“ค่ะ…” น้ำตาลมองค้อนชายหนุ่มอย่างคนที่ทำอะไรไม่ได้ เธอทำได้เพียงเดินกลับเข้าไปนั่งรอในรถตามที่มิวนิคได้บอกเอาไว้
“มัวแต่ทำอะไรกันอยู่คะ? ถึงได้มาชนรถของคนอื่นเขาแบบนี้” มายูที่กำลังฉุนก็พูดขึ้นเมื่อเธอได้เดินไปดูท้ายรถ ประโยคความคิดในหัวสั่งการให้เธอถามเขาออกไปอย่างคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรเลย
“ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง เธอไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ แล้วนี่..อยู่มหาลัยเดียวกันกับฉันเลยนี่” มิวนิคมองหน้าของเธอคนนี้ยอมรับว่าสวยมองไปมองหน้าก็ได้เห็นเข้ากับเข็มกลัดนักศึกษาที่เหมือนกันกับเขาก็แสดงว่าเธอคนนี้ก็น่าจะอยู่มหาลัยเดียวกันกับเขาสินะ
แต่แม่งพูดตรงมาก พูดตรงจนเกินไป เขาทำได้เพียงบอกแค่ว่าจะรับผิดชอบกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเขาทำอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ
“อันนั้นมันก็หน้าที่ของคนที่ผิดต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ทีหลังรบกวนอย่าทำอะไรกันบนรถนะคะ เสียเวลาคนอื่นเขา รู้ไว้ด้วย” มายูเธอดูหัวเสียเป็นอย่างมากจึงได้พูดออกไปตามความคิดของเธออีกครั้งแบบที่ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น
“นี่เธอ...” มิวนิคยืนนิ่งอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดเรื่องแบบนั้นออกมาได้อย่างชัดเจนขนาดนี้
“ทำไมคะ?” เธอเชิดใบหน้าสวยขึ้นพร้อมทั้งเอ่ยถาม
ประกันของทางทั้งคู่มาพอดีทำให้พวกเขารีบแยกตัวออกจากกัน พวกเขาให้ประกันเคลียร์กันเอาเอง มายูเลือกที่จะเข้าไปนั่งรอในรถของเธอ ส่วนมิวนิคก็ยืนคุยอยู่กับทางพนักงานประกัน
“เรียบร้อยแล้วนะครับ” ประกันทางฝั่งมายูได้เดินเข้ามายืนหยุดตรงหน้าเธอที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเพื่อฆ่าเวลาไปพลางๆ
“ขอบคุณมากนะคะ มีอะไรก็ให้ทางเขาเคลียร์กับทางคุณเลยนะคะ ฉันขอตัวก่อนค่ะ” มายูยิ้มขึ้นพร้อมกับหันไปบอกกับทางพนักงานประกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแม้ว่าในใจจะหงุดหงิดมากสักแค่ไหนก็ตาม
“เสียเวลาชะมัด อยากมากทำไมไม่แวะหาโรงแรมเอากันซะเลย พูดแล้วของขึ้นเลย ทุเรศอ่า รถลูกรักของฉัน!” ใบหน้าสวยหวานพูดบ่นกับตัวเองอีกครั้งเมื่อมองไปทางมิวนิคที่กำลังยืนคุยอยู่กับทางพนักงานประกันของเธอ
มายูไม่รอช้ารีบสตาร์ทรถและขับออกมาจากตรงนั้นทันทีถ้าขืนยังอยู่มีหวังได้ลงไปด่าสองผัวนั่นอีกแน่ๆ
-มิวนิค-
ครืด~
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาดังขึ้นในตอนนี้ชายหนุ่มได้เคลียร์จบกับทางประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเขากำลังนั่งอยู่ภายในรถ เขากดรับสายผู้เป็นแม่ทันที
(ฮัลโหลลูกว่างหรือเปล่าเข้ามาหาแม่ที่บ้านที)
“ครับแม่ ให้เข้าไปหาตอนนี้เลยเหรอครับ” เขาถามย้ำกับแม่อีกครั้งว่ามันสำคัญถึงขนาดที่ต้องเข้าไปในวันนี้เลยหรือ
(ใช่จ้ะ ว่าแต่เรามีอะไรหรือเปล่าน้ำเสียงดูเหนื่อยๆยังไงก็ไม่รู้)
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คือรถผมเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยแต่ถ้าเสร็จแล้ว ผมจะเข้าไปหานะครับ”
(แล้วเราเป็นอะไรมากหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ยลูก)
“ผมไม่เป็นอะไรครับเอาไว้เจอกันที่บ้านนะครับ”
(แม่จะรอนะ)
“ครับแม่”
มิวนิคกดวางสายผู้เป็นแม่และหันไปมองน้ำตาล หญิงสาวข้างกายที่กำลังมองจ้องเขาอยู่
“มีอะไรเหรอคะ?” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เขาได้วางสายแม่ของเขาไปแล้ว
“วันนี้ฉันคงไปห้องเธอไม่ได้แล้ว” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆพอมาเจอเรื่องแบบนี้เข้าทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่อยากจะทำเรื่องอย่างว่าต่อแล้ว มิวนิคจึงเลือกที่จะปฏิเสธเธอไปเสียดีกว่าและไหนแม่ของเขาจะเรียกให้เข้าไปพบที่บ้านในตอนนี้อีก
“ทำไมคะ!!” น้ำตาลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจะหงุดหงิดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
“นี่เธอไม่ได้ยินที่ฉันคุยโทรศัพท์หรือไง แม่ฉันโทรมาท่านบอกว่ามีธุระด่วนให้รีบเข้าบ้าน” มิวนิคเค้นเสียงตอบกลับไปยังสาวสวยข้างกายด้วยความดุดันพูดเสร็จก็เบือนหน้าหนีหันไปทางอื่น
“น้ำตาลไปด้วยได้มั้ยคะ?”
“เธอจะเข้าไปทำไม รู้จักแม่ฉันหรือไง” ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันกลับมาถามเธอกลับทันทีอย่างคนที่รู้ทันว่ายัยนี่กำลังคิดอะไรอยู่ ดูแล้วคงอยากที่จะไปแสดงตัวกับแม่ของเขาสินะ
“ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่เผื่อว่าในอนาคตพวกเราแบบว่า” น้ำตาลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย เธอพูดไปแบบนั้นเผื่อว่าเขาอาจจะใจดี พาเธอเข้าไปพบแม่ของเขาก็คงจะดีอยู่ไม่น้อย
“ฉันแค่อยากเอาเธอเฉยๆ! เอาแล้วจบ! เอาแล้วแยกน่ะ! เธอไม่เข้าใจเหรอ?” เขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เริ่มไม่ชอบใจไปกับสิ่งที่เธอคิดที่จะจับเขา
“มิวนิคไม่รู้เลยเหรอคะว่าน้ำตาลรู้สึกยังไง” เธอจ้องมองไปในนัยน์ตาชายหนุ่มหวังอยากจะให้เขาหันมาสนใจในตัวเธอบ้างไม่ใช่เพียงสนใจแค่ร่างกายของเธอแค่เพียงเท่านั้น
“ไม่รู้และไม่จำเป็นต้องรู้ด้วย ฉันแค่ต้องการมีเซ็กส์กับเธอ ไม่ได้รักได้ชอบเธอสักหน่อย เข้าใจเอาไว้ด้วยนะ ถ้าเธอรับไม่ได้ งั้นพวกเราแยกกันตรงนี้เลยจะดีกว่า เธอว่ามั้ย?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความดุดัน
“มิวนิคใจร้ายมากเลยรู้ตัวบ้างมั้ยคะ?” เธอหันไปมองเขาอย่างทำอะไรไม่ถูกแล้วแสร้งตัดพ้อหาว่าเขาใจร้าย
“ไม่ต้องมาบอก อะนี่เงิน ฉันคงไปส่งเธอที่ห้องไม่ได้เลย โทษทีนะฉันต้องไปก่อน” คำพูดแสนเย็นชาออกมาจากปากของชายหนุ่มอีกครั้งพร้อมกับยื่นแบงค์พันยัดใส่มือเธออย่างลวกๆ
ร่างเล็กพยักหน้ารับนิ่งๆแล้วเลือกที่จะเปิดประตูแล้วออกมาจากรถของเขา เมื่อเห็นว่าเธอลงไปจากรถเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วมิวนิคจึงได้ขับรถออกไปทันที
“คอยดูนะสักวันฉันจะทำให้นายชอบฉันให้ได้เลย!”
บ้านกิจขจรเลิศชัย
“แม่มีอะไรเหรอครับถึงได้เรียกผมเข้ามาที่บ้านแบบนี้” มิวนิคเดินเข้าหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแม่ของเขาแล้วเลือกหย่อนก้นลงที่โซฟาด้านข้างกับโซฟาของผู้เป็นแม่
“แม่มีเรื่องอยากบอกลูก ว่าแต่เป็นอะไรหรือเปล่าที่บอกว่ารถเกิดอุบัติเหตุน่ะ” แม่ของเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงในตัวของลูกชายคนเล็ก
“ผมไม่เป็นไรครับ รถไปชนท้ายเขานิดหน่อย แม่มีเรื่องอะไรครับ” มิวนิคยิ้มกว้างให้กับผู้เป็นแม่ อุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขาเป็นแผลแม้แต่นิดเดียวแค่เพียงตกใจก็เท่านั้น
“ลูกมีแฟนหรือยัง?” แม่ถามย้ำลูกชายให้แน่ใจอีกครั้งถึงเรื่องแฟน ถ้าสมมุติว่าลูกชายของเธอมีแฟนอยู่แล้วเธอจะได้หาทางอื่น เธอไม่ต้องการให้ลูกต้องมีปัญหากับหญิงสาวคนรัก
“ผมยังไม่คิดที่จะชอบใครครับ!” มิวนิคเน้นน้ำเสียงหนักแน่นบอกกับผู้เป็นแม่และเมื่อบอกออกไปแบบนั้นก็ทำให้แม่ของเขายิ้มกว้างออกมาได้ในทันทีอย่างน้อยมันก็ทำให้สบายใจได้ว่าลูกชายของเธอยังไม่คิดที่จะชอบหรือรักผู้หญิงคนไหน
“งั้นก็ดี คือแบบนี้นะ คุณปู่ของลูกท่านได้ทำสัญญาเอาไว้กับทางเพื่อนของท่านว่าถ้าหากเพื่อนของท่านมีหลานสาวจะให้หลานของท่านหมั้นกับทางเราซึ่งนั่นก็คือลูก”
พระเอกกับนางเอกเจอกันแล้วค่ะทุกคนน
“ยินดีด้วยน้าเจ้าสาวคนสวย~” อลิสที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำก็รีบเดินปรี่เข้ามาหามายูและพราวพร้อมทั้งแสดงความยินดีไปยังเพื่อนสาวคนสวยที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอ“ขอบใจนะอลิส”“มายูกับพราวมีลูกแฝดชายหญิงแล้วแกอะอลิสเมื่อไหร่จะมีลูกสักทีฉันอยากช่วยเลี้ยงหลานแล้วเนี่ย” ชะเอมที่เดินตามอลิสมาติดก็เอ่ยปากแซวอลิสทันที เธออยากเห็นเด็กตัวน้อยที่เป็นลูกของอลิสเพื่อนรัก อลิสหันกลับมามองพี่สะใภ้ใหญ่แล้วรีบเอ่ยแซวเธอกลับไปทันควัน ตัวเธอเองก็อยากมีและพึ่งเริ่มปล่อยไปตามธรรมชาติยังไงคงต้องรออีกสักพักละมั้ง“ฉันพึ่งเริ่มปล่อยธรรมชาติเองคงต้องรอแหละว่าเด็กน้อยจะมาเมื่อไหร่แล้วแกอะชะเอมถามแต่ฉันอยู่ได้ พี่สะใภ้ใหญ่ต้องมีก่อนสะใภ้เล็กสิคะจริงมั้ย” ชะเอมนิ่งไปทันทีพร้อมกับกรอกตามองบนไปอย่างนั้นแต่ความจริงแล้วเธอก็อยากมีเหมือนกันติดก็เพียงว่าเมื่อไหร่เด็กน้อยจะมาเกิดในท้องเธอก็เท่านั้น “พักก่อนเอาไว้ให้แกมีก่อนฉันค่อยมี”หลังจากที่พวกเธอคุยกันไปได้สักพักพิธีกรก็ได้เรียกเจ้าบ่าวและเจ้าสาวขึ้นไปบนเวที พิธีเริ่มดำเนินการไปเรื่อยๆจนมาถึงพิธีการโยนช่อดอกไม้ เหล่าบรรดาสาวงามที่ยังโสดต่างก็พากันมายืนรอรับช่อดอก
“ผมได้ลูกแฝดเหรอครับคุณหมอ” ทันทีที่สติเริ่มกลับคืนมามิวนิคก็เริ่มถามย้ำเพื่อให้ตัวเองแน่ใจอีกครั้งว่าเขาไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย คุณหมอพยักหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มจริงจังเพื่อเป็นการยืนยันว่าเรื่องที่พูดไปเธอไม่ได้โกหกและแถมเธอยังชี้ไปในภาพตรงจุดที่น้องแฝดอยู่“ใช่แล้วค่ะ ตรงนี้คือน้องคนแรกและตรงนี้คือน้องคนที่สองนะคะ”“ทางคุณพ่อกับคุณแม่อยากทราบเพศของน้องแฝดมั้ยค่ะ สามารถตรวจ NIPT ได้นะคะจะสามารถรู้เพศได้ตรวจเพื่อหาความเสี่ยงทางพันธุกรรมต่าง ๆ ของทารกในครรภ์น่ะค่ะ”“ตรวจค่ะ พี่มิว~ มายูตรวจนะคะ” มายูหันมองมิวนิคเธอต้องการที่จะตรวจหาความเสี่ยงก่อนและเธอก็อยากที่จะรู้เพศของลูกๆในท้องเธออีกด้วยเพื่อที่จะได้ค่อยๆเลือกซื้อหาเสื้อผ้าและอุปกรณ์เลี้ยงเด็กมาเตรียมเอาไว้“พี่ตามใจเราครับ” มิวนิคบีบมือมายูแน่นรู้สึกดีใจจนน้ำตาเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง เขาก็คิดแบบเธอตรวจแล้วจะได้รู้เพศของลูกน้อยเลยและในวันนั้นมายูก็ได้ฝากครรภ์กับทางคุณหมอคนนี้เป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่พากันขับรถกลับมายังคอนโดของตัวเอง21.00น.ท่ามกลางความเงียบสงบในยามค่ำคืนเสียงแอร์ที่ดังเพียงเล็กน้อยเขาตั้งอุณหภูมิเอาไว้ที่ 25องศาซึ่งเป็นอ
มิวนิคพยักหน้าเดินจูงมือไปพร้อมกับหญิงสาวคนรักและในตอนนี้มายูก็ได้เดินไปหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณทุ่งดอกไม้สีม่วงเป็นที่เรียบร้อย มิวนิครีบหยิบโทรศัพท์ของเขานำมันขึ้นมากดถ่ายรูปให้คนรักรวมไปถึงถ่ายรูประหว่างเขาและเธอโดยที่มีพื้นหลังคือทุ่งดอกไม้สีม่วงนั่นเองและในระหว่างที่หญิงสาวกำลังชื่นชมไปกับความงามของทุ่งดอกไม้นานาชนิดอยู่นั้น มิวนิคก็เรียกชื่อของเธอออกมา “มายูครับ”“ว่าไงคะ..พี่มิว~”มายูหันหลังกลับมามองตามเสียงที่เรียกก็พบว่าพี่มิวนิคได้นั่งคุกเข่าในมือถือกล่องแหวนที่เปิดเอาไว้อยู่แล้ว ภายในกล่องมีแหวนเพชรที่ขนาดกำลังพอดี ร่างบางขนลุกซู่ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะขอเธอแต่งงานในเวลาแบบนี้เธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรทั้งนั้น“แต่งงานกับพี่นะ” มิวนิคยิ้มกว้างแล้วเอ่ยขอเธอแต่งงาน มายูเม้มปากแน่นเริ่มมีน้ำตาไหลซึมรู้สึกดีใจที่เขาขอเธอแต่งงานในวันสำคัญของเธอแบบนี้“แต่งค่ะ ฮึก~” มายูตอบตกลงโดยทันทีน้ำตาที่ไหลออกมาทำให้เสียงของเธอสั่นคลอนไปด้วย ร่างบางดึงรั้งท่อนแขนมิวนิคให้ลุกขึ้นยืน ทั้งคู่สวมกอดกันด้วยความรักและความเข้าใจ เขาและเธอต่างก็ดีใจเป็นอย่างมากที่มีกันและกันมาจนถึงวันนี้วันที่เขา
“อ๊า มายูไม่ไหว อะ อื้อ~” แม้ว่าเธอจะพยายามกลั้นเสียงหวีดร้องสักแค่ไหนแต่ก็มีเผลอหลุดออกมาง่ายๆโดยที่ควบคุมไม่อยู่ ร่างบางสั่นสะท้านไปถ้วนทั่วทั้งตัวความรู้สึกเสียวที่กำลังได้รับทำให้เธอโน้มใบหน้าเข้าหาลำคอขาวเนียนของเขามายูขบเม้มสร้างรอยรักแล้วค่อยๆใช้ปลายลิ้นเลียไปตามซอกคอไล่ไต่ระดับลงมายังบริเวณหัวนมเม็ดเล็กสีน้ำตาล เธอเปรยตามองเขาเพียงนิดก่อนที่จะแลบลิ้นดูดหัวนมของคนพี่ ลิ้นระรัวไปมาสร้างความเสียวซ่านให้กับมิวนิคเป็นอย่างมากจนแทบจะแตกอยู่รอมร่อ เขารีบเร่งสวนสะโพกขึ้นลงด้วยความร้อนแรงอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะเสร็จสมอารมณ์หมาย“มายูหนูทำดีมากเลย พี่ใกล้แล้วครับคนสวย” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างใบหูในขณะที่เธอยังคงดูดเลียหัวนมปรนเปรอเขาไม่หยุด ร่างกายสาวบิดเร่าเกร็งไปทุกสัดส่วนตรงบริเวณนั้นรับรู้ได้เลยว่าตัวเองคงใกล้ที่จะเสร็จเต็มที เธอผละใบหน้าออกจากหัวนมของชายหนุ่มแล้วรีบประกบริมฝีปากทาบทับปากเรียวเล็กได้รูปของเขาแล้วในไม่ช้าเธอก็เสร็จถึงจุดสุดยอด“อร้ายย~” มายูถึงจุดสุดยอดภายในพริบตาสะโพกสั่นกระตุกไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้ตัวสั่นระริกปลดปล่อยทุกอย่างออกมาจนหมดเนื้อตัวชาวาบ
“ขอกินนมรสสตอร์เบอรี่หน่อยสิ~” สายตาที่จ้องมองมาอย่างจาบจ้วงทำเอาใบหน้าสวยร้อนผะผ่าวคงไม่ต้องบอกว่าเขาหมายถึงอะไรร่างบางส่ายหน้าพร้อมทั้งเขยิบถอยไปข้างหลังแต่แล้วเธอกลับโดนมือแกร่งรวบเข้าที่เอวเล็ก ออกแรงยกเธอให้ขึ้นมานั่งอยู่บนตักแกร่งของตัวเอง“อะ~ พี่มิวอย่าแกล้ง!! หยุดมองหน้าอกของมายูสักที เขินนะ!” มายูรีบส่งเสียงตะโกนบอกให้เขาเลิกจ้องหน้าอกของตัวเองสักที โดนมองนานๆแบบนี้เป็นใครบ้างที่จะไม่เขิน แล้วก็นะถึงจะอยู่ด้วยกันมานานหลายปีเธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะชินได้เลย“อืม พี่ไม่มองก็ได้~” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาหน้าอกของแฟนสาวในเมื่อไม่ให้มองถ้าแบบนั้นก็คงต้องทำอย่างอื่น เช่น ดูดๆเลียๆผสมๆกันไป“อะ พี่มิว อะ อื้อ~ อย่าเลีย! อื้อ อึก สะ เสียว อ๊า~” ในทันทีที่โดนลิ้นสากแตะลงบนยอดอก ร่างบางก็สะดุ้งขึ้นมาทันที ความเอาแต่ใจของพี่มิวนิคนี่เธอคงต้องขอยอมแพ้ พี่เขาเป็นพวกอยากได้หรืออยากทำอะไรเขาต้องได้ต้องทำเดี๋ยวนั้นเลยปลายลิ้นเลียวนรอบฐานอกสีหวานสายตาเจ้าเล่ห์แหงนหน้ามองแฟนสาว มือหนาทั้งสองจับเข้าที่สะโพกสวยออกแรงยกขึ้นเพียงเล็กน้อย เขาค่อยๆกดจุดหวงแหนของคนต
ทันทีที่เข้ามาในห้องพัก ภาพตรงหน้าทำให้มายูเบิกตากว้างยิ้มเล็กๆเริ่มกลับกลายเป็นยิ้มกว้างขึ้นจนสุด เธอกวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าความฝันของตัวเองในวัยเด็กจะเป็นจริงขึ้นมาในวันนี้“หูย ในห้องวิวก็ยังสวย~” ร่างบางเดินเข้ามาในห้องพักเดินไปยืนหยุดอยู่ตรงจุดชมวิวที่มีอ่างอาบน้ำจากุชชี่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่และไม่รอช้าหญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดถ่ายรูปบรรยากาศของที่นี่มิวนิคเดินเงียบๆเข้ามาหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังแฟนสาวคนสวย มือแกร่งโอบกอดเอวบางของมายูเอาไว้ทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเพราะเธอมัวแต่ให้ความสนใจไปกับความถ่ายรูปวิวทิวทัศน์“อะ พี่~”“สวยมากๆเลยใช่มั้ย? ถูกใจเราเลยสิท่า วิวก็ดีแบบนี้เหมาะที่จะ..” เสียงทุ้มแหบพร่าพูดขึ้นริมข้างหูแต่ชายหนุ่มสุดเจ้าเล่ห์ไม่เพียงแค่พูดเพียงอย่างเดียวแต่เขายังพูดไปพลางก็เป่าลมใส่หูของเธอไปด้วยนี่น่ะสิ“จะอะไรเหรอคะ..นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะพี่มิว” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นสิ่งที่เขาพูดออกมา เธอเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าแฟนหนุ่มสุดหล่อนั้นหมายถึงอะไร แต่นี่มันยังตอนกลางวันอยู่เลยนะ“ก็ไม่มีใครเห็นสักหน่อย ได้มั้ยครับ” เสียงอ้อนดังขึ