมในยามที่เธอค้นพบจังหวะที่พึงพอใจเสียงหวานละมุนเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม เสียงครางแผ่วเบาอันแสนสุขสมเกินบรรยาย ช่างคล้ายคลึงกับเสียงอ้อนวอนเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มรีบก้าวเข้าไปหาและมอ ความสุขสมให้แก่เธออย่างแท้จริงจักรินทร์พยายามอย่างยิ่งที่จะฝืนสะกดกลั้นตนเองต่อไป ทว่าในที่สุด เขาก็มิอาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไปช่างน่าขันเสียจริง ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงต้องการในตัวเธออยู่ดีและเขาต้องการเธอเดี๋ยวนี้ด้วย!ถึงแม้ว่า ในภายภาคหน้าเขาอาจจะหมดสิ้นความสนใจในตัวเธอไปจนหมดใจแล้วก็ตามที แต่ในโมงยามนี้เขากลับตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเสพสุขกับเธอให้ถึงขีดสุดจนกว่าจะถึงวันนั้นธาริกาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจระคนงุนงง ในยามที่ร่างสูงเดิมข้ามห้องมาหาเธอด้วยสองก้าวยาว ๆ
ธาริกาค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปใต้ขอบเอวของบ็อกเซอร์ และดึงรั้งมันให้หลุดล่นลงไปกองที่ข้อเท้าเหมือนกับกางเกงก่อนหน้าแก่นกายขนาดเขื่องของจักรินทร์ผงาดโผล่พ้นออกมาจากพันธนาการแห่งเนื้อผ้า ดวงตากลมจับจ้องมองมันอย่างตะลึงลานขณะที่ดึงรั้งเครื่องปกปิดให้หลุดล่นลงไปกองที่ข้อเท้า และจักรินทร์ก็เตะมันทิ้งไปให้พ้นทางอีกครั้ง“คุกเข่าลงสิ”เสียงบัญชาเปี่ยมไปด้วยอำนาจ ด้วยเขารู้ดีว่ามันจะเป็นผลดีต่อหญิงสาวมากยิ่งกว่าหากเขาหนักแน่นและมั่นคงในคำพูดของตนเอง เพราะในตอนนี้ธาริกาไม่รู้ว่าควรจะกระทำสิ่งใดต่อไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยชี้แนะนำทางเธอในทุก ๆ สิ่ง และดูเหมือนว่าเธอจะพึงใจในบทบาทนี้ของเขาเสียด้วยธาริกาปฏิบัติตามคำบัญชาของชายหนุ่มแต่โดยดี ทรุดกายคุกเข่าลงตรงหน้าร่างสูงอย่างว่าง่ายจักรินทร์แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไปภาพของธาริกาที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ ในชุดชั้นในสีแดงเ
ธาริกากลับบ้านไปหลังจากทานอาหารเช้าร่วมกัน เธอสวมชุดลำลองที่เขาซื้อให้ จักรินทร์กำชับให้เธอแต่งกายให้สวยงามสำหรับค่ำคืนนี้ และย้ำว่าไม่ต้องแจ้งเรื่องนี้ให้บิดามารดาทราบ ซึ่งธาริกาก็คงรู้อยู่แล้ว แม้เขาจะมิได้เอ่ยปากก็ตามจักรินทร์ยังคงครุ่นคิดหนักถึงเรื่องนี้ เขารู้ดีว่าหากความสัมพันธ์นี้ดำเนินต่อไป เขาจะต้องเผชิญหน้ากับบิดามารดาของเธอในสักวัน ซึ่งนั้นมิใช่ความคิดที่ชวนให้รื่นรมย์เลยสักนิดส่วนลึกในใจยังคงหวังว่าความรู้สึกของเขาจะจางหายไป และทุกอย่างจะจบลง ก่อนที่เขาจะต้องเข้าไปพัวพันกับครอบครัวของเธอเพื่อเบี่ยงเบนความคิด ก่อนถึงเวลานัดกับธาริกา จักรินทร์จึงโทรศัพท์หานายชัชชนและอิทธิพัทธ์อีกครั้งทั้งสองตอบรับคำชวน โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องสังสรรค์กันอยู่แต่ในบ้านเท่านั้นเพราะขี้เกียจออกไปข้างนอก แต่ถึงอยู่แต่ในบ้าน ก็ยังมีกิจกรรมมากมายให้ทำ และอิทธิพัทธ์เสนอให้พวกเขาประลองฝีมือหมากรุกกันอิทธิพัทธ์เพิ่งจะซื้อหมากรุกชุด
“ตกลงค่ะ ฉันจะลองดู”ที่จริง เธอเองก็ไม่ได้คิดจะคบใครอื่นอยู่แล้ว แต่คงไม่จำเป็นต้องบอกเขาให้ล่วงรู้ ปล่อยให้เขาคิดไปว่าเธอเองก็ยินดีที่จะเสียสละเช่นกันใบหน้าของจักรินทร์แย้มรอยยิ้มกว้าง เขารั้งร่างเธอเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง จูบเธออย่างหนักหน่วง“เธอสวยมาก” เขาพึมพำเธอรู้ดีว่ามันเป็นเพียงคำลวงแต่ก็ยินยอมปล่อยใจให้ล่องลอยไปในห้วงฝัน“ฉันรู้ค่ะ” ธาริกาหัวเราะคิกคัก จูบตอบเขาแผ่วเบา “คุณหมอน่ะโชคดีมากนะคะ”“ใช่ ฉันมันโชคดีจริง ๆ”**********ทั้งคู่ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน จักรินทร์โอบกอดหญิงสาวไว้ตลอดคืน ธาริกาไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้มาก่อน สัมผัสอบอุ่นจากมือแกร่งที่ทาบอยู่บนเอว และศีรษะเธอที่ซุกแนบอยู่ใต้คางแกร่งจนกระทั่งเช้า
จักรินทร์รักษาสัญญาของเขาเป็นอย่างดี ธาริกาถึงจุดสุดยอดสามครั้งก่อนที่เขาจะตัดสินใจพัก และลุกเดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เขาถามว่าเธออยากจะไปด้วยกันไหม แต่เธอปฏิเสธ เธอต้องการเวลาคิดอะไรบางอย่าง และไม่มีทางที่เธอจะทำได้ถ้าจักรินทร์มีอะไรกับเธอใต้สายน้ำร้อนของห้องอาบน้ำสุดหรูเธอยังไม่เข้าใจว่า ตอนแรกเขาบอกให้เธอกลับไปใช้วิธีการช่วยตนเอง แต่แล้วทำไมสุดท้ายเขาถึงเข้ามา และดูจะข้ามขั้นตอนไปมากแล้วที่บอกว่าเธอเป็นของเขา แต่เขาหมายความแบบนั้นจริง ๆ หรือ หรือแค่เพราะอารมณ์ในตอนนั้นเธอมองลงไปที่รอยฟกช้ำบนขาของเธอที่เขาทิ้งไว้จากการกัดของเขา เธอทำผิดพลาดที่ใส่ชุดชั้นในชุดนี้หรือเปล่า เธอทำไปโดยตั้งใจ เธอแค่อยากรู้ว่าเธอจะยั่วยุเขาได้แค่ไหนแต่นั่นเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัว และไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นร่างกายของเธอยังคงร่ำร้องเขา แม้ว่าเขาจะให้เธอทุกอย่างแล้ว แต่หัวใจของเธอก็ยังร่ำร้องหาเขามากขึ้นไปอีก
ธาริกาค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปใต้ขอบเอวของบ็อกเซอร์ และดึงรั้งมันให้หลุดล่นลงไปกองที่ข้อเท้าเหมือนกับกางเกงก่อนหน้าแก่นกายขนาดเขื่องของจักรินทร์ผงาดโผล่พ้นออกมาจากพันธนาการแห่งเนื้อผ้า ดวงตากลมจับจ้องมองมันอย่างตะลึงลานขณะที่ดึงรั้งเครื่องปกปิดให้หลุดล่นลงไปกองที่ข้อเท้า และจักรินทร์ก็เตะมันทิ้งไปให้พ้นทางอีกครั้ง“คุกเข่าลงสิ”เสียงบัญชาเปี่ยมไปด้วยอำนาจ ด้วยเขารู้ดีว่ามันจะเป็นผลดีต่อหญิงสาวมากยิ่งกว่าหากเขาหนักแน่นและมั่นคงในคำพูดของตนเอง เพราะในตอนนี้ธาริกาไม่รู้ว่าควรจะกระทำสิ่งใดต่อไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยชี้แนะนำทางเธอในทุก ๆ สิ่ง และดูเหมือนว่าเธอจะพึงใจในบทบาทนี้ของเขาเสียด้วยธาริกาปฏิบัติตามคำบัญชาของชายหนุ่มแต่โดยดี ทรุดกายคุกเข่าลงตรงหน้าร่างสูงอย่างว่าง่ายจักรินทร์แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไปภาพของธาริกาที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ ในชุดชั้นในสีแดงเ
ช่างเป็นเด็กที่เจ้าเล่ห์เสียจริงใบหน้าหวานแหงนเงย เหยเกไปด้วยความสุขสมในยามที่เธอค้นพบจังหวะที่พึงพอใจเสียงหวานละมุนเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม เสียงครางแผ่วเบาอันแสนสุขสมเกินบรรยาย ช่างคล้ายคลึงกับเสียงอ้อนวอนเชื้อเชิญให้ชายหนุ่มรีบก้าวเข้าไปหาและมอ ความสุขสมให้แก่เธออย่างแท้จริงจักรินทร์พยายามอย่างยิ่งที่จะฝืนสะกดกลั้นตนเองต่อไป ทว่าในที่สุด เขาก็มิอาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไปช่างน่าขันเสียจริง ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงต้องการในตัวเธออยู่ดีและเขาต้องการเธอเดี๋ยวนี้ด้วย!ถึงแม้ว่า ในภายภาคหน้าเขาอาจจะหมดสิ้นความสนใจในตัวเธอไปจนหมดใจแล้วก็ตามที แต่ในโมงยามนี้เขากลับตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเสพสุขกับเธอให้ถึงขีดสุดจนกว่าจะถึงวันนั้นธาริกาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจระคนงุนงง ในยามที่ร่างสูงเดิมข้ามห้องมาหาเธอด้วยสองก้าวยาว ๆ
จักรินทร์แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้ในระหว่างที่ขับรถ ทว่าเขาก็ตระหนักดีว่าเขาไม่ควรที่จะแตะต้องเนื้อต้องตัวเธออีกเป็นอันขาด เพราะในตอนนี้ ธาริกากำลังรู้สึกไม่สบายใจและยังเริ่มก่อเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เขาไม่ควรได้รับจากเธอยิ่งไดสัมผัสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็จะยิ่งเลวร้ายลงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เขาปรารถนาที่จะจัดการในโมงยามนี้ด้วยเหตุนั้นจักรินทร์จึงไม่แม้แต่จะหันไปมองหญิงสาวเลยในระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกันเขาจำเป็นที่จะต้องสร้างระยะห่างที่เหมาะสมขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง ทว่าก็ต้องไม่มากจนเกินไป จนอาจจะทำให้เธอเกิดความสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขาเพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง และถ้าสมมติเธอเริ่มมีความรู้สึกพิเศษให้เขาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็ไม่อยากที่จะปล่อยให้เธอต้องมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับความสัมพันธ์ครั้งนี้เมื่อกลับมาถึงบ้าน จักรินทร์ลงมาเปิดประตูรถให้หยิงสาว
“ฉันก็ไม่ได้จะให้เธอแสร้งทำสักหน่อย นี่เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะสื่อจริง ๆ หรือ ใช่…พวกเราจำเป็นที่จะต้องรักษาระยะห่างที่เหมาะสมในสถานที่ทำงาน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องหลบหน้าฉันถึงขนาดนี้”“ฉัน…ไม่แน่ใจว่าคุณหมอเข้าใจความรู้สึกของฉันจริง ๆ หรือเปล่านะคะ”ในใจของธาริกายังคงไม่ปรารถนาที่จะเอื้อนเอ่ยออกไปว่า เธอเริ่มคิดว่าตนเองกำลังมีความรู้สึกพิเศษให้เขา เพราะมั่นใจว่า หากเขาล่วงรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ เขาจะต้องผละถอยห่างจากเธอไปอย่างแน่นอนและนั่นก็คือสิ่งสุดท้ายที่เธอปรารถนาจะให้เกิดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นก็อธิบายให้ฉันฟังหน่อย” น้ำเสียงของจักรินทร์อ่อนลง“เอ่อ...ฉันว่าเราไปนั่งคุยกันได้ไหมคะ” ธาริกาเสนอ“ไปสิ”จักรินทร์ตอบรับในทันที เขาผุดลุกขึ้น และดึงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ ให้หญิงสาว จากนั้นจึงค่อยเลื่อนเก้าอี้ของตนเองมาข้าง ๆ เพื่อจะได้น
มันเป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ธาริการู้ว่าการที่เธอกับจักรินทร์ลางานพร้อมกันไม่ได้เป็นที่สงสัย แต่เธอก็ยังอดกังวลไม่ได้มีสิ่งหนึ่งคือปฏิกิริยาของเธอในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม จะต้องปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นแน่ แค่การที่เขาเป็นผู้ชายคนแรก ก็ถือเป็นเหตุผลที่มากเพียงพอแล้วเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่ประการใด ประสบการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา ช่างยอดเยี่ยมเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ทั้งหมด และจักรินทร์ก็อ่อนโยนต่อเธออย่างน่าประทับใจทว่าในใจของธาริกากลับมีความกังวลขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะจริงจังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากการใกล้ชิดกันถึงเพียงนั้นเธอสงสัยว่าเธออาจจะกำลังเริ่มหลงรักเขาเข้าให้แล้วจริง ๆ ก็เป็นได้และหากมันเป็นเช่นนั้นจริง มันก็คงจะเป็นหายนะครั้งใหญ่ในชีวิตของเธออย่างแน่นอนเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะจัดการกับสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วน
จักรินทร์วางของลงกับพื้น พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ และยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจเหนือศีรษะในขณะเดียวกันอิทธิพัทธ์ก็เตรียมพร้อมที่จะยิงธนูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขากำลังขึ้นสายธนูและเล็งไปยังเป้าที่ตั้งอยู่ไกลที่สุด จากนั้นก็ปล่อยมือ ลูกธนูวิ่งฝ่าอากาศออกไป ทว่ามิได้เข้าเป้าตรงกลางเป้าตามที่หวัง แต่ก็ยังคงโดนเป้าอยู่ดี นับว่าเป็นการยิงที่น่าประทับใจไม่น้อย“แล้วตกลงว่านายมีเรื่องอะไรจะพูดหรือไอ้หมอ” อิทธิพัทธ์เอ่ยถาม หันหน้ามามองจักรินทร์จักรินทร์หยิบลูกธนูขึ้นมา และถือคันธนูในท่า เตรียมพร้อมยิง“ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี”“ก็เริ่มเล่าจากตรงที่แกค้างเอาไว้นั่นแหละ” ชัชชนเสนอแนะ พลางยกยิ้ม เขาใช้เวลานานเป็นพิเศษในการเล็งเป้าที่ตั้งอยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นจึงค่อยปล่อยลูกธนูออกจากคันธนู และลูกธนูก็ปักเข้าไปในเป้า...ทว่ากลับเป็นเพียงแค่บริเวณขอบนอกของเป้าเท่านั้น“ก็...ดีมากแล้วนี่” อิทธิพัทธ์เอ่ย