ทิศเหนือก้มหน้าลงที่สองเนินอวบนูน ก่อนจะแลบลิ้นเลียวนเวียนอยู่บนเม็ดยอดทับทิมสีหวานที่ตั้งชูชันราวกับยั่วยวนเขา สองมือหนาบีบเคล้นทั้งสองเต้าป้อนเข้าปากแล้วดูดดึงสลับไปมาทั้งสองข้างเพื่อช่วยโลมเล้าอารมณ์ของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซ้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มพร้อมกับขบเม้ม จนเรือนร่างขาวนวลเกิดรอยจ้ำสีแดงตามจุดที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่าน
“อ๊า~”
หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ทิศเหนือจึงอาศัยจังหวะที่เธอส่งเสียงคราง ดันแท่งเนื้อลำใหญ่เข้าไปทีเดียวจนมิดลำ ทำเอาเธอจุกหน่วงไปจนทั่วท้องน้อย
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสร้องโอดครวญ ปากหนารีบประกบจูบแล้วดูดดึงลิ้นเล็กทันที
สองมือทำหน้าที่บีบขยำสองเต้าไม่หยุดมือ ริมฝีปากก็ทำหน้าที่บดจูบอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไม่หยุดปาก ส่วนเอวแกร่งก็ทำหน้าที่กระแทกกระทั้นส่งลำเอ็นเข้าออกร่องเธออย่างไม่หยุดเช่นกัน
“อา~เสียวฉิบหาย”
เสียงครางอย่างหยาบโลนดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เขารู้สึกสยิวไปทั้งตัวเพราะร่องของหญิงสาวตอดรัดแท่งเอ็นจนเขาแทบทนไม่ไหวและคงเสร็จในไม่ช้า
ร่างสูงสอบเอวเข้าออกอย่างรัวเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าน้ำรักกำลังจะพุ่งทะยานออกมา
เขากระแทกแรง ๆ อย่างลืมตัวสองสามครั้งก่อนจะชักแกนกายออกจากร่องรักของหญิงสาว
มือหนารูดถุงยางอนามัยแล้วโยนมันลงไปข้างโซฟา ก่อนจะจ่อปลายหยักไว้ตรงหน้าท้องแบนราบแล้วชักรูดน้ำกามสีขาวขุ่นลงบนนั้น
ของขวัญเบือนหน้าหลบสายตาคนที่ฟุบลงบนตัวเธอ เสียงหายใจหอบเหนื่อยของคนทั้งคู่ประสานกันจนดังก้องทั่วห้องรับแขก มือแกร่งสองข้างยังขยำอยู่บนเนื้อเนินอวบนูนอย่างไม่ออมแรง
“พอใจแล้วใช่ไหมคะ ฉันกลับได้แล้วใช่ไหม”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาลุกออกจากตัวเธอ
ชายหนุ่มมองเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะครุ่นคิด ตอนนี้ยาปลุกเซ็กส์ในตัวน่าจะหมดฤทธิ์ไปแล้ว แต่ความต้องการของเขายังมีอยู่มาก
เขายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วตอบเธอ
“ยัง ยายังไม่หมดฤทธิ์”
ตอบเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะช้อนร่างเล็กด้วยแขนสองข้างแล้วพาเธอเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองของบ้าน เขาเปิดประตูห้องแล้วโยนเธอลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่อย่างแรง ก่อนจะคลานขึ้นไปคุกเข่าข้าง ๆ เธอ
“เดี๋ยวก่อนสิคุณ...ฉันยังไม่หายเจ็บเลยนะ”
หญิงสาวขมวดคิ้วเอ่ยท้วง ส่วนคนถูกท้วงก็ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเธอ รอยยิ้มมุมปากของเขามันช่างดูร้ายกาจ ทำเธอรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ฉันจะทำเบา ๆ”
ก้มลงกระซิบแนบชิดใบหูของเธอ พูดจบก็ขึ้นคร่อมตัวเธอเอาไว้ หลังจากนั้นก็เริ่มบทสวาทบทใหม่บนเตียงนอนแสนนุ่ม
เวลาต่อมา
แสงจากโคมไฟของห้องนอนขนาดใหญ่ ส่องเป็นสีนวลละมุนช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องให้โรแมนติกมากขึ้น
สองคนยังละเลงบทรักที่เร่าร้อนดุเดือดอยู่บนเตียงนอนอย่างไม่หยุดพัก เสียงครางระงมของทั้งคู่ดังไปทั่วห้องอย่างไม่มีใครยอมใคร
“อ๊ะ~ไม่ไหวแล้ว ฉันเสียว”
ร่างเล็กขยับเคลื่อนไหวไปตามความเสียวซ่าน เสียงครางหวาน ๆ เปล่งออกมาเป็นระยะ ๆ
เขาจับร่างเล็กให้อยู่ในท่าคลานเข่า สองมือสอดเข้าที่เอวคอดแล้วดึงรั้งสะโพกให้แอ่นขึ้นรองรับตัวตนของเขาที่กระหน่ำซอยอย่างบ้าคลั่ง มือข้างหนึ่งตึงแขนของเธอไขว้มาทางด้านหลัง ส่วนมืออีกข้างจับไว้ที่สะโพกมนเพื่อช่วยประคองจังหวะ
“อื้ม~ตอดดีฉิบ”
เปล่งเสียงครางดังออกมาอย่างลืมตัว เขารู้สึกพอใจกับร่องรักของหญิงสาวจนอยากจะเก็บเธอเอาไว้ เวลารู้สึกอยากขึ้นมาจะได้มีที่ลง ไม่ต้องไปใช้งานหญิงขายบริการอย่างที่ผ่าน ๆ มา ดีเสียอีกเขาจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับโรคและอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง
พรุ่งนี้เช้าเขาจะลองพูดกับเธอดูพร้อมกับเสนอเงินให้เป็นรายเดือน เพื่อแลกกับการเป็นคู่นอนของเขา ทิศเหนือคิดในระหว่างที่กำลังทำกิจกรรมร่วมรักอย่างเร่าร้อนกับเธอ
ร่างเล็กฟุบลงบนที่นอนอย่างคนหมดแรงในช่วงเวลาใกล้ตีสี่ ก่อนจะมีร่างของอีกคนนอนทับลงมาบนตัวเธอ
ชายหนุ่มหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน เขาคงเพลียมากเพราะถูกรีดน้ำออกจนหมดตัว
เช้าวันต่อมา
ของขวัญตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยอาการสะลึมสะลือ สายตาคู่สวยลืมขึ้นช้า ๆ แล้วมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง
ร่างบางดีดตัวลุกนั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดผ้าห่มผืนใหญ่เพื่อสำรวจร่างกายของตัวเองที่อยู่ภายในนั้น เนื้อตัวของเธอเปลือยเปล่าและมีรอยจ้ำไปทั่วทั้งตัว
ของขวัญตกใจสุดขีด เมื่อรู้ตัวว่ายังอยู่บนเตียงนอนของทิศเหนือ
ดวงหน้างดงามค่อย ๆ หันไปมองคนที่นอนหลับเป็นตายอยู่ข้าง ๆ เธอถึงกับต้องเอามือป้องปากแล้วอุทานออกมา
“เรื่องจริงเหรอเนี่ย”
ก่อนจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำในตอนนี้คือต้องออกจากห้องนี้ให้ไวที่สุด
หญิงสาวลุกออกจากเตียงนอนอย่างทุลักทุเล เธอพยายามประคองร่างกายที่เจ็บหน่วงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ของเขา แล้วเลือกหยิบเอาเสื้อยืดตัวใหญ่ออกมาสวมใส่ ก่อนจะหยิบเสื้อแจ็กเกตหนังในตู้ออกมาอีกตัวเพื่อใส่คลุมทับเอาไว้ เธอไม่ลืมหยิบเงินจำนวนหนึ่งพันบาทในกระเป๋าสตางค์ของเขาออกมาด้วยเพื่อเอาไว้จ่ายค่าแท็กซี่ หลังจากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องนั้นทันที
เดินพ้นประตูบ้านออกมาได้ไม่นานก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอเข้ากับร่างกำยำของผู้ชายสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านนอก เธอทำใจดีสู้เสือแล้วรีบเดินผ่านไปให้ไวที่สุด
“เดี๋ยวครับ”
ชายคนหนึ่งเรียกเธอเอาไว้
“มีอะไรคะ”
“คุณเหนืออนุญาตให้คุณกลับแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ...เขาอนุญาตแล้ว”
เธอโกหกหน้าตาย ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะเชื่อคำพูดของเธออยู่เหมือนกัน เพราะเขาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
เธอถามเขาเพื่อความแน่ใจ ชายคนนั้นพยักหน้านิ่งให้เธอ หญิงสาวหันหลังแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้นให้ไวที่สุด เมื่อออกมาได้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทิศเหนือมองตามร่างเล็กที่เดินสะบัดก้นออกไป มุมปากยกยิ้มอย่างพอใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของหญิงสาวเขายกมือถือขึ้นมาดูเบอร์ที่เพิ่งกดโทรออก ตั้งใจจะบันทึกเอาไว้แต่ก็ลืมไปว่ายังไม่รู้จักชื่อเธอริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขากดพิมพ์คำว่า ‘ยัยหัวขโมย’ ใช้แทนชื่อของเธอแล้วกดบันทึกเอาไว้ช่วงเย็นของขวัญเดินลงจากตึกเรียนในช่วงเวลาใกล้ค่ำเพียงลำพัง เนื่องจากต้องอยู่วาดงานสีน้ำส่งอาจารย์ในท้ายคาบแต่เพราะฝีมือของเธอยังอ่อนหัดจึงทำเสร็จช้ากว่าเพื่อน ๆ ทำให้ต้องอยู่เลยเวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อเดินมาถึงทางเดินหน้าตึกเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูทันทีหญิงสาวกดเข้าแอปพลิเคชันไลน์ที่เพิ่งมีคนเพิ่มเพื่อนเข้ามา เพื่อนใหม่ของเธอตั้งโปรไฟล์เป็นรูปเข็มทิศที่ปลายเข็มชี้ไปยังตัว N ดูก็รู้ว่าเป็นใครนิ้วเล็กกดเข้าไปเปิดอ่านข้อความที่เพื่อนใหม่ส่งมาให้ทิศเหนือ : อยู่ไหนทิศเหนือ : รอนานแล้วนะทิศเหนือ : ฉันชักจะหมดความอดทนแล้วนะ ถ้าภายในสิบนาทียังไม่ตอบ เธอได้เห็นดีแน่ยัยหัวขโมยนั่นคือข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมาหาเธอเมื่อแปดนาทีที่แล้วใช้สายตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะพิม
วันต่อมาของขวัญเดินทอดน่องเข้าไปในพื้นที่ของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างเร่งรีบ ชุดนักศึกษาถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อกันหนาวคอเต่าอีกชั้นเพื่อปิดบังรอยจ้ำทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน ใบหน้าสวยถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากอนามัยราวกับกลัวว่าใครจะจำหน้าได้เธอทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนสนิทที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ“ของขวัญ”เพลินตา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของขวัญ เอ่ยเรียกอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า แต่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสาวสุดโก๊ะของเธอที่ชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่บ่อย ๆ“เป็นอะไรทำไมต้องใส่แมส แล้วนี่ไม่ร้อนเหรอใส่เสื้อกันหนาวซะมิดชิดเชียว”เพลินตาเอ่ยถามเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทางของเธอ“ไม่สบายนิดหน่อย กลัวเพื่อนจะติดไข้” ลดหน้ากากอนามัยลงก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เพื่อนแล้วตอบเสียงเบา“เออ! แล้วเป็นยังไงบ้าง จ๊อบวันเสาร์เรียบร้อยไหม”เพลินตาเอ่ยถามถึงงานพิเศษที่เพื่อนสาวรับจ๊อบเอาไว้เมื่อวันเสาร์ มีคนจ้างให้เธอไปเสิร์ฟอาหารในงานวันเกิดของคุณยายวัยเกษียณ แต่ทว่าพอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว กลับเจอเข้ากับแก๊งขององศา คู่อริเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอคิดขึ้นมาแล้ว
ทิศเหนือตื่นขึ้นมาในช่วงบ่าย ร่างแกร่งขยับตัวอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยอาการสะลึมสะลือ แขนยาวเอื้อมไปอีกฝั่งของเตียงนอนเพื่อกอดคนข้าง ๆ เขาพยายามควานไปจนทั่วแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าเขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ผงกศีรษะขึ้นมองด้านข้างเพื่อเช็กดูให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ ห้อง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าหญิงสาวที่เขามีอะไรด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเขาชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที เขาไม่เคยถูกผู้หญิงชิ่งหนีหลังจากที่มีอะไรกันมาก่อน แถมตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร แม้จะรู้สึกว่าคุ้นหน้าเธออยู่บ้างก็เถอะร่างสูงลุกออกจากเตียงนอน สายตาทอดมองไปที่คราบเปื้อนบนผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ราวกับสนามรบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงเที่ยวกลางคืนอย่างเด็กนั่นจะยังบริสุทธิ์อยู่เขาแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงบทรักอันเร่าร้อนระหว่างเขาและเธอเมื่อคืน หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวที่หน้าตู้เสื้อผ้าเขาเลือกสวมเสื้อยืดกางเกงยีนขายาวตามสไตล์หนุ่มมาดเซอร์ ก่อนจะค้นหาเสื้อแจ็กเกตหนังตัวโปรดเพื่อมาสวมทับอีกที แต่ทว่าเขาค้นหาจนทั่วตู้เสื้อผ้าก็ยังไม่เจอ จำได้ว่าครั้งล่
ทิศเหนือก้มหน้าลงที่สองเนินอวบนูน ก่อนจะแลบลิ้นเลียวนเวียนอยู่บนเม็ดยอดทับทิมสีหวานที่ตั้งชูชันราวกับยั่วยวนเขา สองมือหนาบีบเคล้นทั้งสองเต้าป้อนเข้าปากแล้วดูดดึงสลับไปมาทั้งสองข้างเพื่อช่วยโลมเล้าอารมณ์ของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซ้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มพร้อมกับขบเม้ม จนเรือนร่างขาวนวลเกิดรอยจ้ำสีแดงตามจุดที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่าน“อ๊า~”หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ทิศเหนือจึงอาศัยจังหวะที่เธอส่งเสียงคราง ดันแท่งเนื้อลำใหญ่เข้าไปทีเดียวจนมิดลำ ทำเอาเธอจุกหน่วงไปจนทั่วท้องน้อยชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสร้องโอดครวญ ปากหนารีบประกบจูบแล้วดูดดึงลิ้นเล็กทันทีสองมือทำหน้าที่บีบขยำสองเต้าไม่หยุดมือ ริมฝีปากก็ทำหน้าที่บดจูบอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไม่หยุดปาก ส่วนเอวแกร่งก็ทำหน้าที่กระแทกกระทั้นส่งลำเอ็นเข้าออกร่องเธออย่างไม่หยุดเช่นกัน“อา~เสียวฉิบหาย”เสียงครางอย่างหยาบโลนดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เขารู้สึกสยิวไปทั้งตัวเพราะร่องของหญิงสาวตอดรัดแท่งเอ็นจนเขาแทบทนไม่ไหวและคงเสร็จในไม่ช้าร่างสูงสอบเอวเข้าออกอย่างรัวเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าน้ำรักกำลังจะพุ่งทะยานออกมาเขากระแทกแรง ๆ อย่างลื
พูดจาดิบเถื่อนใส่เธอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เอวสอบก็ทำหน้าที่ขยับไม่หยุดส่วนคนใต้ร่างแทบจะหยุดหายใจเพียงแค่ได้ฟังคำพูดลามกของเขา เธอต้องเบือนหน้าแดงระเรื่อหนีไปอีกทางเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายที่มองมา“หึ~”เขาจับมือเธอออกจากแท่งเอ็นของตัวเอง ก่อนจะโน้มตัวเธอลงนอนแล้วขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงบดจูบริมฝีปากของหญิงสาวอย่างดุเดือดเร่าร้อน ลิ้นเรียวถูกสอดแทรกเข้าไปด้านในทั้งดูดทั้งเลียไปจนทั่วโพรงปาก มือสองข้างก็ทำหน้าที่เล้าโลมไปจนทั่วร่างบางตั้งแต่เต้าอวบเลื่อนไปจนถึงสะโพกมนสวย แล้วบีบขยำเล่นอย่างสนุกมือเขาใช้ประสบการณ์ที่ช่ำชองโลมเล้าร่างสวยอย่างชำนาญ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะปาดผ่านร่องกลีบที่ปิดสนิทเพื่อสะกิดจุดอ่อนไหวของหญิงสาว“อ๊ะ~”มีเสียงครางเล็ดลอดออกมาเบา ๆ จากลำคอระหง เธอพยายามดิ้นหนีจากการรุกล้ำที่เกินเลยของเขา แต่ทว่าแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้าน สัมผัสของเขาทำเธอวาบหวามอ่อนระทวยไปทั้งตัว“หึ หึ”คนตัวสูงดูจะถูกใจกับเสียงครางเบา ๆ ไม่น้อย เมื่อรู้จุดอ่อนไหวของเธอเขาล็อกเป้าหมายแล้วมุ่งโจมตีทันทีเขาหยัดตัวคุกเข่า มือหนาเอื้อมไปลูบวนตรงหว่างขาเรียวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะใช
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้านสองชั้น ที่ด้านในตกแต่งไว้ด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราโอ่อ่าราวกับบ้านในละครหลังข่าวที่เธอเคยดูตอนเด็ก แม้จะพอรู้มาบ้างว่าครอบครัวของเขาคือตระกูลนักธุรกิจชื่อเสียงโด่งดังที่คนในประเทศต่างก็นับหน้าถือตา แต่พอได้มาเห็นของจริงก็อดตกตะลึงไม่ได้ เธอไม่คิดว่าเขาจะรวยขนาดนี้ของขวัญเดินตามทิศเหนือเข้ามาด้านในอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางห้องขนาดใหญ่ที่จัดตกแต่งเอาไว้คล้ายกับห้องรับแขกส่วนเจ้าของบ้าน เขาเดินเข้าไปหยิบไวน์ในตู้เย็นออกมาเทใส่แก้วแล้วยกดื่มอย่างใจเย็น ก่อนจะเทอีกแก้วแล้วยื่นมันให้เธอ“ดื่มสิ”“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ”“หึ เล่นบทใสซื่อสินะ”เขาแค่นหัวเราะแล้วกล่าวดูถูก ก่อนจะเดินเข้าใกล้แล้วจ่อแก้วไว้ที่ริมฝีปากของหญิงสาว“หรืออยากดื่มจากปากของฉัน”หญิงสาวรับแก้วจากมือของเขาแล้วรีบยกดื่มเธอทำหน้าเหยเกกับรสชาติของไวน์ที่เพิ่งดื่มเข้าไป มันทั้งขมและเฝื่อนจนอยากจะบ้วนทิ้ง แต่ต้องจำใจกลืนมันลงคอเพราะคนตรงหน้าจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อไม่รู้ว่าพวกคนรวยกินเข้าไปได้ยังไง รสชาติแสนห่วยแถมยังราคาแพงอีกต่างหากในระหว่างที่เธอให้ความสนใจกับไว