Share

บทที่ 94

Author: โม่เสียวชี่
เซียวชิงหน่วนหันหลังและวิ่งออกไปหลังจากพูดจบ

เมื่อเห็นดังนั้น หลินยวนก็เรียกอย่างร้อนรน "หน่วนหน่วน หน่วนหน่วน!"

แต่เซียวชิงหน่วนสนนางที่ไหนกัน?

จากนั้น หลินยวนจึงรีบไปดึงแขนเซียวเหิง "ท่านพี่เหิง ท่านตามไปสิ!"

"ไม่ต้องสนนาง! ปากแบบนาง ต้องทำให้นางรู้สำนึกเสียบ้าง!" เซียวเหิงรู้สึกว่าหากวันนี้เขาไม่อบรบสั่งสอนเซียวชิงหน่วนให้ดี ไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องเดือดร้อนเพราะปากของตนเป็นแน่

หลินยวนกลับรีบร้อนมากกว่าเดิม "แต่ว่าหน่วนหน่วนจมน้ำและเพิ่งจะฟื้น หากให้นางวิ่งหนีไปเช่นนี้ ข้าก็ไม่สบายใจ! ท่านพี่เหิง ข้าขอร้องล่ะ ท่านลืมไปตามนางเถอะนะ!

หลินยวนพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้เซียวเหิงใจอ่อน

เขาขมวดคิ้วและเหลือบมองมองเฉียวเนี่ยน จากนั้นก็วิ่งออกไป

เมื่อเซียวเหิงจากไป หลินยวนก็ยังคงสะอึกสะอื้นอยู่ที่เดิม

หลินเย่ว์ชี้นิ้วไปที่เฉียวเนี่ยน "ดูเรื่องงามหน้าที่เจ้าก่อไว้สิ!"

เฉียวเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองหลินเย่ว์ "ข้าทำอะไร?"

"ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ายุแยง แม่นางเซียวจะคิดโทษยวนเอ๋อร์ได้หรือ?" หลินเย่ว์ยกมือชี้หน้าเฉียวเนี่ยน อีกครั้ง "เจ้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ให้คนอื่นสบายใจหน่อ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1216

    เศษหินร่วงกราวลงมากระทบชายอาภรณ์ของทั้งสองที่ซ้อนทับกัน กายเฉียวเนี่ยนสั่นเทา ทั้งเพราะหวาดกลัว ทั้งเพราะดีใจที่ได้เขาคืนมาอีกครั้งน้ำตาไหลไม่หยุด คำพูดมากมายที่เอ่ยไม่ออกติดค้างอยู่ในลำคอ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นเบาๆปลายนิ้วของนางกำแน่นที่ชายเสื้อของฉู่จืออี้ซึ่งยังซึมเลือดอยู่ ราวกับเพียงคลายมือออกแม้เพียงน้อย คนตรงหน้าก็จะสลายไปเป็นทรายหลุดร่วงจากปลายนิ้วมองเห็นนางเป็นเช่นนั้น หัวใจของฉู่จืออี้ก็ปวดร้าวราวกับถูกกัดกินเขายกมือขึ้น นิ้วที่เปื้อนเลือดสอดเข้าไประหว่างเส้นผมที่กระจายยุ่งเหยิงของเฉียวเนี่ยนลูกกระเดือกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่เสียงกลับอบอุ่นอ่อนโยนราวสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดไหว “ไม่เป็นไรแล้ว อย่ากลัว”ถึงจะพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติ แต่เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ยินถึงความยากลำบากในน้ำเสียงนั้นนางสะอื้นเบาๆ พลางถอยออกจากอ้อมแขนของฉู่จืออี้ “พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ” เฉียวเนี่ยนสูดน้ำมูก แล้วเอาแขนของฉู่จืออี้พาดบ่าตัวเอง พยุงฉู่จืออี้เดินออกไปเจ้าสำนักราชาโอสถเคยกล่าวไว้ คุกหินนี้คือด่านสุดท้าย หากผ่านไปได้ เปิดประตูบานนั้นไป ก็จะสามารถออกจากสำนักราชาโอสถได้ฉู่จือ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1215

    ฉู่จืออี้รู้สึกหวาดกลัวสุดขีด กลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว กลัวว่าเมื่อก้อนหินยักษ์ตกลงมา จะพาเฉียวเนี่ยนตายไปพร้อมกับเขาร่างกายที่เมื่อครู่รู้สึกใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว ในชั่วขณะนั้นกลับไม่รู้ว่าพลังมาจากไหน ถึงสามารถยกก้อนหินนั้นขึ้นไปได้อีกเล็กน้อยแต่เฉียวเนี่ยนกลับไม่รู้สึกตัว นางเอาแต่มองเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนร่างของฉู่จืออี้ ใจของนางปวดร้าวจนเกินจะกล่าวแต่ก็เข้าใจดี ว่าการจะช่วยฉู่จืออี้ได้ ต้องไขปริศนาให้ได้ก่อนดังนั้นนางจึงรีบเอ่ยถาม “ปริศนาอยู่ที่ไหน?”ฉู่จืออี้ขมวดคิ้วแน่น มองไปทางผนังหินด้านข้าง “ตรงนั้น”เฉียวเนี่ยนจึงเห็นว่าที่ผนังหินไม่ไกลมีอักษรสลักอยู่นางคลานออกมาจากใต้ก้อนหิน เข้าไปใกล้ผนังหิน เพ่งมองอย่างละเอียดพื้นผิวหินสีเขียวปรากฏลวดลายภาพร้อยพืชที่เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างจากแสงเรืองๆ ในที่มืดปลายนิ้วของเฉียวเนี่ยนลูบผ่านภาพดอกไม้สี่ฤดูบนผนังหิน ที่รากของดอกแปะเจียกมีลวดลายกลไกทองสัมฤทธิ์ฝังอยู่ นางพลันนึกถึงบันทึกในชิ้นส่วน 'ตำรับยาพันเหรียญทอง' ที่กล่าวว่า “ต้นช้องฟ้ารุ่งเติบโตในหุบเหวลึก ใบของมันสามารถแก้พิษบุปผาเจ็ดภพได้...”“ณ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตำแหน่ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1214

    เฉียวเนี่ยนถึงกับตกใจ หันไปมองเจ้าสำนักราชาโอสถโดยไม่รู้ตัว เห็นอีกฝ่ายสีหน้าเคร่งเครียด “ข้าก็รู้อยู่แล้ว ว่าเขาคงทนไม่ได้นานนัก!”เฉียวเนี่ยนสุดจะกลั้น นางถามออกมา “คุกหินคือที่แบบไหนกัน?”พอได้ยินเช่นนั้น เจ้าสำนักราชาโอสถเหลือบมองเฉียวเนี่ยนแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรคนรับใช้กล่าวตอบ “เรียนคุณหนูเฉียว คุกหินนั้นเป็นหนึ่งในค่ายกลที่ท่านเจ้าสำนักสร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เป็นด่านสุดท้ายก่อนจะออกจากสำนัก ผู้ใดบุกเข้าไปในคุกหินต้องไขปริศนาที่ท่านเจ้าสำนักวางไว้ให้ได้ถึงจะผ่าน หากฝืนบุกเข้าไป คุกหินจะมีหินยักษ์ถล่มลงมาช้าๆ ทับผู้กล้าที่บุกด่านนั้นจนเละเป็นเนื้อบดขอรับ!”คำพูดของคนรับใช้ทำให้เฉียวเนี่ยนผงะลุกจากเตียงทันทีนางรีบมองไปทางเจ้าสำนักราชาโอสถ “ขอถามท่านเจ้าสำนัก คุกหินอยู่ที่ใดเจ้าคะ?”เจ้าสำนักราชาโอสถปรายตามองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่แยแสนัก แล้วจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน “ทำไม? เจ้าจะไปรนหาที่ตายรึ? สถานที่ที่ไอ้เจ้าหนุ่มฉู่จืออี้นั่นบุกมานานยังผ่านไม่ได้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำได้อย่างนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนใจเต้นระส่ำ ได้แต่ฝืนตั้งสติ “ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร ข้าก็ต้องลอง! ที่ท่านอ๋องฝืนบ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1213

    เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนรู้สึกแยกไม่ออกว่าข้างนอกนั้นคือแสงอรุณหรือแสงยามสนธยาทั้งร่างงงงันอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยรู้ตัวว่ามีอะไรเกิดขึ้นนางอดพึมพำขึ้นมาไม่ได้ “เจ้าแก่ประหลาดนี่ จุดกำยานสะกดวิญญาณในเรือนของตนเองทำไมกัน?”“เจ้าจะมายุ่งอะไรกับข้าด้วย!”ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างๆ เฉียวเนี่ยนสะดุ้งโหยงไปทั้งตัว เพิ่งเห็นว่าเจ้าสำนักราชาโอสถนั่งอยู่ไม่ไกลนักการพูดนินทาผู้อื่นลับหลังย่อมรู้สึกกระดากอยู่บ้างเฉียวเนี่ยนขยี้จมูกตนเอง ทว่ากลับนึกถึงประโยคที่ได้ยินก่อนหมดสติ ใจของนางพลันหวนตึงขึ้นมา “ท่านอ๋องเล่า?”เจ้าสำนักราชาโอสถกลับมีท่าทีแปลกใจ “โอ้โฮ พอตื่นมาก็คิดถึงคนรัก ไม่สนใจร่างกายตัวเองเลย ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าคงลึกซึ้งนัก!”เฉียวเนี่ยนฟังแล้วงงงัน แต่ก็คิดถึงกลิ่นควันสะกดวิญญาณที่ไม่ธรรมดานั้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว จึงก้มมองมือตนเอง ก็เห็นว่ากลางฝ่ามือมีจุดดำคล้ำขนาดเท่าก้อนหินเล็กอยู่เจ้าสำนักราชาโอสถเห็นสีหน้าตกตะลึงของเฉียวเนี่ยนก็พอใจนัก ลูบเคราตนเองแล้วยิ้มกล่าวว่า “อย่ามองว่าในตอนนี้มันเป็นเพียงก้อนหินเล็กๆ รอให้มันโตเท่าไข่ไก่เมื่อไร ชีวิตเจ้าก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1212

    คงเพราะเร่งเดินทางต่อเนื่องหลายวัน เหน็ดเหนื่อยจนถึงขีดสุดหรือบางทีอาจเพราะได้พบคนที่อยากพบมาตลอด ใจที่หวั่นไหวก็พลันสงบลงคืนนั้น เฉียวเนี่ยนหลับสนิทลึกยิ่งนักรุ่งขึ้น เมื่อเฉียวเนี่ยนลืมตาตื่น ฟ้าข้างนอกก็สว่างจ้าแล้วผลักประตูออกไป ก็พลันตะลึงกับภาพเบื้องหน้าสำนักราชาโอสถตั้งอยู่ลึกที่สุดในหมู่ขุนเขาเขียวชอุ่มราวเกล็ดมรกต รอบด้านรายล้อมด้วยผาหินชันประหนึ่งถูกเทพเจ้าฟาดด้วยขวานใหญ่จนแยกออกเฉียวเนี่ยนมองเห็นผาหินสูงเสียดฟ้าเพียงแวบเดียว ก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกดทับอยู่บนหน้าอก หายใจไม่ทั่วท้องโดยไม่รู้สาเหตุในจังหวะนั้นเอง มีคนเดินเข้ามา“แม่นาง เจ้าสำนักให้มาเชิญ”เขาแต่งกายด้วยชุดสีครามเข้ม เหมือนกับพวกที่เมื่อคืนนั้นหามหลินเย่ว์ไป คงเป็นชุดประจำของสำนักราชาโอสถแน่เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินตามชายคนนั้นตรงไปยังเรือนหลังใหญ่ที่สุดทางด้านตะวันออกที่นั่น คือที่พำนักของเจ้าสำนักราชาโอสถทันทีที่ผลักประตูเรือนเข้าไป กลิ่นยาเข้มข้นก็พุ่งเข้าปะทะใบหน้าเฉียวเนี่ยนรีบยกมือขึ้นปิดปากและจมูกท่าทางนั้นกลับทำให้ผู้นำทางเหลือบตามองอย่างเหยียดหยาม“เจ้าสำนักของพวกเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1211

    เฉียวเนี่ยนมองเจ้าสำนักราชาโอสถอย่างตกตะลึง “ท่าน... เหตุใดกัน?”“ชีวิตแลกชีวิต แล้วจะมีประโยชน์อันใดแก่ข้า? เช่นนั้นก็เท่ากับขาดทุนอยู่ดี! เก็บชีวิตเจ้าต่อไปเถิด ยังจะมีประโยชน์เสียกว่า!” พูดจบ เจ้าสำนักราชาโอสถก็ลุกขึ้น เดินออกไปทางประตูเพิ่งเดินถึงหน้าประตู ก็หัวเราะพลางว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้ามาพอดีเลย พานางไปล้างเนื้อล้างตัวที สกปรกสิ้นดี! จิ๊ๆๆ!”เสียงแสดงความรังเกียจดังมา เฉียวเนี่ยนจึงหมดแรงวางมีดสั้นลง ร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้น ราวกับยังไม่อาจหลุดออกจากความสิ้นหวังและการตัดสินใจตายเมื่อครู่ได้แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เบื้องหลังกลับมีเสียงที่คุ้นเคยมานานดังขึ้น"เนี่ยนเนี่ยน"เสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่น ดุจเดียวกับเจ้าของเสียงนั้นเฉียวเนี่ยนหันกลับไปมองทันที ก็เห็นเขายืนอยู่ตรงประตู ร่างสูงใหญ่แทบจะบดบังกรอบประตูไว้ทั้งบานภายในห้อง แสงเทียนไหวระยับฉู่จืออี้ไม่คิดเลยว่า การพบกันครั้งแรกหลังจากห่างหายกันไปเนิ่นนาน จะเป็นฉากเช่นนี้มวยผมของนางยุ่งเหยิงจนไม่เป็นทรง ใบหน้าเปรอะเปื้อน คราบน้ำตาที่เคยไหลทิ้งไว้ยิ่งดูเด่นชัดขึ้นชุดกระโปรงก็ขาดรุ่งริ่ง แม้แต่รองเท้ายังมีรูใหญ่ เผยให้เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status