Share

บทที่ 11

ซ่งหยุนหยุนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง ขณะที่เธอหันหลังกลับไปมอง เธอเผลอดันกล่องใบนั้นตกลงบนพื้น!

เจียงเหยาจิงจ้องมองเธอด้วยสายตาโกรธเคือง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวมาก!

เธอรีบอธิบาย “ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”

ขณะที่พูด เธอก็นั่งยอง ๆ และพยายามเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา ขณะที่นิ้วของเธอกำลังจะแตะกล่อง ข้อมือของเธอกลับถูกเขาคว้าไว้อย่างแรงจนกระดูกแทบจะหัก

เจ็บ!

เธอเจ็บจนเหงื่อซึม และรู้สึกเหมือนมือกำลังจะหัก

เจียงเหยาจิงตาแดงก่ำด้วยความโมโห “เอามือสกปรกของเธอออกไป!”

เขาพูดพลางพลักเธอออกด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ซ่งหยุนหยุนกระเด็นไปข้างหลังหัวโขกมุมตู้

ความเจ็บปวดบีบหัวใจทำให้เธอชาไปชั่วขณะ สมองดังตุบ ๆ เธอรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่น ๆ ไหลลงมา มือเรียวเอื้อมไปหลังคอ สัมผัสได้ถึงบางอย่างเหนียว ๆ

ไม่น่าแปลกใจ เธอมีเลือดออกแต่ไม่มาก

เธอเงยหน้าขึ้นเห็นเจียงเหยาจิงหยิบกล่องขึ้นมาอย่างระมัดระวังผ่านเส้นผมที่ยุ่งเหยิง แค่เห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของเขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าของสิ่งความสำคัญกับเขามาก

เจียงเหยาจิงเปิดกล่องเพื่อตรวจสอบของในนั้นอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าสิ่งที่อยู่ข้างในอาจจะเสียหาย

โชคดีที่มีกล่องป้องกันไว้ทำให้ของข้างในไม่เสียหาย

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้เกือบทำพัง เขาก็ยังคงโกรธอยู่!

เขาโกรธมากจนอยากจะฆ่าเธอ!

เขามองกลับมาด้วยสายตาเย็นชา หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและดูกระหายเลือด "ซ่งหยุนหยุน ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากมีมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?!”

ซ่งหยุนหยุนลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ตอนนี้อาการชาหายไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระตุ้นประสาท เธออดทนต่ออาการสั่นและพยายามลุกขึ้น “ฉันขอโทษ...”

เธอดูออกว่าสิ่งนั้นมีค่ากับเจียงเหยาจิงมาก

“ขอโทษ? คุณคิดว่าผมจะให้อภัยเหรอ?” ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่จะไร้ยางอายเท่านั้น แต่ยังบ้าระห่ำอีกด้วย!

เขาก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้น แรงกดดันที่แข็งกร้าวจากภายในสู่ภายนอกทำให้ซ่งหยุนหยุนกลัวจนตัวสั่น ขาเรียวก้าวถอยหลังจนพิงกำแพง เธอตกใจมาก “คุณ คุณอย่าเข้ามานะ... ”

เจียงเหยาจิงบีบกรามของเธอด้วยนิ้วที่แข็งแรง

ซ่งหยุนหยุนรู้สึกได้ถึงเสียงกระดูกเคลื่อน เธอเจ็บปวดมากจนส่งเสียงไม่ได้ ได้แต่มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว เจียงเหยาจิงในฉากนี้น่าสะพรึงกลัวมาก

เหมือนปีศาจที่ออกมาจากนรก!

บ้าระห่ำ!

ป่าเถื่อน!

เขาพุ่งเข้ามาหาด้วยความเดือดดาน ถึงแม้ว่าจะขัดขืน แต่เธอก็ต้านไม่ไหว เธอจึงทำได้เพียงปล่อยให้ริมฝีปากของเขามาแนบใบหู “ผมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณรัก!”

เขาเน้นย้ำสองคำสุดท้าย

เธอตัวสั่นเทา

เจียงเหยาจิงผลักเธอออก

ร่างของเธอเหมือนตุ๊กตาไม่มีกระดูก ถ้าไม่มีกำแพงรับไว้เธอคงล้มลงกับพื้นไปแล้ว

เธอยืนสั่นเงอะงะ ร่างกายไม่สามารถหลุดออกจากกำแพงได้ เธอยืนไม่ได้ถ้าไม่มีอะไรมาช่วยพยุง

เจียงเหยาจิงวางกล่องไว้ที่เดิม ข้าง ๆ เป็นกรอบรูปซึ่งเป็นรูปถ่ายครอบครัวของเขา มีพ่อ แม่ และเขา

ซ่งหยุนหยุนเหลือบมองไปเห็นโดยไม่ตั้งใจ สายตาไปเห็นสองวินาที

สิ่งของต่าง ๆ ในกล่องดูคุ้นเคยเล็กน้อย เจียงเหยาจิงตะโกนใส่เธอ ก่อนที่เธอจะมองเห็นชัด “ออกไป!”

ซ่งหยุนหยุนไม่มีเวลาสังเกตต่อ เธอรีบเอื้อมมือไปเปิดประตูด้วยความตื่นตระหนก

เธอไม่แน่ใจว่าเจียงเหยาจิงจะฆ่าเธอหรือไม่ ถ้าหากเธอยังอยู่ในห้องนี้!

เธอรีบออกจากห้องโดยเร็วเท่าที่จะเร็วได้

ทันทีที่เธอออกจากห้อง สีหน้าเย็นชาของเจียงเหยาจิงก็ผ่อนลง เขาลดสายตาลงดูสิ่งที่อยู่ในกล่องด้วยสายตาอ่อนโยนที่หาได้ยาก

หลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต หัวใจของเขาก็เย็นชามาโดยตลอด

เจ้าของของสิ่งนี้คือความอบอุ่นในใจ

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปกว่าสิบปี แต่เขาก็ยังจำร่างเล็ก ๆ นั้นได้ ด้วยความพยายามอันเด็ดเดี่ยวของเขา ดวงตาคู่นั้นใสสะอาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

ในน้ำ ร่างกายของเธอร้อนผ่าว

ทำให้หัวใจที่เย็นชาของเขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

...

ข้างนอกห้อง

ซ่งหยุนหยุนปกปิดอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ผู้เฒ่าเจียงเห็นใบหน้าซีดเผือดของเธอจึงถามว่า “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“เจ็บนิดหน่อยค่ะ” เธอกระซิบ

ผู้เฒ่าเจียงสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขารู้ว่าเจียงเหยาจิงอารมณ์ไม่ดี แต่เขาคงไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกมั้ง?

“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้เฒ่าถาม

“หนูเผลอทำกล่องหล่น...”

“อันที่วางไว้กับรูปถ่ายครอบครัวเหรอ?” ผู้เฒ่ารีบถาม

ซ่งหยุนหยุนพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

ผู้เฒ่าเข้าใจทันทีพลางถอนหายใจ “ฉันเกรงว่าจะช่วยเธอไม่ได้ เพราะสิ่งนี้สำคัญมากสำหรับเขา ฉันเองยังไม่กล้าแตะต้องมันเลย”

ซ่งหยุนหยุนรู้ว่าเจียงเหยาจิงวางสิ่งนั้นไว้กับรูปถ่ายของพ่อแม่ของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นสถานะในใจของเขา

เธอก็เคยมีของล้ำค่าอยู่ แต่มันหายไปแล้ว

นั่นเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่ปู่ของเธอมอบให้

เธอยังจำได้แม่นว่าเธอสูญเสียมันไปอย่างไร ตอนที่เธออายุได้เจ็ดขวบ ปู่ของเธอพาไปที่บ้านเก่าตระกูลเจียง ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ไม่ค่อยเข้าใจอะไร เธอรู้แค่ว่าตระกูลเจียงจัดงานศพ แต่เธอไม่รู้ว่าใครเสียชีวิต พอโตขึ้น เธอถึงได้รู้ว่าวันนั้นเป็นงานศพพ่อแม่ของเจียงเหยาจิง

ตอนที่เธอยังเด็ก เธอวิ่งไปรอบ ๆ ในสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ของตระกูลเจียง

ตอนที่เธอนั่งบนก้อนหิน เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผลักเด็กวัยรุ่นลงน้ำ...

นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นความชั่วร้ายในของมนุษย์

ตอนนั้นเธอกลัวมาก

กลัวจนอยากจะวิ่งหนี

แต่เมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง เธอก็รอให้ผู้หญิงคนนั้นออกไปก่อน แล้วจึงกระโดดลงไปช่วยเขา

โชคดีที่เธอเคยเรียนว่ายน้ำมาก่อน แต่ยังคงยาก เธอเองก็แทบจะว่ายขึ้นไม่ได้ แม้ว่าจะดึงเขาขึ้นฝั่งแล้วก็ตาม โชคดีที่ปู่ของเธอมาทันเวลาพอดี จึงช่วยดึงเธอกับเด็กน้อยขึ้นมาได้

เด็กผู้ชายหมดสติ

เธอและปู่ช่วยกันผายปอดเด็กคนนั้นจนเขาสำลักน้ำออกมา แต่ขณะที่เขากำลังจะฟื้น ปู่กลับดึงเธอแล้ววิ่งหนีไป

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปู่ของเธอถึงตื่นตระหนกนัก จึงถามด้วยความสงสัยว่า “คุณปู่คะ เด็กคนนั้นคือใครเหรอคะ? ทำไมถึงมีคนอยากทำร้ายเขาคะ?”

คุณปู่ตอบ “เขาก็เหมือนเธอนั่นแหละ เขาก็มาร่วมงานศพเหมือนกัน”

เธอไม่รู้ว่าปู่ไม่ได้บอกความจริง เขาโกหกเพราะกลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย

“เธอต้องลืมสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้นะ ถ้าใครถามก็อย่าพูดอะไรเด็ดขาด ไม่ว่าใครก็ตาม” คุณปู่เตือนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอเชื่อฟังคำพูดของปู่

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็พบว่าจี้หยกของเธอหายไป

มันคือพระเมตไตรยสีมรกต ปู่บอกว่าคำพ้องเสียงของพระคือคำอวยพร ท่านหวังว่าเมื่อโตขึ้นเธอจะเป็นคนที่มีความเมตตา ใจกว้าง มองโลกในแง่ดี

...

นั่นคือพรของคุณปู่ที่ให้เธอ

เธอใส่มันมาตั้งแต่เธออายุหนึ่งขวบ

ดังนั้นเธอจึงเข้าใจที่เจียงเหยาจิงโกรธ

เธอไม่เกลียดความรุนแรงของเจียงเหยาจิงที่มีต่อเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอกลับกลัวผู้ชายคนนี้

นิสัยของเขาโหดร้ายเกินไป!

“ผู้เฒ่าเฉียนเรียกหมอเสิ่นมาดูหยุนหยุนหน่อย” ผู้เฒ่าเจียงกล่าว

เมื่อซ่งหยุนหยุนได้ยินเสียง เธอจึงรีบพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ที่บ้านมีชุดปฐมพยาบาลไหมคะ? หนูทำเองได้ค่ะ”

เธอรู้ว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อเห็นสายตาที่ไม่มั่นใจของผู้เฒ่าเจียง เธอจึงกล่าวว่า “หนูเป็นหมอค่ะ หนูทำเองได้”

เมื่อเห็นความมั่นใจของเธอ ผู้เฒ่าจึงยอม

อาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้ร้ายแรงก็จริง แค่บาดแผลเล็ก ๆ แต่อาจจะลึกนิดหน่อยจึงมีเลือดออก

เธอทำแผลผ่านการมองกระจก เธอแค่ทำความสะอาด ไม่ได้ปิดบาดแผล และไม่ได้พันด้วยผ้ากอซ

ในเส้นผมไม่มีทางใช้ผ้ากอซและพลาสเตอร์ปิดแผลได้

พ่อบ้านเฉียนเหลือบมองห้องน้ำเพื่อให้แน่ใจว่าซ่งหยุนหยุนไม่ได้ยินและกระซิบว่า “คุณผู้หญิงเพิ่งจะเข้ามาในบ้านก็ได้รับบาดเจ็บซะแล้ว นี่ขนาดอยู่ใต้จมูกของท่านนะครับ แล้วถ้าเธอไม่อยู่ในบ้านล่ะ นายน้อยจะทำมากกว่านี้ไหม…”

พ่อบ่านเฉียนไม่ได้พูดต่อ

แต่ผู้เฒ่าเจียงเข้าใจดี “ถ้าเธอทนอารมณ์ของเหยาจิงไม่ได้และต้องการหย่า เธอต้องมีวิธีบางอย่าง”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status