LOGINรถเอสยูวีสีดำสนิทยกสูง ภาคินัยเปิดประตูรถให้เธออย่างสุภาพ อัญชลิดาก้าวขึ้นรถมาก่อนที่พ่อเลี้ยงหนุ่มจะวนมานั่งในตำแหน่งคนขับ ผมยาวนุ่มสลวยของเธอเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานหลังจากที่ภาคินัยแอบสัมผัสในช่วงที่เขาเอื้อมมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอเมื่อสักครู่ บรรยากาศภายในรถเงียบสงัดจนเสียงทุ้มนุ่มต้องเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบนั้น
“ผมเสียใจด้วยจริง ๆ เรื่องพี่ชายคุณ”
“ขอบคุณค่ะ แล้วอาการน้องสาวของคุณภาคินัยเป็นอย่างไรบ้างคะ” หญิงสาวถามเขาด้วยความห่วงใย
“อาการยังโคม่าอยู่เลยครับ สมองบวม หมอบอกต้องดูอาการวันต่อวัน” เขาหันมาตอบ
“คุณมีอะไรให้ผมช่วย ก็บอกมาได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” ภาคินัยกล่าวต่อ ก่อนจะหันมามองใบหน้าสวยปนเศร้าของเธอ
“ขอบคุณมากนะคะ คุณใจดีกับฉันและคุณป้ามากเลยค่ะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยความซาบซึ้ง
“คุณมีพี่น้องกี่คนครับ” เขาชวนคุยต่อ เพื่อสร้างความรู้จักกับเธอ
“สองคนค่ะ พี่พีร์พี่เป็นพี่ชายคนเดียวของฉันค่ะ”
“คุณเรียกผมว่าภีมก็ได้นะครับ เรียกภาคินัยจะยาวไปนิด” เขาหันมายิ้มกว้างให้เธอ ภายใต้แว่นตาสีดำ จมูกโด่งเป็นสันช่างรับกับใบหน้าและแว่นตาของเขา เธอแอบชื่นชมลึก ๆ ในใจ!
“ค่ะ งั้นคุณภีมเรียกฉันว่า อัญก็ได้ค่ะ” เธอบอกอย่างเป็นกันเอง
“โอเคครับคุณอัญ” ภาคินัยตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
“คุณรู้จักกับพี่ชายของอัญมาก่อนเหรอเปล่าคะ?” อัญชลิดาตัดสินใจถามด้วยความสงสัย เมื่อรู้สึกว่าเขาเป็นกันเองกับเธอ
“ก็พอจะเคยได้ยินน้องสาวเล่าให้ฟังบ้างนะครับ แต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงสักที” ภาคินัยตอบหญิงสาวอย่างพิจารณา แล้วความเงียบงันในรถก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง
“ทำไมคุณอัญถึงเงียบไปล่ะครับ” เขาถามขึ้น อัญชลิดานึกไปถึงตอนที่เธอบังเอิญได้ยินพี่ชายคุยโทรศัพท์กับเนตรดาว วันนั้นทั้งคู่ทะเลาะกันทางโทรศัพท์ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่เหมือนได้ยินว่าเนตรดาวมีสามีอยู่แล้ว แต่อัญชลิดาก็ไม่กล้าถามภาคินัยตรง ๆ
“อ๋อ.. พอดีอัญกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ค่ะ”
“คุณเรียนจบแล้วเหรอครับ” เขาชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนมต่อ
“ค่ะ อัญเพิ่งเรียนจบ แล้วก็กำลังหางานทำอยู่ด้วย” เธอตอบอย่างไม่อาย
“งั้นก็ดีเลย คุณสนใจไปทำงานในไร่มั้ยครับ”
“งานอะไรถ้ามีตอนนี้ อัญก็ทำหมดละค่ะไม่เกี่ยง ขอให้มีคนจ้าง” คุณลุงของเธอที่ป่วยติดเตียงก็ยังต้องการใช้เงินอีกมาก ยิ่งพี่ชายของเธอจากไปกะทันหันแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้รายได้หดหาย ลำพังคุณป้าที่เป็นแค่แม่บ้านของโรงแรมเงินเดือนก็ช่างน้อยเต็มที
“คุณอัญอยากไปทำงานที่ไร่องุ่นมั้ยครับ” ภาคินัยตัดสินใจเอ่ยปากชวน
“คุณภีมจะฝากงานให้อัญเหรอคะ”
“เปล่าหรอกครับ คือว่าเป็นไร่องุ่นของผมเอง” เขาบอกกับเธอตรง ๆ
“ว้าว!..คุณภีมมีไร่องุ่นด้วยเหรอคะ” เธอบอกเขาด้วยความชื่นชม
“ครับ...อยู่ที่สะเมิง”
“พอดีมีตำแหน่งผู้จัดการไร่กำลังว่างอยู่พอดี” เขาเอ่ยต่อจากนั้นเมื่อเห็นเธอเงียบไป
“อัญต้องบอกคุณป้าก่อนค่ะ” ใบหน้าที่สวยหวานและดวงตากลมโตของเธอ แสดงถึงความใสซื่อบริสุทธิ์ แต่เขาจะใจอ่อนกับเธอไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรนะครับ ผมให้คุณตัดสินใจก่อนก็ได้”
ภาคินัยรีบตอบเพราะไม่ต้องการให้อัญชลิดาล่วงรู้หรือระแคะระคายถึงความแค้นที่ซ่อนอยู่ภายในใจของเขา
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” อัญชลิดาบอกก่อนจะหันมายิ้มให้เขาอย่างจริงใจ ภาคินัยใช้เสน่ห์อันตราย ล่อลวงเธออย่างจัดหนักจัดเต็ม หญิงสาวที่แอบปลื้มในความหล่อเหลาของพ่อเลี้ยงหนุ่มก็แทบไม่อยากปฏิเสธข้อเสนอ
“ไม่เป็นไรครับ” ภาคินัยตอบ ทั้งสองคนเงียบไปอีกครั้ง อัญชลิดามองออกไปนอกหน้าต่างรถ เธอเห็นภาพทิวทัศน์ที่เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภาคินัยจ้องมองถนนข้างหน้าด้วยสายตาที่แน่วแน่
“ใกล้ถึงวัดแล้วค่ะ” อัญชลิดาหันมาบอกพ่อเลี้ยงหนุ่ม
“เลี้ยวเข้าซอยข้างหน้านี้ไป วัดจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ” เธอบอกเขาเสร็จสรรพ
“ครับ” ภาคินัยตอบสั้น ๆ ก่อนจะขับรถเข้าไปภายในวัดที่เงียบสงบ มีเสียงสวดมนต์ดังใกล ๆ เมื่อรถจอดสนิท เขาก็ลงมาเปิดประตูรถให้เธอ ก่อนจะยื่นมือเพื่อให้เธอเอาไว้เป็นที่ยึด หญิงสาวลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมจับมือของเขา
ตอนที่ 20 ที่หนึ่งไม่ไหวเมื่อถูกคะยั้นคะยอจากเพื่อน อัญชลิดาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ธีรภัทรฟังอย่างละเอียด น้ำเสียงของเธอสั่นเครือไปด้วยความเจ็บปวดและความสับสน ธีรภัทรเงียบไปสักพัก ก่อนจะเรียบเรียงคำถามมากมายในหัวออกมาเป็นคำพูด เพื่อถามเธอทีละประโยคอย่างใจเย็น“พี่ภีมเขาสืบจนรู้ว่าพี่ชายของเธอแอบเป็นชู้กับภรรยาของเขา...ถูกต้องไหม” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงเรียบชัดถ้อยชัดคำ“อืม” เธอตอบเสียงอยู่ในลำคอ ก่อนจะพยักหน้าให้เขารับรู้“เขาก็เลยโกรธที่เธอไม่บอกความจริงงั้นเหรอ”“ก็ประมาณนั้นแหละ” ผู้จัดการสาวถอนหายใจก่อนตอบ“แต่ฉันว่าพักหลังๆ มานี้ พี่ภีมดูหึงหวงเธอเป็นพิเศษเลยนะ โดยเฉพาะกับฉัน เขาคิดอะไรกับเธอใช่ป่ะ” ธีรภัทรตัดสินใจถามเธอตรงๆ เพราะเขาก็ดูออกว่าเพื่อนมีใจให้กับพ่อเลี้ยงธีรภัทรมองอัญชลิดาด้วยแววตาเป็นห่วง เขารู้ว่าเธอรักภาคินัย แต่เขาก็กลัวว่าเธอจะเจ็บปวด เขากลัวว่าภาคินัยจะทำร้ายเธออีก เขาไม่เคยบอกความรู้สึกของเขาให้อัญชลิดารู้ เพราะเขากลัวว่าเธอจะปฏิเสธ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าบอกไปก็คงไม่มีประโยชน์ อัญชลิดาไม่ได้คิดกับเขาไปมากกว่าคำว่าเพื่อนเลย แต่เขาก็พร้อมจะปกป้องเธอจากอันตร
ตอนที่ 19 ความห่วงใยและไฟหึงโรงพยาบาลอำเภอสะเมิงภาคินัยนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้เลย เดินวนไปวนมาอย่างร้อนรน เมื่อประตูห้องตรวจเปิดออก คุณหมอเดินออกมา ภาคินัยรีบตรงเข้าไปหาทันทีก่อนที่ธีรภัทรจะได้เอ่ยถาม“คุณหมอ ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับ” เขาเอ่ยเสียงดังเหมือนเจาะจงให้ใครบางคนได้ยิน จนธีรภัทรที่นั่งรออยู่รับรู้ถึงสถานะความสัมพันธ์ที่ตนเองสงสัยมานานระหว่างทั้งคู่“ภรรยาคุณปลอดภัยแล้วครับ ตอนแรกเธอมีไข้สูงจนเพ้อ” คุณหมอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะอธิบายให้ภาคินัยฟังต่อ“ตอนนี้หมอฉีดยาให้แล้วนะครับ”“ผมขอเข้าไปเยี่ยมภรรยาหน่อยได้ไหมครับ คุณหมอ” ภาคินัยรีบถามด้วยความเป็นห่วง“อืม!!!...ตอนนี้หมอว่ายังไม่สะดวก คุณควรจะให้ภรรยาคุณได้พักผ่อน” คุณหมอรีบบอกก่อนจะเดินจากไปภาคินัยหันมาเผชิญหน้ากับธีรภัทรที่นั่งรออยู่ ก่อนจะรีบเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเข้ม“นายกลับไปได้แล้ว”“ผมจะรอ ผมก็อยากรู้ว่าอัญเป็นอย่างไรบ้าง” ธีรภัทรตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“นี่นายไม่ได้ยินที่หมอบอกรึไง?” ภาคินัยเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน“ได้ยินคร๊าบ!!!.. แล้วผม...ก็ไม่คิดจะเข้าไปเยี่ยมอัญ
ตอนที่ 18 คำขอโทษไม่ช่วยอะไรหลังจากความป่าเถื่อนจบสิ้นลง อัญชลิดาก็รีบผละจากร่างสูง เธอหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ปล่อยให้น้ำตาไหลรินอาบแก้ม เสียงสะอื้นดังแผ่วเบาในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆเธอทรุดกายลงนั่งกับพื้นอันเย็นเยียบ มองตัวเองในกระจกเงา ภาพสะท้อนนั้นช่างน่าเวทนา ร่างกายบอบช้ำ รอยแดงจ้ำปรากฏเด่นชัด ผิดกับใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ภาคินัยที่มายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำก็เคาะประตูเรียกเธอเบาๆ“น้องอัญ ๆ !!...ออกมาคุยกันหน่อย” เสียงทุ้มแหบพร่าดังลอดผ่านประตูเข้ามา อัญชลิดาที่มัวแต่ยืนร้องไห้อยู่หน้ากระจกก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก เธอรีบปาดน้ำตาและล้างหน้าอย่างลวกๆ ก่อนจะแต่งตัวออกมาอัญชิดารู้ว่าเธอหนีเขาไปไหนไม่ได้ เมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก ภาคินัยเห็นร่างบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำ ดวงตากลมโตบวมช้ำ ริมฝีปากบวมเจ่อ เขาก็เริ่มรู้สึกผิดพ่อเลี้ยงหนุ่มเห็นน้ำตาของเธอ เห็นความเจ็บปวดในแววตาคู่นั้น และมันก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดในใจของเขาไม่น้อย“น้องอัญ!!!...พี่ขอโทษ” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสแก้มเนียนของเธอ อัญชลิด
ตอนที่ 17 รอยราคี หนี้สวาท NC แคว่ก! “ฮื้อๆๆ !” อัญชลิดาปล่อยโฮ เมื่อเสื้อชุดนอนของเธอถูกฉีกขาดออกไปจนหมด ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงจากการเสียดสีของหนวดเคราที่ทิ่มตำอยู่บนเรือนร่างและริมฝีปากหยักที่ดูดเลียเรือนร่างของเธออย่างรุนแรงและก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด“พี่ภีม!!!..อัญเจ็บ” เขารุนแรงต่างจากคืนนั้นราวฟ้ากับเหว“ยังไม่ทันเอาเข้าไปเลย จะเจ็บได้ยังไง..หึม์” เหมือนเขาอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อยที่เธอไม่ขัดขืนสิ้นเสียงริมฝีปากหยักก็ดูดเบา ๆ ไปที่เนินอกของเธอ ก่อนจะเลื่อนบราเซียร์ลงไปไว้ที่บั้นเอวงามแล้วดูดเต้านมอวบของเธอดึงขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนจะเลื่อนริมฝีลงไปตามตัวเธอจนสยิวไปทั้วร่าง ชั้นในตัวจิ๋วที่ปกปิดเนินเนื้ออวบอูมแทบจะไม่นิดนั้นถูกถอดออกไป เธอพยายามยื้อแย่งเพื่อไม่ให้เขาถอดมันออก จนสุดท้ายอัญชลิดากลัวว่ามันจะขาดจึงยอมให้เขาถอดแต่โดยดี แค่เห็นสายตาโหดเหี้ยมของเขาเธอก็ไม่กล้าขัดขืนแล้ว“พี่ภีมอย่า!!!” หลังจากเสื้อผ้าถูกฉีกออกไปจนร่างกายเปลือย เปล่าไม่มีอะไรปกปิดแม้แต่น้อย เขาดูดเลียร่องสวาทของเธออย่างหิวกระหาย อัญชลิดาดิ้นพล่านไม่เป็นกระบวน จากนั้นไม่นานกายแกร่งก็แทรกตัวตนเข้าตรงหว่
ตอนที่ 16 ไฟรักพ่อเลี้ยง NCภาคินัยกลับมาจากตัวอำเภอ เขาเดินมาทรุดตัวนั่งที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังสมาร์ตโฟนเครื่องนั้น เมื่อเช้าเขาขับรถเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจ้างช่างในร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งให้ปลดล็อกรหัสผ่านของโทรศัพท์เครื่องนี้จนสำเร็จพ่อเลี้ยงกำลังจ้องมองรูปถ่ายบนหน้าจอด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ในรูปนั้นเนตรดาวกำลังยิ้มให้รณพีร์อย่างมีความสุข ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมาก เพราะเป็นคู่รักกันมานานตามหลักฐานที่ได้ปรากฏอย่างขัดเจน จนภาคินัยไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปพ่อเลี้ยงหนุ่มกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น เขาไม่คิดเลยว่าเนตรดาวจะทำเรื่องแบบนี้ ภาคินัยไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าเธอแอบไปคบหากับรณพีร์และเธอก็มีโลกสองใบ ภาคินัยนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาชวนเธอให้เข้าไปอยู่ในบ้านด้วยกัน เนตรดาวบอกเพียงว่าเธอรอให้เสร็จสิ้นงานแต่งเสียก่อน เพราะกลัวคนงานจะเอาไปนินทาได้ ซึ่งตอนนั้นเขาก็ตามใจเธอภาคินัยเลื่อนดูรูปถ่ายอื่นๆ ในโฟลเดอร์เดียวกัน มีรูปของเนตรดาวและรณพีร์ในสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และสวนสาธารณะ ทั้งสองคนดูมีความสุขกันมาก ราวกับไม่มีความลับใดๆ ซ่อนอยู่ และทุกครั้งที่ท
ตอนที่ 15 ความลับที่ถูกเปิดเผยสองเดือนต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องไร่องุ่นอันเขียวขจี อัญชลิดากำลังเดินตรวจงาน พร้อมกับเพื่อนของเธอ ผู้จัดการสาวเดินไปตามแปลงของต้นองุ่นอย่างคล่องแคล่ว สายตาจับจ้องไปที่ผลองุ่นแต่ละพวงอย่างละเอียดถี่ถ้วนเธอเดินไปพร้อมบอกกับคนงานถึงวิธีการดูแลต้นองุ่น ธีรภัทรเดินตามหลังอัญชลิดามาติดๆ เขามองดูเธอทำงานด้วยความชื่นชม“อัญเก่งขึ้นเยอะเลยนะ” ธีรภัทรอดไม่ได้จนต้องเอ่ยปากชมเพื่อน “ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาเป็นผู้จัดการไร่ใหญ่ ๆ แบบนี้ได้” อัญชลิดายิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยเพื่อนก็เห็นความพยายามของเธอ ไม่เหมือนกับใครบางคน“ขอบคุณนะธีร์”“ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน” ตอนแรกอัญชลิดาก็ไม่คิดหรอกว่าเธอเองจะสามารถรับผิดชอบงานพวกนี้ได้ทั้งหมด แต่เพราะเธอใช้ความรักเป็นตัวขับเคลื่อนมัน“เธอทำงานได้คล่องกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะ” ธีรภัทรกล่าวชมต่อไป“ดูเธอทะมัดทะแมงมาก ไม่เก้ ๆ กัง ๆ เหมือนที่ฉันเจอตอนแรก ๆ” อัญชลิดาหัวเราะเบาๆ“ฉันก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดสิ เดี๋ยวเค้าก็ไม่จ้างหรอก”“ฉันว่าพ่อเลี้ยงต้องภูมิใจในตัวเธออยู่แล้ว” อัญชลิดายิ้มบาง ๆ เพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อเ







