เพียงแต่ อาจเป็นเพราะนานมากแล้ว และไม่เหมือนสภาพอย่างจิ่งเหยียน ที่ในโลงศพยังรวยไปด้วยปูนขาว แขนขาดข้างนี้มีกลิ่นคาวเหม็นออกมาแล้วทำให้ฝ่าบาทอดบีบจมูกแน่นไม่ได้ ก่อนกล่าวด้วยความไม่พอใจ “เจ้าให้เราดูอะไร?”ได้ยินเซียวเหิงกล่าว “ฝ่าบาทรู้สึกไหมว่ารอยสักสีดำบนแขนที่ขาดนี้ดูคุ้นตาไหมพะย่ะค่ะ?”ได้ยินเช่นนี้ ฝ่าบาทก็อดทอดพระเนตรแขนขาดนั้นอีกครั้งไม่ได้ ก่อนพบว่าบนแขนขาดนั่นมีรอยสักสีดำรอยหนึ่งจริงๆ เมื่อเพ่งมองดูแล้ว มันคือหัวเสือ!“ตอนนั้นหนึ่งในโจรภูเขาที่ฆ่าหมิงอ๋องก็มีรอยสักสีดำนี้เช่นกัน เริ่มแรกกระหม่อมไม่ได้สนใจ ทว่าต่อมาพบว่า ในหมู่โจรภูเขาที่หยงเป่ยกลุ่มนั้น บนตัวคนที่มีวรยุทธล้ำเลิศต่างก็สักหัวเสือนี้พะย่ะค่ะ”จากคำพูดของเซียวเหิง ฝ่าบาทได้เดินอ้อมจากโต๊ะมาอยู่ด้านข้างแขนขาดนั่นแล้ว พลางโน้มตัวลง เพ่งมองอย่างละเอียดได้ยินแค่เพียง เสียงที่เหมือนผีโหยหวนเจือไปด้วยความเยือกเย็นและเหน็บหนาวของเซียวเหิงดังเข้ามา "ฝ่าบาทรู้สึกไหมว่า นี่คืออดีตหน่วยพยัคฆ์องครักษ์?"เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ฝ่าบาทก็ตกใจจนทรุดฮวบนั่งลงไปกับพื้นทันทีขันทีน้อยที่อยู่ด้านข้างตกใจ ปรี่จะเข้ามาพยุง
เจ็ดวันต่อมาเฉียวเนี่ยนกำลังนั่งอยู่ในห้อง มองลานบ้านเล็กๆ ของนอกห้องนั้นด้วยความเหม่อลอยตอนที่หนิงซวงมา สิ่งที่เห็นก็เป็นภาพเช่นนี้ซึ่งเป็นมาติดต่อกันเจ็ดวันแล้วคุณหนูของนางตื่นมาก็ไม่ทำอะไร ได้แค่เหม่อลอย และซูบผอมลงทุกวันนางรู้ การตายของฮูหยินเฒ่ากับรองแม่ทัพจิ่งเป็นเหมือนดังน้ำวน กำลังดึงคุณหนูนางจมสู่ก้นบึ้งอันมืดมิดที่สุดและตอนนี้คนที่สามารถดึงคุณหนูนางออกมาได้ ก็มีเพียงแค่นางเมื่อคิดได้เช่นนี้ หนิงซวงก็ตรงเข้าไปดึงเฉียวเนี่ยนเดินไปข้างนอก "คุณหนูตามข้าไปที่ๆ หนึ่ง!"แรงของยัยเด็กนี่มากมาตลอด เฉียวเนี่ยนได้แค่ถูกฝืนให้ตามไปโชคดีที่ไม่นานก็หยุดลงหนิงซวงลากเฉียวเนี่ยนมาที่สวนดอกไม้ตอนนี้กำลังเป็นเดือนห้า ดอกไม้ใบหญ้าแต่ละชนิดกำลังผลิดอกออกผล ภายใต้แสงแดด ทั้งสวนเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาทว่า ความมีชีวิตชีวาเช่นนี้ไม่สามารถสั่นคลอนเฉียวเนี่ยนได้เลยสักนิดนางเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก้ไม่อยากปัดน้ำใจของหนิงซวง แต่ว่า...นางแค่อยากจะกลับไปพักอยู่เฉยๆ จริงๆทว่า จู่ๆ หนิงซวงวิ่งออกไปไกล พลางตะโกนใส่เฉียวเนี่ยน "คุณหนูดูสิ นี่คืออะไร?"หนิงซวงชี้ต้นไม้ที่อยู่ด
นางกลัวว่าระหว่างทางจะเจอกับอันตราย อาจทำร้ายหนิงซวงได้นางทำร้ายคนไปไม่น้อยแล้วนางมิอาจให้หนิงซวงตามนางได้ทว่าหนิงซวงไม่ยอมอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานดวงหน้านั้นก็ร่ำไห้ออกมา "คุณหนูอยากหาคนเฝ้า บ่าวไปหามาให้ได้ ขอร้องคุณหนูพาบ่าวไปด้วย บ่าวไม่อยากแยกกับคุณหนู!"เห็นหนิงซวงดื้อดึงเช่นนี้ เฉียวเนี่ยนรู้สึกหงุดหงิดในใจอย่างมาก นางไม่อยากให้หนิงซวงเสียใจมากเกินไป เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทำได้แค่เปลี่ยนหัวข้อ "เช่นนั้น เรื่องนี้ไว้เราค่อยคุยกัน เจ้าไปร้านเสื้อผ้าซื้อชุดผู้ชายแทนข้ามาสองชุดได้หรือไม่?"ออกไปข้างนอก แต่งชุดผู้ชายสะดวกกว่าหนิงซวงถึงได้ปาดน้ำตา และพยักหน้า "เช่นนั้น บ่าวไปครู่เดียวเดี๋ยวกลับ คุณหนูรอบ่าวกลับมานะเจ้าค่ะ""อืม"เฉียวเนี่ยนขานรับ หนิงซวงก็ปาดน้ำตาเดินจากไปนางถึงได้กลับไปห้อง เตรียมเก็บสัมภาระง่ายๆ ทว่ากลับมองจดหมายฉบับนั้นที่อยู่ไม่ไกลอย่างแปลกใจมันคือจดหมายที่จิ่งเหยียนมอบให้เซียวเหอนางเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว!ในเมื่อจะจากไป เช่นนั้นก่อนไปนางต้องนำจดหมายฉบับนี้ไปมอบถึงมือเซียวเหอเสียก่อนคิดได้เช่นนี้ เฉียวเนี่ยนก็หยิบจดหมายออกจากบ้านไปคร
เฉียวเนี่ยนไม่ชอบน้ำเสียงในเวลานี้ของเซียวเหิงจริงๆ มันดูเป็นการถามอย่างตรงไปตรงมาทว่า นางจะอยู่หรือไม่อยู่ที่นี่ หรือว่านางจะอยู่ที่ไหน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา?สีหน้าจึงขรึมลงทันที แต่เมื่อนึกได้ว่านางจะไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองน้ำลายอะไรกับเขา จึงตอบกลับอย่างราบเรียบ "จิ่งเหยียนทิ้งจดหมายไว้ให้ท่านพี่เซียวก่อนตาย ข้านำมาส่งให้"ขณะว่า ก็คำนับเซียวเหิง "ไม่รบกวนแม่ทัพเซียวแล้ว ข้าขอตัวก่อน" จากนั้นก็สาวเท้าจากไปเป็นการบ่งบอกว่าไม่อยากต่อความกับเขามากไปกว่านี้มองแผ่นหลังของนาง เซียวเหิงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนหันกลับมาพบว่า เซียวเหอยังคงดื่มชาอยู่เขาเข้าไปในห้อง เหลือบมองถ้วยชาตรงหน้าเซียวเหอ ก่อนถามขึ้นมา "นางมาทำอะไรหรือ?"เซียวเหอหาได้ปรายตาขึ้นมองเซียวเหิง แต่ตอบกลับอย่างเรียบเฉย "มาส่งจดหมายแทนจิ่งเหยียน"เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เขาถึงมองเซียวเหิงด้วยความสงสัยเล็กน้อย "เมื่อครู่นางก็บอกแล้วมิใช่หรือ?"สีหน้าเซียวเหิงยังคงเคร่งขรึม "ไม่ได้พูดอย่างอื่นอีกหรือ?"เซียวเหอละสายตากลับมา และวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ "พูดสิ"ได้ยินเช่นนี้ น้ำเสียงของเซียวเหิงเจือไปด้วยความร้อนใจ "พูดว่าอะไร
เฉียวเนี่ยนตอบไม่ค่อยได้เท่าไรนักนางย่อมไม่อยากให้หนิงซวงตกอยู่ในอันตราย ทว่า...เมื่อนึกถึงหลังจากที่ตัวเองจากไป หนิงซวงร้องให้จนไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้เหมือนอย่างตอนนี้ นางก็ใจร้ายไม่ลงเห็นเฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบในทันที หนิงซวงก็คลายตัวออกจากเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่ดูน่าสงสารจ้องมองไปที่เฉียวเนี่ยนอยู่อย่างนั้น แล้วถามขึ้นมาอีกครั้ง "คุณหนูจะทิ้งบ่าวไหม?"เห็นท่าทางนี้ของหนิงซวง เฉียวเนี่ยนก็พ่ายแพ้ในที่สุด "ไม่หรอก""เช่นนั้นเดี๋ยวบ่าวจะไปเก็บสัมภาระเดี๋ยวนี้!" หนิงซวงแถมดีดตัวออกจากอ้อมกอดเฉียวเนี่ยนทันที นางปาดน้ำตาไปพลาง ปรี่เข้าห้องตัวเองไปพลางเห็นท่าทางกระตือรือร้นของหนิงซวงเช่นนี้ เฉียวเนี่ยนก็อดส่ายหน้าไม่ได้ได้คิดแค่ว่า ช่างมันเถิด จะตามก็ปล่อยตามไปเถอะ!นางระวังนิด ปกป้องหน่อย ก็พอแล้วหนิงซวงเก็บสัมภาระใช้เวลาไปสองชั่วยาม ในระหว่างนั้นยังไปหาหวังเอ้อ นำกุญแจเรือนเล็กหลังนี้มอบให้หวังเอ้อเมื่อทั้งสองนั่งอยู่บนหลังม้าเรียบร้อย ก็เป็นเวลาบ่ายแล้วเวลานี้เฉียวเนี่ยนได้เปลี่ยนเป็นชุดผู้ชายแล้ว ดูค่อนข้างมีเสน่ห์เลยทีเดียวหนิงซวงแต่งชุดคนรับใช้เหมือนเดิม
ตอนนี้ค่อยๆ มาถึงจุดเข้าออกของเมืองแล้ว ประกอบกับคำพูดที่น่า 'ประทับใจ' ของหลินยวนแล้ว บริเวณโดยรอบก็มีผู้คนมาล้อมอย่างไม่ขาดย่อมไม่พ้นมีการชี้ๆ ด่าๆ'การแสดง'ของหลินยวนก็ยิ่งเพิ่มใหญ่มากขึ้น น้ำตาไหลออกมาจากสองข้างแก้ม นางถึงขั้นคุกเข่าให้เฉียวเนี่ยนต่อหน้าทุกคน"ยวนเอ๋อร์!" หลินเย่ว์ตกใจ รีบไปพยุงนางลุกขึ้น "เจ้าทำอะไรนะ!"ทว่าหลินยวนกลับไม่สนการขัดขวางของหลินเย่ว์ ยืนกรานคุกเข่า เสียงเจือไปด้วยการสะอื้น ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก "พี่หญิง ข้ารู้ ท่านรู้สึกมาตลอดมาข้าแย่งของของท่านไป แย่งความรักของท่านพ่อท่านแม่ แย่งความโปรดปรานจากพี่ใหญ่ไป แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น!""ท่านพ่อท่านแม่ยังคงรักท่าน พี่ใหญ่ก็ยังรักท่านมาก! ท่านอย่าเอาแต่ใจเลย กลับไปกับพวกเราเถิดนะ? หากท่านรู้สึกว่าไม่ชอบ ข้าย้ายออกไปจากจวน อยู่คนเดียวก็ได้ ข้าคืนทุกอย่างให้ท่านได้!""ท่านผู้หญิงตัวคนเดียว จากเมืองหลวงแล้วจะไปไหน? หากระหว่างทางเจออันตรายจะทำเช่นไร? ท่านพ่อท่านแม่และพี่ใหญ่จะเป็นห่วงท่านมากแค่ไหน ท่านรู้บ้างหรือไม่?"มันช่างน่าร้องไห้น้ำตาไหลจริงๆ ข้ารู้สึกเห็นใจนักเสียงตำหนิจากทั่วบริเวณดังมากขึ้น “แม่เจ
สีหน้าของหลินยวนพลันซีดขาวขึ้นมา กลับได้ยินเสียงถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ในฝูงชนว่า “เจ้าพูดจริงหรือ?""แน่นอนสิ!" เฉียวเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ดวงตาทั้งคู่จ้องมองหลินยวนตั้งแต่ต้นจนจบหนิงซวงที่อยู่ข้างๆ ก็เลิกคิ้วและพูดอย่างเต็มอกทันทีว่า "มีอะไรให้โกหกกัน ต้นเหมยที่หายากต้นหนึ่งในเรือนลั่วเหมยมีค่าสามร้อยตําลึง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไข่มุกราตรีที่ท่านโหวน้อยหามาให้คุณหนูของข้าในตอนนั้น! ถ้าแม่นางหลินสามารถคืนทุกอย่างให้คุณหนูของข้าได้จริงๆ เงินคนละสิบตําลึง ก็แค่ไหลออกมาจากซอกนิ้วเท่านั้น"คําพูดเหล่านี้ทําให้คนรอบข้างใจเต้นไม่หยุดสิบตําลึง!นั่นคือเงินที่พวกเขาสองสามปียังเก็บไม่ได้เลย!แต่ไม่คิดว่า เฉียวเนี่ยนกลับเอ่ยอีกครั้ง "ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสัญญาหมั้นหมายกับตระกูลเซียวด้วย หากข้าได้เป็นนายหญิงของตระกูลเซียว จะต้องขอบคุณแม่นางหลินอย่างแน่นอน"เมื่อได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนจะแย่งแม้กระทั่งการหมั้นหมาย ท่านโหวหลินที่อยู่ในโรงน้ําชาก็ทนไม่ไหวแล้ว อยากจะรีบออกมาห้ามทันทีแต่กลับได้ยินหลินเย่ว์ตําหนิเฉียวเนี่ยนก่อน"เจ้าพอแล้ว ยวนเอ๋อร์หวังดีมาเกลี้ยกล่อมให้เจ้ากลับไป แต่เจ้ากลับได้คืบจะ
คําพูดนี้ อย่าว่าแต่หลินยวนและหลินเย่ว์เลย แม้แต่ท่านโหวหลินที่อยู่ในโรงน้ำชาก็ยังตกใจจนต้องถอยหลังไปสามก้าวคาดไม่ถึงเลยว่านางจะพูดออกมา!เรื่องที่พวกเขาซ่อนไว้อย่างดีเมื่อสามปีก่อน กลับถูกเฉียวเนี่ยนพูดออกมาแบบนี้!นี่ ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูของฮ่องเต้ จวนโหวจะต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่!นางกําลังจะทำให้จวนโหวจมดิ่งลงไปในเหวลึก!ชาวบ้านต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก พวกเขารู้แค่ว่าเมื่อสามปีก่อนลูกสาวบุญธรรมของจวนโหวได้ทําผิด ดังนั้นจึงถูกลงโทษให้เข้ากรมซักล้าง แต่กลับไม่เคยรู้เลยว่าความจริงของเรื่องนี้คืออะไร!คาดไม่ถึงว่าจะถูกใส่ร้าย!เมื่อเห็นชาวบ้านเริ่มตําหนิจวนโหว หลินเย่ว์ก็ร้อนใจ "เฉียวเนี่ยน! เจ้าอย่าใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นนะ!""ใส่ร้ายป้ายสี?" เฉียวเนี่ยนมองหลินเย่ว์ด้วยสายตาเย็นชา "ท่านโหวน้อยหมายความว่าข้าโกหกใส่ร้ายจวนโหวหรือ? งั้นเรื่องที่ก่อนหน้านี้ข้าถูกพาตัวไปตีจนปางตายที่เฉิงซี ท่านโหวน้อยต้องอธิบายสักหน่อยไหม ถือโอกาสพูดเรื่องที่ข้าถูกเจ้าทําร้ายจนบาดเจ็บหนักที่วัดฝ่าหัวด้วยหรือไม่?"แค่ฉีกหน้าเท่านั้น เฉียวเนี่ยนไม่สนใจเลยสักนิดเพียงแต่ชื่อของหมิงอ๋องยังคงถูกนางปิดบังไ
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด