ร้อยยิ้มที่มาจากใจจริง แถมยังแฝงไปด้วยความชื่นชม...เพราะเหตุใดกัน?เซียวเหิงไม่เข้าใจหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างกันเห็นแล้วก็ยิ่งเดือดพล่านในเมื่อเฉียวเนี่ยนเห็นจิ่งเหยียนวิ่งวุ่นอยู่กลางโถงแล้วยังไม่รู้สึกอะไร เช่นนั้นแล้วเขาคงต้องราดน้ำมันลงบนกองไฟด้วยเหตุนั้นเขาถึงไปส่งสายตาไปยังมุมหนึ่งของโถงใหญ่ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ คอยมองขึ้นไปบนชั้นสองเป็นระยะเมื่อเห็นหลินเย่ว์มองมาทางตนเอง เขาก็เหมือนรับสัญญาณอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็กวักมือเรียกจิ่งเหยียน "เอ้ย นั่นน่ะ มานี่หน่อย!"เมื่อได้ยินเสียงนั้น เฉียวเนี่ยนก็หันไปมองทางชายผู้นั้น สีหน้าก็พลันบึ้งตึงนั่นคือสวีหวาชิงคนที่ทำให้นางเกือบจมน้ำตาย!คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากนางตบหน้าหลินเย่ว์คราวนั้น หลินเย่ว์ยังเชิญเขามาอีก!เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว ถลึงตามองหลินเย่ว์หลินเย่ว์สัมผัสได้ถึงสายตาพิฆาตของเฉียวเนี่ยนที่มองมา แต่สองตาของเขาเอาแต่จับจ้องอยู่ที่ชั้นล่าง ราวกับมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นทันใดนั้นเองจิ่งเหยียนก็เดินไปหาสวีหวาชิงคิดไม่ถึงเลยว่ายังทันได้พูดกี่ประโยค สวีหวาชิงก็ลุกพรวดขึ้นแล้วสาดอาหารใส่จิ่งเหยียนจิ่งเหยียนตั้
เฉียวเนี่ยนสีหน้าเรียบเฉยนางรั้งจิ่งเหยียนเอาไว้ แต่ตัวเองกลับกำเศษอาหารบนพื้นขึ้นมาจิ่งเหยียนตื่นตกใจ คิดว่าเฉียวเนี่ยนจะกินแทนเขา ขณะกำลังจะห้าม คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะยัดอาหารในมือใส่ปากสวีหวาชิงสวีหวาชิงถอยหลังหลบในทันใด แต่เศษอาหารยังคงเปรอะไปทั่งทั้งหน้าเขาเขาเป็นถึงลูกชายเจ้ากรมอากร เคยอับอายขายขี้หน้าเช่นนี้เสียที่ไหน?สวีหวาชิงเดือดพล่าน "เจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้าลงมือกับคุณชายเช่นข้า!""ข้าคือบรรพบุรุษเจ้ากระมัง!" เสียงของเฉียวเนี่ยนไม่ได้ดังนั้น แต่ดังพอให้ทุกคนในที่นั้นได้ยินอย่างชัดเจนไม่มีหญิงใดในเมืองหลวงที่กล้าพูดจาเช่นนี้กับสวีหวาชิง ทันใดนั้นทุกคนต่างมองมาที่เฉียวเนี่ยนแต่ก่อนสวีหวาชิงเคยเห็นเฉียวเนี่ยนจากไกล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็รเฉียวเนี่ยนในระยะประชิด เขาจ้องมองนางอยู่นานกว่าจะนึกออก "อ๋อ ข้าก็นึกว่าใคร! ที่แท้ก็คุณหนูใหญ่จวนโหวนี่เอง!"เขายิ้มพลางส่งสายตาไปทางจิ่งเหยียนก่อนจะเอ่ย "ข้าขอพูดอะไรได้หรือไม่คุณหนูเฉียว?"เขาอยากจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า วันนี้หลินเย่ว์ไหว้วานให้เขามาสั่งสอนจิ่งเหยียนโดยเฉพาะ ขอเฉียวเนี่ยนอย่าได้เข้ามายุ่งแต่เฉียวเนี
ทันใดนั้นก็มีคนเอ่ยสมทบ "ใช่แล้ว หากไม่เห็นแก่หน้าจวนโหว ข้าคงไม่มาหรอก""แม่ข้าบังคับให้ข้ามาให้ได้ บอกว่าไปให้คนดูเยอะสักหน่อย""อันที่จริงแบบนางน่ะ ข้าไม่สนใตหรอก ก็แค่มีชื่อจวนโหวห้อยท้ายก็เท่านั้น""ว่าตามตรงก็เป็นแค่ลูกเลี้ยง เอาเป็นว่าแม่ข้าไม่ถูกใจหรอก"ทันใดนั้นเหล่าแขกเหรื่อคนหนึ่งพูดทีอีกคนหนึ่งก็พูดที เหยียบย่ำเฉียวเนี่ยนจนแทบจมดินบนชั้นสอง สีหน้าของหลินเย่ว์และเซียวเหิงเคร่งเครียดจนหน้าสะพรึงกลัวหลินเย่ว์กำราวระเบียงตรงหน้าแน่น สองตามองเฉียวเนี่ยนลุกเป็นไฟ เขารู้ว่างานวันนี้ของเขาพังไม่เป็นท่าแล้วจิ่งเหยียนนั้นเดือดดาลยิ่งกว่า เฉียวเนี่ยนสัมผัสได้ว่าท่อนแขนที่นางรั้งเอาไว้ยามนี่แข็งกร้าวดังเหล็กกล้าเพราะเกรงว่าจิ่งเหยียนจะเลือดขึ้นหน้าทำเรื่องผลีผลามลงไป เฉียวเนี่ยนจึงรีบหันกลับมาแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้เขาจิ่งเหยียนชะงักไปเขาคิดไม่ถึงเลยว่ายามนี้เฉียวเนี่ยนยังจะส่งยิ้มอ่อนโยน แสนนุ่มนวลให้เขานั่นเหมือนกับหยาดน้ำอันแสนอบอุ่น โชลมไฟที่ลุกโชนในใจเขาให้ดับมอดลงทว่านั้นกลับทำให้เขาปวดใจยิ่งกว่าเดิมทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของนาง แล้วเหตุใดนางถึงต้องแบกรับทุกสิ่
เหล่าชายเจ้าสำราญที่กินดื่มเมามายทุกวันมีหรือจะเคยเห็นรังสีอำมหิตอันโหดเหี้ยมปานนี้ทันใดนั้นทุกก็พลันหวาดผวาต่อให้คนที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลไม่หยุดอยู่บนพื้น ก็ไม่ใครสนใจอาการเขาสักคนแม้แต่หลินเย่ว์และเซียวเหิงบนชั้นสองก็สีหน้าเคร่งเครียด ไม่เอ่ยแม้สักคำสวีหวาชิงย่อมตื่นตกใจ แต่อาจเป็นเพราะประโยคนั้นของจิ่งเหยียนเจาะจงไปที่เขา ราวกับว่าคำขู่นั้นบอกเขาเพียงแค่คนเดียว จึงรู้สึกอับอายเหลือทนสวีหวาชิงเองก็ไม่รู้ว่ากินดีหมีที่ไหนมา ถึงได้กล้าคำรามลั่น "สามหาว! เจ้ากล้าลงมือทำร้ายผู้อื่น! ทุกคนที่นี่ต่างมาจากตระกูลสูงศักดิ์ หากเจ้ากล้าแตะต้องพวกข้าสักคน ข้าจะแจ้งความเจ้า สั่งเขาสิบแปดปี!""ก็ย่อมได้!" จิ่งเหยียนสีหน้าถมึงทึง จ้องสวีหวาชิงไม่วางตา น้ำเสียงทุ้มต่ำจนน่าสะพรึงกลัว "นางเอาชีวิตชาติหมาอย่างเจ้ามาได้ ต่อให้วันนี้ข้าแซ่จิ่งต้องตายก็ไม่เสียดาย!"ได้ยินดังนั้นจิ่งเหยียนก็เดินเข้าไปหาสวีหวาชิงสวีหวาชิงถอยกรูในทันใด จนเก้าอี้ด้านหลังล้มลง ร่างทั้งร่างหงายหลังลงไปด้วยสภาพน่าอนาถนักสองตาเย็นชาดุจน้ำแข็งของจิ่งเหยียนก็หันไปกวาดตามองคนอืายเขายังไม่ทันพูดแม้สักประโยค เพียงแค
เมื่อว่าจบก็ก้าวถอยไปอีกทางเจ้าระวังตัวด้วยเพียงแค่ประโยคสั้นๆ ไม่กี่คำ แต่กลับหยั่งลึกลงไปในใจของจิ่งเหยียนต่อให้ถูกคนห้อมล้อม สถานการณ์อันตรายเพียงใด มุมปากที่ยกยิ้มของจิ่งเหยียนก็ยังหุบไม่ลงแต่สายตาของบรรดาคุณชาย รอยยิ้มนั้นเหมือนกับคำท้าทายจากนั้นก็ได้ยินเสียงคำรามของชิวอวี่ "ฆ่ามันให้ตาย!"ทุกคนรุมล้อมพุ่งเข้าใส่จิ่งเหยียนทว่าชั้นบน หลินเย่ว์และเซียวเหิงยังคงไม่ขยับไปไหนจิ่งเหยียนมือเท้าว่องไวเขาร่วมฟาดฟันศัตรูกับเซียวเหิงบนสนามรบ ฝ่ายตรงข้ามคือศัตรูนับหมื่นนับพัน บรรดาคุณชายที่คิดว่าตัวเองเก่งนักเก่งหามีหรือจะคณามือเขา?ผ่านไปไม่นาน เหล่าคุณชายก็ถูกจิ่งเหยียนซัดหมอบกับพื้นเมื่อเห็นจิ่งเหยียนไร้รอยบาดแผล เฉียวเนี่ยนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกจิ่งเหยียนเดินเข้ามาหานาง ใบหน้าคมเข้มนั้นเหมือนจะเก้อเขินเขาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเฉียวเนี่ยน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสวีหวาชิงกลับปรากฏตัวขึ้นหลังร่างของเฉียวเนี่ยน ในมือง้างตั่งเหนือหัวสวีหวาชิงเกลียดเฉียวเนี่ยนตอนเด็กเขาถูกหลินเย่ว์ก็เพราะเฉียวเนี่ยน หลายปีมานี้เห็นเฉียวเนี่ยนที่ไหนก็เป็นต้องหลบซ่อนตัว ทำให้เขาถูกหั
ว่าอย่างไรนะ?!หลินเย่ว์ตื่นตกใจ พุ่งตัวเข้าไปหาขอทานผู้นั้นแล้วกระชากคอเสื้อ "ใครจับตัวไป? จับที่ไหม?"ขอทานตกใจแทบแย่ สองตาเบิกโพรงด้วยความหวาดกลัวหลินเย่ว์ตวาดลั่น "บอกมา! ไม่อย่างนั้นข้าจะถลกหนังเจ้า!"ขอทานถึงได้เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก "ถูก...ถูกพวกขอทาน จะ..จับตัวออกไปนอกเมือง"เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็ปล่อยขอทานไป ก่อนจะวิ่งไปยังนอกเมืองอย่างไม่คิดชีวิตเมื่อเห็นหลินเย่ว์วิ่งไปไกล ขอทานถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหันกลับไปมองเฉียวเนี่ยนอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนจ้องมองมาที่เขา ดวงตาเป็นประกายนั้นมองเขาหัวจรดเท้า ก่อนสายตาจะหยุดลงบนหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงของเขาขอทานตื่นตระหนกในทันใด รีบกุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้ สายตาเปลี่ยนเป็นรู้สึกผิดในทันทีท่าทางประหม่า หลังจากชำเลืองมองเฉียวเนี่ยนอย่างระแวงอยู่ครู่หนึ่งก็วิ่งหนีไปเฉียวเนี่ยนมองแผนหลังของขอทานผู้นั้นหายไปจากมุมเลี้ยว เรียวคิ้วขมวดแน่นนางรู้ดีว่าขอทานต้องมีลับลมคมในบางอย่างเป็นแน่ทว่ายามนี้นางไม่มีเวลามาสนใจหลินยวนจะเป็นหรือตาย ไม่เกี่ยวกับนาง ในใจของนางตอนนี้มีแต่ความเป็นความตายของจิ่งเหยียน!
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนหน้าของจิ่งเหยียน ในหัวของเฉียวเนี่ยนกลับมีแต่ภาพของของเขายามปกป้องนางที่หอจุ้ยเซียงเขาพูดว่าหากวันนี้ให้กล้าพูดจาหมิ่นเกียรตินางอีก ต้องจากที่นี่ไปอย่างไรวิญญาณ!ยามถูกรุมโจมตี เขาส่งนางไปอีกฝั่ง ผลักนางออกจากสังเวียนรบเมื่อถึงชั่ววินาทีแห่งความเป็นความตาย เขาใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องชีวิตนางไว้...นางนึกถึงภาพยามเลือดอาบใบหน้าของเขา สายตาจึงหยุดอยู่ที่คอเสื้อที่ยังเปื้อนคราบเลือดอยู่เมื่อรับรู้ถึงสายตาของเฉียวเนี่ยน จิ่งเหยียนก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง ลนลานปกปิดคราบเลือดนั้นแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะเดินมาหาเขาแล้วหยุดอยู่ข้างเตียงสองตาร้อนผ่าวน้ำตาคลอมองเขาจากมุมบน ฝ่ามือน้อยสัมผัสผ้าบนศีรษะของเขาอย่างแผ่วเบา ไม่กล้าแม้แต่จะออกแรง เกรงว่าจะทำเขาเจ็บในตอนนั้นจิ่งเหยียนประหม่ายิ่งนัก ที่นางเข้ามาใกล้ การกระทำของนาง ล้วนแต่ทำให้เขาไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรถึงขั้นว่าไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นแต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะโพล่งเอ่ยขึ้น น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ"เจ็บหรือไม่?"จิ่งเหยียนถึงได้เงยหน้าขึ่นมองเขา ก็เห็นหยดน้ำร้อนผ่าวไหลผ่านดวงหน้าเนียนละเอียดน
จิ่งเหยียนชะงักไปลืมซานจาที่ยื่นให้เฉียวเนี่ยนในมือ ลืมไปแล้วว่าต้องเช็ดน้ำตาให้เฉียวเนี่ยน ลืมแม้กระทั่งว่าเมื่อครู่นางพูดว่าอะไรนั่นสิ เขาหูฝาดไปใช่ไหม?เขาถือผลซานจา ชะงักงันอยู่อย่างนั้นราวกับรูปสลักหินเมื่อเห็นท่าทีแสนซื่อบื้อของใบหน้าหล่อเหลานั้น เฉียวเนี่ยนกลับยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมนางยื่นมือออกไปหยิบซานจาในมือในของเขาแล้วใส่ปากตัวเอง แก้มน้อยเคี้ยวตุ้ยๆจากนั้นนางก็ถามอีกครั้ง "จะมาสู่ขอข้าหรือไม่?"ในที่สุดจิ่งเหยียนก็ได้สติกลับคืนมา เขารีบขานตอบในทันใด "ขอรับ!"เขากลัวว่าหากตัวเองช้าไปอีกสักนิดเฉียวเนี่ยนจะเปลื่ยนใจคำว่า 'ขอรับ' นั้น เขาตะโกนเสียงดังลั่นเฉียวเนี่ยนแทบจะหูอื้ออยู่รอมร่อทว่าไม่นานเขาก็สงบสติอารมณ์ลงในที่สุด "เพียงแต่ข้าไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ ชาติกำเนิดต่ำต้อย ต่างกับคุณหนูเฉียวราวฟ้ากับเหว ข้าไม่คู่ควรกับคุณหนู"เขาก้มหน้าพรั่งพรูออกมาคำพูดที่หนิงซวงบอกกับเขาก่อนหน้านี้ เขาจำได้ทุกถ้อยคำเขารู้ฐานะของตัวเอง ไม่คู่ควรแม้แต่จะหิ้วรองเท้าให้เฉียวเนี่ยนเขาไม่ต้องการสิ่งใด ขอเพียงแค่ได้มองนางจากไกลๆ ปกป้องนางสุดกำลังที่มี เพียงเท่านั้นก็พึงพอใจแล้
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด