LOGIN"ผมมีน้องตั้งแต่เมื่อไหร่?" "พะ...พลอยไม่มีบ้านค่ะ" "ไม่มีบ้านก็ไปอยู่สถานสงเคราะห์สิ!" ******************* "หวงว่างั้น?" "แล้วพี่จะอยากเข้าห้องของพลอยทำไมคะ ทำไมไม่อยู่ห้องของตัวเอง" "เธอกำลังหวงพื้นที่ใส่ลูกชายเจ้าของบ้านอยู่นะ หรือคิดว่าตัวเองเป็นลูกสาวคนโปรดของแม่ อยากทำยังไงก็ได้" "ปะ...เปล่าค่ะ พลอยไม่ได้คิดแบบนั้น แต่พลอยมองว่ามันไม่เหมาะสม เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ" "ต้องเป็นอะไรกันก่อนว่างั้น?" ******************* เจอหน้าน้องวันแรก ก็ไล่น้องเลย แต่วันต่อไป กลับจะคลุกวงในน้องซะแล้ว ไปเห็นของดีอะไรเข้าคะพี่วิน กลับรถแทบไม่ทัน ******************** เรื่อง : ของหวงพี่ชายแสนร้าย นาวิน : ลูกชายคนเดียวของเถ้าแก่ภาคิน ร้านค้าวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านขนาดใหญ่ในตัวอำเภอคันคาย พลอยไพลิน : นักเรียนม.ปลาย ถูกแม่นำไปส่งเสี่ย แต่เลือกหนีมาตายเอาดาบหน้าแทน
View Moreโครมมมมมมม!
เอี๊ยดดดดดดดดด!!!
เท้าเรียวเหยียบเบรกจนล้อลากไปกับถนน เก๋งสีดำปรากฏควันสีขาวลอยคละคลุ้งขึ้นไปในอากาศ ทำเอาคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยตกใจทำอะไรไม่ถูก
คนแน่ ๆ เธอขับรถชนคน!
‘น้ำหนึ่ง’ ลนลานหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาผู้เป็นสามีทันทีด้วยความกลัว
(ว่าไงยัยขี้เม้าท์ ออกบ้านไม่ถึงสิบนาทีก็โทรหาผัวแล้ว คิดถึงมากหรือไงฮะ!?)
“คะ...คุณคินคะ!”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่ปกติของเมีย
(เป็นอะไรน้ำหนึ่ง?)
“คุณคินขา...หนึ่งขับรถชนคนค่ะ ฮึก คุณคินช่วยหนึ่งด้วยฮือ ๆ” ใบหน้าของหญิงสาววัยกลางคนเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เธอกลัวอีกฝ่ายจะตาย เธอกลัวว่าตัวเองต้องเข้าคุกข้อหาขับรถชนคนตายด้วย
(น้ำหนึ่ง ตั้งสติ ตั้งสติ!) ปากบอกกับเมีย ส่วนตัวเองรีบบึ่งรถออกจากบ้าน เอาโทรศัพท์แนบหูพูดปลอบเมียไปตลอดทาง
บอกจะออกไปร้านค้าแป๊บเดียว แต่ไม่คิดว่าเพียงเวลาสั้น ๆ จะทำให้น้ำหนึ่งขับรถชนคนอื่นได้
พอมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เห็นรถพยาบาลมาถึงแล้ว รวมทั้งมีผู้คนมามุงดูเหตุการณ์อยู่ด้วย
คนที่กำลังถูกปฐมพยาบาลคือเด็กสาวในชุดนักเรียนม.ปลาย นอนหลับแน่นิ่งแบบที่เขาไม่แน่ใจว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ก่อนจะมองหาเมียตัวเองเมื่อได้ยินเสียงแว่วมาไม่ไกล ว่าคนขับยังไม่ลงจากรถ
‘ภาคิน’ รีบเดินไปยังรถเก๋งยี่ห้อยุโรปคันสีดำที่คุ้นตาแล้วเปิดประตูออก ก็เห็นน้ำหนึ่งนั่งตัวสั่นมีน้ำตาอาบแก้มราวกับคนสติหลุด จนต้องรีบเขย่าตัวเรียก
“น้ำหนึ่ง น้ำหนึ่ง!”
ใบหน้าสวยค่อย ๆ หันไปหา น้ำตาเม็ดเล็กพรั่งพรูออกมา ก็พบว่าเป็นสามี
“คุณคินขา...ฮึกฮือ” ร่างบอบบางโผเข้ากอดสามี สะอื้นไห้อย่างปวดใจ ที่ทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะการกระทำของตัวเอง
เธอไม่ได้ตั้งใจชนเด็ก สาบาน เธอเบรกไม่ทันจริง ๆ เพราะมันกระชั้นชิดเกินไป
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”ลูบปลอบหลังเมีย เมียเขาไม่ใช่คนขับรถเร็วเขารู้ และเขาเชื่อว่าเด็กคนนั้นจะปลอดภัย
เด็กสาวในชุดนักเรียนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวอำเภอคันคาย ส่วนน้ำหนึ่งกับสามี ถูกเชิญตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก
“ช่วยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เสือฟังหน่อยได้ไหมครับ ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร” ร.ต.อ.เสือ แสนร้าย ในฐานะพนักงานสอบสวนของสภ.คันคาย อยู่เวรช่วงดึกถามออกมา
และคนที่เขาต้องสอบสวนในเวลานี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนของพ่อเขาเอง พ่อภาคิน กับแม่น้ำหนึ่ง
น้ำหนึ่งพยักหน้าทั้งน้ำตา ขณะที่คนเป็นสามียังโอบไหล่เธอเอาไว้
“แม่ขับรถออกมาจากบ้าน ว่าจะไปร้านค้า แต่มีคนวิ่งมาตัดหน้ารถ แม่เบรกไม่ทัน ก็เลยชนเด็กคนนั้นเข้าเต็ม ๆ ค่ะ”
“เด็กคนนั้นวิ่งตัดหน้ารถแม่เหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ แม่ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นหนีอะไรมาหรือเปล่า หรือจงใจวิ่งใส่รถ เพราะวิ่งมาเร็วมาก แต่แม่เบรกไม่ทันค่ะ”
ภาคินลูบปลอบภรรยา เข้าใจแล้วว่าเมียตัวเองไม่ได้ประมาท แต่มันคงกระชั้นชิดจนเกินไป จึงทำให้น้ำหนึ่งเหยียบเบรกไม่ทัน
เขายินดีสู้เพื่อเมียทุกอย่าง และยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้เด็กคนนั้นด้วย ถึงแม้น้ำหนึ่งจะไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ตาม
@โรงพยาบาลอำเภอคันคาย
“คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ” หลังจากให้ปากคำกับตำรวจเสร็จ สองผัวเมียจึงมาที่โรงพยาบาล เพื่อมารับผิดชอบคนป่วย
นั่งรออยู่หน้าห้องไอซียู พักหนึ่งก็มีพยาบาลเดินออกมา
“ปลอดภัยแล้วค่ะ หมอให้ยานอนหลับไป ไม่เกินสามชั่วโมงคงตื่นค่ะ”
สองผัวเมียได้ยินอย่างนั้นถอนหายใจโล่ง เพราะช่วยกันนั่งภาวนาให้เด็กคนนั้นปลอดภัย
“มันอยู่ไหนอีพลอย!” หญิงวัยกลางคนเดินทางมาที่โรงพยาบาลเมื่อได้ยินว่าลูกสาวตัวเองถูกรถชน พอมาถึงหน้าห้องไอซียู จึงตะโกนถามพยาบาลที่อยู่แถวนี้ จนฝ่ายนั้นรีบเข้ามาเคลียร์
“ญาติใครคะ?”
“พลอยไพลิน กูเป็นแม่มัน ลูกสาวกูเป็นยังไงบ้าง?”
“อ๋อ คนไข้ปลอดภัยแล้วค่ะ หมอให้ยานอนหลับไป สักพักถึงจะนำผู้ป่วยออกมานอนห้องพักฟื้นค่ะ”
“แม่ง...วัน ๆ สร้างแต่ความเดือดร้อนให้กู อีลูกเวรเอ๊ย!”
พยาบาลสาวได้ยินอย่างนั้นทำหน้าเหวอ ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาก็นึกว่าเป็นห่วงลูก ความจริงแล้วกลับไม่ใช่
ภาคินกับน้ำหนึ่งที่ได้ยินอย่างนั้นแปลกใจมองหน้ากัน ทำไมแม่ของเด็กที่ถูกรถชนถึงพูดแบบนั้น ไม่ห่วงลูกตัวเองเลยเหรอ
แม่ของพลอยไพลินหันกลับไปด้านหลัง ว่าจะเดินไปนั่งรอ ชะงักไปเมื่อเห็นสองผัวเมียจ้องมองมาที่ตัวเองอยู่ เหมือนมีเรื่องอยากคุยด้วย
“พวกมึงเหรอที่ขับรถชนอีพลอย?”
“เด็กในห้องไอซียูคือลูกคุณเหรอคะ” น้ำหนึ่งถามกลับให้แน่ใจ ว่าคนคนนี้คือแม่จริง ๆ ของเด็กที่เธอขับรถชน เพราะยังตกใจกับประโยคก่อนหน้าไม่หาย
“เอ้อ อีพลอยนั่นลูกกู แล้วพวกมึงใช่ไหมที่ขับรถชนมัน พวกมึงเอามาเลยนะแสนหนึ่ง กูเรียกค่าเสียหายแสนหนึ่ง!” แบมือออกไปตรงหน้า แววตาจริงจัง ทำเอาสองผัวเมียตกใจมองหน้ากัน
“เร็ว! หรือจะให้กูไปแจ้งความเอาผิดพวกมึง”
“แต่ลูกคุณวิ่งตัดหน้ารถเมียผมนะ” ภาคินไม่ยอม หากจะให้ชดใช้ค่าเสียหายเขาต้องได้คุยก่อน
เขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงิน แต่มาเรียกเอาแบบนี้น่าเกลียด แทนที่จะรอให้คนไข้ฟื้นขึ้นมาแล้วมาพูดคุยกันดี ๆ แต่นี่อะไร ทำอย่างกับเตี๊ยมกันมา
หรือว่า?
“พวกมึงว่าไงนะ! อีพลอยมันวิ่งตัดหน้ารถพวกมึงงั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ลูกคุณวิ่งตัดหน้ารถเมียผม”
คนเป็นแม่ได้ยินอย่างนั้นควันออกหู
“แผนเยอะนักนะอีนี่!”
เธอให้คนไปรับพลอยไพลินที่หน้าโรงเรียนเพื่อไปส่งให้เสี่ย แต่ไม่คิดเลยว่า มันจะหัวดีวิ่งไปให้รถชน
คอยดูว่า ฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ กูจะฟาดให้หลังลายเลย!
“ออสตินครับ ออสตินหลานปู่” ภาคินเรียกหลานชายที่เพิ่งคลอด นอนดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาอยู่เบาะ ว่าแล้วว่า เขาต้องได้หลานชายเลือดพวกเขามันแรง! เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะได้หลานสาวน้ำหนึ่งเอามือขึ้นนวดขมับ ตอนที่ได้ข่าวว่าลูกสะใภ้ได้หลานชาย เธอสตั๊นไปรอบหนึ่งแล้ว แต่พอเห็นหน้าหลาน แทบเอาตีนก่ายหน้าผากหน้าอะไรจะเหมือนพ่อกับปู่ขนาดนั้น! ได้แม่สักนิดสักหน่อยก็ไม่ได้นี่อะไร ได้พ่อยันความยาวของนิ้วเท้า อีน้ำหนึ่งกลุ้มใจไว้รอเลยนี่ไม่ใช่ว่าโตขึ้น จะนิสัยเหมือนพ่อกับปู่อีกหรอกนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น อีน้ำหนึ่งขอลาก่องงงง@สามปีต่อมา“ตินไม่อยากมีน้อง!” เอามือกอดอกแล้วเมินหน้าไปทางอื่น ก็บอกว่าไม่อยากมี ไม่อยากมี คุณย่ายังมากล่อมอยู่นั่นแหละ“แต่น้องผู้หญิงน่ารักนะลูก” น้ำหนึ่งพยายามเกลี้ยกล่อมหลาน ขอเถอะ ให้เธอมีหลานสาวสักคน เพื่อที่ว่า พี่ออสตินจะได้เป็นคนอ่อนโยนขึ้นมาบ้างออสตินเดินไปจับหมอนอิงหลัง แล้วปามันทิ้งลงด้านล่าง ก่อนจะเตะซ้ำจนมันปลิว แล้วเมินหน้าไปทางอื่นน้ำหนึ่งอ้าปากค้าง ก่อนที่สองมือกำเข้าหากันแน่น แล้วทำท่าจะทุบหลานแต่พอฝ่ายนั้นหันขวับมา เธอกลับรีบฉีกยิ้มหวานให้ทันที“ออสตินเซ็งคุณ
@หนึ่งเดือนต่อมาร้านค้าวัสดุก่อสร้างหยุดทำการหนึ่งวัน เนื่องด้วยลูกชายคนเดียวของเถ้าแก่ภาคินและคุณนายน้ำหนึ่งแต่งงานบริเวณพื้นที่กว่าเจ็ดไร่ กลายเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานเลี้ยงแทบทั้งหมด และผู้คนที่มาในงาน ก็ค่อนข้างล้นหลามเถ้าแก่ภาคินเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แจกซองครั้งนี้ นับพันซองมีมหรสพให้ชมตอนกลางคืนคือหมอลำซิ่ง เลือกมาเองกับมือโดยแม่เจ้าบ่าว ซึ่งขณะนี้ ยืนทักทายแขกข้าง ๆ สามีด้านเจ้าสาวอย่างพลอยไพลิน อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวแบบเกาะอก นั่งรับน้ำสังข์ข้าง ๆ เจ้าบ่าว รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เพราะมันเป็นงานของเธอเองถึงผู้คนจะมาเยอะมาก แต่เธอแทบไม่รู้จักใครเลย ผิดกับพี่วิน รู้จักคนเยอะแยะไปหมด‘ยินดีด้วยนะวิน’“ขอบคุณครับ”‘ยินดีด้วยครับเถ้าแก่นาวิน’“ขอบคุณครับ”‘ยินดีด้วยครับเสี่ยวิน’“ขอบคุณครับ”พลอยไพลินพลอยรู้สึกภูมิใจในตัวสามี วาสนาของเธอจริง ๆ ที่ได้เป็นเมียพี่เขาอีกทั้งใครต่อใครยังเรียกเธอว่า ‘ลูกสะใภ้ร้านค้า’ ด้วย เขินเป็นบ้าเลย“ยัยพลอยฮือ ๆ”พลอยไพลินเงยหน้าขวับเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคย ก็พบว่าเป็น...“นี่แกมีผัวแล้วจริง ๆ เหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!” มีนาน้ำตาอาบแก้มสองข
“หยุดเดินได้แล้วยัยแม่มด!”ภาคินเอามือนวดขมับ ตั้งแต่ลูกกลับมาถึงจนถึงป่านนี้ นับได้ก็หนึ่งชั่วโมง เมียเขายังไม่เลิกเดินสวนสนามเลย“จะให้หนึ่งนั่งนิ่งได้ยังไงคะ คุณไม่ได้ยินเหรอ คำที่ลูกเราพูด นาวินบอกว่า เดี๋ยวตกลงไปตายทั้งแม่ทั้งลูก หมายความว่าเรากำลังจะมีหลานกันใช่ไหมคะ”“ก็ใช่ไง”“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”ภาคินเอามืออุดหู กูว่าแล้วไง ยัยน้ำหนึ่ง ยัยแม่มดเอ๊ย!“หนึ่งดีใจจังเลยค่ะคุณคิน หนึ่งจะได้อุ้มหลานแล้ว” เดินมานั่งข้างสามี แล้วเอาใบหน้าซบอก พลางเอาแขนกอดเอวอีกฝ่ายแน่น“คุณไม่ดีใจเหรอคะ” ผละใบหน้าออกมองสามี เมื่อไม่เห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการอย่างเธอ นี่เรากำลังจะมีหลานกันเลยนะ“จะให้กรี๊ดแบบเธอมั้ยล่ะ”“ไม่ต้องค่ะ ฮ่า ๆ ให้หนึ่งกรี๊ดคนเดียวก็พอค่ะ”“ดีใจสิ ดีใจมาก” ภาคินเอ่ยออกมาก่อนจะอมยิ้ม แล้วรั้งเมียเข้ามากอด ในที่สุด เขากับเมียก็จะมีหลานกันสักทีไม่มีลูกคนเล็ก แต่มีหลานก็ยังดี นึกถึงตอนที่เลี้ยงนาวินวัยแบเบาะแล้วเอ็นดูมาก“เธอว่า เราตั้งชื่อหลานว่าอะไรดี ‘ออสติน’ ดีไหม” ภาคิน นาวิน ออสติน คล้องจองทั้งเขาและลูกชายเลย“คุณคินขา...เรายังไม่รู้เลยนะคะ ว่าหลานจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย” ไม่
“พี่วิน พลอยเดินเองได้ค่ะ” ก่อนมาที่นี่ เขาพาเธอแวะไปที่หอพัก อุ้มเธอขึ้นบันไดไปเก็บเสื้อผ้า ก่อนจะอุ้มเธอลงมานั่งรอที่รถส่วนพี่เขา เดินขึ้นไปถือกระเป๋ากว่าหลายใบลงมาอีกรอบกลับมาถึงบ้าน ก็ยังมาอุ้มเธออีกแล้วนั่น พ่อกับแม่กำลังมองมา ทำไมถึงไม่เกรงใจท่านทั้งสองบ้างเลย“อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ตกลงไปตายทั้งแม่ทั้งลูก” ตำหนิคนบนแขนไม่จริงจังมากนัก เพราะช่วงนี้ พลอยไพลินค่อนข้างอ่อนไหว พูดแรงไม่ได้หญิงสาวเงียบปาก เพราะกลัวตกลงไปตาย จำยอมให้พี่วินอุ้มเดินขึ้นบนบ้านทว่า...เขากลับอุ้มเธอเดินผ่านห้องของตัวเองไป“พะ...พี่วิน ทำไมไม่ไปส่งพลอยที่ห้องคะ”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะย้ายมาอยู่ที่นี่ เราอยู่ห้องนี้ด้วยกัน”“แต่พลอย...”“ดื้อเหรอ”นาวินวางอีกคนลงบนเตียงนอน แล้วคลานไปคร่อม จนใบหน้าของเราทั้งคู่ใกล้ชิดกัน จมูกโด่งถูไถไปกับจมูกเชิดรั้นเบา ๆพลอยไพลินเบี่ยงหน้าไปทางอื่น เพราะรู้สึกเขิน ทำไมพี่วินถึงได้อ่อนโยนขนาดนี้ หรือพี่เขาจะไม่สบายนาวินหอมแก้มนิ่มเบา ๆ ขณะเดียวกันสองมือก็สอดประสานกันกับมือเรียวเข้าด้วยกัน แล้วกดมันลงไปกับที่นอนพลอยไพลินรู้เลยว่าอีกคนจะทำอะไร จึงรีบห้าม“พะ...พลอยท้อ





