ในคืนที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ความโชคร้ายนำพาเขาและเธอให้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้ เขากลับไม่ใช่พี่ทิศเหนือคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก
View Moreครื้น! เปรี้ยง!
ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาราว ๆ ห้าทุ่มของค่ำคืน ร่างแบบบางของหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนด้วยความเร่งรีบราวกับถูกฟ้าผ่าไล่ล่า ในซอยที่เงียบสงัดทั้งที่เป็นเส้นทางในเขตเมืองหลวง
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอมีเพียงเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ ตัวเดียวที่ปกคลุมร่างกายเอาไว้ สองเท้าเปลือยเปล่าทำหน้าที่วิ่งอย่างสุดชีวิตเท่าที่จะทำได้ แทบจะสะดุดทุกย่างก้าวราวกับกำลังหนีจากอะไรบางอย่าง ความหวาดกลัวบีบรัดทุกลมหายใจของเธอ
“เจอไหมวะ”
เสียงผู้ชายตะโกนถามกัน ดังตามมาจากทางด้านหลัง ก่อนที่ร่างกำยำของชายหนุ่มสามคนจะวิ่งมาจากทางเดียวกันกับทางที่หญิงสาววิ่งมาด้วยท่าทางรีบร้อน
“ตัวเล็กนิดเดียววิ่งเร็วจังวะ”
ชายหนุ่มคนหนึ่งบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เขายืนหยุดนิ่งตรงจุดที่หญิงสาวเพิ่งวิ่งผ่านไปแล้วหันมองซ้ายมองขวา ไฟฉายจากมือถือส่องไปจนทั่วทั้งบริเวณป่าหญ้าสองข้างทางเผื่อว่าเธอจะเข้าไปซ่อนตัว แต่ก็ไม่พบ
“โธ่เว้ย! เพราะมึงคนเดียวเลย เฝ้ายังไงวะปล่อยให้ยัยนั่นหนีไปได้”
องศา หงุดหงิดใส่เพื่อนที่ยืนอยู่ด้านข้าง แค่ให้เฝ้าผู้หญิงคนเดียวในระหว่างที่พวกเขากำลังทำธุระอยู่อีกห้องหนึ่ง แค่นี้เพื่อนของเขายังทำไม่ได้
“มึงอย่ามาโทษกู กูบอกให้วางยา ยัยนั่นจะได้สิ้นฤทธิ์แต่มึงเสือกไม่ทำเอง ไม่งั้นป่านนี้พวกเราได้ขึ้นสวรรค์ถึงชั้นไหนต่อชั้นไหนแล้ว ไม่ต้องมาวิ่งไล่ตามหาอยู่อย่างนี้หรอก” ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“ใช่ เป็นเพราะมึงคนเดียวเลยไอ้องศาที่เสือกใจอ่อน มึงไม่อยากวางยาเพราะกลัวยัยนั่นจะหลับไม่ตื่นเหมือนคนที่แล้วรึไง ทำไมวะ จู่ ๆ ก็เสือกเป็นห่วงยัยนั่นขึ้นมาเพราะรู้สึกชอบมันเหรอ”
ชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้น องศาไม่ยอมวางยาผู้หญิงคนนั้นแถมยังดูเป็นห่วงเธอมากกว่าคนผ่าน ๆ มา
“กูไม่ได้ชอบเว้ย ที่กูไม่อยากให้ยัยนั่นหลับเพราะมันไม่เร้าใจต่างหาก กูชอบได้ยินเสียงครางมากกว่า ไม่ใช่นอนนิ่ง ๆ เหมือนคนตาย” องศาพูด
“แล้วทีนี้จะเอายังไงวะ เสพไปเยอะด้วย ตอนนี้กูอยากหาที่ลงเต็มทีแล้ว” ผู้ชายคนแรกพูดขึ้นมา
“ฝนแม่งก็เสือกตกหนักด้วย จะไปหาผู้หญิงมาแทนก็คงไม่ทันหรอก กูว่าวันนี้คงต้องใช้บริการ_หรี่แก้ขัดไปก่อนอะ” ผู้ชายอีกคนเสนอขึ้น
“คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ ไปเว้ย”
เมื่อตามหาหญิงสาวไม่เจอทั้งสามคนก็พากันเดินกลับเข้าไปยังบ้านเช่าหลังใหญ่ที่อยู่ท้ายซอย
องศาหันกลับมามองถนนที่หญิงสาววิ่งหายเข้าไปอีกครั้ง ขมวดคิ้วแน่นมองดูรอบ ๆ เพื่อความแน่ใจ หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่เขากับเพื่อนเช่าเอาไว้เพื่อมั่วสุม
อีกด้าน
หญิงสาวชะโงกหน้าขึ้นมาจากเบาะหลังของรถหรูคันหนึ่งที่จอดอยู่ริมทาง ดวงตาคู่สวยมองตามหลังชายหนุ่มสามคนที่กำลังเดินกลับไปแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดพึมพำเบา ๆ
“รอดแล้วของขวัญ”
เธอใช้มือปัดตามเนื้อตัวแล้วกางมือขึ้นสางผมที่เปียกชุ่มพร้อมทั้งสลัดน้ำฝนออกจากผม ก่อนที่ใบหน้าสวยจะหันมาทางด้านหน้าของตัวรถ เธอถึงกับต้องหยุดชะงัก ดวงตากลมโตลุกวาว ปากเล็กอ้าค้างด้วยความตกใจสุดขีด
“เธอเป็นใคร ขึ้นมาบนรถของฉันได้ยังไง ลงไป”
'พี่ทิศเหนือ'
หญิงสาวตกใจจนหน้าเหวอพร้อมทั้งเอ่ยชื่อเขาในใจ
ทิศเหนือมองตามร่างเล็กที่เดินสะบัดก้นออกไป มุมปากยกยิ้มอย่างพอใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของหญิงสาวเขายกมือถือขึ้นมาดูเบอร์ที่เพิ่งกดโทรออก ตั้งใจจะบันทึกเอาไว้แต่ก็ลืมไปว่ายังไม่รู้จักชื่อเธอริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขากดพิมพ์คำว่า ‘ยัยหัวขโมย’ ใช้แทนชื่อของเธอแล้วกดบันทึกเอาไว้ช่วงเย็นของขวัญเดินลงจากตึกเรียนในช่วงเวลาใกล้ค่ำเพียงลำพัง เนื่องจากต้องอยู่วาดงานสีน้ำส่งอาจารย์ในท้ายคาบแต่เพราะฝีมือของเธอยังอ่อนหัดจึงทำเสร็จช้ากว่าเพื่อน ๆ ทำให้ต้องอยู่เลยเวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อเดินมาถึงทางเดินหน้าตึกเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูทันทีหญิงสาวกดเข้าแอปพลิเคชันไลน์ที่เพิ่งมีคนเพิ่มเพื่อนเข้ามา เพื่อนใหม่ของเธอตั้งโปรไฟล์เป็นรูปเข็มทิศที่ปลายเข็มชี้ไปยังตัว N ดูก็รู้ว่าเป็นใครนิ้วเล็กกดเข้าไปเปิดอ่านข้อความที่เพื่อนใหม่ส่งมาให้ทิศเหนือ : อยู่ไหนทิศเหนือ : รอนานแล้วนะทิศเหนือ : ฉันชักจะหมดความอดทนแล้วนะ ถ้าภายในสิบนาทียังไม่ตอบ เธอได้เห็นดีแน่ยัยหัวขโมยนั่นคือข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมาหาเธอเมื่อแปดนาทีที่แล้วใช้สายตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะพิม
วันต่อมาของขวัญเดินทอดน่องเข้าไปในพื้นที่ของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างเร่งรีบ ชุดนักศึกษาถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อกันหนาวคอเต่าอีกชั้นเพื่อปิดบังรอยจ้ำทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน ใบหน้าสวยถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากอนามัยราวกับกลัวว่าใครจะจำหน้าได้เธอทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนสนิทที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ“ของขวัญ”เพลินตา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของขวัญ เอ่ยเรียกอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า แต่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสาวสุดโก๊ะของเธอที่ชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่บ่อย ๆ“เป็นอะไรทำไมต้องใส่แมส แล้วนี่ไม่ร้อนเหรอใส่เสื้อกันหนาวซะมิดชิดเชียว”เพลินตาเอ่ยถามเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทางของเธอ“ไม่สบายนิดหน่อย กลัวเพื่อนจะติดไข้” ลดหน้ากากอนามัยลงก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เพื่อนแล้วตอบเสียงเบา“เออ! แล้วเป็นยังไงบ้าง จ๊อบวันเสาร์เรียบร้อยไหม”เพลินตาเอ่ยถามถึงงานพิเศษที่เพื่อนสาวรับจ๊อบเอาไว้เมื่อวันเสาร์ มีคนจ้างให้เธอไปเสิร์ฟอาหารในงานวันเกิดของคุณยายวัยเกษียณ แต่ทว่าพอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว กลับเจอเข้ากับแก๊งขององศา คู่อริเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอคิดขึ้นมาแล้ว
ทิศเหนือตื่นขึ้นมาในช่วงบ่าย ร่างแกร่งขยับตัวอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยอาการสะลึมสะลือ แขนยาวเอื้อมไปอีกฝั่งของเตียงนอนเพื่อกอดคนข้าง ๆ เขาพยายามควานไปจนทั่วแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าเขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ผงกศีรษะขึ้นมองด้านข้างเพื่อเช็กดูให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบ ๆ ห้อง ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าหญิงสาวที่เขามีอะไรด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเขาชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันที เขาไม่เคยถูกผู้หญิงชิ่งหนีหลังจากที่มีอะไรกันมาก่อน แถมตอนนี้ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร แม้จะรู้สึกว่าคุ้นหน้าเธออยู่บ้างก็เถอะร่างสูงลุกออกจากเตียงนอน สายตาทอดมองไปที่คราบเปื้อนบนผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ราวกับสนามรบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงเที่ยวกลางคืนอย่างเด็กนั่นจะยังบริสุทธิ์อยู่เขาแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงบทรักอันเร่าร้อนระหว่างเขาและเธอเมื่อคืน หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวที่หน้าตู้เสื้อผ้าเขาเลือกสวมเสื้อยืดกางเกงยีนขายาวตามสไตล์หนุ่มมาดเซอร์ ก่อนจะค้นหาเสื้อแจ็กเกตหนังตัวโปรดเพื่อมาสวมทับอีกที แต่ทว่าเขาค้นหาจนทั่วตู้เสื้อผ้าก็ยังไม่เจอ จำได้ว่าครั้งล่
ทิศเหนือก้มหน้าลงที่สองเนินอวบนูน ก่อนจะแลบลิ้นเลียวนเวียนอยู่บนเม็ดยอดทับทิมสีหวานที่ตั้งชูชันราวกับยั่วยวนเขา สองมือหนาบีบเคล้นทั้งสองเต้าป้อนเข้าปากแล้วดูดดึงสลับไปมาทั้งสองข้างเพื่อช่วยโลมเล้าอารมณ์ของเธอ ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซ้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มพร้อมกับขบเม้ม จนเรือนร่างขาวนวลเกิดรอยจ้ำสีแดงตามจุดที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่าน“อ๊า~”หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์อีกครั้ง ทิศเหนือจึงอาศัยจังหวะที่เธอส่งเสียงคราง ดันแท่งเนื้อลำใหญ่เข้าไปทีเดียวจนมิดลำ ทำเอาเธอจุกหน่วงไปจนทั่วท้องน้อยชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสร้องโอดครวญ ปากหนารีบประกบจูบแล้วดูดดึงลิ้นเล็กทันทีสองมือทำหน้าที่บีบขยำสองเต้าไม่หยุดมือ ริมฝีปากก็ทำหน้าที่บดจูบอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไม่หยุดปาก ส่วนเอวแกร่งก็ทำหน้าที่กระแทกกระทั้นส่งลำเอ็นเข้าออกร่องเธออย่างไม่หยุดเช่นกัน“อา~เสียวฉิบหาย”เสียงครางอย่างหยาบโลนดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอแกร่ง เขารู้สึกสยิวไปทั้งตัวเพราะร่องของหญิงสาวตอดรัดแท่งเอ็นจนเขาแทบทนไม่ไหวและคงเสร็จในไม่ช้าร่างสูงสอบเอวเข้าออกอย่างรัวเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าน้ำรักกำลังจะพุ่งทะยานออกมาเขากระแทกแรง ๆ อย่างลื
พูดจาดิบเถื่อนใส่เธอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เอวสอบก็ทำหน้าที่ขยับไม่หยุดส่วนคนใต้ร่างแทบจะหยุดหายใจเพียงแค่ได้ฟังคำพูดลามกของเขา เธอต้องเบือนหน้าแดงระเรื่อหนีไปอีกทางเพื่อหลบสายตาหื่นกระหายที่มองมา“หึ~”เขาจับมือเธอออกจากแท่งเอ็นของตัวเอง ก่อนจะโน้มตัวเธอลงนอนแล้วขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงบดจูบริมฝีปากของหญิงสาวอย่างดุเดือดเร่าร้อน ลิ้นเรียวถูกสอดแทรกเข้าไปด้านในทั้งดูดทั้งเลียไปจนทั่วโพรงปาก มือสองข้างก็ทำหน้าที่เล้าโลมไปจนทั่วร่างบางตั้งแต่เต้าอวบเลื่อนไปจนถึงสะโพกมนสวย แล้วบีบขยำเล่นอย่างสนุกมือเขาใช้ประสบการณ์ที่ช่ำชองโลมเล้าร่างสวยอย่างชำนาญ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะปาดผ่านร่องกลีบที่ปิดสนิทเพื่อสะกิดจุดอ่อนไหวของหญิงสาว“อ๊ะ~”มีเสียงครางเล็ดลอดออกมาเบา ๆ จากลำคอระหง เธอพยายามดิ้นหนีจากการรุกล้ำที่เกินเลยของเขา แต่ทว่าแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้าน สัมผัสของเขาทำเธอวาบหวามอ่อนระทวยไปทั้งตัว“หึ หึ”คนตัวสูงดูจะถูกใจกับเสียงครางเบา ๆ ไม่น้อย เมื่อรู้จุดอ่อนไหวของเธอเขาล็อกเป้าหมายแล้วมุ่งโจมตีทันทีเขาหยัดตัวคุกเข่า มือหนาเอื้อมไปลูบวนตรงหว่างขาเรียวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะใช
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มเข้าไปในบ้านสองชั้น ที่ด้านในตกแต่งไว้ด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราโอ่อ่าราวกับบ้านในละครหลังข่าวที่เธอเคยดูตอนเด็ก แม้จะพอรู้มาบ้างว่าครอบครัวของเขาคือตระกูลนักธุรกิจชื่อเสียงโด่งดังที่คนในประเทศต่างก็นับหน้าถือตา แต่พอได้มาเห็นของจริงก็อดตกตะลึงไม่ได้ เธอไม่คิดว่าเขาจะรวยขนาดนี้ของขวัญเดินตามทิศเหนือเข้ามาด้านในอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงกลางห้องขนาดใหญ่ที่จัดตกแต่งเอาไว้คล้ายกับห้องรับแขกส่วนเจ้าของบ้าน เขาเดินเข้าไปหยิบไวน์ในตู้เย็นออกมาเทใส่แก้วแล้วยกดื่มอย่างใจเย็น ก่อนจะเทอีกแก้วแล้วยื่นมันให้เธอ“ดื่มสิ”“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ”“หึ เล่นบทใสซื่อสินะ”เขาแค่นหัวเราะแล้วกล่าวดูถูก ก่อนจะเดินเข้าใกล้แล้วจ่อแก้วไว้ที่ริมฝีปากของหญิงสาว“หรืออยากดื่มจากปากของฉัน”หญิงสาวรับแก้วจากมือของเขาแล้วรีบยกดื่มเธอทำหน้าเหยเกกับรสชาติของไวน์ที่เพิ่งดื่มเข้าไป มันทั้งขมและเฝื่อนจนอยากจะบ้วนทิ้ง แต่ต้องจำใจกลืนมันลงคอเพราะคนตรงหน้าจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อไม่รู้ว่าพวกคนรวยกินเข้าไปได้ยังไง รสชาติแสนห่วยแถมยังราคาแพงอีกต่างหากในระหว่างที่เธอให้ความสนใจกับไว
Comments