Share

บทที่ 540

Author: โม่เสียวชี่
นางอดไม่ได้จะมองพิจารณาฉู่จืออี้อีกครั้ง

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะสวมเพียงเสื้อผ้าฝ้ายหยาบ ๆ แต่เส้นกล้ามเนื้อบนร่างกลับยังคงเด่นชัดแม้จะเห็นแค่ราง ๆ

สายตาคมกริบดั่งเหยี่ยว รอยแผลบนใบหน้านั้น กลับยิ่งทำให้โฉมหน้าที่หล่อเหลาอยู่เดิมเพิ่มความคมเข้มดุดันขึ้นมาอีกเป็นอย่างมาก

อีกทั้งเขายังสามารถฆ่าหมีได้ ถ้าจะจัดการกับนาง ก็คงไม่ยากเลย

แต่เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเลว

แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านเหอวานต่างก็พูดถึงเขาในทางดี เรียกได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

ถ้าเป็นคนดีจริง ย่อมไม่บังคับฝืนใจใคร

คิดได้ดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไปว่า "พี่ไป๋ ข้าไม่อยากแต่งงาน เงินถุงนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ"

"..."

ฉู่จืออี้เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเนี่ยนอย่างตกตะลึง ยามนี้ท้องฟ้าได้มืดสนิท ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ที่ส่องสว่างอยู่

เขามองไม่ชัดนักว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร แต่กลับเห็นชัดถึงดวงตากลมใสคู่นั้น ที่สั่นระริกอย่างตื่นตระหนก

ฉู่จืออี้จึงรู้ตัวทันทีว่าเป็นเพราะคำพูดของตนเมื่อครู่ทำให้นางเข้าใจผิด จึงเอ่ยอธิบายเบา ๆ "แม้หมู่บ้านเหอวานจะเงียบสงบ แต่ก็ใช่ว่าจะ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (7)
goodnovel comment avatar
เอาไว้อ่านนิยายรายตอน
อิชั้น เชียร์ อ๋องฉู่ค่ะ คนนี้ ปกป้อง เนี่ยนเนี่ยนได้แน่ๆ ตระกูลหลิน ตระกูลเซียว ไม่กล้ายุ่ง
goodnovel comment avatar
Piyaradchanee
พระเอกมาอีกคน อ๋องฉู่ เป็นถึง น้องชายฮ่องเต้ เนี่ยนเนี่ยน น่าจะคนนี้แหละ ใหญ่กว่า เซียวเหอ เซียงเหิง
goodnovel comment avatar
teamhirun
ชอบเจ้าค่ะ บอกแค่นี้ อิอิอิ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1456

    “ส่งตัวเฉียวเนี่ยนออกมาเดี๋ยวนี้!”เสียงตวาดเกรี้ยวกราดจากชั้นล่างดังทะลุเข้ามาในโสตประสาทของเฉียวเนี่ยนอย่างชัดเจนมาเพื่อหาเรื่องนางหรือ?เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วมุ่น นางคว้าเสื้อคลุมข้างเตียงขึ้นมาคลุมกาย แล้วกัดฟันข่มความเจ็บปวด ฝืนก้าวเดินออกไปทีละก้าวทันทีที่เปิดประตู ก็เห็นหนิงซวงและเกอซูอวิ๋นยืนรออยู่หน้าห้องแล้วเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา หนิงซวงก็รีบปราดเข้ามาหา “คุณหนูออกมาทำไมเจ้าคะ? ท่านยังบาดเจ็บอยู่นะเจ้าคะ!”“ข้าไม่เป็นไร” น้ำเสียงของเฉียวเนี่ยนแม้จะอ่อนแรงแต่กลับเยือกเย็นยิ่งนัก นางปัดมือหนิงซวงออกเบา ๆ ใช้มือยันผนังที่เย็นเฉียบ แล้วค่อย ๆ ลากสังขารเดินไปที่หัวมุมบันไดภาพเบื้องหน้าทำให้หัวใจของนางดิ่งวูบลงสู่ก้นเหวเห็นเพียงโถงโรงหมอที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ทว่ากลับถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศสังหารอันน่าสะพรึงท่านหมอชราผู้ใจดีและเด็กรับใช้ยาต่างคุกเข่าอยู่กับพื้น ถูกองครักษ์ตระกูลมู่ที่มีท่าทางดุร้ายราวกับยักษ์มารกดแขนไพล่หลังเอาไว้อย่างหยาบคาย ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและคราบน้ำตาประตูใหญ่เปิดอ้า ด้านนอกมีเงาคนวูบไหว เห็นได้ชัดว่าถูกล้อมไว้หมดแล้วแ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1455

    “ว่ากระไรนะ?!” มู่ซ่างเสวี่ยตกใจอย่างมาก พลันลุกพรวดขึ้นยืน ทว่าเบื้องหน้ากลับมืดมิด วิงเวียนศีรษะจนต้องทิ้งตัวกลับลงไปบนเตียงอย่างแรงเขาหลับตาลง ปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยเงยหน้าขึ้น ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด นัยน์ตาฉายแววตื่นตระหนกแกมไม่อยากเชื่อเป็นครั้งแรก!“ข้าสั่งให้เจ้าส่งคนไปเฝ้าเอาไว้แล้วมิใช่หรือ?!”“เฝ้าแล้ว! เฝ้าแล้วขอรับ!” มู่หงเสวี่ยโบกไม้โบกมือด้วยความตื่นเต้นระคนร้อนรน “ที่หอเป่าเสียงทางทิศตะวันออก ท่านปู่ห้านำยอดฝีมือองครักษ์สิบสองคนที่เก่งกาจที่สุดไปนั่งบัญชาการด้วยตนเองเลยนะขอรับ! เฝ้าชนิดไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว!”ท่านปู่ห้ามู่เจิ้นไห่ ดูแลกองกำลังองครักษ์ของตระกูลมู่มานานหลายสิบปี ใต้สังกัดชุบเลี้ยงยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในยุทธภพไว้นับไม่ถ้วน นับเป็นหนึ่งในปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลมู่วันนี้เซียวเหอมาด้วยเจตนาไม่ดี มู่หงเสวี่ยจึงมิกล้าชะล่าใจ อุตส่าห์ไปเชิญเสาหลักผู้นี้ ให้ช่วยนำกำลังไปเฝ้าจุดสำคัญที่น่าจะตกเป็นเป้าหมายมากที่สุดด้วยตนเองทว่าใครจะคาดคิด... สุดท้ายก็ยังเกิดเรื่องขึ้นจนได้!มู่ซ่างเสวี่ยรู้สึกจุกแน่นในอกประหนึ่งถูกหินผาพันชั่งกดทั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1454

    มู่ซ่างเสวี่ยรู้สึกถึงไอเย็นระลอกหนึ่งแผ่ซ่านจากฝ่าเท้าทะลวงขึ้นสู่กลางกระหม่อม!เขาทอดสายตาจ้องเขม็งไปยังเซียวเหอ เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาทีละคำอย่างยากลำบาก “ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ง่ายมาก” เซียวเหอลุกขึ้นยืน สองมือไพล่หลัง ทอดสายตามองมู่ซ่างเสวี่ยจากที่สูงด้วยแววตาเหยียดหยาม “ส่งยาถอนพิษ ‘พิษเถากัดกระดูก’ มาเสีย”“ตระกูลมู่มิได้มีพิษนี้ จะมียาถอนพิษได้อย่างไร!” มู่ซ่างเสวี่ยปฏิเสธอย่างหนักแน่น“ไม่มีรึ?” เซียวเหอหัวเราะเบา ๆ แววตาฉายแววรู้ทัน “ข้าได้ยินมาว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนแดนต้องห้ามของจวนท่านถูกเปิดออก ข้าเดาว่าพิษประหลาดที่เป็นความลับไม่ถ่ายทอดสู่ภายนอกของตระกูลมู่ คงจะถูกเก็บซ่อนไว้ที่นั่นกระมัง? ยาถอนพิษเองก็ย่อมต้องอยู่ที่นั่นเช่นกัน ในเมื่อเจ้าตระกูลมู่ยืนกรานว่าไม่มี เช่นนั้นก็ให้ข้าเข้าไปในแดนต้องห้ามเพื่อดูให้เห็นกับตาเถิด”“เป็นไปไม่ได้!” มู่ซ่างเสวี่ยปฏิเสธทันควัน “แดนต้องห้ามตระกูลมู่ แม้แต่ลูกหลานในตระกูลเรายังมิอาจล่วงล้ำเข้าไปตามอำเภอใจ ไฉนเลยจะยอมให้คนนอกเช่นท่านเข้าไปได้?!”เซียวเหอย้อนถามเสียงเย็น “คนนอกที่เข้าไปได้ก็มีตั้งไม่รู้กี่คนแล้ว ข้าเข้าไปอีกสั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1453

    เซียวเหอแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจนัยที่มู่ซ่างเสวี่ยต้องการจะสื่อ เขาเพียงแย้มยิ้มบางเบา “การที่ข้าเดินทางมาในครั้งนี้ ก็เพื่อตามหาน้องชาย เซียวเหิง เขาหายสาบสูญไปในจวนของท่าน ไร้ซึ่งข่าวคราว ในฐานะพี่ชาย ข้าย่อมต้องมาทวงถามคำอธิบายด้วยตนเอง”รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยยังคงเดิม ทว่าแววตากลับฉายแววอำมหิตวูบหนึ่ง “เกรงว่าท่านอ๋องจะมาผิดที่แล้ว เวลานี้แม่ทัพเซียวเป็นแขกพักอยู่ที่จวนขององค์ชายรอง หากท่านอ๋องต้องการตามหาคน ก็ควรไปที่จวนองค์ชายรองถึงจะถูก”มุมปากของเซียวเหอยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ ทว่าดวงตากลับไร้ซึ่งไออุ่น “ข้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าเขาอยู่ที่นั่น เพียงแต่ข้ายังรู้อีกว่า เขาถูกพิษร้าย ‘พิษเถากัดกระดูก’ เล่นงาน ซ้ำยังบาดเจ็บสาหัส เวลานี้เป็นตายร้ายดีอยู่ที่จวนองค์ชายรองก็สุดจะรู้! เจ้าตระกูลมู่ บัญชีหนี้นี้ หากข้าไม่มาทวงเอากับตระกูลมู่ จะให้ไปทวงกับองค์ชายรองหรือไร?”ในครานั้น ผู้ที่รับตัวเซียวเหิงออกจากแคว้นจิ้ง ก็คือคนของตระกูลมู่น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่กลับเชือดเฉือนดั่งคมมีดทุกถ้อยคำรอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยเลือนหายไปจนสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงความเย็นชาดุจน้ำแข็ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1452

    วันนั้น คือวันคล้ายวันเกิดของนางไม่คาดคิดเลยว่าเซียวเหอจะจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองให้นางอย่างพิถีพิถันถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ มีใครเคยจัดงานฉลองวันเกิดให้นาง? มีใครเคยใส่ใจวันสำคัญเช่นนี้ของนางบ้าง? ความตื้นตันและอบอุ่นอันใหญ่หลวงถาโถมเข้าใส่ จนทำให้นางมิอาจหักห้ามใจ ดื่มสุราจนมิอาจยับยั้ง…ท้ายที่สุด ความทรงจำหลงเหลือเพียงแสงเทียนไหวระริก เงาร่างผู้คนเลือนราง ทุกสรรพสิ่งพร่ามัวสับสนไปหมดยามตื่นขึ้นมาอีกครา สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือดวงหน้าอันอ่อนโยนของเซียวเหอท่ามกลางแสงอรุณรุ่งเรือง และ… สภาพห้องที่ยุ่งเหยิง กับความปวดเมื่อยแปลกประหลาดที่เรือนกายของนางนางกับเซียวเหอ… ได้กลายเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงเสียแล้วนางจำได้แม่นยำ นัยน์ตาของเซียวเหอฉายแววรักใคร่เอ็นดู พลางเอ่ยถามนางว่า “หิวหรือไม่? อยากทานอะไรหน่อยไหม?”ยามนั้นหัวใจนางเต้นกระหน่ำดั่งรัวกลอง แทบจะสำลักความสุขจมดิ่งลงในห้วงความอ่อนโยนนั้นทว่าเพียงชั่วอึดใจถัดมา นามที่เขาเอื้อนเอ่ยออกมากลับเปรียบเสมือนน้ำเย็นเฉียบถังใหญ่ที่สาดรดลงมาจนหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ——“เนี่ยนเนี่ยน”เมื่อหวนนึกถึงตรงนี้ หัวใจของเกอซูอว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1451

    อาการคลื่นเหียนในท้องของเกอซูอวิ๋นยังไม่ทันทุเลาลง ก็ต้องตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อความลับถูกเปิดโปงอย่างกะทันหัน นางเผลอผลักอกเซียวเหอที่ยืนขวางหน้าอยู่ออกไปเต็มแรงโดยสัญชาตญาณ น้ำเสียงสั่นเครือแฝงแววต่อต้าน “ออกไปนะ! เรื่องของข้า ไม่เกี่ยวกับท่าน!”ทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของนางนั้น ช่างดูไร้ค่าราวกับมดปลวกเขย่าต้นไม้ใหญ่แววตาตื่นตะลึงของเซียวเหอยังจางหายไปไม่หมด ทว่ากลับถูกแทนที่ด้วยความเคร่งขรึมจริงจังชนิดที่ไม่อาจโต้แย้งได้เขาไม่เพียงไม่ถอย หากแต่ยังโน้มกายลง สอดมือข้างหนึ่งเข้าใต้ข้อพับเข่า อีกมือประคองแผ่นหลังของนางไว้อย่างมั่นคง เพียงออกแรงเพียงเล็กน้อย ร่างที่เบาหวิวนั้นก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นแนบอก!“อ๊า!” เกอซูอวิ๋นอุทานแผ่วเบา สัญชาตญาณทำให้นางกำเสื้อบริเวณอกของเขาไว้แน่น ก่อนจะรีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟลวก และดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ “ปล่อยข้าลงนะ!”เซียวเหอกระชับอ้อมแขน กักขังนางไว้ในอกแกร่งแน่นหนา ก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ ตรงดิ่งไปยังห้องพักรับรองของโรงหมอ สันกรามของเขาขบแน่น แววตาฉายแววทะมึนลึกล้ำประดุจท้องนภาก่อนพายุจะโหมกระหน่ำ กลิ่นอายสังหารที่ผ่านการกรำศึกใน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status