Beranda / โรแมนติก / พันธะลวง / 1.คู่หมั้นที่รัก (2)

Share

1.คู่หมั้นที่รัก (2)

Penulis: rasita_suin
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-08 00:08:47

“คุณ...”

มาธาวีถึงกับพูดไม่ออก ทั้งที่อยากต่อว่าอีกฝ่ายกลับไปบ้าง แต่ก็ไม่อาจทำได้ ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ตนเคยก่อเอาไว้

“ช่วยกันนิดๆ หน่อยๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จะหัวเสียทำไม”

ปัฐวิกรย้อนถามหน้าตาย นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวถึงกับขบริมฝีปากล่างเพราะเหมือนถูกตอกหน้า

“แต่คู่หมั้น มันไม่มากไปหน่อยเหรอคะ”

เธอยังรู้สึกเหมือนถูกรวบรัดมัดมือชกเกินไป

“อายุผมตั้งขนาดนี้แล้ว จะเรียกว่าแฟนมันดูขัดๆ”

เหตุผลของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับขยับปากค้าง กวาดตามองใบหน้าหล่อเนี้ยบ ตาคมกริบ ผมเรียบเป๊ะ พร้อมรูปร่างสูงสมาร์ตในชุดสูทลำลองของอีกฝ่ายแล้วก็แอบเห็นด้วยในใจ

มาดดีขนาดนี้ อายุก็ไม่น้อยแล้ว จริงๆ ควรจะแต่งงานไปแล้วด้วยซ้ำ แม้จะจำอายุของอีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็พอรู้ว่ามากกว่ากัญญานันหลายปี เพราะตอนงานศพของยายจันทร์เธอกับเพื่อนอยู่มัธยมปลาย ทว่าปัฐวิกรเรียนจบมหาวิทยาลัยกลับมาจากเมืองนอกแล้ว

“ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอ”

ปัฐวิกรถามขึ้น เพราะงานนี้จัดที่กรุงเทพฯ จึงอดแปลกใจไม่ได้ที่ได้พบกับเจ้าของร่างอรชรที่นี่

“พาเด็กๆ มารำเปิดงานน่ะค่ะ”

“หืม? รับงานถึงกรุงเทพฯ เลยเหรอ”

คิ้วเข้มขยับขึ้นเล็กน้อยพร้อมถาม

“พอดีผู้ใหญ่ที่เป็นกรรมการจัดงาน รู้จักกับคุณแม่ แล้วพวกท่านคุยกันเรื่องจัดพิธีเปิดที่อยากให้มีโชว์รำไทย คุณแม่ก็เลยแนะนำโรงเรียนของพวกเราน่ะค่ะ สองกับก้อยกับปราง เห็นว่าทำให้คนรู้จักโรงเรียนแล้วเด็กๆ ก็จะได้มีโอกาสแสดงที่อื่นๆ นอกจากทางเหนือเลยรับงานนี้”

คนฟังพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วจะกลับเชียงใหม่เลยไหม”

“ค่ะ”

“น้องก้อยเป็นยังไงบ้าง”

ชายหนุ่มถามถึงน้องสาวของตนเพราะทั้งกัญญานันกับคนตัวเล็กตรงหน้า น่าจะค่อนข้างยุ่ง ด้วยตอนนี้พิมพ์ปรางอยู่ที่บ้านของเขา ไม่ใช่เชียงใหม่ เนื่องจากเพิ่งคลอดลูกได้สามเดือน ที่สำคัญเป็นลูกชาย ทำให้บิดาและมารดาของเขายิ่งปลื้มหลานคนแรกมาก

แม้แต่ตัวเขาเองได้เห็นหลานชายทุกวันก็ยังนึกเอ็นดูเด็ก จนอยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างเหมือนกัน ทว่าเขายังหาแม่ของลูกไม่ได้ แถมการได้เห็นน้องชายอ้อนเมียบ่อยๆ ปัฐวิกรก็ต้องเป็นฝ่ายเลี่ยงหลบเสียเองบ่อยครั้ง เพราะรู้สึกตาร้อนแปลกๆ เมื่อเห็นคนมีความรัก

“ยุ่งบ้างน่ะค่ะ ฉันเลยต้องรีบกลับ มาเมื่อวาน แล้วก็กลับวันนี้ค่ะ”

เมื่ออีกฝ่ายถามดีๆ อย่างห่วงใยมาธาวีก็ตอบดีเช่นกัน

“ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่หลงหลาน อยากเลี้ยงเอง ปรางไม่กล้าขัด นายกลางก็ติดเมีย เลยยังต้องอยู่บ้านไปก่อนสักพัก ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ย้ายไปเชียงใหม่เมื่อไร”

น้ำเสียงที่เล่าทุ้มน่าฟัง และมีรอยยิ้มเจือมาด้วยทำให้คนเห็นอดยิ้มตามเมื่อนึกถึงเพื่อนไม่ได้

“นิสัยปรางแหละค่ะ เกรงใจผู้ใหญ่ เกรงใจทุกคน”

“นั่นสิ ทั้งที่ก็เห็นนายกลางเปรยเหมือนกันว่า ปรางห่วงน้องก้อย ห่วงคุณกลัวจะยุ่ง”

มาถึงตรงนี้ตาคมมองสบกับเธอตรงๆ

“แต่ก็ไม่กล้าพูดว่าอยากไปเชียงใหม่”

มาธาวีเสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้มสดใสอย่างรู้ทัน ตากลมโตน่ารักราวการ์ตูนตาหวานวาววามขำเพื่อนของตัวเอง

ปัฐวิกรมองตาคู่สดใสกับดวงหน้าสวยน่ารักแช่มชื่นนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะเป็นฝ่ายถามอีกครั้ง

“แล้วนี่เห็นดูเครื่องประดับอยู่ สนใจชิ้นไหนไหม”

“ถามแบบนี้จะซื้อให้เหรอคะ”

มาธาวีกวนกลับอย่างลืมตัว ทว่าคนได้ยินกระตุกยิ้ม

“ซื้อให้ก็ได้”

ร่างสูงกำยำโน้มมาใกล้อีกนิด หากก็ไม่ใกล้จนเกินไปนักเพราะมีคนเดินไปมาค่อนข้างมาก แล้วพูดเสียงทุ้ม

“ถ้าเป็นคู่หมั้นผม”

หญิงสาวขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกฝ่าย ขณะที่เขาถอยห่างออกไป รู้ว่าเขาแกล้งพูดยียวนเพราะเธอไปกวนเขาก่อน จึงไม่กล้าชักสีหน้าใส่ชายหนุ่มด้วยตัวเองอายุน้อยกว่าเขามาก

“ฉันแค่เดินดูอะไรระหว่างรอเด็กๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้นแหละค่ะ”

เธอบอกเสียงแข็งนิดๆ

“ตอนนี้คงเรียบร้อยกันแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”

ปัฐวิกรพยักหน้ารับ แปลกใจตัวเองที่อยู่ๆ ก็เกิดความเสียดายขึ้นนิดๆ ในความรู้สึก แต่อาจเพราะในเมื่อไม่มีโล่อย่างมาธาวียืนด้วยแล้ว เขาก็ต้องหลีกเลี่ยงคุณชฎาพร ชายหนุ่มจึงต้องกลับเหมือนกัน ยังดีที่เขาเดินดูบูธของตนพร้อมกับคุณชฎาพรที่ตามติดไม่ปล่อยมาแล้ว พอเหลือบเห็นมาธาวีเขาจึงขอตัวจากอีกฝ่ายเดินมาหาหญิงสาว และคุณชฎาพรก็ตามมาอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด

“ฝากบอกน้องก้อยว่าผมกับคุณพ่อคุณแม่คิดถึง ไม่แน่ผมอาจจะต้องขึ้นไปดูแลที่โน่นสลับกับนายกลางบ้าง”

“ได้ค่ะ”

“แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยรับสมอ้างเป็นคู่หมั้นผม”

มาธาวีที่กำลังจะก้าวไปชะงักกึกกับคำเอ่ยขอบคุณของอีกฝ่าย และหันกลับมาพูดกับเขาด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าหายกันก็แล้วกัน”

ปัฐวิกรเพียงยิ้มบาง หญิงสาวไม่เห็นเขาตอบรับก็ขมวดคิ้วหากก็พยายามไม่ใส่ใจอีก ทว่าพอขยับตัวเสียงทุ้มก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“แล้วเจอกันครับที่รัก”

คราวนี้หญิงสาวหันกลับมามองเขาอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดหน้าใส่แล้วเดินหนีไปทันที ตาคู่คมวาววับทั้งที่ใบหน้าคมเข้มเรียบเฉย ดูก็รู้ว่าชายหนุ่มแกล้งแหย่ให้เธอโมโห พลางคิดในใจอย่างอับอาย

‘ฉันผิดเองที่ดันเอาเขามาเป็นตัวช่วยในตอนนั้น’

=====

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พันธะลวง   38.ใครๆ ก็อยากให้ท้อง

    หลังทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของปัฐวิกรกับมาธาวีที่ราวเป็นการรวมญาติเล็กๆ แล้วช่วงเย็นก็มีเลี้ยงภายในครอบครัว ครอบครัวอรรถพันธ์พงศ์มาครบเช่นเคย โดยคืนนี้ก็จะค้างที่บ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงศราเช่นเดิม ซึ่งลัลนาเพียงนั่งเงียบๆ ข้างมารดาหากก็ไม่เย็นชาจนเกินงาม แม้จะมีโจทก์เก่าอยู่ถึงสองคนก็ตาม เพราะอย่างไรก็ต่างคนต่างอยู่กันแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปบ้านที่เชียงใหม่เสร็จก่อนเพราะปัฐวิกรเห็นว่ามาธาวีอยู่ที่นี่ ส่วนที่บ้านอรรถพันธ์พงศ์ก็ค่อยเป็นค่อยไป ไว้ใช้ตอนเขาพาหญิงสาวไปเยี่ยมครอบครัว หรือเวลาที่จำเป็นต้องไปทำธุระ ส่วนงานชายหนุ่มให้กิตติกรดูแลทางกรุงเทพฯ เป็นหลักแล้วในตอนนี้ ทว่าทั้งสองคนก็ยังคุยกันทุกวันและปัฐวิกรบินไปมาแต่ไม่ทุกอาทิตย์เหมือนเมื่อก่อนทว่านั่นทำให้ปัญหาเกิดขึ้นกับทางโรงเรียน ‘นาฏช่างฟ้อน’ ของสามสาว“ปรางขอโทษนะคะคุณก้อย สอง”พิมพ์ปรางบอกเพื่อนหน้าละห้อยขณะพาลูกเข้ามากล่อมนอนในห้อง โดยมีสองสาวเพื่อนซี้ตามมาด้วย“ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็ช่วยกันไปก่อน แต่ถ้าก้อยคลอด สองก็จัดการได้อยู่ดี”มาธาวียักไหล่ยิ้มๆ รู้ว่าพิมพ์ปรางไม่สบายใจ เพราะจนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถกลับมาช่วยเพื่อนที่โรงเร

  • พันธะลวง   37.สองคือที่หนึ่ง (2)

    “มาสิครับ”ปัฐวิกรเอ่ยด้วยเสียงเย้ายวนใจ เมื่อหญิงสาวกล้าที่จะเริ่มต่อจากนั้นเขาก็เป็นคนช่วยเธอ แล้วร่างสองร่างก็แนบสนิทอย่างที่สุดพร้อมเสียงครวญยาวในลำคอของคนตัวเล็กเพราะเธอเกร็งและกลัวจนเขาต้องลูบหลังปลอบใจเธอก้มหน้าลงซบซอกคอแกร่งเมื่อถูกกระแสรัญจวนครอบงำ ตัวสั่นเบาๆ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะเพียงแค่นี้ทั้งร่างของเธอก็แทบจะระเบิดแล้ว แต่แล้วมือหนาก็วางลงบนเอวเธอชักนำพร้อมเอ่ยเสียงทุ้มพร่า“ทำให้ผมละลายเพราะคุณสิสอง”ไม่รู้เพราะเสียงบอกกระตุ้นหรือเพราะแรงรั้งจากมือหนาทำให้สะโพกเธอเริ่มขยับตาม แล้วก็ต้องปล่อยเสียงของความอัดอั้นออกมาเพราะรู้สึกถึงความทรมานแสนหวานที่มากยิ่งกว่า“ดีที่รัก”ปัฐวิกรยังให้กำลังใจขณะที่เขาเองก็เดินหน้าเช่นกันเพราะกำลังของคนตัวเล็กบางเบาเกินกว่าจะนำพาเขาได้ ทว่าก็สร้างความหวามในอกอย่างสุดแสนไม่น้อยเลย แต่เขารู้ว่ามาธาวีอายเกินกว่าจะก้าวไปไกลกว่านี้เขาจึงจัดการทุกอย่างเอง หากร่างทั้งสองก็เป็นท่วงทำนองเดียวกัน จนเขาได้ยินเสียงหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ จากหญิงสาว ไม่นานร่างอรชรก็สะดุ้ง แขนเรียวกอดเขาฝังหน้าเล็กร้องในลำคอ นั่นทำให้เขาเร่งร้อนสะโพกแกร่งเพื่อจะตามคนตั

  • พันธะลวง   37.สองคือที่หนึ่ง (1)

    “แป๊บนะครับ”ปัฐวิกรถอนจูบแสนหวามออกมากระซิบเสียงพร่าแล้วถอดเสื้อยืดของตนออกอย่างรวดเร็วหญิงสาวกวาดตามองเรือนร่างกำยำของคนที่ตนนั่งอยู่บนตักเขาเร็วๆ แล้วก็เขินจนหน้าแดง เธอไม่ค่อยสนใจอีกฝ่ายเวลาใกล้ชิดกันก่อนหน้านี้เลยเพราะถูกฝืนใจ แต่เวลานี้ร่างกายและใจสาวกำลังรอคอยทำให้อดอายความรู้สึกของตัวเองไม่ได้อยู่ๆ ชายหนุ่มก็จับเอวเธอยกขึ้นทำให้มาธาวีตกใจนิดๆ จนตัวเกร็ง“อะ...อะไรคะ”แล้วเขาก็จับกางเกงขาสั้นของเธอ คราวนี้มาธาวีรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มตั้งใจจะถอดท่อนล่างที่เหลืออยู่“อื้อ”หญิงสาวประท้วงอีกฝ่ายพร้อมจับมือเขาอย่างไม่ยินยอม เธอเขินจนทำตัวไม่ถูกแล้ว ตรงนี้เป็นห้องรับแขก แถมไฟสว่างจ้า ประสบการณ์รักของเธอก็น้อยนิด ทุกครั้งแทบจะหลับตาตลอดเพราะไม่พอใจและกลัว แต่เขาจะมาให้เธอถอดโชว์เผยสัดส่วนทั้งตรงนี้ ตอนนี้เลยได้อย่างไรปัฐวิกรสบตาเธอครู่หนึ่ง แววลุ่มลึกในนั้นคมเข้มจนหญิงสาวหวั่นใจ แต่เขาก็ไม่ได้บังคับ เมื่อยอมละมือจากกางเกงของเธอเขาก็เปลี่ยนมาเกาะกุมอกอวบที่ยังมีเสื้อชั้นในโอบรั้งไว้ เคล้าคลึงเบามือ จนคนที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ทั้งที่จับมือเขาอยู่ถึงกับแอ่นเข้าหาชายหนุ่ม มือหนา

  • พันธะลวง   36.เริ่มต้นใหม่อย่างวาบหวาม

    สามเดือนผ่านไป...ปัฐวิกรพามาธาวีมาทำบุญตามที่คุยกันเอาไว้ ร่างกายของหญิงสาวดีขึ้นมาก ส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือแขนข้างที่กระดูกร้าว แต่ก็ดีขึ้นมากแม้จะยังขยับไม่ค่อยคล่องก็ตาม เขาจึงไม่ให้อีกฝ่ายถือหรือยกอะไรหนักนอกจากทำกายภาพ แต่ปัญหาหลักๆ ก็คือ มาธาวียังรำไม่ได้ และนั่นคือเรื่องใหญ่สำหรับหญิงสาวเขาจำได้ว่าตอนที่รู้สึกตัวได้เต็มที่แล้วพยายามจะขยับแขนแต่ทำไม่ได้มาธาวีร้องไห้ออกมาเงียบๆ เขาต้องคอยถามคอยปลอบอยู่ตั้งนานกว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายกลัวรำไม่ได้อีกตอนนี้โรงเรียนเป็นหน้าที่ของกัญญานันเป็นหลัก นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับมาธาวีเลยก็ว่าได้“ไปที่ไหนต่ออีกไหม”หลังออกมาจากวัดแล้วชายหนุ่มก็ถามขึ้น“สองห่วงก้อยค่ะ รีบกลับไปช่วยก้อยดูเด็กๆ ดีกว่า”มาธาวีรู้ว่าเพื่อนท้องก็ดีใจอย่างมาก หลังออกจากโรงพยาบาลก็ไปอยู่กับกัญญานันที่คลาสตลอด แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมากก็ตาม ส่วนตอนไปดูแลเด็กแสดงที่ร้านเป็นเปรมินทร์ไปกับภรรยาของเขา เพราะปัฐวิกรเห็นว่าร่างกายของมาธาวียังไม่เหมาะจะไปไหนมาไหนในเวลากลางคืนและต้องรีบพักผ่อน“หวังว่าคุณแน็ตคงยกโทษให้สอง”หญิงสาวพึมพำเสียงเบาขณะอยู่บนรถ“สองตั้งใจทำบุญให้

  • พันธะลวง   35.รอเธอ (2)

    ขณะที่คุณากรยืนมองนิ่ง เขาพอมองออกว่าอะไรเป็นอะไร ดูออกตั้งแต่วันที่นันทิยาแอบนัดให้ปัฐวิกรมารับที่ผับตอนอ้างกับเขาว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เห็นหายไปนานเขาก็ไปตามแต่กลับไม่เจอตามหาจนออกมาข้างนอก ก็เห็นหญิงสาวเดินไปกับผู้ชายคนอื่น ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ตอนเห็นปัฐวิกรมาช่วยมาธาวีแล้วพาเดินไปด้วยกันเขาก็จำด้านหลังอีกฝ่ายได้“บังเอิญยังไง”ปัฐวิกรถามออกไป ยังมีความคิดว่า อาจจะเป็นการเข้าใจผิดอยู่เพียงเล็กน้อย“นุ๊ก...พี่สองเขาหึงนุ๊ก เขาเรียกนุ๊กไปคุยด้วย ซักไซ้นุ๊กเรื่องพี่ปัฐนุ๊กบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่เชื่อ เราเลยยื้อยุดกัน แล้วมันก็...”นันทิยาหยุดพูดแล้วร้องไห้ออกมาไม่หยุดคุณากรถึงกับถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเพราะไม่มีวันเชื่อ ทว่าก็เพียงยืนมองเงียบๆ อยากรู้ว่าปัฐวิกรจะคิดอย่างไรปัฐวิกรถึงกับไม่รู้จะตีสีหน้าอย่างไรเลยทีเดียว เขาอึ้งกับคำพูดของอีกฝ่าย เป็นไปได้ยากที่มาธาวีจะหึงเขาในเมื่อรู้แล้วว่าเขาดูแลนันทิยากับครอบครัวแทนพี่สาว และหญิงสาวเองก็ยังรู้สึกผิดอยู่ไม่น่าจะทำร้ายน้องสาวของณัฐวราได้ เศษเสี้ยวหนึ่งของใจชายหนุ่มอยากจะเชื่อนันทิยาแต่เพราะการพูดออกมาได้โดยไม่หยุดคิดของอีกฝ่ายทำให้เ

  • พันธะลวง   35.รอเธอ (1)

    สิ่งที่ได้ยินจากหมอทำให้ปัฐวิกรถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ร่างกายของมาธาวีกระแทกหลายจุด แต่ที่หนักคือไหล่กับแขนข้างหนึ่งกระดูกแตกร้าว ยังดีที่ไม่ถึงกับหัก หัวที่แตกไม่ได้รับการกระทบกระเทือนถึงสมอง คนไข้หายใจได้เองปกติ ไม่มีภาวะหยุดหายใจ นั่นทำให้ชายหนุ่มโล่งอกไปส่วนหนึ่ง หากก็ยังเคร่งเครียดอยู่เพราะหญิงสาวยังไม่รู้สึกตัว“สองต้องไม่เป็นอะไรค่ะพี่ปัฐ”กัญญานันเข้ามาเกาะแขนเขาพร้อมน้ำตาคลอแต่ก็เห็นว่าอีกฝ่ายพยายามกะพริบตาและกลั้นน้ำตาของตัวเอง ชายหนุ่มจึงดึงร่างน้องสาวมากอด อีกฝ่ายก็แนบหน้าลงซบอกเขา ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกเบาๆระหว่างนั้นเปรมินทร์ที่ออกไปคุยโทรศัพท์กับทางไร่เพราะดิสกลส่งสายให้ก็กลับเข้ามา สีหน้าค่อนข้างเรียบสนิทเดาอารมณ์ไม่ถูก“ตำรวจสอบปากคำทุกคนที่บ้านครบแล้วครับ”พวกเขาที่อยู่โรงพยาบาลได้ให้ปากคำกับตำรวจเรียบร้อยไปก่อนหน้านั้นแล้ว“แล้วก็บอกว่ามีคนที่น่าสงสัย ตอนนี้กักตัวอยู่ครับ รอผลพิสูจน์ลายนิ้วมือจากก้อนหิน ที่คนร้ายอาจจะจับใช้ตีหัวน้องสอง”กัญญานันหน้าเสีย ยกมือปิดปากเพราะในหัวเธอมีภาพนั้นลอยเข้ามาแล้วก็นึกสงสารเพื่อนจับใจ“ดีนะที่ให้ดูคุณากรไว้ตั้งแต่เมื่อคืน”ปัฐวิกรพูดขึ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status