Share

บทที่ 897

Aвтор: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนตกใจ ก็เห็นว่าพลทหารชั้นผู้น้อยวัยหนุ่มกำลังชี้หน้าด่าเฉียวเนี่ยน “ให้เจ้ามาช่วยคน เจ้ากลับยังมีอารมณ์มานั่งกินข้าวตรงนี้! พี่ชายของข้ากำลังจะตายแล้ว! เหตุใดเจ้าจึงไม่ให้คนไปช่วยเขา!”

ทันใดนั้นก็มีหลายคนเข้ามาห้ามเขาไว้ แต่เสี่ยวจู๋คนนั้นกลับดิ้นรนอย่างหนัก ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ น้ำตาปนกับน้ำมูกไหลลงมา

“เหตุใดเจ้าจึงไม่ให้คนอื่นช่วยพี่ใหญ่ของข้า!หรือชีวิตของพลทหารชั้นผู้น้อยจะไม่ใช่ชีวิต? เหตุใดไม่ให้พวกเขาช่วยพี่ข้า! เหตุใดแม้แต่ยาสักถ้วยก็ไม่ยอมให้พี่ข้า เหตุใดกัน!”

เมื่อเห็นพลทหารชั้นผู้น้อยร่ำไห้ปานจะขาดใจ เฉียวเนี่ยนก็ถึงกับพูดไม่ออกชั่วขณะ

การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักอย่างสุดหัวใจเป็นความเจ็บปวดเช่นไร นางเคยประสบมาสองครั้งแล้ว นางเข้าใจเป็นอย่างดี

จนเวลานี้ นางไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเขาเช่นไรดี

บางที นางอาจควรไปฝังเข็มให้ทหารที่อาการเข้าขั้นวิกฤตก็ได้ ต่อให้รู้อยู่เต็มอกว่าไร้ผล ต่อให้พวกเขายังต้องตายอยู่ดี แต่อย่างน้อย ก็อาจทำให้คนที่อยู่ข้างๆ สบายใจขึ้นบ้าง

แต่หากทำเช่นนั้น ไม่เพียงไม่อาจช่วยชีวิตใครได้สักคน กลับจะทำให้มีผู้ตายมากขึ้นเสียอีก

ขณะนั้นเอง เสียงทุ้มแน่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 908

    มู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยต่างก็รู้ดีว่าเฉียวเนี่ยนตั้งใจนำจี้หยกนี้มาปรากฏตัวในวันนี้เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้เริ่มสงสัยแล้ว เฉียวเนี่ยนจึงไม่ปิดบังอีกต่อไป เอ่ยตรงๆ ว่า “ข้าอยากขอเรียนถามพี่ใหญ่ทั้งสอง ใบงาขี้ม้อน ถูกตระกูลมู่กว้านซื้อไปใช่หรือไม่?”ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยกับมู่หงเสวี่ยก็เปลี่ยนไปทันทีพวกเขาเริ่มพิจารณาเฉียวเนี่ยนกับฉู่จืออี้อีกครั้งสุดท้าย สายตาทั้งสองก็หยุดลงที่ฉู่จืออี้ราวกับเข้าใจบางอย่าง แล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ที่แท้ก็อ๋องผิงหยางนี่เอง”เห็นทั้งสองสามารถคาดเดาตัวตนของตนได้ในเวลาอันสั้น ฉู่จืออี้ก็เผยสีหน้าแสดงความชื่นชมเล็กน้อย พลางพยักหน้า “ใช่ ข้าเอง”อาจเป็นเพราะตระกูลมู่มีสถานะพิเศษในแคว้นถัง แม้รู้ว่าเบื้องหน้าคือท่านอ๋องซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ของแคว้นจิ้ง ทั้งสองกลับไม่มีทีท่าจะคารวะแต่อย่างใดเพียงแต่มองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นคุณหนูแห่งจวนโหว ไยถึงได้เดินทางมาไกลถึงชายแดน และยังอยู่กับอ๋องผิงหยาง?”ในสายตาของมู่ซ่างเสวี่ย คุณหนูเช่นนั้นควรจะเติบโตในเรือนของสตรีชั้นสูงราวไข่ในหิน แม้ไม่ถึงกับห้ามออ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 907

    ในตอนนั้นนางก็เอ่ยเสียงอ่อน “ท่านย่าข้าเป็นฮูหยินเฒ่าของจวนโหวแห่งแคว้นจิ้ง ข้าไม่รู้ชื่อของท่านย่า เพียงจำได้ว่าเมื่อยังเล็ก ข้าเคยได้ยินท่านปู่เรียกท่านว่าเสวี่ยเอ๋อร์”“อะไรนะ?!” มู่หงเสวี่ยตกใจจนสีหน้าซีดเผือดอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ ก็พุ่งเข้ามาทันที ดูจากอายุแล้วดูจะมากกว่ามู่หงเสวี่ยเล็กน้อย “ท่านย่าของเจ้าชื่อเสวี่ยเอ๋อร์จริงๆ หรือ?”เฉียวเนี่ยนมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ถอยไปด้านหลังของฉู่จืออี้ด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นดูเหมือนจะรู้ตัวว่าเสียมารยาท รีบถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วคารวะ “ข้าชื่อมู่ซ่างเสวี่ย เป็นพี่ใหญ่คนโตสุดในหมู่คนรุ่นเยาว์ของตระกูลมู่”มู่หงเสวี่ย มู่ซ่างเสวี่ย...เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วมองทั้งสองคน “พวกท่านเกี่ยวข้องอย่างไรกับท่านย่าของข้าหรือเจ้าคะ?”สีหน้าของมู่ซ่างเสวี่ยดูตื่นเต้นยิ่งนัก ริมฝีปากยังแฝงรอยยิ้มบางๆ “หากท่านย่าของเจ้ามีนามเดิมก่อนออกเรือนว่าเสวี่ยเอ๋อร์จริง เช่นนั้นเจ้าน่าจะต้องเรียกพวกเราว่าพี่ใหญ่”พี่ใหญ่?คนของตระกูลมู่น่ะหรือ?เฉียวเนี่ยนหยิบจี้หยกในมือตนเองขึ้นมาอีกครั้ง มองมู่ซ่างเสวี่ยแล้วกล่าวว่า “ท่านย่าเคยบอกว่า จี้หยกชิ้นนี้มีคว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 906

    ตามที่พลทหารชั้นผู้น้อยซึ่งไปจัดซื้อบอกมา ตอนนี้คนของตระกูลมู่ยังอยู่ที่เมืองจี๋เสียง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นักเฉียวเนี่ยนกับฉู่จืออี้จึงออกเดินทางกลางดึก ควบม้ามุ่งหน้าไปยังเมืองจี๋เสียงเมืองจี๋เสียงนับว่าเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในแถบชายแดน ความเจริญไม่แพ้เมืองหลวงเฉียวเนี่ยนควบม้าเคียงข้างฉู่จืออี้ มองดูผู้คนที่สัญจรไปมารอบข้าง รวมถึงโรงเตี๊ยมและที่พักริมถนน จึงอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “พี่ใหญ่รู้หรือไม่ว่าคนของตระกูลมู่อยู่ที่ไหน?”ฉู่จืออี้สีหน้าเรียบเฉย ตอบว่า “ตระกูลมู่ร่ำรวยมาตั้งแต่ร้อยปีก่อน คนของตระกูลมู่เกิดมาก็เป็นชนชั้นสูง ไม่เคยลำบาก ไปที่ไหนก็ต้องกินดีอยู่ดี โรงแรมอิ๋งฝูน่าจะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองจี๋เสียง คนของตระกูลมู่น่าจะพักอยู่ที่นั่น”เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็พยักหน้า แล้วเดินทางไปกับฉู่จืออี้ต่ออีกครู่หนึ่งก็เจอโรงแรมอิ๋งฝูพอลงจากหลังม้า เด็กรับใช้ก็รีบเข้ามาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น ก้มหน้าโค้งตัวพลางพูดว่า “เชิญแขกทั้งสองท่านด้านใน ร้านเล็กๆ ของเรามีทั้งอาหารหลากรส เหล้าชั้นเลิศ ห้องพักก็ยอดเยี่ยม ทั้งสองท่านจะมาพักหรือแค่แวะรับประทานอาหารขอรับ?”

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 905

    ฉู่จืออี้มองเฉียวเนี่ยนที่เพิ่งเดินเข้ามา แล้วจึงโบกมือให้พลทหารชั้นผู้น้อยผู้นั้น “รู้แล้ว เจ้าออกไปก่อนเถอะ!”“ขอรับ!” พลทหารชั้นผู้น้อยรับคำแล้วออกไปเฉียวเนี่ยนจึงเดินเข้ามาถามว่า “เหตุใดถึงซื้อไม่ได้แม้แต่ต้นเดียว?”“ถูกคนของตระกูลมู่กว้านซื้อไปหมดแล้ว” ฉู่จืออี้กล่าวเสียงเข้ม “นอกจากใบงาขี้ม้อน ยังมีสมุนไพรเซียนกับดอกหยกขาวที่ถูกตระกูลมู่กว้านซื้อไปเป็นจำนวนมาก ข้าสงสัยว่าหากกลุ่มชนเตอร์กิกยังจะใช้พิษอีก สมุนไพรทั้งสองชนิดนี้น่าจะเป็นตัวยาแก้พิษ”ตระกูลมู่?เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย “ตระกูลมู่ไหนกัน?”พี่รองที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงเอ่ยขึ้น “ตระกูลมู่เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้นถัง ได้ยินมาว่าร่ำรวยจนเทียบเท่าทั้งแคว้น ถึงขั้นที่แม้แต่ฮ่องเต้ของแคว้นถังในปัจจุบันยังต้องปรึกษากับผู้นำตระกูลมู่ก่อนจึงจะตัดสินใจอะไรได้ ทรัพย์สินมั่งคั่งจนหากตระกูลมู่ล่มสลายลง แคว้นถังทั้งแคว้นก็จะบอบช้ำหนัก”เฉียวเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะตกใจ ไม่คิดว่าตระกูลมู่จะมีอำนาจขนาดนี้!พี่สามที่อยู่ด้านข้างยกมือขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด “แล้วนี่หมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่าแคว้นถังจะร่วมมือกับกลุ่มช

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 904

    ข่าวที่ว่าเฉียวเนี่ยนถูกลอบโจมตีนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วตอนฉู่จืออี้รีบเร่งมาถึง แพทย์ทหารบกเพิ่งจะทายาให้เฉียวเนี่ยนเสร็จพอดีเห็นฉู่จืออี้มา แพทย์ทหารบกรีบคำนับ แล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องวางใจได้พ่ะย่ะค่ะ ท่านหญิงเฉียวแค่บาดเจ็บภายนอกเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรร้ายแรง”ได้ยินดังนั้น ฉู่จืออี้ก็โล่งอกเล็กน้อย พยักหน้าเบาๆแพทย์ทหารบกจึงออกไป ส่วนสายตาของฉู่จืออี้ก็มองไปที่สือโถว “เกิดอะไรขึ้น?”สือโถวรู้สึกกลัวฉู่จืออี้อยู่แล้ว ยิ่งเห็นสีหน้าเขาเคร่งเครียดยิ่งนัก ราวกับมีแววดุร้าย ยิ่งหวาดกลัวเข้าไปใหญ่เขาพูดตะกุกตะกักว่า “ข้า ข้าน้อยไปเก็บสมุนไพรแถวใกล้ๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีนักลอบสังหารบุกโจมตีท่านหญิงเฉียว...”เป็นความผิดของเขาเอง แท้จริงเขาต้องคอยคุ้มกันท่านหญิงเฉียว แต่กลับละเลยจนเกิดเรื่องขึ้นเห็นสือโถวทำหน้ารู้สึกผิดแทบร้องไห้ออกมา เฉียวเนี่ยนก็รีบปลอบ “ข้าต้องเป็นฝ่ายขอบใจเจ้าที่ช่วยชีวิตข้าไว้ต่างหาก”ได้ยินดังนั้น สือโถวไม่มองเฉียวเนี่ยน กลับจับจ้องสีหน้าฉู่จืออี้แทนและฉู่จืออี้ก็เข้าใจความหมายของเฉียวเนี่ยนดี จึงไม่กล่าวโทษอะไรอีกเพียงถามว่า “พวกนักรบพลีชีพหรือ?”เฉี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 903

    สือโถวเดินอยู่ท้ายขบวนทัพตลอด จนกระทั่งทุกคนขึ้นเขาแล้วแยกย้ายกันออกไป เขาจึงรีบตามเฉียวเนี่ยนไป“ท่านหญิงเฉียว!” สือโถวเรียกเบาๆเฉียวเนี่ยนเงยหน้ามองเขาครู่หนึ่ง แล้วก็ยังคงค้นหาใบงาขี้ม้อนในป่าต่อไป พลางยิ้มถาม “มีอะไรหรือ?”“ท่านกินข้าวเช้าหรือยัง?” สือโถวถาม เขาเห็นว่าเฉียวเนี่ยนมาอย่างเร่งรีบ คิดว่าน่าจะยังไม่ได้กินเฉียวเนี่ยนส่ายหน้า “ข้าไม่หิว”ที่จริงแล้วหิว เพียงแต่วันนี้ตื่นสาย ไม่อยากให้คนอื่นต้องรอตนเอง จึงดื้อดึงพูดไปเช่นนั้นแต่สำหรับเฉียวเนี่ยนแล้ว แค่มื้อเดียว จะกินหรือไม่กินก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะเมื่อตอนอยู่ในกรมซักล้าง ก็ชินกับชีวิตที่อดบ้างอิ่มบ้างอยู่แล้วใครจะคิดว่า หมั่นโถวลูกโตลูกหนึ่งจะยื่นมาตรงหน้านางยังอุ่นอยู่เล็กน้อยด้วยเฉียวเนี่ยนชะงัก รีบยืดตัวขึ้นมองไปที่สือโถว ก็เห็นเขายิ้มแหยๆ อย่างจริงใจ “ข้าแอบเก็บไว้กินตอนเที่ยงน่ะ ฮะๆ ท่านหญิงเฉียวอย่าไปบอกใครเชียวนะ ไม่อย่างนั้นข้าโดนโบยแน่!”เฉียวเนี่ยนไม่ปฏิเสธ รับหมั่นโถวมาแล้วกัดไปหนึ่งคำ “วางใจเถอะ ตอนนี้ข้ากินหมั่นโถวของเจ้าแล้ว ก็นับว่าเป็นพวกเดียวกัน ถ้าเจ้าถูกโบย ข้าก็จะรับโทษด้วย!”ได้ยิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status