ด้านมิริณหลังจากที่คุณแพทมาหาเรื่องฉันในวันนั้น นี้มันก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ได้แล้ว ที่แปลกไปคือพี่อรัณฝ่ายนั้นหลังจากที่เขามาส่งฉันที่คฤหาสน์ฉันก็ไม่เจอหน้าเขาอีกเลย เขาไม่โทรหรือไลน์มาหาฉัน แต่จะให้ฉันเป็นฝ่ายติดต่อไปเอง ฉันก็ไม่กล้าเพราะฉันรู้ดีว่าฉันอยู่ในฐานะอะไรฉันพยายามไปเจอเขาที่ชมรมแต่พี่อรัณก็ไม่เข้า นี้ผ่านมาหลายวันแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน แม้แต่ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่เขาเคยไปค้างคฤหาสน์ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคฤหาสน์เงียบสงบ ไร้เงาของคนที่ฉันอยากเจอตลอดหลายวันที่ผ่านมา ด้านขวัญข้าวและบีนา ฉันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของยัยมิริณนะ ตั้งแต่วันที่เพื่อนเข้าไปคุยกับยัยพี่แพทในวันนั้น หลังจากนั้นมามิริณไม่ร่าเริงและสดใสเอาเสียเลย ถามอะไรไปเพื่อนก็เอาแต่ตอบว่าไม่มีอะไร คนที่อยู่ด้วยกันแทบจะทุกวันย่อมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ขวัญข้าวได้แต่เสมองใบหน้าเพื่อนขณะที่ทั้งสามสาวนั่งรอเวลาเรียนที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำ"แกอีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเรียน เราไปดูงานนิทรรศการกันไหม" บีนาที่นั่งเล่นสมาร์ตโฟนเอ่ยขึ้นมากับทั้งสองสาว"ว่าไง ยัยมิริณแกไปป่าว" ยัยขวัญข้าวเอ่ยมาถามฉันขณะที่ฉันก็เอาแ
อรัณที่เห็นชายคนอื่นในไอจีมิริณ จากที่นั่งดื่มอยู่นั้นร่างสูงถึงกับยืนขึ้น ทั้งสามหนุ่มได้แต่มองหน้าเพื่อน"หึ...เมาขนาดนี้มึงอย่าบอกนะว่าจะขับรถ" เรียวตะเสมองใบหน้าของอรัณและเอ่ยถามเพื่อน"อืม" คนกลึ่งเมาตอบแค่นั้น จากนั้นก็เดินไปที่รถของตนทันที ทั้งสามหนุ่มที่เห็นท่าทีของเพื่อนต่างก็งงงวยไปตามๆกัน"นั้นมันจะไปไหนของมันวะ" ริวที่นั่งดื่มอยู่ถึงกับเอ่ยขึ้นมาถามเรียวตะและริกด้วยท่าทีสงสัยร่างสูงของอรัณทะยานรถสปอร์คันหรูกลับเข้ามาในคฤหาสน์ในเวลาไม่กี่นาที ภายในคฤหาสน์ที่เงียบสงบ เพราะนี้มันสามทุ่มกว่าแล้ว มีเพียงปิ่นที่เดินสำรวจความเรียบร้อยภายในบ้าน แต่สาวใช้กับต้องชะงักเมื่อคุณชายเล็กของบ้านนั้นกลับเข้ามาในรอบหลายวันด้วยท่าทีที่เดินเซเข้ามาภายในบ้าน"พี่ปิ่น เรียกมิริณให้ผมทีครับ"เมื่อมาถึงอรัณก็ถามถึงคนที่ตนอยากจะเจอทันที"เออ น้องมิริณไม่อยู่ค่ะ ไป ต่างจังหวัด""ต่างจังหวัด นี้ยังไม่กลับอีกเหรอ" อรัณถามปิ่นกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอันโกรธเคือง"น้องมิริณไม่ได้บอกค่ะ ว่าจะกลับวันไหน" อรัณได้ฟังเช่นนั้น ร่างสูงกับเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์และหยิบบรั่นดีขึ้นมาดื่ม หึ...! ดึกป่านนี้แล้วยั
"ทำอะไรกันอยู่คะ" แพทเดินเข้ามาพร้อมกับเสยิ้มและหันไปจ้องมองมิริณด้วยสีหน้าไม่พอใจ"ป่าว...ไม่มีอะไร" เป็นเสียงของอรัณที่ตอบแพท"คุณลุงให้แพทมาชวนอรัณไปดูชุดเพื่อจะใส่ในงานหนะ" แพทจงใจเดินเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างอรัณและมิริณ จนร่างบางกับต้องถอยหนี อรัณได้แต่เสมองใบหน้าของคนตัวเล็ก และนึกโทษที่แพทนั้นเข้ามาขัดจังหวะของเขาและมิริณมิริณที่เห็นว่าแพทนั้นมา ร่างบางจึงเลี่ยงจะเดินหนี แต่เสียงของแพทนั้นกับเรียกเธอเอาไว้"มิริณ เดี๋ยวก่อนสิ" แพทเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่น่าฟัง"ฉันยังไม่ได้ทานอะไรมา รบกวนเธอไปหยิบจานให้ฉันทีสิจ๊ะ" ริมฝีปากแดงละเอียดที่เอ่ยและยกยิ้มออกมาด้วยท่าทีเย้ยยันคนตัวเล็ก มิริณที่กำลังจะก้าวเดินออกไปร่างบางกับชะงักฝีท้าวและหันมาเผชิญหน้ากับแพทและอรัณอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว"ห้องครัวอยู่ทางนู้นค่ะ ถ้าไม่ได้เป็นง่อยหรือพิการก็น่าจะเดินไปถูกนะคะ คุณแพท" มิริณเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ แพทที่ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าสวยถึงกับดิ้นพล่านมาด้วยความโกรธจัด" แก นังมิริณ" แพทเอ่ยมาอย่างไม่มีท่าทีจะยอม"พอ เถอะแพท" เสียงเข้มของอรัณเอ่ยห้ามปรามแพท ราวกับนึกรำคาญแฟนสาวของตน เขาพึ่งจะเห็นมิริณสู้คนก็
ด้านมิริณหลังจากเดินแบบเสร็จ ภายในงานก็มีงานเลี้ยงแบบฟุบเฟ่ต์ต่อ ซึ่งตั้งแต่เริ่มงานยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง จึงรู้สึกหิวเป็นธรรมดา แต่ขณะที่มิริณกำลังจะเดินไปยังโซนอาหารนั้นมิริณกับสะดุดเข้ากับสายตาคมเข้มของอรัณที่เดินเคียงคู่มากับแฟนสาวของเขา ใช่สิหลายวันมานี้เธอและอรัณต่างไม่ได้พูดคุยเขาจะมาสนใจเธอทำไมกัน แค่เห็นอรัณเคียงคู่มากับแฟนสาว ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก แต่นั้นก็พยายามที่จะไม่สนใจคนทั้งคู่มิริณเลือกอาหารอยู่อีกโซนแต่ไม่ได้ไกลจาก อรัณและแพทมากนัก แต่ขณะที่มือเรียวของคนตัวเล็กกำลังจะยืนมือไปหยิบจานมาตักอาหารอยู่นั้น กับมือหนาของใครอีกคนที่ยืนมาจับจานใบนั้นไปต่อหน้าเธอ มิริณถึงกับชะงัก แต่ชายหนุ่มคนตรงหน้ากับผุดรอยยิ้มขึ้นมาและยื่นจานนั้นให้กับเธอ"ขอโทษนะครับ" เสียงทุ่มเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกพอใจ ที่เขาใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเธอ ยิ่งมองใกล้ๆ คนตรงหน้านั้นสวยหวานดังกับเจ้าหญิง ทำเอาเก่งถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ"รับไปสิครับ" ด้านมิริณเองก็สบตาเข้ากับคนตรงหน้า และรับจานมาจากเขามา"บนเวทีที่ว่าสวย แต่ยิ่งดูใกล้ๆ แบบนี้ยิ่งสวยมากนะครับ จะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะขอชนแก้วกับคุณคนสวยซักครั้ว"
"สกปรก พี่เอาความคิดสกปรกแบบนี้มาจากไหนกัน ฉันไม่เคยขายตัว" มิริณตระโกนออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บ ๆ จนน้ำตาถึงกับไหลอาบแก้มมาตั้งสองข้าง"อย่ามาบีบน้ำตากับฉัน เธอมันผู้หญิงหิวเงินไม่ต่างจากพี่สาวของเธอ ตบหน้าฉันแล้วคิดว่าจะบีบน้ำตาให้ฉันสงสารเธองั้นเหรอ ฝันไปเถอะ" ร่างสูงตระคอกออกมาด้วยความโมโห พร้อมกับเข้าไประดมจูบคนตัวเล็กไปทั่วทั้งใบหน้าตามแรงอารมณ์ความโกรธเคียงของตน ลิ้มสากหนาแทกเข้าโพลงปากบางของมิริณด้วยความรุ่นแรงและดิบเถือน รสจูบที่ไม่มีความปราณีใดๆ เลยซักนิดเดียวฝ่ามือหนากระชากชุดราตรีขาดออกไปทั้งตัว มิริณพยายามผลักร่างสูง และขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล คนใจร้ายไม่คิดจะสนใจพร้อมกับตามขึ้นคล่อมและกดทับร่างบางเอาไว้ด้วยความเอาแต่ใจ"อร้าย ไม่นะ" มิริณกรี๊ดร้องออกมาด้วยความกลัว อรัณนั้นตอนนี้เขานั้นน่ากลัวอย่างไม่เคยเป็น เธอไปทำอะไรให้เขา ทำไมคนใจร้ายถึงได้ทำกับเธออย่างป่าเถื่อนเช่นนี้ ฝ่ามือหนาจับเข้าที่ข้อเท้าของคนตัวเล็กขณะที่มิริณนั้นคิดจะหนี ร่างบางรับรู้ได้ทันทีกับเหตุการณ์ข้างหน้าในอีกไม่กี่วินาทีที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตน"ไม่นะ...พี่อรัณ อย่าทำเช่นนี้" มิริณตะเบ่งเสียงออกมาอย่างห้าม
อรัณเสมองมิริณเล็กน้อยแต่ก็ไม่คิดจะสนใจ ร่างสูงปิดประตูห้องดัง!! ปัง !! จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องราวกับไม่มีเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นมิริณได้แต่มองตามแผ่นหลังของคนตัวโตด้วยความรู้สึกเจ็บ ที่ผ่านมาเขาทำดีกับเธอเพื่ออะไร เขาเคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอสักครั้งใหม เขาทำกับเธอเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันพยายามคิดทบทวนเกิดคำถามมากๆที่วนเวียนเข้ามาภายในหัวของฉันร่างบางพยายามพาตัวเองลุกออกจากเตียงนอนด้วยความยากลำบาก พร้อมกับเช็ดน้ำตาที่มันไหลอาบแก้มตั้งสองข้างที่มันเปื้อนบนใบหน้าของตน ฉันไม่อยากจะเสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือน มิวาและเธอก็เป็นคนที่อรัณนั้นเกลียดนักหนา การที่เธอนั้นยอมให้เขารังแกมาตลอดมันไม่ได้ช่วยให้อรัณนั้นมองเธอและมิวาได้ดีเลยซักครั้ง เขาก็ยังเห็นเธอและพี่สาวของเธอนั้นเป็นแค่ผู้หญิงขายตัวเท่านั้น เธอถูกยัดเยียดด้วยคำพูดจาดูถูกจากเขามาโดยตลอด พอกันทีมือเรียวบางหยิบชุดที่มันกระจายลงพื้นมาสวมใส่ด้วยความรู้สึกดิ่งลงเหว คืนนี้ฉันอยากไปที่ไหนก็ได้ที่มันไม่ใช่คฤหาสน์หลังนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นมิริณก็เลือกแท็กซี่จากโรงแรมมาหาเพื่อนสนิทของเธอทันที@คอนโดของขวั
ด้านอรัณร่างสูงถึงกับรู้สึกผิดที่ตนเป็นต้นเหตุให้มิริณนั้นออกจากบ้านไปในครั้งนี้ อรัณขับรถออกมาบนท้องถนนเขาจะไปตามหาเธอที่ไหนดี เขาไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเธอเลยซักนิด เมื่อคิดได้ดังนั้นอรัณหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นและต่อสายหามิริณอีกครั้ง และรอบนี้เขาโทรหาเธอติด แต่มิริณก็ไม่มีท่าทีจะรับสายของเขาเช่นเดิม อรัณขับรถออกมาโดยไม่มีจุดหมาย!! ฟู่....!! ทำไมเธอต้องทำให้ฉันเป็นห่วงเธอหนักมากขนาดนี้ด้วยมิริณ ทั้งที่จริงฉันควรจะโกรธเธอมากกว่านี้ด้วยซ้ำ คนหลายอารมณ์พึมพำออกมาขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังท้องถนน อรัณขับรถไปบนเส้นทางหลายสายแต่ก็ต้องกลับป่าวร่างสูงกลับเข้ามาคฤหาสน์อีกครั้งด้วยสภาพหมดแรง และสิ้นหวัง"อ่า...มิริณ ฉันจะไปตามหาเธอที่ไหนดี" อรัณพึมพำขึ้นมาขณะที่ร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟา พร้อมกับมีขวดบรั่นดีที่ตั้งอยู่ข้างๆ นี้มันเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว เขาที่ตามหาเธอทั้งวัน แต่กลับไม่ได้เรื่องอะไรของเธอกลับมา จากนั้นเสียงของปิ่นก็ดังขึ้น"คุณอรัณไม่ต้องตามหาน้องมิริณแล้วนะคะ คุณมิวาเธอโทรบอกป้าเพ็ญ น้องมิริณเธออยู่กับเพื่อนค่ะ"ปิ่น ที่เอ่ยออกมาราวกับเสียงสวรรค์ อย่างน้อยมิริณก็ไม่ได้คิดสั้น เธอปลอดภั
"ฉันคงกลับไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะฉันมีทำโปรเจ็คกับเพื่อน" มิริณเอ่ยกับอรัณมาเสียงเรียบ"แน่ใจนะ ว่าที่เธอออกจากคฤหาสน์มาครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะกลัวฉัน" อรัณถามพร้อมกับสบตากับมิริณ"ตอบฉันมานะ มิริณ" ร่างบางเอาแต่เม้มปากแน่นด้วยความโกรธจัด"ใช่..." มิริณตะโกนใส่หน้าเขามาด้วยความไม่พอใจ ในเมื่อเขารู้ตัวอยู่แล้ว จะมาถามฉันอีกทำไม"ฉันแค่ไม่อยากเป็นคนที่รองรับอารมณ์ใคร"ต่อหน้าเธอนั้นใช่ว่าคนอย่างอรัณจะยอมรับผิด อรัณก็คืออรัณเขารู้ทั้งรู้ว่ายังไงเสียมิริณก็คงจะไม่ยอมกลับคฤหาสน์ไปกับตน แต่แล้วไงคนอย่างเขาคุณธรรมและความถูกต้องมันมีอยู่ในตัวน้อยด้วยสิ"ฉันทำให้เธอออกมา ฉันก็พาเธอกลับเข้าไปใหม่ได้ เช่นกัน""ไม่..." มิริณสวนกลับอยากไม่ยอม แต่นั้นกับโดนคนใจร้ายนั้นลุกขึ้นมาบนเตียงนอนของอรัณอย่างหนัก"ถ้าเธอไม่ยอม โดนหนักอย่างวันนั้นแน่" มิริณได้แต่ถอยหลังหนีคนใจร้าย"อย่านะ"!! ฟิว ปรึก!! จากนั้นเสื้อคุมตัวโตของคนใจร้ายก็ลอยขึ้นมาโดนหัวของเธอ"เอาไปใส่ และอย่าให้ฉันเห็นเธอใส่ชุดรัดๆ สั้นๆ แบบนี้อีกนะ ไม่งั้นโดนหนักแน่" อรัณเปลี่ยนสีหน้ามาราวกับคนละอารมณ์ มิริณถึงกับงงงวยกับท่าทีของเขา แต่นั้นก็ยอมหยิ
"ฉันคงกลับไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะฉันมีทำโปรเจ็คกับเพื่อน" มิริณเอ่ยกับอรัณมาเสียงเรียบ"แน่ใจนะ ว่าที่เธอออกจากคฤหาสน์มาครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะกลัวฉัน" อรัณถามพร้อมกับสบตากับมิริณ"ตอบฉันมานะ มิริณ" ร่างบางเอาแต่เม้มปากแน่นด้วยความโกรธจัด"ใช่..." มิริณตะโกนใส่หน้าเขามาด้วยความไม่พอใจ ในเมื่อเขารู้ตัวอยู่แล้ว จะมาถามฉันอีกทำไม"ฉันแค่ไม่อยากเป็นคนที่รองรับอารมณ์ใคร"ต่อหน้าเธอนั้นใช่ว่าคนอย่างอรัณจะยอมรับผิด อรัณก็คืออรัณเขารู้ทั้งรู้ว่ายังไงเสียมิริณก็คงจะไม่ยอมกลับคฤหาสน์ไปกับตน แต่แล้วไงคนอย่างเขาคุณธรรมและความถูกต้องมันมีอยู่ในตัวน้อยด้วยสิ"ฉันทำให้เธอออกมา ฉันก็พาเธอกลับเข้าไปใหม่ได้ เช่นกัน""ไม่..." มิริณสวนกลับอยากไม่ยอม แต่นั้นกับโดนคนใจร้ายนั้นลุกขึ้นมาบนเตียงนอนของอรัณอย่างหนัก"ถ้าเธอไม่ยอม โดนหนักอย่างวันนั้นแน่" มิริณได้แต่ถอยหลังหนีคนใจร้าย"อย่านะ"!! ฟิว ปรึก!! จากนั้นเสื้อคุมตัวโตของคนใจร้ายก็ลอยขึ้นมาโดนหัวของเธอ"เอาไปใส่ และอย่าให้ฉันเห็นเธอใส่ชุดรัดๆ สั้นๆ แบบนี้อีกนะ ไม่งั้นโดนหนักแน่" อรัณเปลี่ยนสีหน้ามาราวกับคนละอารมณ์ มิริณถึงกับงงงวยกับท่าทีของเขา แต่นั้นก็ยอมหยิ
ด้านอรัณร่างสูงถึงกับรู้สึกผิดที่ตนเป็นต้นเหตุให้มิริณนั้นออกจากบ้านไปในครั้งนี้ อรัณขับรถออกมาบนท้องถนนเขาจะไปตามหาเธอที่ไหนดี เขาไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเธอเลยซักนิด เมื่อคิดได้ดังนั้นอรัณหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นและต่อสายหามิริณอีกครั้ง และรอบนี้เขาโทรหาเธอติด แต่มิริณก็ไม่มีท่าทีจะรับสายของเขาเช่นเดิม อรัณขับรถออกมาโดยไม่มีจุดหมาย!! ฟู่....!! ทำไมเธอต้องทำให้ฉันเป็นห่วงเธอหนักมากขนาดนี้ด้วยมิริณ ทั้งที่จริงฉันควรจะโกรธเธอมากกว่านี้ด้วยซ้ำ คนหลายอารมณ์พึมพำออกมาขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังท้องถนน อรัณขับรถไปบนเส้นทางหลายสายแต่ก็ต้องกลับป่าวร่างสูงกลับเข้ามาคฤหาสน์อีกครั้งด้วยสภาพหมดแรง และสิ้นหวัง"อ่า...มิริณ ฉันจะไปตามหาเธอที่ไหนดี" อรัณพึมพำขึ้นมาขณะที่ร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟา พร้อมกับมีขวดบรั่นดีที่ตั้งอยู่ข้างๆ นี้มันเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว เขาที่ตามหาเธอทั้งวัน แต่กลับไม่ได้เรื่องอะไรของเธอกลับมา จากนั้นเสียงของปิ่นก็ดังขึ้น"คุณอรัณไม่ต้องตามหาน้องมิริณแล้วนะคะ คุณมิวาเธอโทรบอกป้าเพ็ญ น้องมิริณเธออยู่กับเพื่อนค่ะ"ปิ่น ที่เอ่ยออกมาราวกับเสียงสวรรค์ อย่างน้อยมิริณก็ไม่ได้คิดสั้น เธอปลอดภั
อรัณเสมองมิริณเล็กน้อยแต่ก็ไม่คิดจะสนใจ ร่างสูงปิดประตูห้องดัง!! ปัง !! จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องราวกับไม่มีเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นมิริณได้แต่มองตามแผ่นหลังของคนตัวโตด้วยความรู้สึกเจ็บ ที่ผ่านมาเขาทำดีกับเธอเพื่ออะไร เขาเคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอสักครั้งใหม เขาทำกับเธอเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันพยายามคิดทบทวนเกิดคำถามมากๆที่วนเวียนเข้ามาภายในหัวของฉันร่างบางพยายามพาตัวเองลุกออกจากเตียงนอนด้วยความยากลำบาก พร้อมกับเช็ดน้ำตาที่มันไหลอาบแก้มตั้งสองข้างที่มันเปื้อนบนใบหน้าของตน ฉันไม่อยากจะเสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือน มิวาและเธอก็เป็นคนที่อรัณนั้นเกลียดนักหนา การที่เธอนั้นยอมให้เขารังแกมาตลอดมันไม่ได้ช่วยให้อรัณนั้นมองเธอและมิวาได้ดีเลยซักครั้ง เขาก็ยังเห็นเธอและพี่สาวของเธอนั้นเป็นแค่ผู้หญิงขายตัวเท่านั้น เธอถูกยัดเยียดด้วยคำพูดจาดูถูกจากเขามาโดยตลอด พอกันทีมือเรียวบางหยิบชุดที่มันกระจายลงพื้นมาสวมใส่ด้วยความรู้สึกดิ่งลงเหว คืนนี้ฉันอยากไปที่ไหนก็ได้ที่มันไม่ใช่คฤหาสน์หลังนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นมิริณก็เลือกแท็กซี่จากโรงแรมมาหาเพื่อนสนิทของเธอทันที@คอนโดของขวั
"สกปรก พี่เอาความคิดสกปรกแบบนี้มาจากไหนกัน ฉันไม่เคยขายตัว" มิริณตระโกนออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บ ๆ จนน้ำตาถึงกับไหลอาบแก้มมาตั้งสองข้าง"อย่ามาบีบน้ำตากับฉัน เธอมันผู้หญิงหิวเงินไม่ต่างจากพี่สาวของเธอ ตบหน้าฉันแล้วคิดว่าจะบีบน้ำตาให้ฉันสงสารเธองั้นเหรอ ฝันไปเถอะ" ร่างสูงตระคอกออกมาด้วยความโมโห พร้อมกับเข้าไประดมจูบคนตัวเล็กไปทั่วทั้งใบหน้าตามแรงอารมณ์ความโกรธเคียงของตน ลิ้มสากหนาแทกเข้าโพลงปากบางของมิริณด้วยความรุ่นแรงและดิบเถือน รสจูบที่ไม่มีความปราณีใดๆ เลยซักนิดเดียวฝ่ามือหนากระชากชุดราตรีขาดออกไปทั้งตัว มิริณพยายามผลักร่างสูง และขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล คนใจร้ายไม่คิดจะสนใจพร้อมกับตามขึ้นคล่อมและกดทับร่างบางเอาไว้ด้วยความเอาแต่ใจ"อร้าย ไม่นะ" มิริณกรี๊ดร้องออกมาด้วยความกลัว อรัณนั้นตอนนี้เขานั้นน่ากลัวอย่างไม่เคยเป็น เธอไปทำอะไรให้เขา ทำไมคนใจร้ายถึงได้ทำกับเธออย่างป่าเถื่อนเช่นนี้ ฝ่ามือหนาจับเข้าที่ข้อเท้าของคนตัวเล็กขณะที่มิริณนั้นคิดจะหนี ร่างบางรับรู้ได้ทันทีกับเหตุการณ์ข้างหน้าในอีกไม่กี่วินาทีที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตน"ไม่นะ...พี่อรัณ อย่าทำเช่นนี้" มิริณตะเบ่งเสียงออกมาอย่างห้าม
ด้านมิริณหลังจากเดินแบบเสร็จ ภายในงานก็มีงานเลี้ยงแบบฟุบเฟ่ต์ต่อ ซึ่งตั้งแต่เริ่มงานยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง จึงรู้สึกหิวเป็นธรรมดา แต่ขณะที่มิริณกำลังจะเดินไปยังโซนอาหารนั้นมิริณกับสะดุดเข้ากับสายตาคมเข้มของอรัณที่เดินเคียงคู่มากับแฟนสาวของเขา ใช่สิหลายวันมานี้เธอและอรัณต่างไม่ได้พูดคุยเขาจะมาสนใจเธอทำไมกัน แค่เห็นอรัณเคียงคู่มากับแฟนสาว ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก แต่นั้นก็พยายามที่จะไม่สนใจคนทั้งคู่มิริณเลือกอาหารอยู่อีกโซนแต่ไม่ได้ไกลจาก อรัณและแพทมากนัก แต่ขณะที่มือเรียวของคนตัวเล็กกำลังจะยืนมือไปหยิบจานมาตักอาหารอยู่นั้น กับมือหนาของใครอีกคนที่ยืนมาจับจานใบนั้นไปต่อหน้าเธอ มิริณถึงกับชะงัก แต่ชายหนุ่มคนตรงหน้ากับผุดรอยยิ้มขึ้นมาและยื่นจานนั้นให้กับเธอ"ขอโทษนะครับ" เสียงทุ่มเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกพอใจ ที่เขาใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเธอ ยิ่งมองใกล้ๆ คนตรงหน้านั้นสวยหวานดังกับเจ้าหญิง ทำเอาเก่งถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ"รับไปสิครับ" ด้านมิริณเองก็สบตาเข้ากับคนตรงหน้า และรับจานมาจากเขามา"บนเวทีที่ว่าสวย แต่ยิ่งดูใกล้ๆ แบบนี้ยิ่งสวยมากนะครับ จะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะขอชนแก้วกับคุณคนสวยซักครั้ว"
"ทำอะไรกันอยู่คะ" แพทเดินเข้ามาพร้อมกับเสยิ้มและหันไปจ้องมองมิริณด้วยสีหน้าไม่พอใจ"ป่าว...ไม่มีอะไร" เป็นเสียงของอรัณที่ตอบแพท"คุณลุงให้แพทมาชวนอรัณไปดูชุดเพื่อจะใส่ในงานหนะ" แพทจงใจเดินเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างอรัณและมิริณ จนร่างบางกับต้องถอยหนี อรัณได้แต่เสมองใบหน้าของคนตัวเล็ก และนึกโทษที่แพทนั้นเข้ามาขัดจังหวะของเขาและมิริณมิริณที่เห็นว่าแพทนั้นมา ร่างบางจึงเลี่ยงจะเดินหนี แต่เสียงของแพทนั้นกับเรียกเธอเอาไว้"มิริณ เดี๋ยวก่อนสิ" แพทเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่น่าฟัง"ฉันยังไม่ได้ทานอะไรมา รบกวนเธอไปหยิบจานให้ฉันทีสิจ๊ะ" ริมฝีปากแดงละเอียดที่เอ่ยและยกยิ้มออกมาด้วยท่าทีเย้ยยันคนตัวเล็ก มิริณที่กำลังจะก้าวเดินออกไปร่างบางกับชะงักฝีท้าวและหันมาเผชิญหน้ากับแพทและอรัณอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว"ห้องครัวอยู่ทางนู้นค่ะ ถ้าไม่ได้เป็นง่อยหรือพิการก็น่าจะเดินไปถูกนะคะ คุณแพท" มิริณเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ แพทที่ได้ยินเช่นนั้นใบหน้าสวยถึงกับดิ้นพล่านมาด้วยความโกรธจัด" แก นังมิริณ" แพทเอ่ยมาอย่างไม่มีท่าทีจะยอม"พอ เถอะแพท" เสียงเข้มของอรัณเอ่ยห้ามปรามแพท ราวกับนึกรำคาญแฟนสาวของตน เขาพึ่งจะเห็นมิริณสู้คนก็
อรัณที่เห็นชายคนอื่นในไอจีมิริณ จากที่นั่งดื่มอยู่นั้นร่างสูงถึงกับยืนขึ้น ทั้งสามหนุ่มได้แต่มองหน้าเพื่อน"หึ...เมาขนาดนี้มึงอย่าบอกนะว่าจะขับรถ" เรียวตะเสมองใบหน้าของอรัณและเอ่ยถามเพื่อน"อืม" คนกลึ่งเมาตอบแค่นั้น จากนั้นก็เดินไปที่รถของตนทันที ทั้งสามหนุ่มที่เห็นท่าทีของเพื่อนต่างก็งงงวยไปตามๆกัน"นั้นมันจะไปไหนของมันวะ" ริวที่นั่งดื่มอยู่ถึงกับเอ่ยขึ้นมาถามเรียวตะและริกด้วยท่าทีสงสัยร่างสูงของอรัณทะยานรถสปอร์คันหรูกลับเข้ามาในคฤหาสน์ในเวลาไม่กี่นาที ภายในคฤหาสน์ที่เงียบสงบ เพราะนี้มันสามทุ่มกว่าแล้ว มีเพียงปิ่นที่เดินสำรวจความเรียบร้อยภายในบ้าน แต่สาวใช้กับต้องชะงักเมื่อคุณชายเล็กของบ้านนั้นกลับเข้ามาในรอบหลายวันด้วยท่าทีที่เดินเซเข้ามาภายในบ้าน"พี่ปิ่น เรียกมิริณให้ผมทีครับ"เมื่อมาถึงอรัณก็ถามถึงคนที่ตนอยากจะเจอทันที"เออ น้องมิริณไม่อยู่ค่ะ ไป ต่างจังหวัด""ต่างจังหวัด นี้ยังไม่กลับอีกเหรอ" อรัณถามปิ่นกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอันโกรธเคือง"น้องมิริณไม่ได้บอกค่ะ ว่าจะกลับวันไหน" อรัณได้ฟังเช่นนั้น ร่างสูงกับเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์และหยิบบรั่นดีขึ้นมาดื่ม หึ...! ดึกป่านนี้แล้วยั
ด้านมิริณหลังจากที่คุณแพทมาหาเรื่องฉันในวันนั้น นี้มันก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ได้แล้ว ที่แปลกไปคือพี่อรัณฝ่ายนั้นหลังจากที่เขามาส่งฉันที่คฤหาสน์ฉันก็ไม่เจอหน้าเขาอีกเลย เขาไม่โทรหรือไลน์มาหาฉัน แต่จะให้ฉันเป็นฝ่ายติดต่อไปเอง ฉันก็ไม่กล้าเพราะฉันรู้ดีว่าฉันอยู่ในฐานะอะไรฉันพยายามไปเจอเขาที่ชมรมแต่พี่อรัณก็ไม่เข้า นี้ผ่านมาหลายวันแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน แม้แต่ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่เขาเคยไปค้างคฤหาสน์ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคฤหาสน์เงียบสงบ ไร้เงาของคนที่ฉันอยากเจอตลอดหลายวันที่ผ่านมา ด้านขวัญข้าวและบีนา ฉันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนไปของยัยมิริณนะ ตั้งแต่วันที่เพื่อนเข้าไปคุยกับยัยพี่แพทในวันนั้น หลังจากนั้นมามิริณไม่ร่าเริงและสดใสเอาเสียเลย ถามอะไรไปเพื่อนก็เอาแต่ตอบว่าไม่มีอะไร คนที่อยู่ด้วยกันแทบจะทุกวันย่อมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ขวัญข้าวได้แต่เสมองใบหน้าเพื่อนขณะที่ทั้งสามสาวนั่งรอเวลาเรียนที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำ"แกอีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเรียน เราไปดูงานนิทรรศการกันไหม" บีนาที่นั่งเล่นสมาร์ตโฟนเอ่ยขึ้นมากับทั้งสองสาว"ว่าไง ยัยมิริณแกไปป่าว" ยัยขวัญข้าวเอ่ยมาถามฉันขณะที่ฉันก็เอาแ
ด้านแพท หลังจากที่พูดคุยกับแม่เลี้ยงของอรัณจบร่างบางอันสมส่วนของแพทก็เดินออกมาจากคฤหาสน์"อรัณนะอรัณ ทำไมรัณใจร้ายกับแพทได้มากขนาดนี้" แพทได้แต่เอ่ยพึมพำออกมา ขณะที่ร่างบางกำลังเดินมาที่รถของเธอ ริมฝีปากแดงได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความเจ็บใจ ที่อรัณหายหัวไปและไม่คิดจะติดต่อเธอ ฉันไม่มีทางให้เป็นแบบนี้แน่ ในเมื่อเธอทำอะไรไม่ได้แพทจึงยอมกลับบ้านของตนด้านนีน่าจะโทษใครได้ แพทและอรัณนั้นนิสัยก็ไม่ต่างกัน ที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ แต่ก็ไม่คิดว่าอรัณจะสนใจมิริณมากกว่าแพท ทั้งที่แพทเป็นรักแรกของอรัณและทั้งคู่ก็รู้จักสนิทสนมกันมาหลายปี นีน่าได้แต่คิดในใจส่วนคนที่ทำให้แพทกระวนกระวายใจนั้น อรัณพามิริณกลับเข้าคฤหาสน์ในช่วงเย็น เมื่อเดินเข้ามาถึงบ้าน ทั้งป้าเพ็ญ และน้าเกศเองต่างก็อยู่คฤหาสน์ อรัณที่เดินเข้ามาสายตาคมสบตาเข้ากับแม่เลี้ยงของตน ร่างสูงถึงกับชะงัก ด้านอรัณเองก็เดาใจแม่เลี้ยงไม่ถูกเพราะกลัวว่าน้าเกศนั้นจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับบิดาและพี่ชายด้านมิริณที่เจอเกศทิพย์ ใบหน้าหวานถึงกับชะงักไม่ต่างจากอรัณ อรัณจับเข้าที่แขนของคนตัวเล็กให้เดินมากับตนราวกับปลอบมิริณไปในตัว"มิริณเธอกลับห้องไปก่อน" เสียงท