แชร์

บทที่ 984

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
ประโยคสุดท้ายนั้น ราวกับสายฟ้าฟาดกลางใจ ผ่าเปิดความทรงจำที่หลินเย่ว์จงใจเก็บซ่อนเอาไว้

เขาดูเหมือนเพิ่งตระหนักได้ว่าตนไม่มีสิทธิ์จะยกกำปั้นใส่ฉู่จืออี้

มือข้างนั้น ในที่สุดก็คลายลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

หลินเย่ว์ถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว ใจราวกับระเบิดออก เจ็บหน่วงรุนแรง

ถ้อยคำมากมายจุกอยู่ในลำคอ

เขาอยากบอกฉู่จืออี้ว่า เฉียวเนี่ยนคือแก้วตาดวงใจของตระกูลหลิน เป็นคนที่พวกเขาทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก

เขาอยากบอกฉู่จืออี้ว่า ต่อให้ฉู่จืออี้มีฐานันดรสูงส่ง ในสายตาของเขา ก็ยังไม่คู่ควรแม้แต่ปลายนิ้วของเฉียวเนี่ยน

เขาอยากจะบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยที่ทั้งสองจะคบหากัน

แต่คำพูดเหล่านี้ ประโยคใดเขามีสิทธิ์จะพูด?

บางทีเมื่อสามปีก่อน เขาอาจยังมีสิทธิ์

แต่ตลอดสามปีมานี้ เขาได้โยนสิทธินั้นทิ้งไปด้วยมือตนเองแล้ว

จนกระทั่งบัดนี้ คำพูดเหล่านั้นก็เหมือนคมมีดแหลมคมเฉือนกลางใจและกรีดลำคอ

ครู่ใหญ่ เขาจึงค่อยบีบเอ่ยออกมาจากลำคอที่เจ็บแสบได้เพียงไม่กี่คำ

“อย่ารังแกนางนะ”

แต่น่าขันหรือไม่?

แม้แต่ห้าพยางค์นี้ เขายังไม่มีสิทธิ์จะพูด

เพราะคนที่รังแกเฉียวเนี่ยนอย่างหนักที่สุด ก็คือเขา!

คือเขาที่เป็นพี่ใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Rukzy Zeana
เต้จะขวางมั้ยนะ
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
จะมีอุปสรรคอะไรอีกต่อ เหมือนจะผ้านไปได้ด้วยดี แค่อุปสรรคใหญ่น่าจะรออยู่
goodnovel comment avatar
Meerada Sunny
เฒ่าไร้อารยธรรมจับมือ น่ารักจัง...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 984

    ประโยคสุดท้ายนั้น ราวกับสายฟ้าฟาดกลางใจ ผ่าเปิดความทรงจำที่หลินเย่ว์จงใจเก็บซ่อนเอาไว้เขาดูเหมือนเพิ่งตระหนักได้ว่าตนไม่มีสิทธิ์จะยกกำปั้นใส่ฉู่จืออี้มือข้างนั้น ในที่สุดก็คลายลงอย่างไร้เรี่ยวแรงหลินเย่ว์ถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว ใจราวกับระเบิดออก เจ็บหน่วงรุนแรงถ้อยคำมากมายจุกอยู่ในลำคอเขาอยากบอกฉู่จืออี้ว่า เฉียวเนี่ยนคือแก้วตาดวงใจของตระกูลหลิน เป็นคนที่พวกเขาทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็กเขาอยากบอกฉู่จืออี้ว่า ต่อให้ฉู่จืออี้มีฐานันดรสูงส่ง ในสายตาของเขา ก็ยังไม่คู่ควรแม้แต่ปลายนิ้วของเฉียวเนี่ยนเขาอยากจะบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยที่ทั้งสองจะคบหากันแต่คำพูดเหล่านี้ ประโยคใดเขามีสิทธิ์จะพูด?บางทีเมื่อสามปีก่อน เขาอาจยังมีสิทธิ์แต่ตลอดสามปีมานี้ เขาได้โยนสิทธินั้นทิ้งไปด้วยมือตนเองแล้วจนกระทั่งบัดนี้ คำพูดเหล่านั้นก็เหมือนคมมีดแหลมคมเฉือนกลางใจและกรีดลำคอครู่ใหญ่ เขาจึงค่อยบีบเอ่ยออกมาจากลำคอที่เจ็บแสบได้เพียงไม่กี่คำ“อย่ารังแกนางนะ”แต่น่าขันหรือไม่?แม้แต่ห้าพยางค์นี้ เขายังไม่มีสิทธิ์จะพูดเพราะคนที่รังแกเฉียวเนี่ยนอย่างหนักที่สุด ก็คือเขา!คือเขาที่เป็นพี่ใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 983

    เห็นทั้งสองเดินจับมือกันมา ก็พากันเบิกตากว้าง หลังจากตกใจเสร็จก็หัวเราะและขอเหล้าดื่มกว่าจะกลับมาถึงนอกกระโจมได้ก็ลำบากไม่น้อยเฉียวเนี่ยนเหลือบมองทหารองครักษ์ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้ากระโจม ซึ่งเบิกตากว้างอยู่ก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ “เกรงว่าฟ้ายังไม่สาง เรื่องนี้คงแพร่ไปทั่วแล้ว”ฉู่จืออี้ก็หัวเราะตาม “ข้าก็เตรียมส่งข่าวกลับไปที่เมืองหลวง ทูลเสด็จพี่แล้ว”เฉียวเนี่ยนอดประหลาดใจไม่ได้ “รีบขนาดนี้เชียว?”หางคิ้วของฉู่จืออี้ยกขึ้นเล็กน้อย “แน่นอน ข้าอายุไม่น้อยแล้ว”เฉียวเนี่ยนหัวเราะขำที่เขาพูด “ยังไม่ถึงสามสิบ ไม่ถือว่าแก่หรอก”“แล้วถ้าเลยสามสิบไปแล้ว จะรังเกียจหรือ?”สำหรับฉู่จืออี้แล้ว ความต่างวัยกับเฉียวเนี่ยนถึงแปดปี ก็ยังทำให้ในใจเขามีความไม่มั่นใจอยู่เล็กน้อยเฉียวเนี่ยนแกล้งทำท่าครุ่นคิดจริงจัง เห็นสีหน้าของฉู่จืออี้ค่อยๆ เคร่งเครียดขึ้น จึงอดหัวเราะไม่ได้ “หากพี่ใหญ่ยิ่งแก่ยิ่งแข็งแกร่ง ข้าก็ไม่รังเกียจ”ได้ยินดังนั้น ฉู่จืออี้ก็ชะงักยิ่งแก่ยิ่งแข็งแกร่ง?คำนี้ เขาเคยได้ยินพวกนายทหารในกองพูดอวดกันตอนดื่มเหล้าอยู่บ่อยครั้งมุมปากจึงยกขึ้นเล็กน้อย “โอ้?”เพียงคำเดียวก็ลาก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 982

    ชั่วขณะหนึ่ง เฉียวเนี่ยนก็ยังไม่ทันได้ตอบสนองฉู่จืออี้สูดลมหายใจเข้าลึก แววตาเริ่มสั่นไหวไปมา แต่ฝ่ามือที่จับข้อมือเฉียวเนี่ยนไว้กลับไม่ยอมปล่อย“ข้ารู้ดี ว่าข้าอายุมากกว่าเจ้านัก อีกทั้งยังเป็นคนหยาบกระด้าง พูดจาขวานผ่าซาก ทำอะไรก็ตรงไปตรงมา อาจไม่ได้ทำให้เจ้าชอบ แต่ถ้าเจ้ายินดีแต่งงานกับข้า...”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของฉู่จืออี้จึงค่อยๆ กลับมามั่นคงในที่สุดก็หันมามองเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง แววตาลึกล้ำทอความหนักแน่นมั่นคงอย่างที่สุด “ข้าฉู่จืออี้ขอสาบาน ชั่วชีวิตนี้จะมีแต่เจ้าเพียงผู้เดียว จนกว่าชีวิตจะหาไม่”ความรู้สึกเอ่อท้นในใจก็ไม่อาจข่มไว้ได้อีกเฉียวเนี่ยนไม่รอให้ฉู่จืออี้พูดต่อ ก็โผเข้ากอดเขาอย่างแรงแผงอกกว้างใหญ่ที่แผ่ความร้อนผ่าวออกมา หลังจากชะงักไปชั่วขณะก็โอบรัดนางแน่นขึ้นแม้ไม่มีคำตอบ แต่เพียงอ้อมกอดนี้ก็เพียงพอจะบอกทุกสิ่ง...ลานฝึกซ้อมนั้นค่อนข้างกว้างเหล่าองครักษ์พยัคฆ์วิ่งกันต่อเนื่องเกือบแปดรอบก็รู้สึกว่าเริ่มไม่ไหวแล้วแต่ไม่คิดว่าภายใต้แสงจันทร์ จะมีคนสองคนเดินเคียงกันมาพี่ห้าเป็นคนแรกที่เห็น สายตาก็จับจ้องไปยังเงาร่างสองคนนั้นไม่วางตาคนอื่นๆ ก็ทย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 981

    ไม่เช่นนั้น ต่อให้เป็นแค่เสียงลมสายใจอันแผ่วเบาที่ดังขึ้นมาในกระโจม เขาก็สามารถรู้สึกได้เมื่อเห็นฉู่จืออี้ไม่พูดอะไร เจ้ารองก็ยั้งรอยยิ้มกลับไปเล็กน้อยเขาก้าวเข้ามา เอ่ยกับฉู่จืออี้ช้าๆ ว่า “วางใจเถิด คนที่ส่งตัวออกไปข้าก็เรียกกลับมาทันทีแล้ว หลินเย่ว์กับเจ้าห้าก็ไม่ได้ไปไหน อยู่ข้างนอกกระโจมนี่แหละ”เมื่อได้ยินเช่นนั้นแววตาของฉู่จืออี้ก็พลันฉายแววดุดัน “เช่นนั้นพวกเขาทุกคนก็รู้แล้วรึ?”เช่นนั้นความวุ่นวายวันนี้หลอกเพียงเขาคนเดียวหรือ?เจ้ารองสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ฉู่จืออี้กำลังจะแผ่ออกมา จึงถอยไปโดยสัญชาตญาณ “เอ่อ งั้นข้าไปรายงานสถานการณ์ให้พวกเขาฟังก่อนนะ!”ว่าจบก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังได้ยินเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดของฉู่จืออี้ “ไปวิ่งรอบลานฝึกสิบรอบ!”“โอ้!”ข้างนอกตอบรับพร้อมกันเสียงดังกึกก้อง ฟังแล้วคล้ายยังแฝงด้วยรอยยิ้มขบขันในกระโจมกลับเงียบสงัดลงบรรยากาศกระอักกระอ่วนค่อยๆ แผ่ขยายและกลืนทั้งสองคนเข้าไปเฉียวเนี่ยนถึงกับรู้สึกว่าตนราวกับตกลงไปในบึงลึก แม้แต่การหายใจก็ยากยิ่งนักฝ่ามือขยี้ไปมา แก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างมากเฉียวเนี่ยนพลันตระหนักว่าตนเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 980

    เพียงแค่ชำเลืองมอง ฉู่จืออี้ก็รู้สึกว่าโลหิตทั่วร่างหลั่งพุ่งพล่านขึ้นสู่กระหม่อมเขาก้าวพุ่งไปข้างหน้า ผลักเจ้ารองออกไปเต็มแรง "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?"ขณะเอ่ย ฉู่จืออี้ก็ย่อตัวลง แก้เชือกที่มัดมือเท้าของเฉียวเนี่ยน ใบหน้ามืดหม่นน่ากลัวแรงผลักนั้นรุนแรงมาก เจ้ารองเกือบจะล้มหงายหลัง ดีที่ตั้งตัวได้ทันมองใบหน้าที่บึ้งตึงแข็งกร้าวดุจเหล็กกล้าของฉู่จืออี้ แต่กลับยิ้มหน้าด้าน "เรื่องนี้ข้าผิด แต่ก็จำต้องทำ หากไม่ใช้แผนนี้ให้เจ้าทั้งสองมองให้ชัดว่ามีใจต่อกันเพียงใด พวกเจ้าจะยังวุ่นวายกันไปถึงเมื่อไหร่?"ฉู่จืออี้ไม่ตอบ แต่รัศมีรอบกายกลับมืดมนอย่างรุนแรงเขาดึงผ้าที่ปิดปากเฉียวเนี่ยนออก แล้วจึงลุกขึ้น มองไปยังเจ้ารอง "นี่ไม่ใช่ข้ออ้างให้เจ้าทำเรื่องเหลวไหล! รู้หรือไม่ว่าวันนี้ข้าระดมคนไปเท่าไร? หากเกิดศึกขึ้นกระทันหัน รู้หรือไม่ว่าจะทำให้เสียการไปเพียงใด?!"เพียงแต่ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่เคยมองเฉียวเนี่ยนเลยสักครั้งราวกับว่าหากไม่มอง ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับมันเจ้ารองรู้ดีว่าวันนี้การกระทำนี้ย่อมทำให้ฉู่จืออี้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดังนั้นเขาจึงเตรียมใจรับโทษไว้แล้วกลับพูดว่า "ข้ารู้แน่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 979

    ด้านนอกเปิดทางแล้ว เกอซูอวิ๋นก็พุ่งเข้ามา "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? เจอเนี่ยนเนี่ยนหรือยัง?"สีหน้านางเต็มไปด้วยความกังวลจนถึงขนาดลืมสวมผ้าคลุมหน้าที่ปกติเวลาเจอผู้อื่นจะต้องใส่ ใบหน้างามล่มเมืองนั้นก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าคนทั้งสองเช่นนี้เจ้ารองชะงักไปเขารู้อยู่ว่าหญิงสาวกลุ่มชนเตอร์กิกล้วนงดงาม แต่สวยดั่งเกอซูอวิ๋นนั้นหาได้ยากนักข้างกายกลับได้ยินเสียงเย็นชาของฉู่จืออี้ดังขึ้น "เจอแล้วจะบอก ออกไป!"ช่างไม่เข้าใจความอ่อนโยนต่อสตรีแม้แต่น้อยเกอซูอวิ๋นชะงักไป ดวงตาก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที "ท่านไม่เหมือนกับที่เนี่ยนเนี่ยนบอกข้าเลย! ท่านไม่ดีเอาเสียเลยสักนิด!"ว่าจบ เกอซูอวิ๋นก็วิ่งออกไปด้วยความน้อยใจเจ้ารองขยับปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ได้แค่ถอนหายใจอย่างจนใจ ก่อนจะมองไปยังฉู่จืออี้ "องค์หญิงก็แค่เป็นห่วงเนี่ยนเนี่ยน เจ้าจะต้องทำถึงเพียงนี้เชียวหรือ?"ฉู่จืออี้สีหน้าเย็นชา ไม่เอ่ยตอบเขาเองก็ไม่อยากเป็นแบบนี้แม้จะปวดหัวกับเรื่องการแต่งเชื่อมสัมพันธ์ เขาก็รู้ว่าเกอซูอวิ๋นจำต้องยอมโดนส่งตัวมา ดังนั้นตลอดช่วงที่ผ่านมา เรื่องกินอยู่ใช้สอยของเกอซูอวิ๋นก็ล้วนดีที่สุดในกองทัพ เขาไม่เคยละเลยองค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status