LOGIN06.00 น.
ภาคินัยขับรถมาจอดหน้าบ้านของอัญชลิดาตั้งแต่เช้าตรู่ วันนี้เขาตัดสินใจจะขับรถไปส่งเธอที่ไร่องุ่นในสะเมิงด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการเริ่มต้นการทำงานวันแรกของเธออย่างเป็นทางการ ช่วงหลายวันที่ผ่านมา ภาคินัยคอยเทียวไปมาระหว่างปายกับสะเมิงอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อเยี่ยมอาการของเนตรดาวที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าอาการของเธอเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว ทำให้ภาคินัยรู้สึกคลายความกังวลลงไปได้บ้าง
เมื่อคืนที่ผ่านมา ภาคินัยแอบส่งข้อความหาอัญชลิดา บอกว่าวันนี้เขาอยากจะใช้เวลาช่วงเช้าเที่ยวชมเมืองปายกับเธอก่อน อัญชลิดาจึงตอบตกลงด้วยความยินดี
“วันนี้อัญจะเป็นไกด์ให้พี่ภีมเองค่ะ” อัญชลิดากล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส หลังจากไม่เห็นหน้าของเขามาหลายวัน พ่อเลี้ยงหนุ่มรับกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอแล้วเอาไปเก็บไว้ที่หลังรถ
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเมืองปาย เมืองเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา อากาศบริสุทธิ์และสายลมเย็นๆ พัดผ่าน สร้างความสดชื่นให้กับผู้มาเยือน ภาคินัยและอัญชลิดาเดินเคียงข้างกันบนถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารท้องถิ่น
“พี่ภีมอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ” อัญชลิดาถามด้วยรอยยิ้มสดใส รอยยิ้มที่เปล่งประกายออกมาจากดวงตาคู่สวย ราวกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องลงมากระทบกับหยดน้ำค้างบนกลีบดอกไม้
ภาคินัยมองใบหน้าของเธอด้วยความหลงใหล วันนี้เป็นวันแรกที่เขาเห็นใบหน้าของเธอหายจากความเศร้าหมอง ไม่เหมือนกับวันแรกๆ ที่เขาได้พบเธอ มันดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา แก้มใสอมชมพูระเรื่อ ผมยาวสลวยถูกลมพัดปลิวไหว ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายแห่งความสุข รอยยิ้มของเธอช่างงดงามถูกใจของเขาเหลือเกิน
“พี่อยากไปทุกที่ ที่อัญอยากพาพี่ไป” ภาคินัยตอบด้วยน้ำเสียงแห่งความเสน่หา แววตาของคำหยาดเยิ้ม
อัญชลิดาพาพ่อเลี้ยงหนุ่มไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอำเภอปาย เริ่มจากสะพานประวัติศาสตร์ปายที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำปาย
จากนั้นก็ไปชมวิวทะเลหมอกที่จุดชมวิวหยุนไหล ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองปายในยามเช้า
อัญชลิดาเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเมืองปายให้ภาคินัยฟัง ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ ภาคินัยฟังเธออย่างตั้งใจและยิงถามต่างๆ มากมาย บางครั้งเขาก็แซวบางครั้งเขาก็หยอกล้อจนเธอเริ่มหวั่นไหวไปเหมือนกัน
“พี่ภีมเคยมาเที่ยวปายบ้าง หรือยังคะ” อัญชลิดาถามเอ่ยถามเพราะปายกับสะเมิงถือว่าอยู่ติดกัน
“เคยแค่ขับรถผ่านเองครับ” ภาคินัยตอบ ก่อนจะนึกไปถึงว่าตนเองก็ตั้งใจจะมาที่นี่เพื่อมารับภรรยากลับจากงานเลี้ยงรุ่น แต่ก็ดันมาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
“ขับรถผ่านเค้าไม่เรียกว่าเที่ยวนะคะ งั้นอัญจะถือว่า...นี่เป็นครั้งแรกของพี่ก็แล้วกัน” อัญชลิดากล่าวด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
“แล้วพี่ภีมชอบไหมคะ” อัญชลิดาถามต่อ
“ชอบมากครับ” ภาคินัยตอบพร้อมส่งสายตาหวานซึ้งให้เธอ ซึ่งบ่งมันบอกอะไรได้หลาย ๆ อย่าง จนคนถามอายหน้าแดงไม่เป็นกระบวน เขางัดเขี้ยวเล็บขึ้นมาใช้จีบเธอ หลังจากเก็บมันเข้ากุไปอย่างถาวร
“ปายเป็นเมืองที่สวยงามและมีเสน่ห์มาก พอๆ กับสาวที่นี่เลย” เขายิ้มให้เธอเมื่อพูดจบ หญิงสาวจำต้องรีบหลบสายตาอันร้อนแรงของเขา
ทั้งสองคนจูงมือกันเดินเล่นไปเรื่อยๆ จนเลยเวลามาถึงช่วงเย็น เขาจึงตัดสินใจจะอยู่เที่ยวต่ออีกหนึ่งคืน อัญชลิดาพาพ่อเลี้ยงหนุ่มไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารท้องถิ่นแห่งหนึ่ง อาหารที่นี่อร่อยและบรรยากาศดีมากเธอเป็นคนเลือกและบอกเขา
“วันนี้สนุกมากเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้ม เมื่อนั่งรถมากลับชายหนุ่ม เขาดูและเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี เขาช่างดูดีและเป็นสุภาพบุรุษจนเธอรู้สึกหวั่นไหวไปกับพูดทีเล่นทีจริงของเขา
“พี่ก็สนุกมากครับ” ภาคินัยตอบพร้อมกับยิ้มกว้างให้เธอ
“ขอบคุณมากนะครับที่พาพี่เที่ยว”
“ไม่เป็นไรค่ะ” อัญชลิดากล่าว
ยามเย็นของเมืองปาย แสงสุดท้ายของวันกำลังจะลาลับขอบฟ้า อากาศเย็นสบายพัดผ่าน ภาคินัยพาอัญชลิดามายังที่พักบนเนินเขาเป็นรีสอร์ตหรูเหมาะกับคู่รักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มองเห็นวิวเมืองปายยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม
“ที่นี่สวยจังเลยนะคะ” อัญชลิดากล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ ตอนแรกเธอคิดว่าภาคินัยจะพาเธอกลับสะเมิงเสียอีก แต่เขาก็พาแวะอย่างกะทันหัน เธอเดาใจเขาไม่ถูกเลย หรือว่าค่ำแล้วเขากลัวอันตรายก็เป็นได้เพราะเส้นทางจากปายกว่าจะไปถึงสะเมิงก็หลายพันโค้ง
“พี่เห็นป้ายหน้ารีสอร์ตเขียนว่ามีหมูกระทะด้วย ก็เลยขับรถเข้ามา” ภาคินัยดึงสติที่ล่องลอยของหญิงสาวให้กลับมาสู่ร่างอีกครั้ง
“น้องอัญพาพี่เที่ยวมาทั้งวันแล้ว พี่ขอเลี้ยงหมูกระทะพร้อมวิวสวย ๆ เป็นการตอบแทนนะ”
“โห..เพิ่งทานข้าวเย็นมาจะไหวเหรอคะ อัญยังแน่นอยู่เลย” เธอบอกพร้อมกับทำท่าทางอิดออด
“กินเอาบรรยากาศก็พอครับ” อัญชลิดาพยักหน้าตกลงเพราะไม่อยากขัดใจ ทั้งสองคนสั่งหมูกระทะและเครื่องดื่มมาทานบนระเบียงที่พัก
ภาคินัยเปิดห้องเอาไว้สองห้องติดกัน และชวนเธอพักที่นี่โดยบอกกับอัญชลิดาว่าไม่อยากขับรถกลับในเวลากลางคืน
เตาถ่านถูกจุดขึ้น เปลวไฟสีแดงส้มเต้นระบำอยู่ภายในเตา กลิ่นหอมของเนื้อหมูที่กำลังย่างลอยอบอวลไปทั่วบริเวณ ไฟจากเตาช่วยให้อากาศที่เหน็บหนาวอบอุ่นขึ้นมา
“อัญดีใจที่พี่ภีมชอบที่นี่” ทั้งสองกินไปชมวิวไป อัญชลิดาและภาคินัยช่วยกันย่างหมูและผัก ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“พี่เปิดห้องให้แล้ว น้องอัญไม่ต้องกลับไปนอนบ้านคุณป้าหรอกครับ เดี๋ยวท่านจะสงสัยเอาว่าทำไมไม่ถึงสะเมิงสักที” อัญชลิดาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อรู้ว่าเธอต้องนอนค้างอ้างแรมกับเขา
“พี่ภีมห้ามบอกคุณป้านะคะ” หญิงสาวรีบบอก
“พี่ไม่บอกหรอกครับ”
ในค่ำคืนนั้น ภาคินัยชวนอัญชลิดาออกมาเดินเล่นชมดาวบนเนินเขาภายในรีสอร์ต อากาศเย็นสบายและแสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ทั้งสองคนนั่งลงบนเสื่อที่ภาคินัยเตรียมมา
“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวนั่งลงแล้วเอ่ยขึ้น
“สวยไม่เท่าน้องอัญหรอกครับ” ภาคินัยตอบด้วยน้ำเสียงกระซิบเมื่อนั่งลงข้าง ๆ เธอ อัญชลิดาหน้าแดงทันที ทั้งสองคนนั่งเงียบๆ มองดาวด้วยกัน บรรยากาศเป็นใจให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น ภาคินัยค่อยๆ เอื้อมมือไปโอบไหล่ของอัญชลิดา พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้สึกราวกับถูกมนต์สะกด เขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย
“น้องอัญสวยมากเลยนะครับ” ภาคินัยเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา อัญชลิดาหน้าแดงเมื่อใจสักครู่ยังไม่ทันจะหายก็แดงขึ้นอีก เธอรีบหลบสายตาของเขาด้วยความเขินอาย
“พี่ภีมพูดอะไรคะ” เธอเอ่ยเสียงเบาหวิว จนแทบจะไม่ได้ยิน
“พี่พูดความจริงครับ” ภาคินัยตอบ
“วันนี้น้องอัญสวยเป็นพิเศษ” อัญชลิดายิ้มเขิน ๆ เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ คำชมของภาคินัยทำให้เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักเขามากขึ้นทุกที
“น้องอัญครับ” ภาคินัยเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คะ” อัญชลิดาตอบเสียงแผ่ว ภาคินัยค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของอัญชลิดา ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา อัญชลิดาหลับตาลงและตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มใจ ทั้งสองคนจูบกันอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน เมื่อผละริมฝีปากออกจากกัน ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก
“พี่ภีม!!!...” อัญชลิดาเอ่ยเสียงสั่น
“จะเป็นอะไรมั้ยครับ..ถ้าพี่จะขอจีบน้องอัญ” ภาคินัยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง อัญชลิดาไม่ตอบ แต่เธอโผเข้ากอดภาคินัยแน่น ทั้งสองคนกอดกันอยู่ท่ามกลางแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ
ตอนที่ 20 ที่หนึ่งไม่ไหวเมื่อถูกคะยั้นคะยอจากเพื่อน อัญชลิดาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ธีรภัทรฟังอย่างละเอียด น้ำเสียงของเธอสั่นเครือไปด้วยความเจ็บปวดและความสับสน ธีรภัทรเงียบไปสักพัก ก่อนจะเรียบเรียงคำถามมากมายในหัวออกมาเป็นคำพูด เพื่อถามเธอทีละประโยคอย่างใจเย็น“พี่ภีมเขาสืบจนรู้ว่าพี่ชายของเธอแอบเป็นชู้กับภรรยาของเขา...ถูกต้องไหม” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงเรียบชัดถ้อยชัดคำ“อืม” เธอตอบเสียงอยู่ในลำคอ ก่อนจะพยักหน้าให้เขารับรู้“เขาก็เลยโกรธที่เธอไม่บอกความจริงงั้นเหรอ”“ก็ประมาณนั้นแหละ” ผู้จัดการสาวถอนหายใจก่อนตอบ“แต่ฉันว่าพักหลังๆ มานี้ พี่ภีมดูหึงหวงเธอเป็นพิเศษเลยนะ โดยเฉพาะกับฉัน เขาคิดอะไรกับเธอใช่ป่ะ” ธีรภัทรตัดสินใจถามเธอตรงๆ เพราะเขาก็ดูออกว่าเพื่อนมีใจให้กับพ่อเลี้ยงธีรภัทรมองอัญชลิดาด้วยแววตาเป็นห่วง เขารู้ว่าเธอรักภาคินัย แต่เขาก็กลัวว่าเธอจะเจ็บปวด เขากลัวว่าภาคินัยจะทำร้ายเธออีก เขาไม่เคยบอกความรู้สึกของเขาให้อัญชลิดารู้ เพราะเขากลัวว่าเธอจะปฏิเสธ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าบอกไปก็คงไม่มีประโยชน์ อัญชลิดาไม่ได้คิดกับเขาไปมากกว่าคำว่าเพื่อนเลย แต่เขาก็พร้อมจะปกป้องเธอจากอันตร
ตอนที่ 19 ความห่วงใยและไฟหึงโรงพยาบาลอำเภอสะเมิงภาคินัยนั่งรออยู่หน้าห้องตรวจด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้เลย เดินวนไปวนมาอย่างร้อนรน เมื่อประตูห้องตรวจเปิดออก คุณหมอเดินออกมา ภาคินัยรีบตรงเข้าไปหาทันทีก่อนที่ธีรภัทรจะได้เอ่ยถาม“คุณหมอ ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับ” เขาเอ่ยเสียงดังเหมือนเจาะจงให้ใครบางคนได้ยิน จนธีรภัทรที่นั่งรออยู่รับรู้ถึงสถานะความสัมพันธ์ที่ตนเองสงสัยมานานระหว่างทั้งคู่“ภรรยาคุณปลอดภัยแล้วครับ ตอนแรกเธอมีไข้สูงจนเพ้อ” คุณหมอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะอธิบายให้ภาคินัยฟังต่อ“ตอนนี้หมอฉีดยาให้แล้วนะครับ”“ผมขอเข้าไปเยี่ยมภรรยาหน่อยได้ไหมครับ คุณหมอ” ภาคินัยรีบถามด้วยความเป็นห่วง“อืม!!!...ตอนนี้หมอว่ายังไม่สะดวก คุณควรจะให้ภรรยาคุณได้พักผ่อน” คุณหมอรีบบอกก่อนจะเดินจากไปภาคินัยหันมาเผชิญหน้ากับธีรภัทรที่นั่งรออยู่ ก่อนจะรีบเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเข้ม“นายกลับไปได้แล้ว”“ผมจะรอ ผมก็อยากรู้ว่าอัญเป็นอย่างไรบ้าง” ธีรภัทรตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“นี่นายไม่ได้ยินที่หมอบอกรึไง?” ภาคินัยเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน“ได้ยินคร๊าบ!!!.. แล้วผม...ก็ไม่คิดจะเข้าไปเยี่ยมอัญ
ตอนที่ 18 คำขอโทษไม่ช่วยอะไรหลังจากความป่าเถื่อนจบสิ้นลง อัญชลิดาก็รีบผละจากร่างสูง เธอหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ปล่อยให้น้ำตาไหลรินอาบแก้ม เสียงสะอื้นดังแผ่วเบาในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆเธอทรุดกายลงนั่งกับพื้นอันเย็นเยียบ มองตัวเองในกระจกเงา ภาพสะท้อนนั้นช่างน่าเวทนา ร่างกายบอบช้ำ รอยแดงจ้ำปรากฏเด่นชัด ผิดกับใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ภาคินัยที่มายืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำก็เคาะประตูเรียกเธอเบาๆ“น้องอัญ ๆ !!...ออกมาคุยกันหน่อย” เสียงทุ้มแหบพร่าดังลอดผ่านประตูเข้ามา อัญชลิดาที่มัวแต่ยืนร้องไห้อยู่หน้ากระจกก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก เธอรีบปาดน้ำตาและล้างหน้าอย่างลวกๆ ก่อนจะแต่งตัวออกมาอัญชิดารู้ว่าเธอหนีเขาไปไหนไม่ได้ เมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก ภาคินัยเห็นร่างบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำ ดวงตากลมโตบวมช้ำ ริมฝีปากบวมเจ่อ เขาก็เริ่มรู้สึกผิดพ่อเลี้ยงหนุ่มเห็นน้ำตาของเธอ เห็นความเจ็บปวดในแววตาคู่นั้น และมันก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดในใจของเขาไม่น้อย“น้องอัญ!!!...พี่ขอโทษ” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสแก้มเนียนของเธอ อัญชลิด
ตอนที่ 17 รอยราคี หนี้สวาท NC แคว่ก! “ฮื้อๆๆ !” อัญชลิดาปล่อยโฮ เมื่อเสื้อชุดนอนของเธอถูกฉีกขาดออกไปจนหมด ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงจากการเสียดสีของหนวดเคราที่ทิ่มตำอยู่บนเรือนร่างและริมฝีปากหยักที่ดูดเลียเรือนร่างของเธออย่างรุนแรงและก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด“พี่ภีม!!!..อัญเจ็บ” เขารุนแรงต่างจากคืนนั้นราวฟ้ากับเหว“ยังไม่ทันเอาเข้าไปเลย จะเจ็บได้ยังไง..หึม์” เหมือนเขาอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อยที่เธอไม่ขัดขืนสิ้นเสียงริมฝีปากหยักก็ดูดเบา ๆ ไปที่เนินอกของเธอ ก่อนจะเลื่อนบราเซียร์ลงไปไว้ที่บั้นเอวงามแล้วดูดเต้านมอวบของเธอดึงขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนจะเลื่อนริมฝีลงไปตามตัวเธอจนสยิวไปทั้วร่าง ชั้นในตัวจิ๋วที่ปกปิดเนินเนื้ออวบอูมแทบจะไม่นิดนั้นถูกถอดออกไป เธอพยายามยื้อแย่งเพื่อไม่ให้เขาถอดมันออก จนสุดท้ายอัญชลิดากลัวว่ามันจะขาดจึงยอมให้เขาถอดแต่โดยดี แค่เห็นสายตาโหดเหี้ยมของเขาเธอก็ไม่กล้าขัดขืนแล้ว“พี่ภีมอย่า!!!” หลังจากเสื้อผ้าถูกฉีกออกไปจนร่างกายเปลือย เปล่าไม่มีอะไรปกปิดแม้แต่น้อย เขาดูดเลียร่องสวาทของเธออย่างหิวกระหาย อัญชลิดาดิ้นพล่านไม่เป็นกระบวน จากนั้นไม่นานกายแกร่งก็แทรกตัวตนเข้าตรงหว่
ตอนที่ 16 ไฟรักพ่อเลี้ยง NCภาคินัยกลับมาจากตัวอำเภอ เขาเดินมาทรุดตัวนั่งที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาจ้องมองไปยังสมาร์ตโฟนเครื่องนั้น เมื่อเช้าเขาขับรถเข้าไปในตัวเมืองเพื่อจ้างช่างในร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งให้ปลดล็อกรหัสผ่านของโทรศัพท์เครื่องนี้จนสำเร็จพ่อเลี้ยงกำลังจ้องมองรูปถ่ายบนหน้าจอด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ในรูปนั้นเนตรดาวกำลังยิ้มให้รณพีร์อย่างมีความสุข ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมาก เพราะเป็นคู่รักกันมานานตามหลักฐานที่ได้ปรากฏอย่างขัดเจน จนภาคินัยไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไปพ่อเลี้ยงหนุ่มกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น เขาไม่คิดเลยว่าเนตรดาวจะทำเรื่องแบบนี้ ภาคินัยไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าเธอแอบไปคบหากับรณพีร์และเธอก็มีโลกสองใบ ภาคินัยนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาชวนเธอให้เข้าไปอยู่ในบ้านด้วยกัน เนตรดาวบอกเพียงว่าเธอรอให้เสร็จสิ้นงานแต่งเสียก่อน เพราะกลัวคนงานจะเอาไปนินทาได้ ซึ่งตอนนั้นเขาก็ตามใจเธอภาคินัยเลื่อนดูรูปถ่ายอื่นๆ ในโฟลเดอร์เดียวกัน มีรูปของเนตรดาวและรณพีร์ในสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และสวนสาธารณะ ทั้งสองคนดูมีความสุขกันมาก ราวกับไม่มีความลับใดๆ ซ่อนอยู่ และทุกครั้งที่ท
ตอนที่ 15 ความลับที่ถูกเปิดเผยสองเดือนต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องไร่องุ่นอันเขียวขจี อัญชลิดากำลังเดินตรวจงาน พร้อมกับเพื่อนของเธอ ผู้จัดการสาวเดินไปตามแปลงของต้นองุ่นอย่างคล่องแคล่ว สายตาจับจ้องไปที่ผลองุ่นแต่ละพวงอย่างละเอียดถี่ถ้วนเธอเดินไปพร้อมบอกกับคนงานถึงวิธีการดูแลต้นองุ่น ธีรภัทรเดินตามหลังอัญชลิดามาติดๆ เขามองดูเธอทำงานด้วยความชื่นชม“อัญเก่งขึ้นเยอะเลยนะ” ธีรภัทรอดไม่ได้จนต้องเอ่ยปากชมเพื่อน “ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาเป็นผู้จัดการไร่ใหญ่ ๆ แบบนี้ได้” อัญชลิดายิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยเพื่อนก็เห็นความพยายามของเธอ ไม่เหมือนกับใครบางคน“ขอบคุณนะธีร์”“ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน” ตอนแรกอัญชลิดาก็ไม่คิดหรอกว่าเธอเองจะสามารถรับผิดชอบงานพวกนี้ได้ทั้งหมด แต่เพราะเธอใช้ความรักเป็นตัวขับเคลื่อนมัน“เธอทำงานได้คล่องกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะ” ธีรภัทรกล่าวชมต่อไป“ดูเธอทะมัดทะแมงมาก ไม่เก้ ๆ กัง ๆ เหมือนที่ฉันเจอตอนแรก ๆ” อัญชลิดาหัวเราะเบาๆ“ฉันก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดสิ เดี๋ยวเค้าก็ไม่จ้างหรอก”“ฉันว่าพ่อเลี้ยงต้องภูมิใจในตัวเธออยู่แล้ว” อัญชลิดายิ้มบาง ๆ เพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อเ







