โทสะเมื่อครู่เหมือนถูกสายน้ำเย็นชะล้างจนแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกนาง...ถึงกับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย…เซียวเหิงบังคับตนเองให้ละสายตากลับมา หลับตาลงก่อนส่ายศีรษะ "ไม่เป็นไร"จี้เยว่ยังคงเป็นกังวล ทว่า สิ่งที่เขาห่วงยิ่งกว่าก็คือเจ้านายของตนเองในเมื่อเซียวเหิงบอกว่าไม่เป็นไร อีกทั้งบาดแผลที่ขาก็ได้รับการพันแผลเรียบร้อยแล้ว จี้เยว่จึงกล่าวว่า "คุณชายรอง แช่น้ำไปก่อนสักครู่ อีกเดี๋ยวบ่าวจะกลับมารับใช้ท่านอีกที"เมื่อกล่าวจบ เขาก็เดินไปหาเซียวเหอยาแช่เท้าของเซียวเหอต้องแช่ให้ครบเวลาหนึ่งชั่วยามเฉียวเนี่ยนกังวลว่าจี้เยว่จะดูแลคนเดียวไม่ไหว จึงกะจะอยู่รอจนกระทั่งเซียวเหอแช่เท้าเสร็จ แล้วจึงค่อยกลับเรือนของตนคืนนั้นนางหลับสนิทตลอดคืนเช้าวันรุ่งขึ้น สิ่งแรกที่เฉียวเนี่ยนทำก็คือไปดูอาการของเซียวเหอเพราะเมื่อคืนเป็นการรักษาครั้งแรก นางจึงต้องไปตรวจดูให้แน่ใจนางเคาะประตูเบาๆ ก่อนเอ่ยเรียก "ท่านพี่เซียว ข้าเข้าไปได้หรือไม่?"แต่ในห้องกลับไม่มีเสียงตอบรับเฉียวเนี่ยนแอบเงยหน้ามองพระอาทิตย์ เวลานี้แล้ว เซียวเหอไม่น่าจะยังไม่ตื่นเช่นนั้น ไฉนถึงไม่มีเสียงตอบกลับ?หรือว่าหลังจาก
หากเซียวเหิงไม่กล่าวสิ่งนี้ออกมายังดี แต่พอเขาเอ่ยขึ้นมา กลับยิ่งทำให้ความโกรธของเฉียวเนี่ยนปะทุหนักขึ้นไปอีก"เซียวเหิง เจ้าฟังให้ดี ข้าคือพี่สะใภ้ของเจ้า! ข้ากับพี่ชายเจ้าจะแต่งงานกันด้วยความรักหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับเจ้า! เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า! ถอยไป!"กล่าวจบ นางก็ออกแรงผลักเซียวเหิงสองครั้ง แต่เขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย!กลับกลายเป็นว่ามือของนางถูกเขากดลงแนบแผงอกตัวเอง ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านผ่านอาภรณ์เข้าสู่ฝ่ามือนางมันร้อนราวกับถูกเปลวเพลิงเผาไหม้เฉียวเนี่ยนรีบจะดึงมือกลับมา แต่กลับเป็นว่าแรงกดของเขากลับยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม"เนี่ยนเนี่ยน..."เสียงเรียกแผ่วเบาดังขึ้นจากเหนือศีรษะของนาง แฝงความแหบพร่าและอ่อนล้าแต่ก่อน เขาไม่เคยใช้เสียงเช่นนี้เรียกนางเลยสักครั้งร่างของเฉียวเนี่ยนชะงักไปทันที นางสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนเงยหน้าสบตากับเขาในดวงตาของนาง มีทั้งความโกรธ ดื้อรั้น และประกายแดงเรื่อที่ยากจะคาดเดาแต่เสียงของนางกลับเย็นเยียบ "แม่ทัพเซียว หรือเจ้าต้องการให้ตระกูลเซียวเต็มไปด้วยข่าวลือชั่วช้าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องชายและพี่สะใภ้?"เซียวเหิง
แต่คิดไม่ถึงว่า นางจะพบกับจี้เยว่ที่กำลังเข็นรถพาเซียวเหอกลับมาพอดีเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนออกมาจากเรือนของตนเอง เซียวเหอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เขากำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับสังเกตเห็นว่าดวงตาของนางขึ้นสีแดงเรื่อสีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมลงทันทีเฉียวเนี่ยนเองก็ไม่คิดว่าจะพบเซียวเหอในเวลานี้ นางสูดลมหายใจลึก พยายามปรับอารมณ์ที่สับสนของตนเอง ก่อนเดินเข้าไปยิ้มแล้วถามว่า "ท่านพี่เซียว ออกไปที่ไหนมาตั้งแต่เช้าหรือ?"ท่าทางทำเหมือนไม่มีอะไรของนาง กลับทำให้หัวใจของเซียวเหอรู้สึกเหมือนถูกบีบสายตาของเขาเหลือบมองไปยังห้องของตนเองประตูเปิดกว้าง ภายในเรือนยังเห็นเงาคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่รางๆจนกระทั่งเฉียวเนี่ยนเดินมาหยุดตรงหน้าเขา เซียวเหอจึงเงยหน้าขึ้นมองนาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงด้วยโทสะบางเบาที่แทบสัมผัสไม่ได้ "ถูกรังแกมาหรือ?"เฉียวเนี่ยนชะงัก ก่อนจะตระหนักได้ว่าตนเองยังจัดการอารมณ์ได้ไม่ดีพอ และถูกเซียวเหอมองออกจนได้แต่เพราะไม่อยากให้เซียวเหอกังวล นางจึงรีบส่ายศีรษะ "เปล่า เปล่าสักหน่อย"แต่เซียวเหอไม่เชื่อขณะนั้นเอง เซียวเหิงที่แต่งกายเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากเร
เฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าเซียวเหอเป็นห่วงตนเพียงแต่ว่า อย่างไรเซียวเหอกับเซียวเหิงก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดไม่พูดเรื่องอื่น เอาแค่เมื่อคืนหลังจากเซียวเหิงถูกวางยา สิ่งแรกที่เขาคิดถึงคือมาขอความช่วยเหลือจากเซียวเหอ และวันนี้เซียวเหอก็ออกไปตามหายาแก้ให้เขาตั้งแต่เช้า สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสองแน่นแฟ้นเพียงใดไม่มีความจำเป็นที่พี่น้องคู่นี้จะต้องมาบาดหมางกัน เพียงเพราะคนที่จะจากไปในอีกสามปีเช่นนางเลยเฉียวเนี่ยนจึงกล่าวขึ้น "ต่อไปข้าจะระวังให้มากขึ้น"ระวัง…ไม่ให้ต้องอยู่กับเซียวเหิงเพียงลำพังอีกก็พอเซียวเหอเองก็จับความหมายในคำพูดของเฉียวเนี่ยนได้ จึงได้แต่เงียบไปเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มอึมครึม จี้เยว่ที่เงียบอยู่นานก็พลันเอ่ยขึ้นมา "คุณชายใหญ่ บ่าวเห็นว่าวันนี้อากาศดีนัก ไม่สู้เราไปต่อชิงช้ากันเลยเถิดขอรับ?"เฉียวเนี่ยนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยความประหลาดใจ "ท่านพี่เซียวเองก็อยากต่อชิงช้าด้วยหรือ?"ไม่ทันขาดคำ หนิงซวงที่เพิ่งกลับมาจากห้องครัวพร้อมอาหารเช้าก็เดินเข้ามาเมื่อได้ยินว่าจะต่อชิงช้า เด็กสาวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที "ต่อชิงช้
และตรงหน้า ก็เป็นภาพของนางที่งดงามราวกับภาพฝันทุกสิ่งทุกอย่างงดงามเกินกว่าจะเป็นจริงมุมปากของเซียวเหอเผลอคลี่ยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าเบื้องหน้าของเขายังคงมีม่านบางๆ ที่มองไม่เห็น คั่นกลางระหว่างเขากับความงดงามนั้นแต่เพียงได้เฝ้ามองฉากนี้ด้วยตาตนเอง ก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างประหลาดแต่คิดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาพร้อมรอยยิ้มสดใส "ท่านพี่เซียว รีบมาช่วยข้าผลักชิงช้าหน่อยสิ!"เซียวเหอชะงักไปครู่หนึ่งแต่สองมือกลับเลื่อนไปจับล้อรถเข็นก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวทางจี้เยว่ก็รีบก้าวเข้าไปทางเฉียวเนี่ยน "ข้าช่วยเองๆ!"เขาหรือจะปล่อยให้นายของตนต้องลงมือทำ "งานหนัก" เช่นนี้คิดไม่ถึงว่า หนิงซวงจะดึงแขนเขาไว้ ก่อนจะตบไหล่เบาๆ กระซิบจี้เยว่เสียงเบาว่า "เจ้าจะเข้าไปยุ่งทำไม?"จี้เยว่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเห็นว่าเซียวเหอได้ไปยืนอยู่ด้านหลังเฉียวเนี่ยนแล้ว และยื่นมือออกไปผลักชิงช้าเบาๆนางไกวชิงช้าไปมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งสดใสขึ้นเรื่อยๆส่วนเซียวเหอที่อยู่ด้านหลัง ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มชัดเจนกว่าครั้งไหนๆจี้เยว่รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาทันทีเขาเคยคิดหลายครั้งว่าคุณ
อีกด้านหนึ่ง เซียวเหิงก็กลับมายังเรือนของตนแล้วแม้ว่าตอนนี้มีหลินยวนอยู่ในเรือน ทำให้เขาไม่อยากกลับมานัก แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จำเป็นต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปที่กองทัพในลานเรือน บรรดาสาวใช้กำลังทำความสะอาดอยู่มองไม่เห็นความผิดปกติใดๆเซียวเหิงเดินตรงไปยังห้องหนังสือของตนเอง แต่ไม่คาดคิดว่ากลับมีคนมาขวางทางกลางคัน"ท่านแม่ทัพ! รีบไปดูคุณหนูของข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ! นางขังตัวเองอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยอมออกมาเลย!"สาวใช้ตรงหน้าดูคุ้นตา เซียวเหิงจำได้ว่านางชื่อเสี่ยวหวน เป็นสาวใช้ที่ติดตามหลินยวนมาตั้งแต่แต่งงานเมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวเหิงก็เหลือบมองไปยังเรือนของหลินยวน แต่เพราะเรื่องเมื่อคืนมันเหลวไหลเกินไป อีกทั้งวันนี้เขาก็เพิ่งถูกเฉียวเนี่ยนทำให้หงุดหงิดมา จึงไม่มีอารมณ์ไปสนใจหลินยวนอีกเขาเพียงเอ่ยเสียงเย็นชา "เมื่อไหร่ที่นางอยากออกมา นางก็ออกมาเองนั่นแหละ"พูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินจากไปแต่ไม่คาดคิดว่า จู่ๆ ภายในห้องกลับมีเสียงดัง "ปัง"บรรดาสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ข้างนอกต่างสะดุ้ง "เสียงอะไรน่ะ?"แต่เสี่ยวหวนกลับหน้าซีดเผือด นางวิ่งไปที่หน้าประตู ตะโกนลั่น
นางจึงทำได้เพียงใช้ทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือตัวเอง!เมื่อเห็นหลินยวนที่เป็นเช่นนี้ สุดท้ายแล้ว ในใจของเซียวเหิงก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เรื่องราวในอดีต ความจริงเป็นเช่นไรยังต้องตรวจสอบให้แน่ชัดแต่ในตอนนี้ ชัดเจนว่าเขาได้ตัดสินนางไปแล้ว ทั้งที่ความจริงยังไม่ได้กระจ่างเมื่อคิดถึงภาพของหลินยวนที่เคยอ่อนแอและขี้ขลาด เทียบกับความบ้าคลั่งของนางเมื่อคืนนี้เซียวเหิงก็พลันตระหนักได้ว่า หลินยวนกลายเป็นเช่นนี้...ล้วนเป็นเพราะเขาเซียวเหิงสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะลุกขึ้นยืน และก้าวตรงไปยังหลินยวนเขายื่นมือออกไป อุ้มหลินยวนขึ้นจากพื้น แล้วเดินไปยังเตียงหลินยวนชะงักงัน น้ำตายังคงเกาะอยู่บนขนตาของนางนางคิดว่าเซียวเหิงอาจคิดอะไรได้บางอย่าง หรือไม่ก็ ผลของยาที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเขา ทำให้เขาต้องการจะ...แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เซียวเหิงวางนางลงบนเตียงแล้ว เขากลับเพียงดึงผ้าห่มมาคลุมให้นาง ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นชา "เรื่องเมื่อคืนนี้ จะไม่มีคนนอกรู้"ถึงอย่างไร เมื่อคืนนี้เขาก็กลับมาดึกมาก บ่าวไพร่ในจวนล้วนหลับกันไปหมดแล้วถึงแม้ว่าภายหลังจะมีคนได้ยินเสียงของหลินยวน เขาก็ย่อมมีวิธีที่จะปิดเรื่
หลินยวนตกใจรีบลุกพรวดขึ้นนั่งบนเตียง "พบข้า? เขาจะพบข้าทำไม!?"เขาเป็นตัวสารเลวที่เลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง!คนชั่วช้าเยี่ยงนั้นจะมาพบกับนางเพื่อเรื่องดีได้อย่างไร!?เสี่ยวหวนดูเหมือนจะตกใจกับปฏิกิริยาของหลินยวน นางจึงถอยหลังไปสองก้าว พร้อมส่ายหน้ารัว "บ่าว...บ่าวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ"หัวใจของหลินยวนเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกจากอก แม้แต่ลมหายใจก็ยังหนักหน่วงขึ้นชิวอวี่ต้องการใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นางแน่!แต่...เซียวเหิงก็รู้เรื่องนี้ไปแล้ว ชิวอวี่จะเอาอะไรมาข่มขู่นางได้อีก?นางสามารถเลือกที่จะไม่ไปพบเขาได้หนิแต่...คนสารเลวเยี่ยงชิวอวี่ หากไม่ทำตามที่เขาต้องการ นางก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก!หากเขาปล่อยข่าวลือไปทั่วล่ะ จะทำอย่างไร!?จิตใจของหลินยวนปั่นป่วนอย่างหนัก นางลังเลไม่สามารถตัดสินใจได้แต่ในที่สุด นางก็ค่อยๆ สงบลงนางหันไปมองเสี่ยวหวน ถามเสียงเข้ม "มีใครรู้อีกหรือไม่?"เสี่ยวหวนรีบส่ายหน้า "บ่าวไม่กล้าบอกใครทั้งนั้นเจ้าค่ะ"หลินยวนขมวดคิ้ว มองสำรวจเสี่ยวหวน ก่อนจะบีบน้ำตาสองหยดออกมาอย่างจงใจนางเอื้อมมือไปกุมมือเสี่ยวหวนไว้ เอ่ยเสียงสั่นเครือ "เสี่ยวหวน ตอนนี้
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” ท่านโหวหลินตกใจมาก ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วฮูหยินหลินเองก็เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน มองหลินเย่ว์ด้วยความไม่เชื่อหลินยวนก็ตกใจมากเช่นกัน ทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไมหลินเย่ว์ถึงทำตัวผิดปกติเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้หรือ?เพราะเฉียวเนี่ยนตายแล้วรึ?แต่ในขณะนี้ หลินยวนไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้นเฉียวเนี่ยนตาย แล้วนางจะปัดความรับผิดชอบเรื่องของย่าเฉาได้อย่างไร?นางจะโยนความผิดให้ใคร?ทำเช่นไรดี?หลินยวนรู้สึกหวาดกลัวถึงขีดสุดแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะพุ่งเข้ามาจับคอเสื้อของนาง “เจ้าเป็นใครกันแน่? พูดมา!”หลินยวนตกใจกลัวนางไม่เคยเห็นหลินเย่ว์ดุร้ายเช่นนี้มาก่อนน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด แต่ก็ยืนกรานว่าตัวเองเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว“พี่ใหญ่ อย่าขู่ข้าเลย... ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ!”“หมอตำแยพูดเองกับปากว่า ข้าถูกนางสลับตัว! นางพูดเองกับปาก!”“ข้าหน้าเหมือนแม่มากเลยนะ พี่ใหญ่ ดูข้าสิ! ข้าจะไม่ใช่ลูกของแม่ได้อย่างไร!”นางปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่ใช่!มิเช่นนั้น ด้วยสภาพของคนในตระกูลหลินยามนี้ พวกเขาจ
คิดไม่ได้แล้ว คิดต่อไม่ได้แล้ว...นางจะทนไม่ไหวแล้ว!ในขณะนั้นเอง มามาหลายคนคนที่พาหลินยวนลงไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็พาหลินยวนกลับมา "ทูลฮูหยิน เอวของคุณหนูรองไม่มีปานเจ้าค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ย่าเฉาจึงรีบเอ่ยว่า "นางไม่ใช่ตั้งแต่แรก จะมีได้อย่างไร!"หลินยวนร้องไห้ตะโกน "ท่านแม่ ไม่ใช่เช่นนั้น! ท่านอย่าฟังคำพูดเหลวไหลของหญิงชั่ว!"ฮูหยินหลินราวกับโดนค้อนหนักทุบจนหัวเริ่มมึนงงนางไม่เคยสงสัยหลินยวนเลย เพียงแต่คนที่นางส่งไปไม่เคยได้เบาะแสอะไรกลับมาเลยก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งที่นางสงสัยว่ายวนเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนเป็นพี่น้องฝาแฝด และหมอตำแยที่ทำคลอดให้นางขโมยไปคนหนึ่งฉะนั้น นางจึงรักลูกทั้งสองคนและตัดใจจากลูกทั้งสองคนไม่ได้...นางอยากจะเชื่อว่านางคลอดลูกฝาแฝดมากกว่าที่จะสงสัยว่าหลินยวนไม่ใช่ลูกของนาง!หายใจเข้าลึกๆ หลายที ฮูหยินหลินก็ดูเหมือนจะมีแรงกลับมา จึงยกมือขึ้นและเรียกเด็กรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ไป ไปตามท่านโหวกลับมา! ตามท่านโหวน้อยกลับมาด้วย!"เรื่องนี้ นางทนรับคนเดียวไม่ไหวจริงๆเด็กรับใช้รีบรับคำและจากไปทันทีแต่หลินยวนยังคงร้องไห้ "ท่านแม่ ท่านไม่ควรเชื่อคำพูดของ
ชาวแคว้นจิ้งเชื่อว่าเด็กๆ เป็นของขวัญจากสวรรค์เหล่านางฟ้าบนสวรรค์เลือกครอบครัวที่เหมาะสม แล้วส่งเด็กๆ ลงมาทีละคนเด็กบางคนซุกซน ไม่ยอมลงมา นางฟ้ากริ้วโกรธ ก็เลยต้องลงมือรอยปานเล็กๆ นั่นต้องเป็นรอยที่นางฟ้าจิ้มแน่นอนส่วนรอยที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ต้องเป็นรอยที่นางฟ้าหยิกแน่นอนและรอยที่ใหญ่กว่านั้น อืม ต้องเป็นเด็กที่ซุกซนมาก นางฟ้าทนไม่ไหว จึงเตะลงมาฮูหยินหลินรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งเมื่อก่อน ยามที่นางดูแม่นมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เนี่ยนเนี่ยน นางก็เคยพูดว่า เด็กคนนี้ต้องซุกซนมากแน่ๆ ถึงโดนนางฟ้าหยิกที่เอวเนี่ยนเนี่ยนมีปานที่เอวเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินก็ค่อยๆ หันไปมองหลินยวน "เจ้ามีปานหรือไม่?"หลินยวนตกใจส่ายหัวไม่หยุด "ท่านแม่ อย่าฟังหญิงคนนี้พูดจาเหลวไหล..."แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ ฮูหยินหลินก็ออกคำสั่ง "ใครก็ได้เข้ามาที! พาตัวนางออกไป ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วหาปาน!""เจ้าค่ะ!"มามาคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างตอบรับและพาหลินยวนออกไปหลินยวนไม่ยอมและดิ้นรน แต่นางจะสู้แรงเหล่ามามาได้อย่างไร?ในไม่ช้า ห้องโถงด้านหน้าก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งฮูหยินหลินแทบจะนั่งไม่ไหวแล้ว แต่ก็ยัง
ขณะนั้น หลินยวนที่ถูกขังอยู่นอกเรือนลั่วเหมยก็เบิกตากว้างทันทีด้วยความไม่เชื่อด้านข้างมีสาวใช้กระซิบว่า "คุณหนู ท่านโหวน้อยเป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนคนบ้าเช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?"หลินยวนขมวดคิ้วนิดๆ นางเองก็ไม่รู้แต่การที่หลินเย่ว์คลุ้มคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนางโอกาสที่ดีที่จะไปแสดงความน่าสงสารต่อหน้าฮูหยินหลิน เพื่อให้ฮูหยินหลินสงสารนาง!นางรู้ดีว่าแม้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินจะช่วยชีวิตนางไว้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รักนางเหมือนเมื่อก่อนบางที วันนี้นางอาจใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกความรักของพวกเขากลับคืนมาได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลินยวนจึงไปหาฮูหยินหลินแต่ได้รับแจ้งว่า ฮูหยินหลินกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าเพื่อแสดงความน่าสงสารของตน หลินยวนจึงมาที่ห้องโถงด้านหน้า โดยตั้งใจไม่มองแขกคนนั้นเลย นางเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าเดินไปหาฮูหยินหลินและคุกเข่าลง "ท่านแม่ ได้โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ยวนเอ๋อร์ด้วย! ท่านพี่ไม่รู้เป็นอะไร ไล่ยวนเอ๋อร์ออกจากเรือนลั่วเหมย! ฮือๆ ๆ พี่ใหญ่ยังผลักยวนเอ๋อร์ด้วย ข้อเท้าของยวนเอ๋อร์เคล็ดเลยเจ้าค่ะ!"ฮูหยินหลินมองหลินยวนที่คุ
ไม่รู้ว่าตบหน้าตนเองไปนานแค่ไหน หลินเย่ว์ก็เหมือนนึกบางอย่างออก รีบรวบรวมเศษผ้าเหล่านั้นกลับเข้าไปซุกไว้ในอกของตนแล้วลุกขึ้นเปิดประตูออกไปข้างนอกเขาต้องไปหาเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตู ก็เห็นต้นหวยขนาดใหญ่วัยเด็ก เนี่ยนเนี่ยนชอบปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้มากที่สุดโขดหินจำลองที่อยู่ไม่ไกลก็เป็นสถานที่ที่เนี่ยนเนี่ยนชอบเล่นมากที่สุดเช่นกัน ครั้งหนึ่ง นางตกจากโขดหินจำลอง ทำให้เขาตกใจแทบแย่ แต่นางกลับยิ้มร่าเริง ไม่คิดอะไรมากศาลาหลังนั้น เขาเคยเล่นหมากรุกกับนางด้วยกันครั้นที่เด็กน้อยเพิ่งหัดเล่น นางชอบเล่นตุกติกมากที่สุด หมากกระดานหนึ่ง ต้องแก้เกมเป็นสิบๆ ครั้งต้นท้อเหล่านั้น ออกผลทั้งใหญ่และหวานมาก เนี่ยนเนี่ยนจะพาบ่าวรับใช้มาเก็บผลไม้ทุกครั้ง แล้วนำมาทำเป็นขนมหวานอร่อย ยกมาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวเองทางเดินเส้นเล็กนี้ เป็นทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินบ่อยที่สุดเพราะเรือนของนางอยู่ใกล้กับเรือนของเขามากที่สุด ในวัยเด็ก หากนางฝันร้าย นางจะกอดหมอนของตน พาสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องของเขา แล้วบังคับให้เขาต้องนอนกับนางให้ได้นางพูดว่า: มีพี่ใหญ่อยู่ข้างกาย เนี่ยนเนี่ยนถึงจะวางใจ
ร่างกายของหลินเย่ว์สั่นเทาราวกับว่าเขาสามารถเห็นภาพของเฉียวเนี่ยนเมื่อสามปีก่อนที่ถูกพาตัวไปยังกรมซักล้างและร้องไห้คร่ำครวญนางไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ที่นั่น จึงถูกมามาในกรมซักล้างเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้น นางก็นอนคว่ำอยู่ในห้องที่มีทั้งลมและฝนรั่วฉีกเสื้อผ้าบนร่างกายที่ขาดหลุดลุ่ยใช้นิ้วจุ่มเลือดจากบาดแผลเขียนทีละตัวอักษรว่า:พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยหัวใจของเขาเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออกหลินเย่ว์รีบพลิกเศษผ้าเหล่านั้นทีละชิ้นเกือบทุกชิ้นเขียนด้วยเลือดว่า: พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยพี่ใหญ่ รับข้ากลับบ้านด้วยพี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วยยยเป็นเวลาสามปีแล้วที่เศษผ้าเปื้อนเลือดเหล่านี้บันทึกทุกครั้งที่นางขอความช่วยเหลือ และทุกครั้งก็เป็นการขอความช่วยเหลือจากเขาหลินเย่ว์เพิ่งตระหนักว่า ในใจของเฉียวเนี่ยน พี่ใหญ่ของเขาสำคัญมากเพียงใดในใจของนาง มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่สามารถช่วยนางได้!แต่เขาทำอะไร?ในขณะที่นางนอนคว่ำอยู่บนเตียงไม้เย็นเฉียบ ขอความช่วยเหลือจากเขาด้วยเลือดสด เขาทำอะไรอยู่?เขาจะเข้าวังขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ถูกพ่อขวางไว้ ให้เขายึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักส่วนรวม.
เขาไม่กล้าคิดต่อได้แต่บังคับตัวเองให้ดึงความคิดอันกระวนกระวายนั้นกลับมาเซียวเหิงใกล้ระเบิดแล้ว เขาจะบ้าตามไม่ได้!ดังนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยักหน้า “ใช่ ต้องไม่เป็นอะไร”หลินเย่ว์ราวกับได้แรงกลับคืนมา เขาพยักหน้าและหันหลังเดินจากไปใช่ ต้องไม่เป็นอะไรรอให้เขากลับไปพักชั่วครู่ แล้วค่อยกลับมาหาเนี่ยนเนี่ยน...หลินเย่ว์ขี่ม้ากลับไป แต่ในหัวกลับปรากฏแต่ภาพขณะที่เฉียวเนี่ยนตกลงไปในแม่น้ำไกลจากเขามากไกลจนเขาไม่เห็นหน้านางชัดๆ ไกลจนเขาคว้าแม้แต่เงาของนางไว้ไม่ได้!แต่ทำไมพวกเขาถึงห่างกันได้ขนาดนี้?หรือว่าเขาค่อยๆ ผลักไสนางออกไปเอง?“ท่านโหวน้อย!”ทันใดนั้น เสียงหวานนุ่มนวลก็เรียกสติของหลินเย่ว์กลับคืนมาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ตกใจที่พบว่าตนมาถึงหน้าจวนโหวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้“ท่านโหวน้อย!”เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง หลินเย่ว์จึงสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลเขาจำนางไม่ได้แต่เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนั้นจำเขาได้ และเมื่อเห็นเขามองมาก็รีบวิ่งมาหาหลินเย่ว์ "คารวะท่านโหวน้อย บ่าวชื่อหลิ่วเหนียง เป็น...สหายของคุณหนูใหญ่ขณะอยู่ในวัง"คำว่าส
"เนี่ยนเนี่ยน!""เนี่ยนเนี่ยน!""ไม่!"เสียงดังสามเสียงดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันเซียวเหอและหลินเย่ว์ชักดาบออกมาพร้อมกัน ในขณะที่ชายหนวดเคราและเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาก็ถูกปาดคอไปแล้วส่วนเซียวเหิงนั้น เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นและกระโดดลงไปในแม่น้ำฉางหยางเมื่อเห็นเช่นนั้น เซียวเหอและหลินเย่ว์จึงรีบคว้าตัวเซียวเหิงกลับพร้อมกัน"ปล่อย!" เซียวเหิงตะโกนเสียงทุ้มต่ำและดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปที่ผิวน้ำที่ราบเรียบไร้ระลอกคลื่น พยายามมองหาร่างของเฉียวเนี่ยนเขาพยายามกระโดดลงไปในแม่น้ำอย่างต่อเนื่องแต่สองมือที่อยู่ข้างกายเขาคอยคว้าเขาไว้และดึงเขากลับมาเขาจึงทำได้เพียงปัดมือเหล่านั้นออกเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ในแม่น้ำ เขาต้องไปช่วยเนี่ยนเนี่ยน!“เพียะ!”เสียงตบที่ดังสนั่น ทำให้เซียวเหิงได้สติเซียวเหอกำลังจับคอเสื้อของเซียวเหิงไว้แน่น เสียงแข็งกร้าวเริ่มสั่นคลอน และเอ่ยว่า “เนี่ยนเนี่ยนจะไม่เป็นอะไร! นางว่ายน้ำเป็น! สิ่งที่เจ้าต้องทำในยามนี้คือพาสมุนหานางที่ปลายน้ำ ไม่ใช่กระโดดลงไป!”หากแม้แต่เซียวเหิงก็กระโดดลงไปด้วย แล้วพวกเขาจะช่วยใคร ช่วยเซียวเหิงหรือช
“อย่าหุนหันพลันแล่น!” เซียวเหอลงจากม้าเป็นคนแรก พร้อมตะโกนใส่พวกโจรภูเขาเมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงฉานปรากฏบนคอของเฉียวเนี่ยน หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดเซียวเหิงและหลินเย่ว์รีบลงจากม้าตามมาติดๆสีหน้าของเซียวเหิงดูมืดมนอย่างยิ่ง และกำหมัดแน่นเขาโกรธตัวเองที่ยามนั้นทำไมไม่กำจัดพวกโจรภูเขาให้หมดสิ้น ปล่อยให้เฉียวเนี่ยนตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ได้ยิ่งโกรธตัวเองที่หลงกลพวกโจรภูเขา!หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จิตใจว้าวุ่น เขาตะโกนเสียงดัง "พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าให้ได้ทุกอย่าง! ปล่อยน้องสาวข้า!"ดวงตาของเฉียวเนี่ยนหม่นหมองนางนึกไม่ถึงว่าหลินเย่ว์จะมาด้วยแล้วพลันพบว่า แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ นางก็ยังไม่อยากเจอหลินเย่ว์ยิ่งไม่อยากได้ยินเขาเรียกนางว่า 'น้องสาว'ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางเกลียดพี่ใหญ่ถึงเพียงนี้?ก่อนที่นางจะครุ่นคิดมากกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงของชายที่มีหนวดเคราตะโกนว่า "อยากให้พวกข้าปล่อยคนอย่างนั้นหรือ? ง่ายมาก! เอาหัวของเซียวเหิงมาให้พวกเรา!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหอและหลินเย่ว์ก็ตกใจแต่ก็นึกไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะชักดาบยาวที่เอวออกมาและวางไว้บนคอของตนโด