ฆาตกรฆ่าคนที่แท้จริงนั้นหมายถึงหลินเย่ว์หลินเย่ว์เข้าใจความหมาย กำหมัดแน่นในทันใด "หากเจ้าอยากให้พ่อของจิ่งเหยียนรอดปลอดภัย ง่ายนิดเดียว เจ้าจงเลิกรากับจิ่งเหยียนเสีย!""ข้าไม่มีทางเลิกกับเขา" เฉียวเนี่ยนตอบเสียงเย็น สายตาหยุดอยู่บนร่างของหลินยวน "คุณหนูหลินจะไถ่โทษให้จวนโหว เมื่อถึงตอนนั้นก็สุดแล้วแต่ท่านโหวแล้วว่าเห็นสิ่งใดสำคัญ การแต่งงานของข้า หรือว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา!"หลินยวนเห็นคำขู่ในแววตาของเฉียวเนี่ยน จึงขานรับในทัน รีบรั้งแขนเสื้อของหลินเย่ว์เอาไว้ "พี่ใหญ่ ในเมื่อพ่อของรองแม่ทัพจิ่งบริสุทธิ์ ก็ไม่ควรใส่ร้ายเขานะเจ้าคะ! ขอพี่ใหญ่ช่วยเกลี้ยกล่อมท่านพ่อด้วยเถิด! หากคนพอไม่ยอมปล่อยตัวคน ข้าก็จะไม่ยอมกินข้าวเช่นกัน"เมื่อได้ยินหลินยวนพูดดังนั้น หลินเย่ว์ก็เดือดลุกเป็นไฟ "นี่เจ้าถูกแม่นั่นล้างสมองไปแล้วหรือ?"แต่เมื่อเห็นท่าที่หวาดระแวงของหลินยวน หลินเย่ว์ก็เข้าใจในทั้นที "นางข่มขู่อะไรเจ้า? เจ้าถึงได้กลัวปานนั้น"หลินยวนหลุบตาลง น้ำตาไหลริน "หากพี่ใหญ่สงสารยวนเอ๋อร์ ช่วยเกลี้ยกล่อมท่านพ่อให้ปล่อยตัวคนเถิดได้หรือไม่เจ้าคะ?""เจ้า!" หลินเย่ว์เดือดพล่าน แต่พอเห็นหลิน
เมื่อท่านโหวหลินรู้ก็เดือดดาลอย่างที่คาดการณ์ไว้ไม่รอให้เฉียวเนี่ยนกลับไปถึงเรือนฟางเหอ ทหารองครักษ์ในจวนก็ล้อมเรือนฟางเหอไว้แล้วหัวหน้าทหารองครักษ์คำนับให้กับเฉียวเนี่ยนที่เพิ่งกลับมาถึง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "ท่านโหวมีรับสั่ง ให้กักบริเวณคุณหนูใหญ่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามออกไปข้างนอกเรือนฟางเหอเด็ดขาด"เฉียวเนี่ยนคาดการณ์ไว้อยู่แล้วจึงไม่ตกใจแต่อย่างใด ขานรับเสียงเรียบแล้วเดินเข้าไปเพียงเท่านั้นแต่คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าทหารองครักษ์จะขวางเฉียวเนี่ยนเอาไว้แล้วพูดต่อ "ท่านโหวยังรับสั่งอีกว่า ในเมื่อคุณหนูใหญชอบวิธีการอดอาหาร เช่นนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป ห้ามดื่ม ห้ามกินอาหาร จนกว่าคุณหนูใหญ่จะสำนึกผิดขอรับ"เฉียวเนี่ยนทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ทว่าสีหน้ายังคงนิ่งเรียบดังเดิม "ข้ารู้แล้ว ที่นี้เข้าไปได้หรือยัง?"เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนสงบนิ่ง หัวหน้าทหารองครักษ์ก็อดสงสัยไม่ได้ คิดว่าเฉียวเนี่ยนต้องแอบเล่นตุกติกกับการถูกกักบริเวณครั้งนี้ จึงเอ่ยกระซิบเตือน "ท่านโหวส่งข้ามาเฝ้าเวรยามเรือนฟางเหอโดยเฉพาะ ระหว่างนี้ห้ามผู้ใดเข้าออกเรือนฟางเหอทั้งสิ้น หากผู้ใดฝ่าฝืนให้ฆ่าได้เลย"นั่นหมายคว
เฉียวเนี่ยนยืนอยู่หลังประตูเรือน ทอดสายตามองสระบัวยามค่ำคืนตรงหน้าสระน้ำสะท้อนแสงโคมไฟริมฝั่ง แสงไรรำไร ราวกับจะดับลงได้ทุกเมื่อ แม้แต่สะพานหินเหนือสระบัวยังสะท้อนภาพพร่ามัวเฉียวเนี่ยนสูดหายใจลึก ก่อนจะเดินไปทางสะพานหิน เสียงลมอ่อนโยนพัดผ่านใบหู สะบัดปอยผมข้างกกหูปลิวสไว แต่ผิวน้ำในสระกลับไม่แม้แต่จะกระเพื่อมไหวทันใดนั้นเองเฉียวเนี่ยนก็พลันรู้สึกว่า อาจเป็นเพราะแสงจากโคมไฟ หรือสายลมยามราตรี ไม่ว่านางจะถูกทรมานเพียงใด ก็ไม่อาจเป็นที่รักของครอบครัวอยากที่เคยเป็นได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ก้มหน้ายิ้ม ทว่าขมขื่นเหลือเกินวินาทีนั้นนางกลับรู้สึกว่าโชคดีที่มีหลินยวนหากหลินยวนอดอาหารจริงๆ ท่านโหวหลินต้องทำใจไม่ได้แน่นอน!นางเดิมพันได้เลย!ไม่ถึงสองวัน ท่านโหวหลินมาถึงเรือนฟางเหอด้วยความเดือดดาลในตอนนั้นเฉียวเนี่ยนกำลังถอนหญ้าอยู่ในเรือนต้นฤดูใบไม่ผลิ ต้นหญ้าในกระถางดอกไม้โตไวนัก หากไม่ถอน ปล่อยทิ้งไว้ไม่กี่วันเกรงว่าจะสูงกว่าดอกไม่แล้วเมื่อเห็นท่านโหวหลินพรวดพราวเข้ามาใน เฉียวเนี่ยนจึงลุกขึ้น ยื่นสองฝ่ามือเปื้อนดินให้ท่านโหวหลินก่อนจะเอ่ย "ไม่รู้ว่าวันนี้ท่านโหวจะมา
คนที่เคยคว้าเดือนคว้าดาวเพื่อลูกสาวได้ ยามนี้กลับคิดจะเอาชีวิตนางหึ!เฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะ หันหลังกลับไปถอนหญ้าตา แววตาที่หลุบลงนั้น เก็บซ่อนความโศกเศร้าที่อาจให้ใครรับรู้ได้"หากท่านโหวหลินสงสารคุณหนูหิน เช่นนั้นก็ควรปล่อยตัวคนบริสุทธิ์เสีย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกิดคุณหนูหลินอดตายขึ้นมา ข้าคงโล่งใจไปอีกหนึ่งเปราะ!" พูดถึงเพียงเท่านั้น เฉียวเนี่ยนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้บสงอย่าง เงยหน้าขึ่นมองท่านโหวหลินความรู้สึกในแววตาถูกเก็บซ่อนจนมิด ยามนี้เหลือเพียงความสะใจ "คุณหนูหลินเป็นถึงลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านโหวหลินจะเจ้าคะ ท่านโหวหลินคงทำใจยอมให้นางตายไปไม่ได้หรอกใชไหมเจ้าคะ?"ท่านโหวหลินโมโหจนหัวแทบจะกระตุกลอยขึ้นฟ้า มองท่าทางลำพองใจของเฉียวเนี่ยน ไฟโกรธในใจเขาโหมกระพือ "ดี! ดียิ่งนัก! เจ้าคิดว่าจะใช้สิ่งนี้บีบบังคับข้าได้จริงหรือ? เจ้าดูถูกพ่อเจ้าเกินไป! ครั้งพ่อเจ้าลงสนามรบสู้ศัครู เจ้ายังไม่เป็นตัวเป็นตนด้วยซ้ำ!"ท่านโหวหลินอยากจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า เขานั้นอารมณ์ร้ายปานใด ทั้งยังไม่ใช่คนที่จะยอมอ่อนข้าด้วยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนกลับเอ่ยเสียงเรียบเพียงว่า "พ่อข้าแซ่เฉียว ได้
ขอบตาดำคล้าของเฉียวเนี่ยนในยามนี้ ทำเอานางแทบใจสลายจากนั้นก็ได้ยินเฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงไร้เรี่ยวแรง "ส่งคนไป ไปดูที่ศาลาว่าการ"หนิงซวงพยักหน้ารัว "เจ้าค่ะ ข้าจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้!"ว่าจบหนิงซวงก็รีบส่งคนไปศาลาว่าการท่านโหวหลินเห็นแล้วก็ร้อนรน "เจ้าส่งคนไปดูถึงที่ ข้าคงไม่หลอกเจ้าหรอก เจ้ารีบบอกให้น้องสาวเจ้ากินอะไรเสียที!"ขณะพูดนั้นฮูหยินหลินก็เดินเข้ามา สาวใช้สองนางที่ตามติดยกโจ๊กรังนกมาคนละถ้วยเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนและหลินยวน ฮูหยินหลินก็อดปวดใจไม่ได้ รีบเรียกสาวใช้เข้ามา "เร็วเข้า รีบป้อนโจ๊กให้คุณหนูทั้งสอง"ทันใดนั้นสาวใช้สองนางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเฉียวเนี่ยนและหลินยวน ตักโจ๊กรังนกขึ้นมาช้อนหนึ่งแล้วป้อนถึงปากทั้งสองคนทว่าริมฝีปากของเฉียวเนี่ยนกลับปิดแน่น ไม่ยอมอ้าเปิดสองตามองไปทางหลินยวน แววตานั้นกำลังข่มขู่เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเฉียวเนี่ยนที่มองมา หลินยวนพลันกระตุก ปากที่กำลังอ้าออกก็หุบลงในทันที ร่างทั้งกลับลงไปนอนแน่นิ่งอีกลงบนเก้าอี้อีกครั้งนางหลับตาลง สองไหล่สั่นไหว ดูเหมือนกำลังร้องสะอื้นแต่เพราะไม่กินข้าวกินน้ำมาห้าวัน นางไม่มีน้ำตาเหลือให้ร้องไห้แล้วภา
หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนอย่างเกรี้ยวกราด เหมือนจะกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่ยอมกิน จึงเอ่ยต่อ "หากเจ้ากินน้ำถังนี้ให้หมด เขารับรองได้เลยวาจวนโหวจะไม่เล่นงานจิ่งเหยียนอีก!"เมื่อได้ยินหลินเย่ว์พูดดังนั้น ฮูหยินหลินหัวใจกระตุกไหว "เย่ว์เอ๋อร์ เหตุใดเจ้าทำเช่นนี้กับน้องสาว! นางไม่กินข้าวกินปลามาหลายวันแล้ว เหตุใดเจ้าถึงบังคับนางกินน้ำซักผ้าอีก?!"หลินเย่ว์เหลียวไปมองฮูหยินหลิน "ท่านแม่! ไม่ใช่เพราะข้าโหดเหี้นม แต่นางเจ้าเล่ห์นัก! คราวนี้นางบังคับยวนเอ๋อร์ให้อดข้าว ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำอะไรอีก? พวกท่านยังจะเชื่อนางอีกหรือ..."เมื่อสิ่นเสียง ทุกคนต่างผงะไปหลินเย่ว์ประหลาดใจก่อนจะพบว่าแม้แต่หลินยวนยังหยุดกิน ทุกคนต่างมองไปข้างหลังเขาอย่างหวาดกลัวเหมือนรู้สึกตัก หลินเย่ว์ก็แข็งทื่อไปทั้งร่าง ก่อนจะค่อยๆ หันหลังกลับไปมองภาพที่เห็นคือเฉียวเนี่ยนที่ไม่รู้ว่านั่งลงริมถังน้ำซักผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ สองมือของนางกวักน้ำซักผ้าจากถัง ตวงของที่อยู่ในถังน้ำเข้าปากนางกินไม่เร็วนัก ไม่เหมือนหลินยวนที่กลืนโดยไม่เคี้ยวนางกินอย่างสงบนิ่งสงบนิ่งเสียจนเหมือนกินอาหารปกติเพียงแต่นั่นคือน้ำล้างจานค้าง
ท่านโหวหลินเหลียวไปตวาดสาวใช้ "มัวบื้ออยู่อีก? ยังไม่รีบไปตามหมอมาดูคุณหนูใหญ่ของเจ้า! รีบไปเอาโจ๊กรังนกมา!"เมื่อสิ้นเสียงก็ยังไม่กล้าหันไปมองเฉียวเนี่ยนหนิงซวงเองก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเฉียวเนี่ยน ล้วงผ้าออกมาเช็ดมือข้างหนึ่งให้เฉียวเนี่ยน น้ำตาก็ไหลไม่หยุด "คุณหนูเจ้าขา ฮึกๆ ข้าพาคุณหนูกลับเข้าไปในเรือนนะเจ้าคะ..."ทว่าเฉียวเนี่ยนกลับมองหลินเย่ว์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ค่อยๆ เอ่ยปาก น้ำเสียงแหบพร่านั้นเอ่ยว่า "ขอท่านโหวน้อยทำให้ได้อย่างที่พูด"นับแต่วันนี้เป็นต้นจวนโหวห้ามวุ่นวายกับจิ่งเหยียนอีก!และคำพูดนั้นก็กลับมาทิ่มแทงหลินเย่ว์เขามองนางอย่างไม่เข้าใจ "เหตุใดเจ้า...ถึงได้ชอบจิ่งเหยียนปานนั้น"ชอบถึงขั้นกินน้ำล้างจานทั้งถังเพื่อจิ่งเหยียนได้เชียวหรือ?เจ้าจิ่งเหยียนนั้นมีอะไรดี นางยอมทำถึงขนาดนี้!เฉียวเนี่ยนไม่สนใจเขา ปล่อยให้หนิงซวงพยุงตัวเองเดินเข้าไปในเรือนเหตุใดนางถึงได้ชอบจิ่งเหยียนปานนั้นหรือ?นางเองก็ไม่รู้นางรู้เพียงแค่ว่า ยามนางอยู่ในจวนโหวนั้นเหมือนอยู่กลางมหาสมุทร ยามคลื่นซัดถาโถมเข้ามา นางไร้ทางเลือกอื่นนอกเสียจากตะเกียกตะกายพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อไม่ให
จิ่งเหยียนชะงักไปอดอาหารเหรอ?กินน้ำล้างจานเหรอ?หลายวันมานี้ เขายุ่งอยู่กับเรื่องของพ่อมาโดยตลอด บางครั้งพอมีเวลาว่าง เขาเป็นต้องคิดถึงนางเขารู้ว่านางต้องเป็นกังวลมากแน่ๆ คิดว่านางอาจจะกินไม่ลง นอนไม่หลับเพราะเรื่องพ่อของเขาดังนั้นเขาจึงมาโดยไม่หยุดพักเลยทหารองครักษ์ของจวนโหวไม่ให้เขาเข้าไป เขาก็ไม่กล้าปีนกําแพง กลัวว่าการกระทําที่บุ่มบ่ามของตนจะทําให้สถานการณ์ของนางยิ่งลําบากขึ้นแต่เขาไม่เคยคิดว่านางจะเสียสละมากถึงขนาดนี้ตอนแรกเขาคิดว่าที่พ่อได้รับการปล่อยตัวเพราะหลักฐานที่เขาพบนั้นเพียงพอแต่ตอนนี้เขากลับตกใจที่พบว่า การที่พ่อของตนสามารถออกจากศาลาว่าการได้ เป็นเพราะนางอดอาหารต่อต้าน กินน้ำล้างจาน!หัวใจของเขาเหมือนถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรงโดยบางสิ่งบางอย่างจิ่งเหยียนไม่เคยเกลียดตัวเองขนาดนี้มาก่อนเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ เขาสัญญาแล้วว่าจะปกป้องนาง แต่สุดท้ายกลับปล่อยให้นางถูกทรมานถึงขนาดนี้เพื่อตัวเอง!ในเวลานี้ หลินเย่ว์พบโอกาสและหลุดพ้นจากการคุมขังของจิ่งเหยียนทันที เขาต่อยไปที่ใบหน้าของจิ่งเหยียนสองหมัด"ก็เพราะเจ้านั่นแหละ! ไอ้สารเลว! เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแต
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด