Share

บทที่ 11

Author: กวักทรัพย์เข้ากรุสมบัติ
ซ่งหยุนหยุนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง ขณะที่เธอหันหลังกลับไปมอง เธอเผลอดันกล่องใบนั้นตกลงบนพื้น!

เจียงเหยาจิงจ้องมองเธอด้วยสายตาโกรธเคือง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวมาก!

เธอรีบอธิบาย “ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”

ขณะที่พูด เธอก็นั่งยอง ๆ และพยายามเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา ขณะที่นิ้วของเธอกำลังจะแตะกล่อง ข้อมือของเธอกลับถูกเขาคว้าไว้อย่างแรงจนกระดูกแทบจะหัก

เจ็บ!

เธอเจ็บจนเหงื่อซึม และรู้สึกเหมือนมือกำลังจะหัก

เจียงเหยาจิงตาแดงก่ำด้วยความโมโห “เอามือสกปรกของเธอออกไป!”

เขาพูดพลางพลักเธอออกด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ซ่งหยุนหยุนกระเด็นไปข้างหลังหัวโขกมุมตู้

ความเจ็บปวดบีบหัวใจทำให้เธอชาไปชั่วขณะ สมองดังตุบ ๆ เธอรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่น ๆ ไหลลงมา มือเรียวเอื้อมไปหลังคอ สัมผัสได้ถึงบางอย่างเหนียว ๆ

ไม่น่าแปลกใจ เธอมีเลือดออกแต่ไม่มาก

เธอเงยหน้าขึ้นเห็นเจียงเหยาจิงหยิบกล่องขึ้นมาอย่างระมัดระวังผ่านเส้นผมที่ยุ่งเหยิง แค่เห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของเขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าของสิ่งความสำคัญกับเขามาก

เจียงเหยาจิงเปิดกล่องเพื่อตรวจสอบของในนั้นอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าสิ่งที่อยู่ข้างในอาจจะเสียหาย

โชคดีที่มีกล่องป้องกันไว้ทำให้ของข้างในไม่เสียหาย

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้เกือบทำพัง เขาก็ยังคงโกรธอยู่!

เขาโกรธมากจนอยากจะฆ่าเธอ!

เขามองกลับมาด้วยสายตาเย็นชา หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและดูกระหายเลือด "ซ่งหยุนหยุน ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากมีมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?!”

ซ่งหยุนหยุนลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ตอนนี้อาการชาหายไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระตุ้นประสาท เธออดทนต่ออาการสั่นและพยายามลุกขึ้น “ฉันขอโทษ...”

เธอดูออกว่าสิ่งนั้นมีค่ากับเจียงเหยาจิงมาก

“ขอโทษ? คุณคิดว่าผมจะให้อภัยเหรอ?” ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่จะไร้ยางอายเท่านั้น แต่ยังบ้าระห่ำอีกด้วย!

เขาก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้น แรงกดดันที่แข็งกร้าวจากภายในสู่ภายนอกทำให้ซ่งหยุนหยุนกลัวจนตัวสั่น ขาเรียวก้าวถอยหลังจนพิงกำแพง เธอตกใจมาก “คุณ คุณอย่าเข้ามานะ... ”

เจียงเหยาจิงบีบกรามของเธอด้วยนิ้วที่แข็งแรง

ซ่งหยุนหยุนรู้สึกได้ถึงเสียงกระดูกเคลื่อน เธอเจ็บปวดมากจนส่งเสียงไม่ได้ ได้แต่มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว เจียงเหยาจิงในฉากนี้น่าสะพรึงกลัวมาก

เหมือนปีศาจที่ออกมาจากนรก!

บ้าระห่ำ!

ป่าเถื่อน!

เขาพุ่งเข้ามาหาด้วยความเดือดดาน ถึงแม้ว่าจะขัดขืน แต่เธอก็ต้านไม่ไหว เธอจึงทำได้เพียงปล่อยให้ริมฝีปากของเขามาแนบใบหู “ผมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณรัก!”

เขาเน้นย้ำสองคำสุดท้าย

เธอตัวสั่นเทา

เจียงเหยาจิงผลักเธอออก

ร่างของเธอเหมือนตุ๊กตาไม่มีกระดูก ถ้าไม่มีกำแพงรับไว้เธอคงล้มลงกับพื้นไปแล้ว

เธอยืนสั่นเงอะงะ ร่างกายไม่สามารถหลุดออกจากกำแพงได้ เธอยืนไม่ได้ถ้าไม่มีอะไรมาช่วยพยุง

เจียงเหยาจิงวางกล่องไว้ที่เดิม ข้าง ๆ เป็นกรอบรูปซึ่งเป็นรูปถ่ายครอบครัวของเขา มีพ่อ แม่ และเขา

ซ่งหยุนหยุนเหลือบมองไปเห็นโดยไม่ตั้งใจ สายตาไปเห็นสองวินาที

สิ่งของต่าง ๆ ในกล่องดูคุ้นเคยเล็กน้อย เจียงเหยาจิงตะโกนใส่เธอ ก่อนที่เธอจะมองเห็นชัด “ออกไป!”

ซ่งหยุนหยุนไม่มีเวลาสังเกตต่อ เธอรีบเอื้อมมือไปเปิดประตูด้วยความตื่นตระหนก

เธอไม่แน่ใจว่าเจียงเหยาจิงจะฆ่าเธอหรือไม่ ถ้าหากเธอยังอยู่ในห้องนี้!

เธอรีบออกจากห้องโดยเร็วเท่าที่จะเร็วได้

ทันทีที่เธอออกจากห้อง สีหน้าเย็นชาของเจียงเหยาจิงก็ผ่อนลง เขาลดสายตาลงดูสิ่งที่อยู่ในกล่องด้วยสายตาอ่อนโยนที่หาได้ยาก

หลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต หัวใจของเขาก็เย็นชามาโดยตลอด

เจ้าของของสิ่งนี้คือความอบอุ่นในใจ

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปกว่าสิบปี แต่เขาก็ยังจำร่างเล็ก ๆ นั้นได้ ด้วยความพยายามอันเด็ดเดี่ยวของเขา ดวงตาคู่นั้นใสสะอาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

ในน้ำ ร่างกายของเธอร้อนผ่าว

ทำให้หัวใจที่เย็นชาของเขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

...

ข้างนอกห้อง

ซ่งหยุนหยุนปกปิดอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ผู้เฒ่าเจียงเห็นใบหน้าซีดเผือดของเธอจึงถามว่า “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“เจ็บนิดหน่อยค่ะ” เธอกระซิบ

ผู้เฒ่าเจียงสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขารู้ว่าเจียงเหยาจิงอารมณ์ไม่ดี แต่เขาคงไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกมั้ง?

“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้เฒ่าถาม

“หนูเผลอทำกล่องหล่น...”

“อันที่วางไว้กับรูปถ่ายครอบครัวเหรอ?” ผู้เฒ่ารีบถาม

ซ่งหยุนหยุนพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

ผู้เฒ่าเข้าใจทันทีพลางถอนหายใจ “ฉันเกรงว่าจะช่วยเธอไม่ได้ เพราะสิ่งนี้สำคัญมากสำหรับเขา ฉันเองยังไม่กล้าแตะต้องมันเลย”

ซ่งหยุนหยุนรู้ว่าเจียงเหยาจิงวางสิ่งนั้นไว้กับรูปถ่ายของพ่อแม่ของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นสถานะในใจของเขา

เธอก็เคยมีของล้ำค่าอยู่ แต่มันหายไปแล้ว

นั่นเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่ปู่ของเธอมอบให้

เธอยังจำได้แม่นว่าเธอสูญเสียมันไปอย่างไร ตอนที่เธออายุได้เจ็ดขวบ ปู่ของเธอพาไปที่บ้านเก่าตระกูลเจียง ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ไม่ค่อยเข้าใจอะไร เธอรู้แค่ว่าตระกูลเจียงจัดงานศพ แต่เธอไม่รู้ว่าใครเสียชีวิต พอโตขึ้น เธอถึงได้รู้ว่าวันนั้นเป็นงานศพพ่อแม่ของเจียงเหยาจิง

ตอนที่เธอยังเด็ก เธอวิ่งไปรอบ ๆ ในสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ของตระกูลเจียง

ตอนที่เธอนั่งบนก้อนหิน เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผลักเด็กวัยรุ่นลงน้ำ...

นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นความชั่วร้ายในของมนุษย์

ตอนนั้นเธอกลัวมาก

กลัวจนอยากจะวิ่งหนี

แต่เมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง เธอก็รอให้ผู้หญิงคนนั้นออกไปก่อน แล้วจึงกระโดดลงไปช่วยเขา

โชคดีที่เธอเคยเรียนว่ายน้ำมาก่อน แต่ยังคงยาก เธอเองก็แทบจะว่ายขึ้นไม่ได้ แม้ว่าจะดึงเขาขึ้นฝั่งแล้วก็ตาม โชคดีที่ปู่ของเธอมาทันเวลาพอดี จึงช่วยดึงเธอกับเด็กน้อยขึ้นมาได้

เด็กผู้ชายหมดสติ

เธอและปู่ช่วยกันผายปอดเด็กคนนั้นจนเขาสำลักน้ำออกมา แต่ขณะที่เขากำลังจะฟื้น ปู่กลับดึงเธอแล้ววิ่งหนีไป

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปู่ของเธอถึงตื่นตระหนกนัก จึงถามด้วยความสงสัยว่า “คุณปู่คะ เด็กคนนั้นคือใครเหรอคะ? ทำไมถึงมีคนอยากทำร้ายเขาคะ?”

คุณปู่ตอบ “เขาก็เหมือนเธอนั่นแหละ เขาก็มาร่วมงานศพเหมือนกัน”

เธอไม่รู้ว่าปู่ไม่ได้บอกความจริง เขาโกหกเพราะกลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย

“เธอต้องลืมสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้นะ ถ้าใครถามก็อย่าพูดอะไรเด็ดขาด ไม่ว่าใครก็ตาม” คุณปู่เตือนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอเชื่อฟังคำพูดของปู่

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เธอก็พบว่าจี้หยกของเธอหายไป

มันคือพระเมตไตรยสีมรกต ปู่บอกว่าคำพ้องเสียงของพระคือคำอวยพร ท่านหวังว่าเมื่อโตขึ้นเธอจะเป็นคนที่มีความเมตตา ใจกว้าง มองโลกในแง่ดี

...

นั่นคือพรของคุณปู่ที่ให้เธอ

เธอใส่มันมาตั้งแต่เธออายุหนึ่งขวบ

ดังนั้นเธอจึงเข้าใจที่เจียงเหยาจิงโกรธ

เธอไม่เกลียดความรุนแรงของเจียงเหยาจิงที่มีต่อเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอกลับกลัวผู้ชายคนนี้

นิสัยของเขาโหดร้ายเกินไป!

“ผู้เฒ่าเฉียนเรียกหมอเสิ่นมาดูหยุนหยุนหน่อย” ผู้เฒ่าเจียงกล่าว

เมื่อซ่งหยุนหยุนได้ยินเสียง เธอจึงรีบพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ที่บ้านมีชุดปฐมพยาบาลไหมคะ? หนูทำเองได้ค่ะ”

เธอรู้ว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อเห็นสายตาที่ไม่มั่นใจของผู้เฒ่าเจียง เธอจึงกล่าวว่า “หนูเป็นหมอค่ะ หนูทำเองได้”

เมื่อเห็นความมั่นใจของเธอ ผู้เฒ่าจึงยอม

อาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้ร้ายแรงก็จริง แค่บาดแผลเล็ก ๆ แต่อาจจะลึกนิดหน่อยจึงมีเลือดออก

เธอทำแผลผ่านการมองกระจก เธอแค่ทำความสะอาด ไม่ได้ปิดบาดแผล และไม่ได้พันด้วยผ้ากอซ

ในเส้นผมไม่มีทางใช้ผ้ากอซและพลาสเตอร์ปิดแผลได้

พ่อบ้านเฉียนเหลือบมองห้องน้ำเพื่อให้แน่ใจว่าซ่งหยุนหยุนไม่ได้ยินและกระซิบว่า “คุณผู้หญิงเพิ่งจะเข้ามาในบ้านก็ได้รับบาดเจ็บซะแล้ว นี่ขนาดอยู่ใต้จมูกของท่านนะครับ แล้วถ้าเธอไม่อยู่ในบ้านล่ะ นายน้อยจะทำมากกว่านี้ไหม…”

พ่อบ่านเฉียนไม่ได้พูดต่อ

แต่ผู้เฒ่าเจียงเข้าใจดี “ถ้าเธอทนอารมณ์ของเหยาจิงไม่ได้และต้องการหย่า เธอต้องมีวิธีบางอย่าง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 270

    เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 269

    ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 268

    เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 267

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 266

    พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 265

    ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status