LOGINเป็นเมียพี่แล้วมันไม่ดียังไงครับ ไหนลองบอกมาสักสองสามข้อหน่อยสิ
View More"รอด้วย!" หญิงสาวตัวเล็กในชุดนักศึกษาที่พึ่งวิ่งลงมาจากรถเมล์ตะโกนเรียกเพื่อนดังลั่น สามสาวหันมายิ้มให้เพื่อนจอมแก่นที่วิ่งเอาเป็นเอาตายเพื่ิอให้มาถึงพวกเธอให้ไวที่สุด
"ไม่ต้องวิ่งก็ได้ เดี๋ยวก็ล้ม" ปลายฟ้าเอ่ยบอกเพื่อนที่กำลังเหนื่อยหอบ
"สภาพแกหรอข้าวหอม ผมเพล่าพะรุงพะรังไปหมด" นิรินพูดทั้งจับผมที่ชี้ฟูของเพื่อนไปด้วย ดูก็รู้ว่าคงนั่งโต้ลมริมหน้าต่างรถเมล์มาแน่
"ใครจะมีเวลามานั่งแต่งหน้าแต่งตัวอย่างแกละ แม่คุณหนูไฮโซ"
"พอเลย ตีกันแต่เช้าเลยเนี่ย" ยี่หวาปรามเพื่อนสองคนแล้วส่ายหัว ไม่เคยเลยที่จะไม่ทะเลาะกัน พูดกันทีไรเป็นได้เถียงกันทุกที
ปลายฟ้ากอดแขนข้าวหอมเดินไปแล้วคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปด้วย จังหวะข้ามถนนหน้าตึกไม่ทันได้ระวัง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนรถคันหรูแล่นมาเกือบถึงตัว ข้าวหอมดึงเพื่อนตัวเล็กด้วยความตกใจจนปลายฟ้าล้มลงที่พื้นเต็มแรงแล้วเธอก็ล้มลงตาม
"พวกแกเป็นไงมั่ง" ยี่หวานั่งลงสำรวจร่างกายเพื่อนสองคนให้แน่ใจ ปลายฟ้าไม่มีแผลอะไรแต่เหมือนข้าวหอมจะมีแผลถลอกตรงหัวเข่าเพราะแรงกระแทก
"เจ็บป่ะ?"
"ลองมาล้มเองไหมละนิ ถามมาได้"
"อ้าว ไอข้าว....."
"ขอโทษนะครับ" รามิลนักศึกษาปีสามลูกชายคนเดียวของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเดินลงมาเรียกสายตาหญิงสาวให้หันไปมอง เพราะหน้าตาหล่อ แถมบ้านยังรวย ก็เลยเป็นที่หมายปองของรุ่นพี่รุ่นน้องเต็มไปหมด
"ขับยังไง ไม่รู้จักมองทาง ไม่เห็นคนหรอ!"
"ไอข้าว ใจเย็นๆ" ยี่หวารวบตัวเพื่อนเอาไว้ เอะอะก็จะบวกอย่างเดียว ไม่รู้จักดูขนาดตัวบ้างเลย
"ไงว่ะไอมิล น้องปีหนึ่งมาวันแรก มึงก็ขับรถชนเลยหรอ"เป็นทิวเขาที่เดินเข้ามาพร้อมกับคิมหันต์และริว คนตัวสูงเลิ่กคิ้วให้เพื่อนไป ดูเหมือนว่าวันนี้คงเป็นวันซวยของเขาละมั้ง
"เป็นอะไรไหมครับ? พี่ช่วยไหม" ริวส่งมือมาช่วยปลายฟ้าที่ยังนั่งอยู่ที่พื้น แต่โดนข้าวหอมปัดออกเต็มแรง คนตัวเล็กพยุงเพื่อนให้ลุกขึ้นมาเองแล้วมองหน้าพวกเขาอย่างไม่สบอารมณ์
"รุ่นพี่คณะไหนว่ะ อย่างหล่อเลยแก"
"เก็บนอบ้างก็ได้นะนิริน"
"ปีหนึ่งวิศวะใช่ไหม?" คิมหันต์ถามขึ้น เป็นนิรินที่พยักหน้าตอบก่อนคนอื่น
"พวกพี่อยู่ปีสามวิศวะเหมือนกัน"
"รุ่นพี่เราหรอว่ะ ไอข้าวเลิกหาเรื่องเหอะ" ยี่หวาลูบแผ่นหลังบางให้ใจเย็นลง ขืนมีเรื่องกับพวกรุ่นพี่ ชีวิตไม่สงบสุขแน่
"สรุปไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม? วันหลังก็เดินระวังกันหน่อยสิ"
"พี่ขับรถไม่ดูทาง แถมความเร็วก็น่าจะเกินกำหนดที่ให้ขับในมหาวิทยาลัย ยังจะมาหาว่าพวกเราเดินไม่ดูทางอีก ไม่รู้กฏของมอรึไง"
"แหม่ ไอมิลมันจะไม่รู้ได้ยัง มันเป็นลูกผู้อำนวยการนะ" ยืนอึ้งไปพักใหญ่ก่อนปลายฟ้าจะรีบหาทางเลี่ยงไม่ให้เพื่อนไปต่อล้อต่อเถียงอีก รามิลมองนามคนตัวเล็กที่ถูกเพื่อนดึงให้เดินตามไปด้วยรอยยิ้ม ....น่าสนใจ
@อาคารหน้าตึกคณะ
"วิ่งหน่อย เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก"
"ก็โดนอยู่แล้วป่ะยี่ นี่เลยเวลามาสิบนาทีละ" ข้าวหอมพูดแล้วส่ายหัว พวกเธอออกมาช้าเพราะรอนิรินทำงานส่งอาจารย์อยู่ ดูจากเวลายังไงก็คงโดนทำโทษที่เข้ารับน้องสาย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรีบให้ได้อะไร
เดินมาถึงจุดรับน้องก็เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่งอยู่อย่าฝเป็นระเบียบ มองรุ่นพี่ที่ยืนคุมอยู่แล้วรอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะโดนทำโทษแบบไหนอีกเนี่ย
ยังไม่ทันจะได้ก้าวเดินเข้าไปกลุ่มคนที่เดินเข้ามาใหม่ก็ทำให้รอบกลืนน้ำลายเข้าไปใหญ่ พวกรุ่นพี่ที่เธอมีเรื่องด้วยเมื่อเช้า อย่าบอกนะว่าจะมาคุมรับน้องด้วยอ่ะ...
"สี่คนตรงนั้น จะให้เพื่อนรออีกนานไหมครับ" นั่นไงโดนเข้าให้แล้ว รามิลตะโกนมาเสียงดังลั่นจนทุกคนหันมามองกลุ่มเธอกันทั้งแถบ ข้าวหอมเดินนำเข้าไปก่อน เป็นรุ่นพี่ผู้หญิงปีสามอย่างมิ้นท์ที่เดินเข้ามาถึงตัวพวกเธอพร้อมกับน้องสาวของคนตรงหน้าดาวคณะปีก่อนอย่างนะโม
"ทำไมมาสายขนาดนี้" นะโมถามเธอเสียงนิ่ง ป้ายชื่อที่คอของข้าวหอมกำลังล็อคเป้าให้เธอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่หลายคนพูดถึงกันว่ารามิลมีเรื่องด้วยเมื่อเช้า
"พวกเราติดทำงานส่งค่ะ"
"แต่เพื่อนมากันหมดแล้ว มัวทำอะไร โง่กันหรอไงถึงช้านัก" ข้าวหอมกำมือแน่นด้วยความโมโห อีกคนกล้าดียังไงใช้คำพูดรุนแรงกับปลายฟ้าแบบนี้ ทั้งที่ก็เป็นแค่รุ่นพี่ ไม่ได้สูงส่งอะไรสักหน่อย
"พี่พูดแรงไปป่ะ มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้อ่ะ"
"สิทธิ์ของรุ่นพี่ไง"
"ก็แค่รุ่นพี่ ไม่ใช่พ่อใช่แม่สักหน่อย" ข้าวหอมมองนิรินแล้วพยักหน้าก่อนจะแตะมือกัน ต้องแบบนี้สิ ยามศึกเรารบ ยามสงบเราค่อยรบกันเอง
"มิ้นท์พอ" รามิลเอ่ยปรามเพื่อนสาวแล้วดันให้ห่างจากรุ่นน้องตัวเล็ก ข้าวหอมจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจราวกลับไม่ชอบกันมาแต่ปางไหนทั้งที่พึ่ฝเจอกันวันนี้แท้ๆ
"แต่พี่มิลคะ ตามกฏแล้วคนมาสายต้องโดนทำโทษนะคะ"นะโมพูดท้วงขึ้นมา
"วันนี้มันเลทมากแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน น้องๆไปนั่งครับ"
กว่าจะจบรับน้องก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่า ข้าวหอมวิ่งเข้าร้านไปด้วยความรวดเร็ว ปิดประตูลงกลอนห้องน้ำก่อนจะเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นเสื้อเชิ้ตตัดพอดีรูปร่างกับกางเกงสีดำ เดินออกมาส่องกระจกตรงอ่างล้างมือ ผมสวยถูกมัดรวบหางม้าให้ดูเรียบร้อย
"มาสายนะวันนี้ พี่นึกว่าจะไม่มาแล้ว" มาตินผู้จัดการร้านทักขึ้นหลังเห็นเธอรีบวิ่งเข้ามาในบาร์
"พอดีติดรับน้องอ่ะค่ะ อะไรก็ไม่รู้ วุ่นวายชะมัด"
"ชีวิตเด็กปีหนึ่งก็แบบนี้ อย่าลืมละว่าถ้ามีใครถามอายุ ให้บอกว่ายี่สิบแล้วนะ ไม่งั้นไม่ได้ทำงานแน่"
"ทราบแล้วค่า" เธอตอบรับไปด้วยรอยยิ้มแล้วหันไปจัดเตรียมบาร์ ความจริงช่วงอายุของเธอยังไม่เหมาะที่จะทำงานในสถานที่แบบนี้ แต่เพราะความช่วยเหลือของมาตินทำให้เธอได้เข้ามาทำ ชีวิตที่ต้องหาเงินเองมันไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ตอนกลางวันต้องเรียนก็เลยต้องหาเงินช่วงกลางคืนแทน
"นึกยังไงชวนมาร้านนี้ กูไม่เห็นเคยมาเลย" ริวถามคิมหันต์ที่เดินนำหน้าเขาอยู่
"กูเห็นคนรีวิวเยอะ เลยอยากลองมา สาวเพียบ ไม่สนใจหรอว่ะ"
"เดี๋ยวก็รู้ว่าดีอย่างที่รีวิวรึเปล่า นั่น...ข้าวหอมป่ะว่ะ"ทิวเขาชะงักไปก่อนจะเอ่ยทักขึ้นมาจนรามิลหันไปมอง ท่าทียิ้มแย้มพูดคุยทั้งสายตาหวานหยาดเยิ้มของบาร์เทนเดอร์ร้านนี้เรียกรอยยิ้มเขาได้ไม่ยากเลย ดูแตกต่างจากตอนที่เจอที่มหาลัยมากจริงๆ
"B52 หน่อยครับ"
"ได้ค่า พี่!"
"ครับน้องข้าวหอม"
"พี่รู้ชื่อฉันได้ยังไง"
"ตอนรับน้องก็ใส่ป้ายชื่อไม่ใช่หรอ เราต่างหากจำชื่อพี่ไม่ได้"
"แค่ไม่อยากจำ" ประโยคแทงใจดำแต่กลับทำให้เขายิ้มออกมา คนตรงหน้าน่าสนใจมากจริงๆนั่นแหละ
"ทำไมมาทำงานที่นี่ได้ละ อายุไม่ถึงไม่ใช่หรอ"
"สมัยนี้พวกเด็กอายุไม่ถึงยังมาเที่ยวเลย แปลกตรงไหนว่ะไอริว" ทิวเขาหันไปพูดกับเพื่อนแบบไม่รอให้ข้าวหอมได้เอ่ยปากตอบ
"ว่าแต่มีเหล้าที่แรงกว่า B52 ไหมคะคนสวย"
"พี่ริวคะ"
"ขาาาา"
"ไปหม้อที่อื่นเลยไป"
"แรงอ่ะ"
ข้าวหอมยืนชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าทั้งมีรามิลนั่งอยู่หน้าบาร์ไม่ห่าง เขาได้แต่รอบสังเกตใบหน้าที่มีเครื่องสำอางค์แต่งเติมนิดหน่อย ยิ่งมองก็ยิ่งมีเสน่ห์ แปลกมากจริงๆ
"พี่มาตินคะ ข้าวขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะคะ"
รามิลมองตามข้าวหอมที่เดินออกไป ดูก็รู้ว่าอีกคนคงหนีเขาที่เอาแต่นั่งมองอยู่แบบนี้ ถึงอย่างนั้นก็ยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่ ตัดสินใจลุกเดินตามคนตัวเล็กออกไป แต่ต้องหยุดชะงักเพราะเห็นเธอกำลังถูกใครบางคนฉุดกระชากอยู่
"ปล่อยได้แล้ว"
"จะเล่นตัวไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย"
"ก็บอกแล้วไงว่าข้าวไม่ได้ทำงานอย่างว่า ปล่อยสิโว้ย!" สะบัดมือแล้วผลักคนตรงหน้าให้ออกห่าง เวกัสเป็นรุ่นพี่แถวบ้านที่ตามตื๊อเธอมานาน ยิ่งเห็นเธอมาทำงานที่แบบนี้เขาก็ยิ่งตามรังควานไม่เลิก ถึงจะทำงานกลางคืนแต่ก็ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าสักหน่อย
"แค่ยอมพี่ก็สบายละ ไม่ต้องลำบากทำงาน"
"เผื่อพี่จะยังไม่รู้นะ ข้าวยอมลำบากทำงานจนตาย ดีกว่ายอมทำเรื่องอย่างว่ากับคนแบบพี่" ข้อมือถูกคนตรงหน้ากระชากเพราะความถือดี แรงบีบทำให้ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ พยายามกระชากตัวเองออกแต่ก็สู้แรงของเวกัสไม่ได้
"ผู้หญิงไม่เล่นด้วยก็ปล่อยสิว่ะ" เสียงรามิลดังมาจากข้างหลังทำให้หันไปมอง คนตัวสูงเดินตรงมากระชากเวกัสจนกระเด็นออกไป แขนแกร่งดันข้าวหอมให้ไปหลบอยู่ด้านหลัง
"แล้วมึงมาเสือกอะไร หรือว่าอยากได้มันเหมือนกัน"
"ปากมึงนี่มีแต่หมาหรอว่ะ"
"แล้วยุ่งเหี้ยอะไรด้วย คนเขาจะคุยกัน"
"ก็ผู้หญิงเขาไม่ชอบมึงไง ไม่เข้าใจอ่อ" ผลักแขนคนตรงหน้าที่พยายามขยับมาดึงข้าวหอมให้ออกไปหา คอเสื้อถูกเวกัสกระชากเข้าไปเต็มแรง รามิลถอนหายใจเพราะหงุดหงิดกับไอพวกกร่างไม่เป็นที่
"มึงจะเอาใช่ป่ะ"
"ปล่อยกู ก่อนที่กูจะซัดหน้ามึง"
"กล้าก็เอาดิ....โอ๊ยย!!" หมัดหนักซัดเข้าที่ใบหน้าเวกัสทั้งที่ยังไม่ทันพูดจบ รามิลสะบัดมือคลายความเจ็บนิดหน่อย คนที่ล้มลงทำท่าจะลุกมาสวนแต่เพื่อนเขาเดินเข้ามาซะก่อน
"ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอพวกหมาหมู่"
"ทำตัวเป็นพี่พระเอกหรอมึงอ่ะ เกิดมันมีพวกแล้วโดนยำขึ้นมา อายเขาตายห่า" ทิวเขาพูดเย้าๆแล้วส่ายหัว
"เป็นไงบ้างเรา ไม่เจ็บตรงไหนใช่เปล่า" ริวหันมาถามข้าวหอมที่ยืนจับข้อมือตัวเองอยู่
"ไม่อ่ะ ขอบคุณแล้วกันที่มาช่วย"
"พูดได้แค่นี้หรอ คนอุตส่าห์มาช่วย"
"ไม่ได้ขอสักหน่อย"
"น่าจะปล่อยให้มันลากไปเนอะ ทำดีไม่ได้ดีแท้ๆ"
"จิ๊ พี่จะเอาอะไร"
"แค่พูดขอบคุณหวานๆสักประโยคก็พอ แบบ...พี่รามิลขา ขอบคุณที่มาช่วยข้าวนะคะ พี่รามิลเท่ห์ที่สุดในโลกเลยค่ะ อะไรแบบนี้" ข้าวหอมหลับตาลงข่มอารมณ์ ไอที่ให้พูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยยังไม่หนักเท่าให้ชมอีกคนว่าเท่ห์เลย อยากจะอ้วก...ไม่ถูกชะตาเลยสักนิด
"มึงก็ไปแกล้งน้องเนอะ" คิมหันต์พูดแล้วถอนหายใจใส่ ดูจากอาการแล้วเหมือนว่ารามิลจะสนใจรุ่นน้องคนนี้เป็นพิเศษ
"กูเปล่าแกล้ง พูดจริงๆ ไหนครับ..พี่รอฟังอยู่" เอาว่ะ เห็นว่ามาช่วยจากไอบ้านั่นหรอกนะ
"พี่รามิลขาาาา......" น้ำเสียงที่ดูไม่เต็มใจสักนิดแต่ก็ยังเรียกรอยยิ้มของรามิลได้เป็นอย่างดี
"ขอบคุณที่มาข่วยข้าวนะคะ!"
"อีกประโยคนึงละ"
"พี่รามิล.....พี่่ คือพี่"
"ว่ายังไงครับ"
"พี่! รา! มิล! เท่ห์! ที่สุด! ในโลก! เลยค่ะ!"
"ถึงจะดูฝืนไปหน่อยแต่ก็โอเค ขอบคุณที่ชมนะครับ น้องข้าวหอม"
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง
"พี่ช่วย"รามิลวิ่งเข้ามาหาแล้วดึงเอาลังอุปกรณ์จัดบูธนิทรรศการของอีกคนไปถือให้ เดินเคียงกันไปไม่ได้สนใจเสียงที่กำลังพูดคุยถึงสถานะของเธอกับเขา เพราะรามิลคอยพูดย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่อยากให้เธอไปสนใจ"พี่ไม่ไปจัดบูธปีสามหรอ?" รับลังอุปกรณ์จากเขามาวางให้เข้าที่ ความจริงรามิลควรต้องอยู่จัดบูธตัวเองที่อยู่ถัดออกไปอีกสองล็อค เหลือบออกไปมองดูเห็นรุ่นพี่สาวสวยมองเธอด้วยแววตาไม่ชอบกันเหมือนเดิมอยู่ตรงนั้นก็พอจะเข้าใจว่าทำไมรามิลถึงไม่อยากไปอยู่"เดี๋ยวพี่ช่วยจัดไหม?" รามิลหันไปถามรุ่นน้องเพื่อนสนิทของคนตัวเล็ก ทุกคนแค่ยิ้มรับความหวังดีแต่ก็พากันส่ายหน้าปฏิเสธ"ไม่เป็นไรหรอก ข้าวจัดกันเองได้" ตอบเขาไปแบบนั้นแล้วยิ้มให้ รามิลพยักหน้าตอบอย่างเข้าใจ"กินอะไรรึยัง?" ก้มมองดูนาฬิการาคาแพงที่ข้อมือบ่งบอกเวลาบ่ายโมงกว่า มันควรจะเป็นเวลาสำหรับมื้อกลางวันแล้วแต่เธอดูยุ่งมากคงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องแน่"พอดียุ่งๆก็เลยยังไม่ได้ไปหาอะไรกินกันเลย""งั้นรอแปป เดี๋ยวมานะ" ส่งมือไปลูบหัวแล้วรีบเดินออกไป คนตัวเล็กมองตามอย่างงุนงงแต่ก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไร เขาคงมีเรื่องให้ทำเลยรีบออกไปแบบนั้นผ่านไปราวยี่สิบนาท่ีรามิ
ไอแดดอุุ่นกระทบผิวกายจากบานกระจกของคอนโดหรู คนตัวเล็กลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนแล้วมองไปรอบห้อง อ้อมกอดอุ่นของใครอีกคนยังคงอยู่ พลิกตัวไปหารามิลที่ยังโอบกอดเธอเอาไว้แน่น หลังจากกลับมาจากค่ายอาสาก็ได้เวลาหยุดพักผ่อน เธอกับเขาแทบไม่ได้ออกไปไหน แต่กลับรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษแค่ได้อยู่ใกล้กันแบบนี้ ดูหนัง ทำอาหาร เรื่องราวเล็กๆในแต่ละวันแต่สร้างรอยยิ้มให้เธอได้ไม่น้อย มือบางแตะลงข้างแก้มของรามิลแล้วมองดูใบหน้าหล่อที่กำลังหลับอยู่ไม่ละสายตาไปไหน หากเขาเป็นของเธอจริงๆมันก็คงจะดี ยอมรับว่าเขาดูแลเธอดีมาก แล้วมันก็ไม่แปลกอะไรที่คนที่ดูแลตัวเองมาโดยตลอดจะตกหลุมรัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกแบบนี้มันแทรกเข้ามาในใจดวงน้อยตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนรักเขาไปหมดแล้วทั้งใจ แล้วก็อยากเป็นคนเดียวที่เขาคอยดูแล อยากให้เขาใจดีแค่กับเธอ ไม่ใช่ใจดีกับทุกคน"อยากอยู่แบบนี้ให้นานๆจัง" แรงกอดรัดของอีกคนแน่นขึ้นหลังเธอพูดจูบ จมูกโด่งหอมลงที่หัวแล้วกอดเธอให้แนบชิดกับอกแกร่ง"พี่รามิล ตื่นแล้วหรอ" ไม่ได้รับคำตอบอะไรแต่แรงกอดกระชับแน่นขึ้นแทน ผ้าห่มที่ล่นลงถึงเอวเธอถูกรามิลดึงขึ้นมาคลุมกายให้ทั้งที่ยังหลับตาอยู่
มือเล็กบีบที่มือเขาแน่นยามที่คุณหมอของอนามัยในหมู่บ้านแตะสำลีชุบแอลกอฮอล์ลงบนแผลที่หน้าผาก รามิลจับมือเธอเอาไว้เหมือนกัน คอยก้มมองคนตัวเล็กที่หลับตาแน่น ดูท่าแล้วอีกคนคงจะเจ็บมาก แล้วนั่นมันก็ยิวทำให้เขาโมโหเข้าไปใหญ่"เจ็บมากหรอครับ?""อื้ม เจ็บ""เดี๋ยวต้องเย็บแผลนะคะ" ดวงตากลมโตขึ้นหลังคุณหมอบอก รามิลแอบยิ้มขำในตอนแรกแต่ใบหน้าน่ารักที่หันมามองด้วยแววตาขอความช่วยเหลือทำให้ต้องแตะมือที่แก้มนิ่มเพื่อปลอบเธอ"ไม่เย็บได้ไหมคะ?""ยังไงก็ต้องเย็บค่ะ แค่ไม่กี่เข็มเอง""พี่รามิล...."เสียงเรียกชื่อเขาดึงขึ้นอย่างกับจะบอกให้ขอร้องคุณหมอให้ "ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่นี่" นั่งลงบนเตียงกอบกุมมืออีกคนเอาไว้ตามแน่นขึ้น พยักหน้าบอกคุณหมอให้ได้ทำตามหน้าที่ เอื้อมมือข้างนึงไปลูบแก้มอีกคนไปมาไว้ให้เธอผ่อนคลาย ยามที่เข็มทิ่มลงไปมือที่เขากอบกุมอยู่ก็ยิ่งบีบแน่น"เจ็บอ่ะ" หยดน้ำใสเริ่มไหลงลงมาอย่างช้าๆจนเขาต้องเกลี่ยออกให้ ไม่นานคุณหมอก็ทำแผลที่หน้าผากเสร็จ ข้อเท้าถูกพันผ้าแก้ปวดเอาไว้ให้ด้วย รามิลให้คนตัวเล็กนั่งรอเพื่อรับยาจากหมอมาให้แล้วฟังรายละเอียดเวลาทานอยู่สักพัก หันไปอีกทีข้าวหอมก็นั่งหลับพิงเส
"อันนี้อร่อยอ่ะ" ธีธัชยื่นขนมชิ้นหนึ่งให้ทันทีหลังจากข้าวหอมพูด ดูเหมือนอีกคนจะเอาส่วนของตัวเองมาแบ่งให้เธอแล้วคะยั้นคะยอให้เธอรับไปอยู่อย่างนั้น คนตัวเล็กรับมาด้วยความเกรงใจแล้วพูดขอบคุณไป รามิลเดินมาดึงขนมออกจากมือเธอแล้ววางคืนให้ธีธัชก่อนจะวางกล่องขนมทั้งกล่องของเขาที่ยังไม่ได้แกะให้เธอแทน"ให้หรอ""ครับ" หยิบกลับมาแกะแล้ววางให้อย่างเก่า มองคนตัวเล็กที่เคี้ยวจนแก้มตุ้ยสลับกับมองธีธัชที่รอบนี้ไม่ยอมลุกออกไปจากตรงนี้เสียที มาเห็นแบบนี้ก็ได้แต่คิดว่าเขาคิดถูกแล้วที่ตามมา ไม่งั้นมันคงยุ่มย่ามกับเธอกว่านี้แน่"แล้วพี่ไม่กินหรอ?""ไม่ครับ กินให้อิ่มเถอะ" ยกมือไปลูบหัวคนที่หันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ไม่ได้สนใจว่าใครจะมองหรือพากันซุบซิบนินทา ข้าวหอมถูกเพื่อนลากออกมาตรงที่ปลอดผู้คน แล้วถูกคาดคั้นถามถึงเรื่องของเธอกับรามิลที่ดูจะเปิดเผยขึ้นทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจอย่างที่คิด คงเพราะรามิลเป็นคนแสดงออกมากกว่าเธอถึงพอสบายใจอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้อยากบอกถึงเรื่องราวที่มันลึกซึ้งให้มากมายนัก "เอาเป็นว่าถ้าพร้อมจะบอก โอเคไหม" กลุ่มเพื่อนพากันทำหน้าเสียดายแต่ก็พ
"ทำไมข้าวหอมยังไม่มาอีกอ่ะ" ปลายฟ้าหันมองซ้ายขวาหาเพื่อนที่ยังไม่มาเสียทีทั้งที่อีกสิบนาทีเครื่องก็จะออกแล้ว ยี่หวากดโทรหาแต่อีกคนก็ไม่รับสายจนนึกกังวล หรือว่าจะไม่สบายนะ สงสัยได้ไม่นานคนตัวเล็กก็วิ่งหอบกระเป๋าพะรุงพะรังเข้ามา ผมสลวยชี้ฟูเหมือนคนที่ตื่นสายแล้วรีบออกมาจากบ้านไม่มีผิด ไม่นานนักรามิลก็เดินมาแล้วขำเอ็นดู เพราะต้องแยกกันมาเพื่อไม่ให้ใครสงสัยเขาก็เลยปล่อยให้เธอวิ่งมาก่อน "ฝีมือมึงใช่ไหมเนี่ย" เสียงกระซิบของคิมหันต์ดังข้างหูเขา รามิลยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพยักหน้า แค่เมื่อเช้ายังรู้สึกว่ามีเวลาอยู่ก็เลยรังแกคนตัวเล็กนานไปหน่อย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็แทบจะถึงเวลาเครื่องออกแล้ว "มิลคะ มาแล้วหรอ?" เพื่อนสาวคู่ขาเดินเข้ามาพร้อมน้องสาวอย่างนะโมแล้วคล้องแขนเขา รามิลเห็นสายตาไม่พอใจของข้าวหอมส่งมาก็เลยดึงแขนออก รุ่นพี่คนสวยมองมาที่เธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ตัดสินใจดึงเพื่อนไปรวมกับเพื่อนปีเดียวกัน ธีธัชเดินแจกตั๋วแล้วยื่นให้รุ่นน้องตามลำดับ ถึงตัวข้าวหอมก่อนจะยื่นตั๋วที่เขาล็อคที่เอาไว้แล้วยิ้มให้เธอ คนตัวเล็กรับมันมาแบบไม่ได้พูดคุยอะไรมากเพราะไม่อยากได้รับสายตาดุจากรามิลอีก เดินขึ้นเค
Comments