Share

บทที่ 3 เพียงพราว

last update Last Updated: 2025-11-02 02:08:03

@บ้านกัลยาภัค

แกร๊ก~

เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้จารุเดชที่กำลังนั่งเขียนบางอย่างอยู่เงยหน้ามามองตามต้นทางของเสียงก่อนจะเห็นร่างบางที่ค่อย ๆ แทรกตัวผ่านประตูห้องเข้ามาอย่างระมัดระวังราวกับกลัวว่าจะรบกวนคนด้านใน ใบหน้าหวานถูกประดับด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองกำลังทำกิจกรรมบางอย่างที่ไม่ใช่การนอนหลับอยู่บนเตียง ไม่รู้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธออยากจะให้เขาลุกขึ้นมาใช้ชีวิตทั้งวันได้อย่างปกติ น้อยครั้งนักที่จารุเดชจะมีเรี่ยวแรงและไม่อ่อนเพลียแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ปกติเขามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนหลับเสียมากกว่า

“ทำอะไรอยู่เหรอคะ เอ๊ะ! ทำไมมีรูปของพราวด้วย” ดวงตาสวยเปล่งประกายเมื่อเห็นรูปของตัวเองในตอนยังเป็นทารกที่เหมือนจะถูกแปะอยู่บนสมุดโน๊ตเล่มหนึ่งในมือของพ่อตัวเอง

“พ่อกำลังเขียนบันทึกอยู่น่ะ มานั่งก่อนสิ”

“เขียนบันทึกเหรอคะ?”

“ใช่ นี่รูปของพราวตอนแรกเกิดที่พ่อเป็นคนถ่ายเอาไว้ ตอนนั้นพราวเหมือนตุ๊กตามากเลยนะ พ่อเองก็ไม่คิดเลยว่าลูกของพ่อจะน่ารักมากขนาดนี้” จารุเดชพูดไปยิ้มไปเมื่อนึกถึงเรื่องราวเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน นอกจากการได้แต่งงานกับคนที่รักแล้วก็มีแค่เรื่องของลูกสาวคนนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดนี้

“ตอนนั้นพ่อเป็นคนตั้งชื่อของพราวเองนะ พอรู้ว่าลูกพ่อเป็นผู้หญิงก็คิดชื่อเลย เพียงพราว..ชื่อที่แปลว่าพ่อจะมีเพียงแค่พราวกับแม่ของพราวเท่านั้น” เพียงพราวยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ภายในใจเมื่อรับรู้ความหมายของชื่อตัวเอง ถึงเธอจะเคยรู้มาบ้างแล้ว แต่มันก็ยังคงรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ฟังจากปากของคนที่เธอรัก

“ยังมีอีกหลายเรื่องเลยที่พ่อพยายามนึกแล้วเขียนมันออกมา หรือบางเรื่องที่พ่ออาจจะไม่เคยเล่ามันให้พราวฟัง ถ้ายังไงพราวมาอ่านบันทึกเล่มนี้ได้เลยนะ”

“แต่พราวอยากฟังจากปากของพ่อมากกว่าค่ะ”

“หึ พ่อคงไม่มีโอกาสได้เล่ามันจนจบหรอกนะ เพราะเวลาที่เหลืออยู่มันก็ไม่ได้ยาวนานพอที่จะเล่ามันจนหมดได้” รอยยิ้มในตอนแรกของเพียงพราวจางหายไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคนเป็นพ่อพูดราวกับเป็นการย้ำเตือนถึงช่วงเวลาที่เหลืออยู่อันน้อยนิดของเขา ซึ่งเมื่อเดือนก่อนครอบครัวของเธอก็ได้รู้ถึงข่าวร้ายที่ทำให้ชีวิตของทุกคนได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

เพียงพราวต้องลาออกจากการเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเพื่อกลับมาดูแลจารุเดชที่ตรวจพบว่าป่วยเป็น “มะเร็ง” ระยะสุดท้าย และต้องมารับช่วงต่อในการบริหารธุรกิจการนำเข้าสินค้าของครอบครัวแทน เธอพยายามที่จะแบ่งเบาและทำทุกอย่างเพื่อให้คนเป็นพ่อไม่เครียดและมีสภาพจิตใจที่ดีที่สุดระหว่างการรักษา แม้กระทั่งการเลือกคู่ชีวิต

“แต่พ่อก็ดีใจนะที่อย่างน้อยพราวก็มีคนคอยดูแล ตอนแรกพ่อกังวลมากว่าพราวจะต้องลำบากถ้าไม่มีพ่อ”

“พราวบอกแล้วไงคะว่ายังไงพราวก็อยากอยู่กับพ่อมากกว่า แล้วพ่อก็ไม่ต้องเป็นห่วงพราวด้วย ตอนนี้พราวอยากให้พ่อรักษาตัวเพื่ออยู่กับพราวนาน ๆ นะ”

“ฮ่า ๆ งั้นพราวก็เอาหลานมาแลกสิ พ่อจะได้มีกำลังใจในการรอเลี้ยงหลานไง”

“ร้ายนักนะที่ปิดบังเรื่องของแฟนเรามาตั้งนาน พ่อกับลุงภูมิไม่คิดเลยว่าทั้งสองคนจะคบหากันอยู่แล้ว” จารุเดชพูดไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกสาวตัวเองกับลูกชายของรุ่นพี่ที่เคยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาเองที่อยากจะให้เพียงพราวได้มีคนรักไว้คอยดูแลและอยู่เคียงข้างเธอในตอนที่ตัวเองไม่อยู่ กับตระกูลพัชรเทพพิพัฒน์ที่ต้องการอยากจะหาลูกสะใภ้ที่เหมาะสมให้กับลูกชายคนโต สุดท้ายทั้งสองคนก็รักและกำลังจะสร้างครอบครัวไปด้วยกัน...ไม่มีอะไรที่จะน่ายินดีสำหรับเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว

เพียงพราวได้แต่นั่งฟังอีกคนเงียบ ๆ อย่างไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ เพราะเธอเองก็รู้สึกกระดากปากเกินกว่าจะสรรเสริญผู้ชายอีกคนได้

ติณณภพถือเป็นผู้ชายที่ปากเสียและไร้มารยาทที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา อีกทั้งยังเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองยิ่งกว่าอะไร ข้อดีของเขาที่เธอยอมรับได้คงมีเพียงแค่การไม่ละโมบโลภมากอยากได้ทรัพย์สมบัติของครอบครัวเธอ และการที่เขาก็ไม่ได้พิสวาทในตัวเธอเท่านั้น ที่ทำให้เพียงพราวไม่ต้องปวดหัวมากกว่าเดิมและยอมที่จะเลือกเป็นหุ่นเชิดในสังคมธุรกิจของเขาเพื่อแลกกับสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้นของพ่อตัวเอง เพราะตั้งแต่ที่จารุเดชรู้ว่าลูกสาวกำลังจะแต่งงานเขาก็ดูสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก และไม่ได้มีความกังวลแบบเมื่อก่อน อย่างน้อย ๆ มันก็คุ้มค่ากับอิสระที่แลกเปลี่ยนไป

“ข้อตกลงนี้ฉันคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายได้รับความเสี่ยง แต่ที่ฉันยอม ก็เพราะหวังว่าเธอจะทำประโยชน์ได้แบบที่คุยกันไว้”

เขาก็อยู่ส่วนเขา และเธอก็อยู่ส่วนเธอ ทั้งสองต่างไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน แต่เราต่างรู้ดีว่าหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่เพียงพราวและติณณภพได้คุยกันเมื่อสัปดาห์ก่อน

“พราวต้องมีความสุขให้มากนะรู้ไหม เพราะถ้าพราวมีความสุข พ่อก็จะมีความสุขด้วย”

“ค่ะ...”

“พ่อไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองจะอยู่ได้นานถึงเมื่อไหร่ ระยะเวลาอาจจะเป็นเดือน เป็นปีหรือมากกว่าที่เราคิดเอาไว้...แต่ในอนาคตพ่ออาจจะไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม พ่ออาจจะจำพราวไม่ได้ อาจจะลืมความสุข ลืมช่วงเวลาที่เคยมีกับพราวและแม่ไป แต่ขอให้รู้ไว้ว่าลึก ๆ แล้ว พ่อยังเป็นพ่อคนเดิมและจะยังยินดีกับทุกความสำเร็จ ทุกความสุขของพราวเสมอนะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พอกันทีกับบทภรรยาผู้แสนดี   ตอนพิเศษ 7 [END]

    สองปีต่อมา (บ้านพัชรเทพพิพัฒน์) “ตายจริง น่ารักจังเลยหลานย่า ดูสิปากนิดจมูกหน่อยแถมตายังโตเหมือนแม่อีก ทำไมถึงได้สวยขนาดนี้นะ” อาภัสราที่ตอนนี้กลายเป็นคุณย่าอย่างเต็มตัวเอ่ยชมหลานสาวคนแรกอย่างไม่หยุดปากระหว่างที่กำลังเลือกชุดที่เข้าเซ็ตให้กับ “เพียงขวัญ” ไปด้วย ตั้งแต่ที่รู้ว่ากำลังมีหลานคนแรกจนถึงตอนนี้เธอก็เห่อหลานของตัวเองไม่หยุด จนไม่ว่าจะทำอะไรตอนนี้ต่างมีแค่เด็กหญิงเพียงขวัญเท่านั้นที่เธอจะนึกถึงเพียงขวัญ...ที่แปลว่าของขวัญที่ล้ำค่าสำหรับพ่อและแม่“ยา~”“ขาว่ายังไงลูก ชอบหมวกสีนี้เหรอคะ?” คนเป็นย่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอารมณ์ดีเมื่อหลานรักตอบเสียงใสกลับมา ขณะที่ภูวนาถได้แต่ส่ายหัวเล็กน้อยกับความเห่อหลานของภรรยา“เก็บของตัวเองเสร็จหรือยังถึงได้มาวอแวกับหลานอยู่น่ะ” ชายมากวัยอดไม่ได้ที่จะกระแนะกระแหนภรรยาของตัวเอง เพราะวันนี้ทั้งครอบครัววางแผนกันว่าจะพาเพียงขวัญไปทะเลครั้งแรกรวมถึงไปพักผ่อนช่วงวันหยุดของครอบครัวด้วยกัน แต่อาภัสรานี่สิ! ห่วงแต่มาเล่นกับหลานจนเขาต้องเป็นคนจัดกระเป๋าให้เธอ แถมยังไปขโมยลูกของลูกชายและลูกสะใภ้มาที่ชั้นล่างก่อนอีก“ก็ลูกชายกับลูกสะใภ้ของเรากำลังจัดขอ

  • พอกันทีกับบทภรรยาผู้แสนดี   ตอนพิเศษ 6

    สองเดือนต่อมา“ทำไมหน้าบวมแบบนี้เนี่ย” เพียงพราวมุ่ยหน้าตอนที่กำลังส่องกระจกและเห็นว่าใบหน้าของตัวเองเริ่มมีการเปลี่ยนไป ช่วงหลังมานี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาหารที่อาภัสราพยายามทำให้เธอกินทุกวันหรือว่าการที่ติณณภพดูแลเธอดีมากเป็นพิเศษเลยทำให้หญิงสาวดูมีน้ำมีนวลมากกว่าเดิมหลังจากวันนั้นเพียงพราวก็ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของแพรไหมอยู่ตลอดเพื่อคอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับเธอและลูกที่อยู่ในท้อง หญิงสาวไม่ได้ตามไปหาหรือพยายามพูดคุยให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญใจ แต่เพียงพราวแค่คอยทำหน้าที่ในส่วนของเธอเงียบๆ เช่น การดูแลความปลอดภัยต่างๆ หากแพรไหมต้องอยู่บ้านคนเดียว หรือการให้แพทย์ที่ดีที่สุดในการดูแลเธอกับลูกซึ่งแพรไหมที่รู้ว่าทุกอย่างมาจากอำนาจของติณณภพที่มีเพียงพราวเป็นคนอยู่เบื้องหลัง เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีแบบเมื่อก่อน เพราะทุกอย่างที่เพียงพราวทำให้ล้วนจำเป็นต่อเธอและลูกในท้องทั้งหมด จึงทำให้นานวันแพรไหมเริ่มยอมให้เพียงพราวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเธอมากกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดก็มีส่วนมาจากเจษที่เป็น ‘คนรัก’ ของแพรไหมในตอนนี้ที่คอยเป็นคนกลางให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันเจษได้เป็นคนมาดูแลแพรไหม

  • พอกันทีกับบทภรรยาผู้แสนดี   ตอนพิเศษ 5

    หลายวันต่อมา“เดินไหวไหม?” ติณณภพประคองภรรยาสาวขณะที่เธอกำลังเดินเข้าไปในซอยแคบของหมู่บ้านที่ติดทะเลแห่งหนึ่งที่รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งทันทีที่กลับมาถึงกรุงเทพ เพียงพราวก็ได้ให้คนของเขาสืบข้อมูลเกี่ยวกับแพรไหมในตอนนี้ทันทีว่าเธอมีความเป็นอยู่อย่างไร รวมถึงเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นกับเธอก่อนที่ทั้งคู่จะมาที่จังหวัดนี้เพื่อมาพบกับหญิงสาว“ไม่ต้องมาทำดีกับพราวเลยค่ะ เฮียทำทุกวันเช้าเย็นแบบนี้จะให้พราวเดินปกติได้ยังไง ขนาดพราวพยายามอ้อนวอนแล้วยังฉุดพราวเข้าไปทำในห้องน้ำเลย”ติณณภพหัวเราะให้กับคำพูดน่าสงสารที่เพียงพราวพูดออกมา ท่าทีของเธอตอนนี้คล้ายกับกำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองอยู่ที่ถูกเขาเอาเปรียบทุกวัน“ก็พราวตกลงกับเฮียเองว่าเราจะมีลูกด้วยกัน เพราะฉะนั้นเฮียก็ต้องเป็นคนทำสิ”“แต่ทำแบบนี้มันเอาเปรียบพราวนะคะ!”สองสามีภรรยาเดินเถียงกันมาตลอดทางตามประสาโดยมีติณณภพที่คอยจับมือกับเพียงพราวไม่ห่าง ก่อนทั้งคู่จะมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านไม้แห่งหนึ่ง เธอรู้ดีว่าแพรไหมเป็นคนที่มีฐานะปานกลางและไม่ได้ยากจนเท่าไรนักซึ่งทุกอย่างที่ทำให้หญิงสาวมีวันนี้ได้ก็มาจากเงินและสิ่งของที่ติณณภพมอบใ

  • พอกันทีกับบทภรรยาผู้แสนดี   ตอนพิเศษ 4

    “อยากให้พราวขึ้นให้เหรอ?” เพียงพราวลูบที่ใบหน้าหล่อในตอนที่ติณณภพนั่งลงบนโซฟาโดยมีเธอนั่งทับแก่นกายใหญ่อยู่ด้านบน ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรแต่เขาเลือกที่จะขยับใบหน้าเข้ามาแนบริมฝีปากอีกครั้ง ขณะที่มือใหญ่เริ่มลูบไล้ไปตามเอวคอดก่อนจะบังคับให้ร่างบางขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ“อาา...ร้อนแรงจังเลยนะ” ติณณภพยอมผละริมฝีปากออกมาเมื่อคนที่นั่งอยู่เริ่มเร่งจังหวะหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เพียงพราวใช้มือดันไปที่แผงอกแกร่งแล้วหมุนควงสะโพกไปด้วย เขาปล่อยให้เธอเป็นคนคุมเกมเองในรอบนี้ และดูเหมือนว่าเพียงพราวเองจะทำได้ดีเป็นอย่างมาก“อีกหน่อยลูกคงมาแย่งเฮียแล้วสินะ” ฝ่ามือหยาบกอบกุมเต้าใหญ่ที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการเคลื่อนไหวก่อนจะครอบริมฝีปากลงไปฉกชิมปลายถันอีกครั้ง“ยังไม่ทันมีลูกก็น้อยใจแล้วเหรอคะ” เพียงพราวไม่ได้ถือสาคนหื่นที่ฉวยโอกาสสัมผัสเธออย่างลึกซึ้งครั้งแล้วครั้งเล่า หญิงสาวยังคงปล่อยให้ชายหนุ่มได้ทำตามใจของตัวเอง เช่นเดียวกับเธอที่ขณะนี้ยังคงปรนเปรอว่าที่พ่อของลูกให้มีความสุขเช่นเดียวกันเพียงพราวจัดการผลักร่างกำยำให้ลงไปนอนราบกับโซฟาจากนั้นจึงควบคุมเกมรักครั้งนี้ด้วยตัวเอง ก่อนหญิงสาวจะเชิ

  • พอกันทีกับบทภรรยาผู้แสนดี   ตอนพิเศษ 3

    “เฮียชอบนะเวลาที่พราวเรียกชื่อเฮียเวลาเสร็จ” คนหื่นยอมผละริมฝีปากออกหลังจากตักตวงน้ำหวานของภรรยาสาวจนหมด สายตาที่เขามองเธอเต็มไปด้วยความรักและความเสน่หาจนเพียงพราวรู้สึกวูบวาบไปทั่วทั้งเรือนร่าง ทั้งๆ ที่เธอรู้ว่าติณณภพกำลังกลั่นแกล้งเธออยู่แต่เพียงพราวก็ไม่สามารถที่จะห้ามหัวใจที่เต้นแรงของตัวเองได้เลย ทั้งคำพูดและการกระทำของเขาล้วนมีผลต่อหัวใจดวงน้อยเป็นอย่างมาก“หยุดแกล้งพราวได้แล้วค่ะ”“ไม่ได้แกล้งแต่ชอบจริงๆ”“วันนี้สดนะ จะทำลูกสาว”“มั่นใจเหรอคะว่าจะได้?”“ก็พ่อกับแม่ตั้งใจขนาดนี้ ยังไงลูกก็คงไม่ใจร้ายกับเราหรอก”เพียงพราวมองท่าทางจริงจังของติณณภพด้วยความเอ็นดู เธอยกมือขึ้นมาลูบหัวของชายหนุ่มเบาๆ ในจังหวะที่เขาโน้มใบหน้าลงมาหยอกเย้ากับหน้าอกใหญ่ ยอดปทุมถันถูกขบเม้มสลับกับดูดดุนจนคนโดนกระทำเบ้หน้าในบางจังหวะทว่ามันกลับปลุกเร้าอารมณ์ของเธอได้เป็นอย่างดี“อึก...อย่าดูดแรงค่ะ”“อืม~” ติณณภพไม่ได้สนใจคำห้ามปรามของคนด้านบน เขายังคงหยอกล้อกับร่างกายสาวตามอารมณ์ดิบของตัวเอง ยังไงคืนนี้เขาก็ต้องเต็มที่ที่สุด! เพื่อให้ได้ในสิ่งที่หวังไว้“อ๊าาาา...ค่อยๆ ดันเข้ามานะคะ...อึก...อื้อ!” นิ้วเรี

  • พอกันทีกับบทภรรยาผู้แสนดี   ตอนพิเศษ 2

    ติณณภพวางตัวของเพียงพราวลงบนพื้นด้วยความแผ่วเบาเมื่อเข้ามาที่ด้านในแล้ว ก่อนจะดันร่างของหญิงสาวให้แนบชิดกับผนังโดยที่ริมฝีปากยังคงบดขยี้กันอย่างดูดดื่มฝ่ามือใหญ่ลูบไปตามเรือนร่างของเธอด้วยความหลงใหลก่อนที่ชุดนอนสายเดี่ยวจะถูกกระตุกให้ร่วงลงกับพื้นอย่างง่ายดาย“เฮีย! ทำไมต้องกระชากด้วย สายมันขาดหมดแล้ว” เพียงพราวต่อว่าคนป่าเถื่อนในตอนที่เขาฉีกกระชากชุดของเธออย่างแรงจนมันขาดแบบที่ไม่สามารถจะใส่ต่อได้ เธอรู้ว่าเขามีเงินจนสามารถซื้อชุดใหม่มาให้ได้อีกมากมาย แต่ชุดนี้เพียงพราวเพิ่งจะใส่ได้ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ! ทำไมติณณภพถึงได้เป็นคนนิสัยไม่ดีแบบนี้“เฮียอยากเห็นตอนที่ชุดมันหลุดออกจากตัวของพราวไง” ภาพที่ชุดตัวบางกำลังร่วงหล่นลงไปจนเผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าปลุกเร้าอารมณ์ของติณณภพได้เป็นอย่างมาก และมันมากกว่าการถอดแบบธรรมดาเสียอีก ซึ่งเพียงพราวเองถ้าดูจากช่วงล่างของเขาตอนนี้ก็สามารถรับรู้ได้แล้วว่าเขามีอารมณ์มากขนาดไหน“ถ้าอยากได้ลูกสาวก็ต้องแลกหน่อย”“เฮียอยากมีลูกสาวเหรอคะ”“เปล่า มีหลานผู้หญิงคนแรกแม่จะได้หลงแล้วเอาสมบัติให้” ติณณภพพูดหยอกล้อทำให้โดนเพียงพราวหยิกไปหนึ่งทีกับความคิดชั่วร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status