LOGINทิศเหนือตื่นขึ้นมาในช่วงบ่าย ร่างแกร่งขยับตัวอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยอาการสะลึมสะลือ แขนยาวเอื้อมไปอีกฝั่งของเตียงนอนเพื่อกอดคนข้าง ๆ เขาพยายามควานไปจนทั่วแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า
เขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ผงกศีรษะขึ้นมองด้านข้างเพื่อเช็กดูให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ ห้อง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าหญิงสาวที่เขามีอะไรด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเขา
ชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที เขาไม่เคยถูกผู้หญิงชิ่งหนีหลังจากที่มีอะไรกันมาก่อน แถมตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร แม้จะรู้สึกว่าคุ้นหน้าเธออยู่บ้างก็เถอะ
ร่างสูงลุกออกจากเตียงนอน สายตาทอดมองไปที่คราบเปื้อนบนผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ราวกับสนามรบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงเที่ยวกลางคืนอย่างเด็กนั่นจะยังบริสุทธิ์อยู่
เขาแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงบทรักอันเร่าร้อนระหว่างเขาและเธอเมื่อคืน หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวที่หน้าตู้เสื้อผ้า
เขาเลือกสวมเสื้อยืดกางเกงยีนขายาวตามสไตล์หนุ่มมาดเซอร์ ก่อนจะค้นหาเสื้อแจ็กเกตหนังตัวโปรดเพื่อมาสวมทับอีกที แต่ทว่าเขาค้นหาจนทั่วตู้เสื้อผ้าก็ยังไม่เจอ จำได้ว่าครั้งล่าสุดแขวนไว้ใกล้ ๆ กับเสื้อเชิ้ตสีขาว
เมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง จึงหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูกล้องวงจรปิดภายในบ้าน หญิงสาวคนนั้นแอบขโมยเสื้อแจ็กเกตหนังตัวโปรดของเขาแล้วเดินออกจากบ้านไปตั้งแต่ตอนเช้า
“ยัยตัวแสบ”
สายตาคมจ้องมองคนในหน้าจอมือถืออย่างไม่ลดละ คิ้วหนาขมวดขึ้นพร้อมทั้งเปล่งเสียงเรียกเธอราวกับคาดโทษ
ทางด้านของขวัญ หลังจากกลับมาถึงหอพัก เธอรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำการสำรวจร่างกายของตัวเองเริ่มตั้งแต่ลำคอจนถึงกลางตัว
รอยจ้ำสีแดงปรากฏขึ้นไปทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะลำคอและบนเต้าอวบทั้งสองข้าง
เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วกดแน่น คิ้วเรียวสวยขมวดเครียดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน
“ไม่น่าเลยของขวัญ”
หญิงสาวกุมขมับคิดหนัก
ช่วงเย็น
ทิศเหนือขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ออกจากบ้านด้วยความเร็ว รถบิ๊กไบค์ราคาเป็นล้านจอดอยู่ที่หน้าผับหรูในเวลาห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่พนักงานทยอยเข้ามาในร้านเพื่อเตรียมตัวทำงาน
ร่างสูงเดินเข้าไปด้านในด้วยท่าทางฉุนเฉียว ก่อนจะเอ่ยเรียกผู้จัดการของร้านเสียงดังลั่น
“ผู้จัดการมึงอยู่ไหน”
“ใจเย็น ๆ ครับคุณทิศเหนือ ค่อย ๆ พูดกันดีกว่าครับ”
การ์ดร่างใหญ่พยายามเข้าห้ามคนที่เอะอะโวยวาย แต่คนใจร้อนกลับดันทุรังจะเรียกอีกคนออกมาให้ได้
เสียงเอะอะโวยวายดังไปจนทั่วทั้งบริเวณผับหรู คนที่อยู่ด้านบนของผับถึงกับต้องชะโงกหน้าออกมาดู
“อะไรของมึงวะไอ้เหนือ”
อรัณย์ เพื่อนสนิทของทิศเหนือตะโกนลงมาจากชั้นสองของผับ ก่อนจะลงบันไดแล้วเดินเข้ามาหาเขา
“ไอ้รัณย์ มึงไปเรียกผู้จัดการมึงออกมาดิ เมื่อคืนมันวางยากู”
ทิศเหนือพูดเสียงดังใส่หน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของผับ
“ใจเย็น ๆ ก่อนไอ้เหนือ มึงเอาอะไรมามั่นใจว่าพี่แพมมี่วางยามึง”
“กูบอกให้มึงไปเรียกมันมา”
นัยน์ตาคมฉายแวววาวโรจน์ เขาขบกรามแน่นแล้วใช้น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยสั่งเพื่อนสนิท
อรัณย์มองหน้าเพื่อนอย่างยำเกรง ก่อนจะกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟคนหนึ่งเข้ามาหาแล้วสั่งให้ไปเรียกหญิงสาวที่เพื่อนต้องการพบออกมา
หลังจากนั้นเขาก็ชวนทิศเหนือขึ้นไปพูดคุยอยู่บนห้องทำงานของเขาที่ชั้นสอง เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวาย ทั้งหมดก็คนกันเองทั้งนั้นน่าจะพอพูดคุยกันได้
ร่างอรชรเดินเข้ามาในห้องทำงานของอรัณย์ ใบหน้าสุดเซ็กซี่ที่ผ่านการศัลยกรรมจนเข้าที่แสร้งทำหน้าซื่อตาใสราวกับยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“รัณย์เรียกพี่มามีอะไรเร่งด่วนรึเปล่า”
หญิงสาวนั่งไขว่ห้างบนโซฟาตัวยาวฝั่งตรงข้าม แล้วเอ่ยถามคนที่มีศักดิ์เป็นญาติห่าง ๆ พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้านายของเธอ
“ไอ้เหนือมันบอกว่าพี่วางยามัน”
อรัณย์เอ่ยบอก
ทิศเหนือมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มทน
หญิงสาวหันมาสบตากับเขาเพียงชั่วครู่ ก่อนที่เธอจะแสร้งตีหน้าเศร้าแล้วพูด
“บ้าเหรอ พี่จะไปทำอย่างนั้นกับเพื่อนรัณย์ได้ไง”
หญิงสาวลุกยืนแล้วรีบเอ่ยปฏิเสธ ใบหน้าสวยแกล้งทำเป็นไขสือแล้วหันมองหน้าสองหนุ่มสลับไปสลับมาอย่างขอความเห็นใจ
อรัณย์หันมาเพ่งเพื่อนชายที่ยืนกอดอกพิงอยู่กับขอบหน้าต่างแล้วเอ่ยกับเขา
“ว่าไงวะไอ้เหนือ มึงมีหลักฐานไหม”
ทิศเหนือย่นคิ้วเข้าหากัน แล้วจ้องคนที่ตอบปฏิเสธด้วยตาแข็งกร้าว
เขาจำได้แม่นว่าเมื่อคืนเธอเป็นคนชงเหล้าแก้วนั้นให้เขาดื่ม พอดื่มไปได้ไม่นานก็มีอาการร้อนรุ่มไปจนทั่วร่าง เมื่อรู้ตัวว่าโดนวางยาเขาก็พยายามจะพาตัวเองออกจากผับให้ไวที่สุด
แต่ทว่ากลับถูกเธอดึงแขนเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง เธอเล้าโลมเขาจนไฟราคะลุกโชนไปทั้งตัว ก่อนจะขึ้นคร่อมตัวเขาหวังจะทำเรื่องอย่างว่า ดีที่เขาพยายามตั้งสติและผลักตัวเธอออก ไม่อย่างนั้นระหว่างเขาและเธอคงมีอะไรเกินเลย
ทิศเหนือรู้ว่าดีว่าแพมมี่ชอบเขามาแต่ไหนแต่ไร เธอเคยสารภาพกับเขาเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก็ไม่ได้สนใจและไม่คิดจะเล่นด้วย เขาไม่นิยมมีอะไรกับคนรู้จักเพราะมันจะทำให้มีปัญหาภายหลัง ในตอนนั้นก็ปฏิเสธเธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังตื๊อไม่เลิก
ชายหนุ่มจ้องเขม็งมองเธอด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัว ฟันกรามขบกันแน่นจนมีเสียงเล็ดลอดออกมาจากช่องไรฟัน เขาขยับเท้าเข้าหาตัวเธอช้าๆ ใช้สายตาแข็งกร้าวกดดันให้เธอยอมรับ
สองเท้าของแพมมี่เริ่มถอยหนี ที่ผ่านมาเห็นทิศเหนือเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ไม่คิดว่าเวลาโกรธจัดเขาจะดูน่ากลัวถึงเพียงนี้
ทิศเหนือเดินเข้าประชิดตัวเธอ ใช้สายตาวาวโรจน์กดดันหญิงสาวให้เดินถอยออกไปเรื่อยๆ จนแผ่นหลังบางชิดกับฝาผนังห้องอย่างจนมุม
ทิศเหนือยืนประกบด้านหน้า มือหนากำแน่นแล้วง้างขึ้นตั้งท่าจะชกเข้าที่ใบหน้าสวย
แพมมี่หลับตาปี๋แล้วกรีดร้องเสียงดังลั่น มือเรียวยกขึ้นมาพนมไหว้แล้วรีบกล่าวขอโทษขอโพย
“พี่ขอโทษ”
หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นเนื้อตัวสั่นเทา
ทิศเหนือไม่ได้ชกเข้าที่ใบหน้าอย่างที่เธอคิด แต่เลยไปชกฝาผนังด้านหลังแทน
อรัณย์นั่งอึ้งตาค้าง ก็พอจะรู้จักนิสัยเพื่อนตัวเองอยู่บ้างว่าเป็นคนใจร้อนและไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ก็ไม่คิดว่ากับผู้หญิงเขาก็ไม่เว้นเหมือนกัน
แพมมี่ยืนพร่ำพรรนาร้องไห้ไม่หยุด เธอต้องยอมสารภาพออกไปตามตรงว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะหลงรักทิศเหนือและรู้สึกอยากครอบครองในตัวเขาจึงวางแผนทำอะไรสิ้นคิด
ทิศเหนือนั่งนิ่งฟังคนพูดแก้ตัว แม้จะหายโกรธไปแล้วแต่เขาก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
หลังจากแพมมี่ออกไปจากห้อง ทิศเหนือก็เดินออกไปนอกระเบียงของผับหรู จุดบุหรี่แล้วยืนสูบอย่างใจเย็น
อรัณย์เดินเข้ามาด้านหลังเพื่อนแล้วตบไหล่เขา ก่อนจะพูดขึ้น
“กูขอโทษแทนพี่แพมมี่ด้วยนะเว้ย”
“มึงจะทำยังไงก็ได้ แต่กูต้องไม่เห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ที่นี่อีก”
เอ่ยสั่งเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงทรงพลัง
“แต่พี่แพมมี่เป็นญาติกูนะเว้ย มึงจะให้กูไล่เธอออกเหรอวะ”
“มึงก็คิดเอาเองละกันว่าต้องทำยังไง”
เขาทิ้งบุหรี่ที่เหลืออยู่เกือบครึ่งมวนลงพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบจนบี้แบน ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้น
อรัณย์มองตามแผ่นหลังของเพื่อนสนิทจนลับตา เขารู้สึกลำบากใจสุด ๆ แต่จะให้ขัดใจทิศเหนือก็ทำไม่ได้เพราะเขาคือเจ้าของเงินทุนของผับนี้ อรัณย์กุมขมับอย่างคิดหนัก
ทิศเหนือมองตามร่างเล็กที่เดินสะบัดก้นออกไป มุมปากยกยิ้มอย่างพอใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของหญิงสาวเขายกมือถือขึ้นมาดูเบอร์ที่เพิ่งกดโทรออก ตั้งใจจะบันทึกเอาไว้แต่ก็ลืมไปว่ายังไม่รู้จักชื่อเธอริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขากดพิมพ์คำว่า ‘ยัยหัวขโมย’ ใช้แทนชื่อของเธอแล้วกดบันทึกเอาไว้ช่วงเย็นของขวัญเดินลงจากตึกเรียนในช่วงเวลาใกล้ค่ำเพียงลำพัง เนื่องจากต้องอยู่วาดงานสีน้ำส่งอาจารย์ในท้ายคาบแต่เพราะฝีมือของเธอยังอ่อนหัดจึงทำเสร็จช้ากว่าเพื่อน ๆ ทำให้ต้องอยู่เลยเวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อเดินมาถึงทางเดินหน้าตึกเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูทันทีหญิงสาวกดเข้าแอปพลิเคชันไลน์ที่เพิ่งมีคนเพิ่มเพื่อนเข้ามา เพื่อนใหม่ของเธอตั้งโปรไฟล์เป็นรูปเข็มทิศที่ปลายเข็มชี้ไปยังตัว N ดูก็รู้ว่าเป็นใครนิ้วเล็กกดเข้าไปเปิดอ่านข้อความที่เพื่อนใหม่ส่งมาให้ทิศเหนือ : อยู่ไหนทิศเหนือ : รอนานแล้วนะทิศเหนือ : ฉันชักจะหมดความอดทนแล้วนะ ถ้าภายในสิบนาทียังไม่ตอบ เธอได้เห็นดีแน่ยัยหัวขโมยนั่นคือข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมาหาเธอเมื่อแปดนาทีที่แล้วใช้สายตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะพิม
วันต่อมาของขวัญเดินทอดน่องเข้าไปในพื้นที่ของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างเร่งรีบ ชุดนักศึกษาถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อกันหนาวคอเต่าอีกชั้นเพื่อปิดบังรอยจ้ำทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน ใบหน้าสวยถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากอนามัยราวกับกลัวว่าใครจะจำหน้าได้เธอทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนสนิทที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ“ของขวัญ”เพลินตา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของขวัญ เอ่ยเรียกอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า แต่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสาวสุดโก๊ะของเธอที่ชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่บ่อย ๆ“เป็นอะไรทำไมต้องใส่แมส แล้วนี่ไม่ร้อนเหรอใส่เสื้อกันหนาวซะมิดชิดเชียว”เพลินตาเอ่ยถามเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทางของเธอ“ไม่สบายนิดหน่อย กลัวเพื่อนจะติดไข้” ลดหน้ากากอนามัยลงก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เพื่อนแล้วตอบเสียงเบา“เออ! แล้วเป็นยังไงบ้าง จ๊อบวันเสาร์เรียบร้อยไหม”เพลินตาเอ่ยถามถึงงานพิเศษที่เพื่อนสาวรับจ๊อบเอาไว้เมื่อวันเสาร์ มีคนจ้างให้เธอไปเสิร์ฟอาหารในงานวันเกิดของคุณยายวัยเกษียณ แต่ทว่าพอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว กลับเจอเข้ากับแก๊งขององศา คู่อริเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอคิดขึ้นมาแล้ว
ทิศเหนือตื่นขึ้นมาในช่วงบ่าย ร่างแกร่งขยับตัวอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยอาการสะลึมสะลือ แขนยาวเอื้อมไปอีกฝั่งของเตียงนอนเพื่อกอดคนข้าง ๆ เขาพยายามควานไปจนทั่วแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าเขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ผงกศีรษะขึ้นมองด้านข้างเพื่อเช็กดูให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ ห้อง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าหญิงสาวที่เขามีอะไรด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเขาชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที เขาไม่เคยถูกผู้หญิงชิ่งหนีหลังจากที่มีอะไรกันมาก่อน แถมตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร แม้จะรู้สึกว่าคุ้นหน้าเธออยู่บ้างก็เถอะร่างสูงลุกออกจากเตียงนอน สายตาทอดมองไปที่คราบเปื้อนบนผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ราวกับสนามรบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงเที่ยวกลางคืนอย่างเด็กนั่นจะยังบริสุทธิ์อยู่เขาแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงบทรักอันเร่าร้อนระหว่างเขาและเธอเมื่อคืน หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวที่หน้าตู้เสื้อผ้าเขาเลือกสวมเสื้อยืดกางเกงยีนขายาวตามสไตล์หนุ่มมาดเซอร์ ก่อนจะค้นหาเสื้อแจ็กเกตหนังตัวโปรดเพื่อมาสวมทับอีกที แต่ทว่าเขาค้นหาจนทั่วตู้เสื้อผ้าก็ยังไม่เจอ จำได้ว่าครั้งล่
ทิศเหนือก้มหน้าลงที่สองเนินอวบนูน ก่อนจะแลบลิ้นเลียวนเวียนอยู่บนเม็ดยอดทับทิมสีหวานที่ตั้งชูชันราวกับยั่วยวนเขา สองมือหนาบีบเคล้นทั้งสองเต้าป้อนเข้าปากแล้วดูดดึงสลับไปมาทั้งสองข้างเพื่อช่วยโลมเล้าอารมณ์ของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซ้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มพร้อมกับขบเม้ม จนเรือนร่างขาวนวลเกิดรอยจ้ำสีแดงตามจุดที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่าน“อ๊า~”หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ทิศเหนือจึงอาศัยจังหวะที่เธอส่งเสียงคราง ดันแท่งเนื้อลำใหญ่เข้าไปทีเดียวจนมิดลำ ทำเอาเธอจุกหน่วงไปจนทั่วท้องน้อยชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสร้องโอดครวญ ปากหนารีบประกบจูบแล้วดูดดึงลิ้นเล็กทันทีสองมือทำหน้าที่บีบขยำสองเต้าไม่หยุดมือ ริมฝีปากก็ทำหน้าที่บดจูบอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไม่หยุดปาก ส่วนเอวแกร่งก็ทำหน้าที่กระแทกกระทั้นส่งลำเอ็นเข้าออกร่องเธออย่างไม่หยุดเช่นกัน“อา~เสียวฉิบหาย”เสียงครางอย่างหยาบโลนดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เขารู้สึกสยิวไปทั้งตัวเพราะร่องของหญิงสาวตอดรัดแท่งเอ็นจนเขาแทบทนไม่ไหวและคงเสร็จในไม่ช้าร่างสูงสอบเอวเข้าออกอย่างรัวเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าน้ำรักกำลังจะพุ่งทะยานออกมาเขากระแทกแรง ๆ อย่างลื
พูดจาดิบเถื่อนใส่เธอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เอวสอบก็ทำหน้าที่ขยับไม่หยุดส่วนคนใต้ร่างแทบจะหยุดหายใจเพียงแค่ได้ฟังคำพูดลามกของเขา เธอต้องเบือนหน้าแดงระเรื่อหนีไปอีกทางเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายที่มองมา“หึ~”เขาจับมือเธอออกจากแท่งเอ็นของตัวเอง ก่อนจะโน้มตัวเธอลงนอนแล้วขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงบดจูบริมฝีปากของหญิงสาวอย่างดุเดือดเร่าร้อน ลิ้นเรียวถูกสอดแทรกเข้าไปด้านในทั้งดูดทั้งเลียไปจนทั่วโพรงปาก มือสองข้างก็ทำหน้าที่เล้าโลมไปจนทั่วร่างบางตั้งแต่เต้าอวบเลื่อนไปจนถึงสะโพกมนสวย แล้วบีบขยำเล่นอย่างสนุกมือเขาใช้ประสบการณ์ที่ช่ำชองโลมเล้าร่างสวยอย่างชำนาญ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะปาดผ่านร่องกลีบที่ปิดสนิทเพื่อสะกิดจุดอ่อนไหวของหญิงสาว“อ๊ะ~”มีเสียงครางเล็ดลอดออกมาเบา ๆ จากลำคอระหง เธอพยายามดิ้นหนีจากการรุกล้ำที่เกินเลยของเขา แต่ทว่าแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้าน สัมผัสของเขาทำเธอวาบหวามอ่อนระทวยไปทั้งตัว“หึ หึ”คนตัวสูงดูจะถูกใจกับเสียงครางเบา ๆ ไม่น้อย เมื่อรู้จุดอ่อนไหวของเธอเขาล็อกเป้าหมายแล้วมุ่งโจมตีทันทีเขาหยัดตัวคุกเข่า มือหนาเอื้อมไปลูบวนตรงหว่างขาเรียวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะใช
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้านสองชั้น ที่ด้านในตกแต่งไว้ด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราโอ่อ่าราวกับบ้านในละครหลังข่าวที่เธอเคยดูตอนเด็ก แม้จะพอรู้มาบ้างว่าครอบครัวของเขาคือตระกูลนักธุรกิจชื่อเสียงโด่งดังที่คนในประเทศต่างก็นับหน้าถือตา แต่พอได้มาเห็นของจริงก็อดตกตะลึงไม่ได้ เธอไม่คิดว่าเขาจะรวยขนาดนี้ของขวัญเดินตามทิศเหนือเข้ามาด้านในอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางห้องขนาดใหญ่ที่จัดตกแต่งเอาไว้คล้ายกับห้องรับแขกส่วนเจ้าของบ้าน เขาเดินเข้าไปหยิบไวน์ในตู้เย็นออกมาเทใส่แก้วแล้วยกดื่มอย่างใจเย็น ก่อนจะเทอีกแก้วแล้วยื่นมันให้เธอ“ดื่มสิ”“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ”“หึ เล่นบทใสซื่อสินะ”เขาแค่นหัวเราะแล้วกล่าวดูถูก ก่อนจะเดินเข้าใกล้แล้วจ่อแก้วไว้ที่ริมฝีปากของหญิงสาว“หรืออยากดื่มจากปากของฉัน”หญิงสาวรับแก้วจากมือของเขาแล้วรีบยกดื่มเธอทำหน้าเหยเกกับรสชาติของไวน์ที่เพิ่งดื่มเข้าไป มันทั้งขมและเฝื่อนจนอยากจะบ้วนทิ้ง แต่ต้องจำใจกลืนมันลงคอเพราะคนตรงหน้าจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อไม่รู้ว่าพวกคนรวยกินเข้าไปได้ยังไง รสชาติแสนห่วยแถมยังราคาแพงอีกต่างหากในระหว่างที่เธอให้ความสนใจกับไว







